คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี
-

คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี ผิวใสสุขภาพดี กระดูกแข็งแรงขึ้น ฉบับปี 2022

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอลลาเจน เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อยู่ในความนิยมของชาย หญิงชาวไทยมานานมาก ๆ เช่นเดียวกับวิตามินซี วิตามินบีรวม Biotin นมผึ้ง เป็นต้น เพราะว่าอย่างแรกเลยคือคอลลาเจนทีส่วนช่วยในเรื่องของกระดูกและข้อ พร้อมบำรุงผิวของเราให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น จึงทำให้มีแบรนด์อาหารเสริมมากมายหันมาผลิตคอลลาเจนกันมากขึ้น ดังนั้น ชอบรีวิวก็ไม่ขอพลาดที่จะนำ คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดีมาฝากทุกคนกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่าคอลลาเจนที่มีอยู่ตอนนี้มีทั้งคอลลาเจนแบบเม็ด แบบผงชงดื่มให้เราได้เลือกซื้อกัน 

แต่ครั้งนี้เราขอเอา คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี มาฝากเพื่อน ๆ กันก่อนดีกว่า พร้อมแนะนำวิธีการรับประทานคอลลาเจนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่า 5 อันดับ คอลลาเจนแบบผง ชงดื่มของเราจะมียี่ห้อไหนบ้าง ตามมากันเลยค่ะ

คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี

อันดับ 1
9.7
Amado Colligi Collagen TriPeptide + Vitamin C
Amado Colligi Collagen TriPeptide + Vitamin C
  • โมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • ดูดซึมได้เร็วกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 4 เท่า
  • ฟื้นฟูผิวที่เคยแห้งกร้าน และร่วงโรยให้กลับมามีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
  • ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย  เพื่อผลลัพธ์ผิวที่แลดูกระจ่างใสและอมชมพู
  • เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผมและเล็บ
อันดับ 2
9.3
Neocell Super Collagen Powder Type 1 & 3
Neocell Super Collagen Powder Type 1 & 3
  • คอลลาเจนเป็บไทป์ ประเภทที่ 1 และ 3 ซึ่งมีความจำเป็นในการบำรุงผิวพรรณเป็นอย่างยิ่ง
  • กรรมวิธีขั้นสูงสกัดด้วยเอนไซม์ ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูง สามารถดูดซึมได้เกือบ 100%
  • ไม่มีกลิ่นคาว และไม่มีรสชาติ
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิว อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวหนัง ผมเล็บ รวมถึงกระดูก
  • มี Vitamin C จึงช่วยเพิ่มในการดูดซึมและเพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
อันดับ 3
8.9
ZEAVITA Collagen+ Dipeptide Activ
ZEAVITA Collagen+ Dipeptide Activ
  • เข้มข้นขึ้น 70 เท่า
  • สร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของผิวหนัง
  • เพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยให้ริ้วรอยแลดูตื้น และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
  • ให้ผิวกระจ่างใสแลดูสม่ำเสมอมาก
  • เพิ่มความหล่อลื่นให้ข้อเข่า พร้อมบำรุงเข่าให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น 

แนะนำ 5 อันดับ คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะรอต่อไม่ไหวแล้ว ที่จะมีผิวพรรณสุขภาพดี และมีกระดูกและข้อแข็งแรงนะคะ แล้วก็ลุ้นมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ว่าคอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี ทั้ง 5 อันดับของเราจะมีที่เพื่อน ๆ เล็งเอาไว้อยู่หรือไม่ ? เพราะฉะนั้น มาดูกันจ้า 

1.คอลลาเจนแบบผง Amado Colligi Collagen TriPeptide + Vitamin C

Amado Colligi Collagen TriPeptide + Vitamin C

คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี ที่ชอบรีวิวเลือกให้เป็นอันดับที่ 1 ต้องบอกว่ายี่ห้อนี้ขายดีแบบสุด ๆ แถมยังได้สาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนกมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ เลยต้องบอกว่าสุดปังจริง ๆ นอกจากนี้ในเรื่องของคุณสมบัติเขาก็น้อยหน้าค่ะทุกคน เพราะว่าได้รวมเอาส่วนผสม คุณภาพ และประสิทธิภาพมาไว้ในกระปุกคอลลาเจนแบบผงกระปุกนี้เรียบร้อยแล้วค่ะทุกคน

โดย Amado Colligi Hydrolyzed Fish Collagen Tripeptide plus Vitamin C เป็นคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่ร่างกายดูดซึมได้ยาก มาปรับปรุงกระบวนการใ้ดูดซึมได้ง่ายขึ้น จึงทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์เต็ม ๆ จากคอลลาเจนที่เราชง และดื่มเข้าไป โดยคอลลาเจนที่นำในใส่นั้นเป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการแตกตัวเรียบร้อยแล้ว โดยมีชื่อเรียกว่า Collagen Tri-peptide ทำให้โมเลกุลของคอลลาเจนชนิดนี้มีขนาดเล็กกว่าจึงดูดซึมได้ง่ายขึ้น

โดยเล็กกว่าคอลลาเจนปกติถึง 60 เท่า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมช่วยฟื้นฟูผิวที่เคยแห้งกร้าน และร่วงโรยให้กลับมามีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อผลลัพธ์ผิวที่แลดูกระจ่างใสและอมชมพู พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผมและเล็บ ทำให้ผมแข็งแรงไม่หลุดง่าย เล็บมีสุขภาพดีไม่หักเปราะง่าย ลดอาการปวดข้อ และข้อยึดได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น เพราะดูดซึมได้เร็วกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 4 เท่า จึงทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่ดีไปแบบเต็ม ๆ 

จุดเด่น
  • โมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • ดูดซึมได้เร็วกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 4 เท่า
  • ฟื้นฟูผิวที่เคยแห้งกร้าน และร่วงโรยให้กลับมามีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
  • ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย  เพื่อผลลัพธ์ผิวที่แลดูกระจ่างใสและอมชมพู
  • เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผมและเล็บ
จุดควรพิจารณา
  • ไม่แนะนำให้ผสมนม เพราะมีแคลเซียมอยู่แล้ว
  • คุณแม่ให้นมบุตร และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
  • ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรระมัดระวังในการรับประทาน 

2.คอลลาเจนแบบผง Neocell Super Collagen Powder Type 1 & 3

Neocell Super Collagen Powder Type 1 & 3

Neocell Super Collagen Powder Type 1 & 3 เป็นคอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี ที่เราเลือกให้เป็นอันดับหนึ่ง 2ค่ะ ซึ่งเป็นคอลลาเจนเป็บไทป์ ประเภทที่ 1 และ 3 ซึ่งมีความจำเป็นในการบำรุงผิวพรรณเป็นอย่างยิ่ง โดยผลิตจากคอลลาเจนเป็ปไทด์บริสุทธิ์ 100% อีกทั้งยังผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ โดยใช้กรรมวิธีขั้นสูงสกัดด้วยเอนไซม์ ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูง

สามารถดูดซึมได้เกือบ 100% โดยมีจุดเด่นคือมีมวลโมเลกุลของกรดอะมิโนต่ำ ขนาดเล็กที่สุด ทำให้ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งมีข้อดีคือไม่มีกลิ่นคาว และไม่มีรสชาติอีกด้วยค่ะ โดยคุณสมบัติพิเศษของคอลลาเจนแบบผงกระปุกนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิว อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวหนัง ผมเล็บ รวมถึงกระดูก โดยคอลลาเจนตัวนี้เป็นโครงสร้างโปรตีน ที่มีความซับซ้อนนี้จะแทรกซึมเป็นส่วนประกอบสำคัญโดยทั่วไปของร่างกาย

พร้อมทั้งมีส่วนประกอบของ Vitamin C จึงช่วยเพิ่มในการดูดซึมและเพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและกระบวนการสมานแผลเพื่อผิวกระจ่างใส โดย ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP และยังได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัล Best of Supplement Award 2012 จาก Betternutrition

จุดเด่น
  • คอลลาเจนเป็บไทป์ ประเภทที่ 1 และ 3 ซึ่งมีความจำเป็นในการบำรุงผิวพรรณเป็นอย่างยิ่ง
  • กรรมวิธีขั้นสูงสกัดด้วยเอนไซม์ ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูง สามารถดูดซึมได้เกือบ 100%
  • ไม่มีกลิ่นคาว และไม่มีรสชาติ
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิว อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิวหนัง ผมเล็บ รวมถึงกระดูก
  • มี Vitamin C จึงช่วยเพิ่มในการดูดซึมและเพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
จุดควรพิจารณา
  • มีของเลียนแบบเป็นจำนวนมากจึงควรระมัดระวังในการเลือกซื้อ
  • บางครั้งแกะปุ๊ปซีลหลุดติดฝาเลย

3.คอลลาเจนแบบผง ZEAVITA Collagen+ Dipeptide Activ

ZEAVITA Collagen+ Dipeptide Activ

ZEAVITA คอลลาเจน พลัส ไดเปปไทด์ 100% เป็นคอลลาเจนแบบผง ที่ฮอตฮิตติดชาร์ตไม่น้อยในโลกออนไลน์ ชอบรีวิวเลยจัดให้เจ้kคอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดีตัวที่3 ที่ชอบรีวิวเลือก โดยคอลลาเจนแบบผงตัวนี้ไม่ได้มาเป็นคอลลาเจนเพรียว ๆ แต่ยังมีวิตามินซี และไนอะซิน (วิตามินบี 3) ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์จึงให้คุณค่าในการดูแลผิวเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี คอลลาเจน พลัส ไดเปปไทด์ เข้มข้นขึ้น 70 เท่า

อีกทั้งยังได้รับ สิทธิบัตรจากประเทศญี่ปุ่น ว่ามีขนาดเล็กที่สุด เมื่อเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์และคอลลาเจนเปปไทด์ รวมถึงเป็นคอลลาเจนที่ได้จากปลาธรรมชาติ จึงเข้มข้นกว่าเดิมถึง 70 เท่า ในส่วนของวิตามินซี ที่ผสมรวมอยู่ในคอลลาเจนกล่องนี้ มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของผิวหนัง และไนอะซิน (วิตามินบี 3) ยังช่วยคงสภาพของเยื่อบุทางเดินอาหารและผิวหนัง

ด้วยส่วนผสมทั้งหมดจึงมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มคอลลาเจนและความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสแลดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยให้ริ้วรอยแลดูตื้น และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการบำรุงกระดูกคือช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้ข้อเข่า พร้อมบำรุงเข่าให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ทั้งหมดนี้มีงานวิจัยรองรับประสิทธิภาพ และยังไม่มีน้ำตาล แป้ง ไขมัน รวมถึงสารกันใส จึงดื่มได้อร่อยไม่คาวด้วย 

จุดเด่น
  • เข้มข้นขึ้น 70 เท่า
  • สร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของผิวหนัง
  • เพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยให้ริ้วรอยแลดูตื้น และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
  • ให้ผิวกระจ่างใสแลดูสม่ำเสมอมาก
  • เพิ่มความหล่อลื่นให้ข้อเข่า พร้อมบำรุงเข่าให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น 
จุดควรพิจารณา
  • รสชาติแปลกมากๆ ขมๆ เหมือนยา
  • ชง หรือ กินกับอะไรก็ไม่อร่อย
  • รับประทานไป 1 เดือนยังไม่เห็นผลเลย 

4.คอลลาเจนแบบผง Vida Collagen Pure

Vida Collagen Pure

Vida Collagen Pure เป็นคอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี อันดับที่ 4 ที่ชอบรีวิวเลือกมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน เพราะว่าคอลลาเจนตัวนี้ เป็นคอลลาเจนแท้ถึง 100,000 มก. ประสิทธิภาพสูง แต่ราคาเอื้อมถึงได้ แถมยังหาซื้อได้ง่ายมาก ๆ ชอบรีวิวเลยไม่พลาดที่จะมาแนะนำคอลลาเจนตัวนี้ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกัน โดย Vida Collagen Pure เป็นคอลลาเจนบริสุทธิ์ เกรดคุณภาพ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

โดยสกัดมาจากปลา 100% ซึ่งอุดมไปด้วย กรดอะมิโนที่จำเป็น เช่น ไกลซีน (Glycine) , โพรลีน (Proline) และ ไฮดรอกซีโพรลีน (Hydroxyproline) อีกทั้งยังได้ คอลลาเจนเปปไทด์จากปลา จึงมีโมเลกุลเล็ก ทำให้ร่างกายดูดซึมง่ายและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถละลายน้ำได้ดี ไม่มีกลิ่นคาว รับประทานง่าย

และด้วยส่วนผสมทั้งหมดคอลลาเจนตัวนี้จึงมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว พร้อมเติมน้ำในผิว จึงทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียน้ำใต้ชั้นผิวอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยทำให้ผิวกระชับ ขาว และเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟ้า จุดด่างดำ และรอยแผลเป็นต่าง ๆ ทำให้ผิวพรรณแลดูอ่อนกว่าวัย ไม่เพียงแค่เรื่องผิวยังช่วยให้ผมและเล็บแข็งแรงขึ้น ช่วยดูแลข้อต่อของกระดูก พร้อมป้องกันโรคข้อเสื่อม พร้อมช่วยรักษาสิว พร้อมลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย 

จุดเด่น
  • โมเลกุลเล็ก ทำให้ร่างกายดูดซึมง่าย และนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว
  • เติมน้ำในผิว จึงทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น และลดการสูญเสียน้ำ
  • เพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยทำให้ผิวกระชับ ขาว และเรียบเนียน
  • ลดเลือนริ้วรอย ฟ้า จุดด่างดำ และรอยแผลเป็นต่าง 
จุดควรพิจารณา
  • ลองทานครั้งแรกค่ะ คาวนิดหน่อย
  • ผู้ที่แพ้อาหารทะเลไม่ควรรับประทาน 

5.คอลลาเจนแบบผง COLLA MAX PLUS TYPE II DIPEPTIDE

COLLA MAX PLUS TYPE II DIPEPTIDE

COLLA MAX PLUS+ คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี ที่เราเลือกให้มาเป็นอันดับที่ 5 เพราะด้วยความกินง่าย ราคาคุ้มแบบนี้บอกเลยว่าเราไม่พลาด สำหรับคอลลาเจนแบบผงสูตรนี้เป็นเพียวคอลลาเจน 100% เกรดพรีเมี่ยม จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคอลลาเจน 4 in 1 โดยประกอบไปด้วย คอลลาเจนไดเปปไทด์ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ คอลลาเจนเปปไทด์ และคอลลาเจนไทพ์ทู

โดยมีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และบำรุงเล็บ พร้อมด้วยการบำรุงข้อเข่า ข้อต่อ และกระดูกซึ่งตอบโจทย์สำหรับการรักสุขภาพและความงามได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้คอลลาเจนกระปุกนี้ยังดื่มง่าย ไม่มีกลิ่นคาว ไม่ผสมแป้ง และไม่มีน้ำตาล  รวมถึงไขมัน FAT 0% สามารถผสมได้ทั้งน้ำเย็น น้ำร้อน รวมถึงเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้ตามสบายเลยค่ะ

อีกทั้งยังไม่ทำให้เครื่องดื่มที่รับประทานเสียรสชาติอีกด้วย โดยทำให้ผิวพรรณเต่งตึงขึ้น นุ่มเด้ง ลดการเหี่ยวย่นของผิว พร้อมทั้งสามารถลดเลือนปัญหา สิวฝ้า รอยตีนกา รอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้า และยังเติมเต็มคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดความแห้งกร้าน จากแสงแดด พร้อมบำรุงผมให้แข็งแรง ลดการขาด หลุด ร่วง รวมทั้งเล็บแข็งแรง ไม่เปราะ หักง่าย และช่วยลดปัญหาอาการปวดข้อ ปวดเข่า เรื้อรัง 

จุดเด่น
  • คอลลาเจน 4 in 1 โดยประกอบไปด้วย คอลลาเจนไดเปปไทด์ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ คอลลาเจนเปปไทด์ และคอลลาเจนไทพ์ทู
  • ดื่มง่าย ไม่มีกลิ่นคาว ไม่ผสมแป้ง และไม่มีน้ำตาล  รวมถึงไขมัน FAT 0%
  • ผสมได้ทั้งน้ำเย็น น้ำร้อน รวมถึงเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ
  • ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงขึ้น นุ่มเด้ง ลดการเหยี่ยวย่นของผิว
  • ลดปัญหาอาการปวดข้อ ปวดเข่า เรื้อรัง 
จุดควรพิจารณา
  • ปริมาณค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับราคา
  • ต้องผสมใส่เครื่องดื่มอื่นๆมีกลิ่นคาว
  • ทานได้ 10 วัน อาการปวดเข่ายังไม่หาย

วิธีการกินคอลลาเจนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 

อย่างที่หลาย ๆ ข่าวที่ชอบบอกว่ากินคอลลาเจนไม่ค่อยได้ผลลัพธ์อะไรมากนัก ที่เป็นแบบนั้นอาจเป็นเพราะว่าคุณกำลังกินคอลลาเจนผิดวิธีกันอยู่หรือป่าวคะ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปกินคอลลาเจนแบบผงให้ทุกคนที่ได้กินมีผลลัพธ์อย่างที่ใจทุกคนต้องการค่ะ มาติดตามกันเลย 

1.คอลลาเจนแบบผง VS คอลลาเจนแบบเม็ด แบบไหนดีกว่า 

คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม

คอลลาเจนนั้นมีหลายแบบให้ทุกคนเลือก แต่เชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนน่าจะสงสัยว่าคอลลาเจนแบบใดนั้นดีกว่ากัน 

คอลลาเจนชนิดเม็ด

ข้อดีก็คือสามารถทานได้ง่าย พกพาง่าย เก็บรักษาได้สะดวก แต่ทว่าข้อเสียของเจ้าคอลลาเจนชนิดนี้ก็คือ มีปริมาณคอลลาเจนน้อยกว่าคอลลาเจนแบบชงดื่ม อีกทั้งกว่าจะเห็นผลนั้นค่อนข้างนานกว่า ดังนั้น ทางเลือกของผู้หญิงต้องการผิวพรรณสวยและมีกระดูกและข้อแข็งแรง ควรรับประทานคอลลาเจนแบบชงดื่มดีกว่า แต่ถ้าหากรับประทานยากก็สามารถรับประทานแบบเม็ดแทนได้เช่นกันค่ะ 

คอลลาเจนชนิดผง

เป็นคอลลาเจนสำหรับชงดื่ม มีข้อดีมากกว่าเมื่อเทียบกับคอลลาเจนแบบเม็ด เนื่องจากเป็นรูปแบบของคอลลาเจนที่มีปริมาณคอลลาเจนมากที่สุด และยังเก็บรักษาให้คงสภาพได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถนำไปรับประทานคู่กับอาหารที่ชอบได้ รวมถึงไม่มีสารกันบูด แต่ข้อควรระวังก็คือการมีน้ำตาลให้ความหวาน และบางยี่ห้อมีกินคาวซึ่งอาจทำให้รับประทานยากค่ะ 

เคล็ดลับการรับประทานคอลลาเจนอย่างไร ให้ผลดีสุด 

คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี น่าสนใจ

1.เลือกแบบชงดื่ม 

อย่างที่หลายคนทราบกันเป็นอย่างดีว่า คอลลาเจนนั้นมีทั้งแบบเม็ดและแบบผง ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการใช้คอลลาเจนช่วยในการบำรุงผิวต้องเลือกคอลลาเจนแบบชงดื่มจะดีที่สุด เพราะมีโมเลกุลที่เล็กมากกว่า สามารถละลายน้ำได้ง่าย และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และเห็นผลดีที่สุดนั่นเองค่ะ 

2.กินตอนท้องว่าง 

อีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญมาก ๆ ในการเลือกรับประทานคอลลาเจน คือเราต้องเลือกกินคอลลาเจนในช่วงที่ท้องเราว่างค่ะทุกคน หรือควรรับประทานคอลลาเจนหลังอาหารไปแล้วอย่างน้อย ๆ ต้อง 3-4 ชั่วโมงนั่นเองค่ะ เนื่องจากในช่วงที่ท้องเราว่างนั้น ร่างกายของเราจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด รวมถึงไม่ถูกกรดในกระเพราะทำลายอีกด้วยค่ะ

ถ้าหากไม่สะดวกทุกคนก็สามารถรับประทานคอลลาเจนได้ในช่วงก่อนนอนได้เช่นกัน เพราะว่าร่างกายในเวลาเรานอนหลับจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย และทำให้ร่างกายนำคอลลาเจนมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้นั่นเอง 

3. ทานวันละ5,000-7,000 มิลลิกรัม ห้ามเกินวันละ 10,000 มิลลิกรัม

การรับประทานคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากตามคำแนะนำขององค์การอาหารและยา หรือ อย. แนะนำว่าปริมาณคอลาเจนที่เหมาะสม ต้องประมาณวันละ5,000-7,000 มิลลิกรัม โดยห้ามเกินวันละ 10,000 มิลลิกรัม จะปลอดภัยและดีต่อร่างกายของเราที่สุดค่า 

4.ทานคู่กับวิตามินซีดีสุด 

เนื่องจากวิตามินซี เป็นตัวช่วยชั้นดีที่ช่วยเป็นตัวทำลายในการดูดซีมคอลลาเจนเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้วิตามินยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซิมคอลลาเจนได้อย่างเต็มร้อย เนื่องจากหากเราทานคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้งานได้เพียง 50-70% แต่ถ้าหากทานคู่กับวิตามินซี จะทำให้คอลลาเจนถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เต็มร้อยเปอร์เซ็น

5. สารอาหารที่มีคอลาเจน 

สารอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน โดยส่วนใหญ่เรามักจะพบได้จากจำพวกปลาแซลมอน ปลาทูน่า ที่มีทั้งโปรตีนและเป็นแหล่งผลิตคอลลาเจน รวมถึงยังมีอโวคาโด ที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิสพรรณผ่องใส่ รักษาริ้วรอย นอกจากนี้ ยังมีมะกอกดำ มะกอกเขียว ที่ช่วยรักษาความหย่อนคล้อยของผิวหน้า รวมถึงแครอท ที่มีส่วนสำคัญในการผลิตคอลลาเจนให้กับร่างกาย และอีกมากมายของอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน 

บทสรุป  คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี

แน่นอนว่า คอลลาเจนแบบผง ยี่ห้อไหนดี อันดับ 1 ประจำปีนี้ต้องขอยกให้ Amado Colligi Hydrolyzed Fish Collagen Tripeptide plus Vitamin C เป็นคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่ร่างกายดูดซึมได้ยาก มาปรับปรุงกระบวนการใ้ดูดซึมได้ง่ายขึ้น จึงทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์เต็ม ๆ จากคอลลาเจนที่เราชง และดื่มเข้าไป 

โดยมีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนปกติถึง 60 เท่า จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว พร้อมช่วยฟื้นฟูผิวที่เคยแห้งกร้าน และร่วงโรยให้กลับมามีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อผลลัพธ์ผิวที่แลดูกระจ่างใสและอมชมพู พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยรวมทั้งช่วย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผมและเล็บ แถมยังช่วยลดอาการปวดข้อ และอาการข้อยึดได้ พร้อมทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น เพราะดูดซึมได้เร็วกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 4 เท่า จึงทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่ดีไปแบบเต็ม ๆ ดีแบบนี้จะพลาดได้อย่างไรคะ 

Similar Posts