มอยเจอร์ไรเซอร์

รีวิว มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจ เพื่อผิวสวย สุขภาพดีไร้สิว ปี 2022

มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นไอเทมที่สำคัญมากในขั้นตอนการบำรุงผิวของสาวๆ ไม่แพ้พวกสกินแคร์ตัวอื่น เช่น ครีมกันแดด เซรั่มวิตามินซี หรือ เซรั่มบำรุงผิวหน้า เพราะสาวๆก็อยากให้สวย สดใส และชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการบำรุงผิวในตอนเช้า หรือตอนกลางคืนก่อนเข้านอน เพราะหากสาวๆ ขาดการบำรุงในขั้นตอนนี้ อาจจะทำให้ผิวขาดความสมดุล เกิดริ้วรอย หรืออาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับผิวตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่สาวๆไม่ควรจะมองข้าม 

แล้วทำไม มอยเจอร์ไรเซอร์ ถึงมีความสำคัญมากๆต่อการบำรุงผิว เราจะมาดูประโยชน์ และมี มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดีบ้างกันดีกว่าค่ะ

รีวิว มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจ

รีวิว 5 มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจ ปี 2022

การเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะสมกับผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก่อนที่เราจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ จึงจำเป็นต้องอ่าน ศึกษา รายละเอียด ส่วนผสมของสินค้าก่อน มาดูกันต่อกันดีกว่าค่ะว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ตัวไหนที่น่าใช้ และน่าสนใจบ้าง

1. มอยเจอร์ไรเซอร์ FYNE Skin Barrier+ Prebiotic Serum in Cream

เป็นเซรั่มในรูปแบบครีมที่ใช้ได้แม้ในวันที่อากาศร้อน โดยไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ ผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท มีความอ่อนโยน มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอย่างล้ำลึก และช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวให้แลดูมีสุขภาพดี 

ผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ซึ่งควบคุมทำให้ผิวเกิดสมดุลให้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์จากธรรมชาติ มีส่วนผสมของ ใบบัวบก คาโมมายล์ ว่านหางจระเข้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการปลอบประโลมผิวที่ไวต่อการระคายเคือง ไม่ก่อให้เกิดสิว เพื่อผิวที่แข็งแรงมากขึ้น 

จุดเด่น

  1. ไม่มีแอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม ซิลิโคน
  2. ใช้ได้ทุกสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  3. เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีม ซึมไว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ 
  4. มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อผิว 
  5. มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์จากธรรมชาติ

จุดควรพิจารณา 

  1. หาซื้อได้ยาก
  2. ผ้าปิดเป็นพลาสติก อาจจะทำให้ปิดไม่แน่น

2. มอยเจอร์ไรเซอร์ Clinique Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator

เป็นเจลครีมเนื้อเบาบางสัมผัสนุ่มที่ช่วยเติมเต็มน้ำให้ผิวแลดูชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ให้ผิวแลดูชุ่มฉ่ำทันทีหลังจากใช้งาน และมอบความชุ่มชื้นต่อเนื่องถึง 174% ด้วยเทคโนโลยี Auto-Replenishing จะช่วยทำให้ผิวกักเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานมากขึ้น มีส่วนผสม Aloe Vera Bio-Ferment ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว

หลังจากใช้ไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ จะเห็นว่าผิวหน้าแข็งแรง และผิวดูสวยมีสุขภาพดีขึ้น จึงเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท หรือสาวๆที่ต้องการการบำรุงความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ 

จุดเด่น

  1. ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม น้ำมัน และแอลกอฮอล์
  2. มีเทคโนโลยี Auto-Replenishing  ช่วยกักเก็บน้ำได้ยาวนาน
  3. เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจล ใช้ได้ทุกสภาพผิว
  4. มอบความชุ่มชื้นให้ผิวมากถึง 174%
  5. บรรจุภัณฑ์ค่อนข้างแข็งแรง ทนทาน

จุดควรพิจารณา 

  1. ราคาแพง

3. มอยเจอร์ไรเซอร์ BIOTHERM BLUE THERAPY ACCELERATED CREAM

ผลิตภัณฑ์ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟู มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ดูแลผิวที่มีริ้วรอยให้แลดูอ่อนเยาว์ และดูเปล่งปลั่ง ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสม สาหร่าย ALARIA ESCULENTA  ซึ่งประกอบด้วยโอเมก้า 3 และ 6 มีกรดอะมิโนและแร่ธาตุต่างๆ ที่ทำให้ผิวแข็งแรง และมีสุขภาพดี

ครีมบำรุงเป็นเนื้อแบบซิลค์กี้ จึงทำให้ซึมซาบได้ง่าย ใช้แล้วรู้สึกเย็นสบายผิว และมีกลิ่นหอมสดชื่น บรรจุภัณฑ์ถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงามและแข็งแรง เก็บรักษาได้ง่าย

จุดเด่น

  1. เนื้อสัมผัสเป็นแบบซิลค์กี้ ซึบซาบได้เร็ว
  2. มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  3. ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น เย็นสบายมีกลิ่นหอม
  4. ผิวมีความเปล่งปลั่งทันทีหลังใช้
  5. บรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง สวยงาม ทนทาน

จุดควรพิจารณา 

  1. ราคาค่อนข้างสูง 
  2. มีแอลกอฮอล์ 

4. มอยเจอร์ไรเซอร์ Neutrogena hydro boost water gel 

เจลบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยี “Progressive Release System” จะทำให้ผิวอิ่มน้ำยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ

ผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพจากผู้เชียวชาญด้านผิวหนัง  เหมาะสำหรับผิว สาวๆเอเชีย สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวแพ้ง่าย ด้วยเนื้อที่เป็นแบบเจลทำให้ซึบซาบไว ใช้แล้วช่วยบูสท์ผิวทันทีหลังจากครั้งแรงที่ใช้ อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงไม่ก่อให้เกิดการอุดตันอีกด้วย

จุดเด่น

  1. มีเทคโนโลยี “Progressive Release System” ทำให้ผิวชุ่มชื่นยาวนานมากขึ้น
  2. รู้สึกถึงความชุ่มชื่นทันทีหลังใช้ผลิตภัณฑ์
  3. ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
  4. ใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย
  5. ราคาถูก ประสิทธิภาพดี

จุดควรพิจารณา 

  1. มีส่วนผสมของน้ำหอม

5. มอยเจอร์ไรเซอร์ La Roche-Posay Effaclar MAT

เจลบำรุงผิวหน้าเนื้อสัมผัสเบาบาง ซึมซาบได้เร็ว ช่วยในเรื่องลดความมัน มอบความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น  ผลิตภัณฑ์ มีส่วนผสมของ Sebulyse ซึ่งมีประสิทธิภาพได้ดีกว่าซิงค์ ซึ่งสามารถควบคุมความมันได้ยาวนาน และยังช่วยลดรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวได้ดีอีกด้วย 

จึงเหมาะกับสาวๆที่มีผิวมันและผิวแพ้ง่ายหรือสิวได้ง่าย และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หลายๆคนจึงใช้ผลิตภัณฑนี้เป็นแบสก่อนแต่งหน้า 

จุดเด่น

  1. มี Sebulyse ทำให้ควบคุมความมันได้ยาวนานขึ้น
  2. สามารถใช้เป็นแบสแต่งหน้าได้
  3. เด่นในเรื่องกระชับรูขุมขน 
  4. ช่วยลดรอยแดงและรอยดำที่เกิดจากสิวได้ดี 

จุดควรพิจารณา 

  1. มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 

ทำไม มอยเจอร์ไรเซอร์ ถึงจำเป็นในขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า

มอยเจอร์ไรเซอร์ น่าใช้

1. ปรับผิวให้มีความสมดุล

มอยเจอร์ไรเซอร์ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลให้กับผิว โดยการเติมน้ำให้ผิวหน้า คงความชุ่มชื่น ทำให้ผิวหน้าไม่มันและไม่แห้งเกินไป เมื่อผิวหน้าเกิดความสมดุล จะทำให้ผิวของสาวๆแข็งแรง มีค่า PH ที่เหมาะสม จะทำให้ผิวดูสวย สดใส สุขภาพดี การบำรุงผิวด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำยังช่วยลดการระคายเคืองผิว และการเกิดสิวได้อีกด้วย 

2. ลดการเกิดริ้วรอยให้แก่ผิว

การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า และเป็นเกาะป้องกันการสูญเสียน้ำในชั้นผิว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย เพราะผลิตภัณฑ์จะช่วยเติมร่องลึก และช่วยพื้นฟูบำรุงผิว และทำให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ 

3. ทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น 

นอกจากมอยเจอร์ไรเซอร์ จะทำให้ผิวสวย ดูสุขภาพดี ลดริ้วรอยแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน เนื่องจากผิวมีความอวบอิ่มน้ำ ซึ่งจะทำให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น และทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น คงไม่แปลกใจเลยที่ช่างแต่งหน้า หรือแม้แต่สาวๆหลายคนจะเลือกลงมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนขั้นตอนการแต่งหน้า 

แต่สาวๆที่มีผิวค่อนข้างมันต้องระวังปริมาณการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นพิเศษ เพราะหากผิวหน้ามีความชุ่มชื่นมากจนเกินไป จะทำให้ผิวหน้ามันได้ง่าย และจะทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทนนานเท่าที่ควร

การเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ให้เหมาะสมกับสภาพผิว

เมื่อทราบถึงประโยชน์ของการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์กันไปแล้ว สาวๆหลายคนคงจะมีคำถามว่าจะเลือกซื้อ มอยเจอร์ไรเซอร์ อย่างไรให้เหมาะสมกับสภาพผิว เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ 

1. มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวมัน หรือผิวผสม

สาวๆหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า หากตัวเองมีผิวมันแล้ว คงไม่เหมาะที่จะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความมันเข้าไปอีก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะสาเหตุที่ทำให้สาวๆมีผิวมัน อาจจะเกิดจากผิวที่ขาดน้ำ เสียสมดุล จึงทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นเพื่อเพื่อความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ดังนั้น มอยเจอร์ไรเซอร์จึงมีความสำหรับสาวๆที่มีผิวมันเช่นเดียวกับผิวประเภทอื่น แต่ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเป็นเจล ซึมเข้าผิวได้ง่าย และไม่เหนียวเหนอะหนะ หากอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ อาจจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงแค่ตอนกลางคืนก่อนเข้านอนก็ได้ค่ะ 

2. มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวแห้ง 

สำหรับสาวๆผิวแห้ง หรือสาวๆที่นั่งทำงานหรืออยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา อาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นมากกว่าสาวๆผิวมัน เพราะผิวประเภทนี้ต้องการ การป้องกันและเพื่อกักเก็บน้ำให้อยู่ในใต้ชั้นผิวให้นานขึ้น ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีมจึงเหมาะกับสาวๆที่มีผิวแห้งเป็นพิเศษ 

3. มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวบอบบาง  ผิวแพ้ง่าย

ผิวบอบบาง หรือผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเนื่องจาก อาจจะเกิดการระคายเคืองหรืออาจจะแพ้สารต่างๆที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม จะเป็นประเภทพวกเวชสำอางที่ได้รับการรับรองว่า สามารถใช้กับสภาพผิวที่บอบบาง แพ้ง่ายได้ หรือเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล และพาราเบน ดังนั้น สาวๆควรจะอ่านส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ก่อนจะเลือกใช้ 

สาวๆคงจะทราบกันแล้วว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากกับสภาพผิวทุกประเภท ก่อนจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ สาวๆควรตรวจสอบก่อนว่าตัวเองมีสภาพผิวอย่างไร หรืออาจจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้าก่อน เพื่อจะได้เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผิวของตัวเอง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด

เคล็ดลับการดูแลผิวสวย แลดูสุขภาพดี 

การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตาม การบำรุงด้วยการใช้แค่ผลิตภัณฑ์อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ผิวแข็งแรงหรือสุขภาพดีได้ วันนี้เรามีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆมาฝากสาวๆที่ต้องการมีผิวที่สวยสุขภาพดี ตามมาดูกันเลยค่ะ 

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ควรรับประทานผักและผลไม้ทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ร่างกายต้องการ 

ใช้ครีมกันแดด 

การใช้ครีมกันแดดเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งสาวๆหลายคนอาจจะมองข้าม เพราะว่าตัวเองอยู่นั่งอยู่ในที่ร่ม ไม่เจอแสงแดดแต่ความจริงยูวีจากแสงแดดที่ส่องมาจาก ทางหน้าต่างหรือแสงจากจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ อาจจะทำร้ายผิวได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นสาวๆควรใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวในทุกวัน 

ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

หากพูดถึงการดื่มน้ำ สาวๆหลายคนอาจจะคิดว่าดื่มน้ำหวาน ชาไข่มุก หรือน้ำผลไม้ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ความจริงแล้วน้ำเปล่าเป็นน้ำที่ดีที่สุด ที่ร่างกายเราต้องการ ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว และยังทำให้ระบบเผาพลาญทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ผิวแลดูสวย กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น 

นอนหลับพักผ่อนในเพียงพอ

หลายคนคงจะทราบอยู่แล้วว่าการนอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอในทุกวัน จะทำให้ผิวดูสวยอ่อนเยาว์ สุขภาพดี แต่หลายครั้งซีรี่ย์เกาหลีเรื่องโปรด หรือหนังมาใหม่ใน Netflix ก็ทำให้เราดูเพลินจนลืมเวลานอนหลับพักผ่อนได้ ดังนั้น ควรจะวางแพลนเวลาการเข้านอนให้ดี บางคนที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ อาจจะสร้างบรรยากาศก่อนนอน โดยการผ่อนคลายตัวเอง ดื่มชาที่ไม่มีคาแฟอีน หรืออาจจะจุดเทียนที่มีกลิ่นหอม เพื่อช่วยให้หลับได้เร็วขึ้น

มาร์กหน้าเป็นประจำ

การมาร์กหน้าอาทิตย์ล่ะ 1-2 ครั้งเป็นประจำ จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส และแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เพราะจะทำให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว แต่ควรเลือกมาร์กหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองด้วย 

ทำความสะอาดหน้าให้สะอาดก่อนนอน

ถึงแม้การใช้สกินแคร์บำรุงผิวจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่การทำความสะอาดหน้าก็เป็นหนึ่งในปัจจัยทีสาวๆควรใส่ใจเช่นกัน เพราะบางคนใช้ครีมบำรุงราคาแพง แต่ทำความสะอาดหน้าไม่สะอาดหลังแต่งหน้า หรือเจอสิ่งสกปรกมาทั้งวัน ทำให้ก่อให้เกิดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวและผิวหน้าอุดตันได้ 

ออกกำลังกายเป็นประจำ 

เป็นสิ่งจำเป็นมากทั้งงร่างกายและผิวของสาวๆ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้สาวๆมีสุขภาพดี จิตใจแจ่มใส ทำให้การทำงานของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น และยังทำให้ผิวสวย กระจ่างใสอีกด้วย 

แล้วสาวๆควรเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี ตัวไหนดี 

เป็นอย่างไงกันบ้างคะ กับมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวท็อปที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หลังจากที่ได้รับทราบประโยชน์ และคุณสมบัติของแต่ล่ะตัวแล้ว คงเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวใช่ไหมคะ

แต่หากจะให้ตัดสินจากคุณสมบัติ ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ และราคาแล้ว ทางเราขอเลือกให้มอยเจอร์ไรเซอร์จากแบรนด์ไทยอย่าง FYNE Skin Barrier+ Prebiotic Serum in Cream ที่เหมาะมากกับผิวของสาวๆคนไทยอย่างเราๆ มอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ด้วยส่วนผสมหลักที่มาจากธรรมชาติ มีจุลลินทรีย์ที่ทำให้ผิวเกิดความสมดุล  และที่สำคัญคือ ไม่มีแอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม ซิลิโคน เหมาะกับผิวทุกประเภท แม้แต่ผิวแพ้ง่าย เลยทำให้แบรนด์นี้กำลังมาแรงมากในขณะนี้

อย่างไรก็ตามก่อนเลือกใช้ สกินแคร์ และครีมบำรุงต่างๆควรจะปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านผิวหนัง หรืออาจจะทดสอบกับผิวของสาวๆก่อนว่าเกิดอาการแพ้หรือไม่ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการบำรุงผิวนะคะ 

Similar Posts