ครีมกันแดด-ยี่ห้อไหนดี

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดความหมองคล้ำ พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดด ฉบับปี 2022

ที่สุดของความแดดเผาต้องแดดประเทศไทยจริง ๆ ค่ะ เพราะว่าไม่ว่าจะฤดูอะไรก็ตาม แดดก็ยังทำร้ายเราได้เสมอ แม้ว่าช่วงนี้จะใกล้เข้าสู่หน้าหนาวเต็มทีแต่ว่าแดดก็แรงอยู่ดี ด้วยอากาศแบบนี้ ทำให้หนุ่มสาวชาวไทยอย่างเรา ๆ ไม่อาจขาดครีมกันแดดไปได้เลย 

ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกจากบ้านแต่ก็ยังเสี่ยงถูกแสงไฟนีออน แสงหน้าจอโทรศัพท์ทำร้ายผิวได้เช่นกัน ดังนั้นเรามาหาครีมกันแดดประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยลดความหมองคล้ำ พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดกันดีกว่า ว่า มีครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดีบ้าง น่าใช้ในฉบับปี 2022 กันบ้างนะ มาติดตามกันเลยค่ะ 

สำหรับสาวๆที่ตากแดดเป็นประจำควรใช้ครีมกันแดด มอยเจอร์ไรเซอร์ และเซรั่มบำรุงผิวหน้าควบคู่กันไปด้วย เพื่อผิวที่มีสุขภาพดี หากสาวๆคนไหนมีสิว หน้ามัน ควรใช้สกินแคร์ที่รักษาสิวโดยเฉพาะ

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดีที่สุด

มาถึงการเลือก ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี ที่ทั้งถูกใจและมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดครบ โดยทั้ง 5 ยี่ห้อที่เรานำมาฝากใช่ยี่ห้อที่เพื่อน ๆ เตรียมซื้ออยู่แล้วหรือป่าวน้า มาติดตามกันค่ะ

1.ครีมกันแดด Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare

ครีมกันแดด Anessa

ครีมกันแดดจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาหลายปี โดยมีทั้งคนดัง และผู้ใช้จริงรีวิวมากมายถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดดตัวนี้ค่ะ ซึ่ง Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare เป็นครีมกันแดดที่มีระดับการปกป้องผิวจากแสงแดดอยู่ที่ SPF50+ PA++++

โดยเนื้อสัมผัสของครีมกันแดดตัวนี้อยู่ในรูปแบบของครีมน้ำนมจึงค่อนข้างบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติในการบำรุงผิว โดยช่วยในการคงความอ่อนเยาว์  ปกป้องผิวจากปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ความหมองคล้ำ และจุดด่างดำ 

สำหรับเทคโนโลยีที่ถูกนำมาเป็นจุดเด่นสำคัญของครีมกันแดดตัวนี้ก็คือ Thermo Booster Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำหน้าที่เสริมเกาะป้องกันผิวเมื่อผิวต้องเผชิญกับความร้อน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีอย่าง Aqua Booster EX Technology ที่เพิ่มระดับการปกป้องผิวจากแสงแดด

และVery Water Resistant ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันน้ำทำให้ครีมแดดยังคงติดผิวไม่สลายออกไปตามเหงื่อ  นอกจากนี้ยังปราศจากการแต่งสี และมีไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว 

จุดเด่น
  • SPF50+ PA++++ ช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี
  • ปกป้องผิวจากปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ความหมองคล้ำ และจุดด่างดำ
  • Thermo Booster Technology เพิ่มการป้องกันรังสี UV เมื่ออุณหภูมินั้นสูงขึ้น
  • คุณสมบัติในการกันน้ำ
  • บางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างดีเยี่ยม
จุดควรพิจารณา
  • ล้างออกยาก จำเป็นต้องใช้คลีนซิ่ง วอเตอร์ในการทำความสะอาด
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง เพราะอาจทำให้ผิวแห้งกร้านหนักกว่าเดิม
  • ผิวมันอาจรู้สึกว่าผิวหน้าเยิ้มขึ้นในช่วงที่มีแดดออกมาก 

2.ครีมกันแดด BIORE UV Aqua Rich Mousse SPF50+ PA+++

ครีมกันแดด BIORE

สำหรับครีมกันแดด BIORE UV Aqua Rich Mousse เป็นตัวที่มีคนรีวิวค่อนข้างเยอะเช่นกันค่ะ อีกทั้งยังมีระดับราคาที่ค่อนข้างน่าคบหาทำให้ครีมกันแดดตัวนี้ถูกใจใครหลาย ๆ คน เพราะความพิเศษของครีมกันแดดตัวนี้มาในรูปแบบของเนื้อมูส จึงทำหน้าที่เป็นทั้งเบสเมคอัพและครีมกันแดดได้ในหลอดเดียว

สามารถป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง SPF50+ PA+++ โดยสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB รวมถึงด้วยความที่ทำหน้าที่เป็นเบสเมคอัพจึงช่วยปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสและดูเรียบเนียนขึ้น 

สำหรับเนื้อสัมผัสเป็นมูสสีขาวที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงเมคอัพให้ติดทนนานจึงตอบโจทย์ผู้หญิงวัยทำงานที่ต้องแต่งหน้าไปทำงานทุกวัน มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการบำรุงผิว เพราะด้วยส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Mix Citrus Essence จึงช่วยกักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิว จึงช่วยหล่อเลี้ยงให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ผสานกับนวัตกรรม UV Aqua Jelly Capsule ซึ่งเป็นแคปซูลอนุภาคเล็ก จึงแปรสภาพเป็นน้ำกระจายทั่วใบหน้าจึงปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบการระคายผิวเรียบร้อยแล้ว 

จุดเด่น
  • ทำหน้าที่เป็นทั้งเบสเมคอัพและครีมกันแดดได้ในหลอดเดียว
  • ป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง SPF50+ PA+++ โดยสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB
  • ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสและดูเรียบเนียน
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการลงเมคอัพให้ติดทนนาน
  • กักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิว จึงช่วยหล่อเลี้ยงให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้น
จุดควรพิจารณา
  • ควรซับหน้าในช่วงระหว่างวัน
  • แอบเกลี่ยยากนิดนึง จึงต้องค่อย ๆ เกลี่ยเพราะอาจเป็นคราบ
  • ได้กลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย ควรระมัดระวังหากมีผิวแพ้ง่าย 

3.ครีมกันแดด Srichand Luminescence Fabulous UV Shield

ครีมกันแดด Srichand

มาถึงครีมกันแดดแบรนด์ไทยอย่างศรีจันทร์ที่มีการรีแบรนด์ใหม่จนได้แพ็กเกจที่สวยงามและเข้ากับความเป็นสมัยใหม่มาก ๆ โดยสำหรับ Srichand Luminescence Fabulous UV Shield เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ

โดยมีระดับการป้องกันแสงแดดสูงถึง SPF 50 PA++++ จึงป้องกันรังสี UVA และรังสี UVB ได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า 

โดยคุณสมบัติของเนื้อครีมที่ซึมซาบเร็ว โดยไม่ทิ้งความมันหรือคราบต่าง ๆ ทิ้งเอาไว้ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว โดยได้รับการรับรองค่า SPF และค่า PA จากสถาบัน AMA Laboratories Inc จากประเทศสหรัฐอเมริกา

และด้วยศรีจันทร์เป็นแบรนด์ของคนไทยจึงได้รับการผลิตและพัฒนาเพื่อผิวของสาวชาวไทยโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด จากประเทศญี่ปุ่น เหมาะสำหรับสาวผิวมันและผิวผสม อีกทั้งยังปราศจากน้ำมัน พาราเบน และน้ำหอมอีกด้วย 

จุดเด่น
  • ระดับการป้องกันแสงแดดสูงถึง SPF 50 PA++++ จึงป้องกันรังสี UVA และรังสี UVB
  • ปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
  • ผลิตและพัฒนาเพื่อผิวของสาวชาวไทยโดยเฉพาะ
  • ซึมซาบเร็ว โดยไม่ทิ้งความมันหรือคราบต่าง ๆ ทิ้งเอาไว้
  • เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
จุดควรพิจารณา
  • ได้กลิ่นของแอลกอฮอล์ หากโดนสิวจะรู้สึกแสบเล็กน้อย
  • ไม่กันน้ำ กันเหงื่อจึงไม่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้มีเหงื่อ
  • รู้สึกหนืดผิวเล็กน้อย 

4.ครีมกันแดด Eucerin Sun Dry Touch Oil Control Face SPF50+PA+++

ครีมกันแดด Eucerin

Sun Dry Touch Oil Control Face จาก Eucerin เป็นครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด โดยมีค่าการปกป้องผิว ด้วย SPF50+ PA+++ รวมถึงมี Broad-Spectrum Oxidant Filter จึงสามารถป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB

จึงช่วยในการลดการทำร้ายผิวจากรังสีที่มองไม่เห็น (High Energy Visible Light) ได้สูงถึง 85% จึงช่วยในการลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้ากระที่มองไม่เห็น โดยสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิว แพ้ง่าย รวมถึงมีผิวที่ไวต่อแดด 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเนื้อดรายทัช ที่แสนบางเบา จึงสามารถควบคุมความมันได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้เกิดการอุดตันผิว (Non-Acnegenic) รวมถึงปราศจากการใส่ส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวอย่างน้ำหอม สี และพาราเบน รวมถึงผ่านการทดสอบแล้วว่าผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ 

จุดเด่น
  • ค่าการปกป้องผิว ด้วย SPF50+ PA+++ สามารถกันแดดได้สูง
  • มี Broad-Spectrum Oxidant Filter จึงสามารถป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB
  • ลดการทำร้ายผิวจากรังสีที่มองไม่เห็น (High Energy Visible Light) ได้สูงถึง 85%
  • ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้ากระที่มองไม่เห็น
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิว แพ้ง่าย รวมถึงมีผิวที่ไวต่อแดด
จุดควรพิจารณา
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง เพราะอาจทำให้มีผิวแห้งหนักกว่าเดิม
  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ  
  • มีขุยที่ผิวหน้าขึ้นเล็กน้อย 

5.ครีมกันแดด Mizumi UV Water Serum SPF50+/PA++++

ครีมกันแดด-Mizumi

Mizumi UV Water Serum ตัวนี้เป็นครีมกันแดดของคนไทยเช่นกัน แต่เป็นครีมที่ได้รับรางวัลมากมายจากนิตยสารชื่อดัง โดย Mizumi หลอดนี้เป็นครีมกันแดดแบบ 100% Physical Sunscreen ปราศจากสารกันแดดเคมี ใช้สารกันแดดจากแร่ธาตุธรรมชาติ ในการปกป้องผิวจากแสงแดดแทน

โดยมีเนื้อสัมผัสที่เบาสบาย เพราะด้วยเซรั่มเนื้อน้ำจึงซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และด้วย SPF50+ PA++++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA1 รังสี UVA2 และ UVB จึงป้องกันการเกิดขึ้นของ ความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย 

นอกจากนี้คุณสมบัติที่เพิ่มเติมเข้ามาคือหลังจากทาครีมกันแดดเรียบร้อยสามารถออกแดดได้ในทันที โดยไม่ต้องรอ 20 นาที รวมถึงมีสาร Anti – Oxidant ประกอบไปด้วย Yuki Extract จึงลดโอกาสที่ผิวจะถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังสามารถปกป้องผิวได้อย่างยาวนาน ไม่แตกสลายเร็ว

พร้อมทั้งยังอ่อนโยนต่อผิว ด้วยสูตร 5-FREE ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ โดยสามารถใช้เป็นประจำได้ทุกวัน 

จุดเด่น
  • 100% Physical Sunscreen ปราศจากสารกันแดดเคมี ใช้สารกันแดดจากแร่ธาตุธรรมชาติแทน
  • เซรั่มเนื้อน้ำจึงซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
  • ปกป้องผิวจากรังสี UVA1 รังสี UVA2 และ UVB
  • ป้องกันการเกิดขึ้นของ ความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย
  • มีสาร Anti – Oxidant จึงลดโอกาสที่ผิวจะถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระ
จุดควรพิจารณา
  • ไม่กันน้ำ และกันเหงื่อ
  • เหมาะกับการที่ไม่ต้องออกแดดจัด เพราะครีมกันแดดอาจเสื่อมเร็ว
  • ซึมซาบเข้าสู่ผิวช้า และทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น 

ทำไมผิวถึงต้องการครีมกันแดด

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี 2021

เชื่อว่าไม่มีใครไม่ใช้ครีมกันแดด แต่เราเคยสงสัยกันบ้างไหมเอ่ยว่าครีมกันแดดนั้นจำเป็นต่อผิวมากแค่ไหน ? โดยเจ้าครีมกันแดด (Sunscreen) เป็นครีมที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสี UV (Ultraviolet Radiation: UV) โดยช่วยไม่ให้แสงแดดทำร้ายเผา ทั้งทำหน้าดูดซับรังสี UV เอาไว้เอง เป็นเกราะปกป้องผิวเมื่อโดนแดดเผา และยังสามารถสะท้อนรังสี UV ให้ออกไปได้อีกด้วย 

นอกจากนี้อีกสารสำคัญที่ครีมกันแดดทุกชนิดต้องมีคือค่าป้องกันแสงแดดหรือค่า SPF (Sun-Protection Factor: SPF) ซึ่งเป็นระดับที่บ่งบอกการปกป้องผิวจากแสงแดด โดยตัวเลขยิ่งสูงขึ้นประสิทธิภาพปกป้องผิวจากแสงแดดยิ่งสูงขึ้น

ดังนั้นครีมกันแดดจึงมีความสำคัญต่อผิวเป็นอย่างมากเพราะทั้งป้องกันผิวถูกทำลายจากแสงแดด ปกป้องไม่ให้ผิวเหี่ยวก่อนวัยอันควร และยังลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย มีประโยชน์แบบนี้แล้วหากใครยังไม่ใช้ครีมกันแดด ต้องรีบใช้แล้วนะคะ 

ประเภทของครีมกันแดดที่เหมาะสมกับเรา 

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี

ครีมกันแดดในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน โดยมาดูกันเลยว่าครีมกันแดดประเภทไหนที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด 

1. Chemical Sunscreen

เป็นครีมกันที่มีคุณลักษณะทางเคมีจึงเน้นการดูดซับรังสี UV จึงมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวค่อนข้างสูง แต่ข้อระมัดระวังคืออาจทำให้เกิดการแพ้และการระคายเคืองต่อผิวสูง โดยมีสารที่ออกฤทธิ์ค่อนข้างอันตราย ดังนั้น ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายต้องระมัดระวังในการใช้งาน 

2. Physical Sunscreen

สำหรับประเภทของครีมกันแดดลักษณะนี้เราเรียกว่าครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางกายภาพ ซึ่งก็คือใช้คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของสารออกฤทธิ์จึงทำหน้าที่สะท้อนแสง UV แต่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวน้อยว่าครีมกันแดดแบบเคมี

อย่างไรก็ตามครีมกันแดดประเภทนี้มีลักษณะเด่นคือไม่ก่อการแพ้ให้กับผิวหนัง แต่อาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และทำให้เป็นสิวดังนั้นจึงต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง 

3. Chemical-Physical Sunscreen

ครีมกักแดดประเภทนี้ คือการเอาข้อดีของครีมกันแดด 2 ประเภทแรกจนได้เป็นครีมกันแดดแบบผสม ซึ่งครีมกันแดดประเภทนี้เป็นประเภทของครีมกันแดดที่หลาย ๆ ยี่ห้อใช้ โดยจะมีการเพิ่มค่า SPF เข้ามาจึงมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดที่มากขึ้น 

วิธีการเลือกซื้อครีมกันแดด

มาดูกันค่ะ ว่าวิธีการเลือก ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับสาวๆนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

1. มีคุณสมบัติปกป้องผิวได้ครบและครอบคลุม

สำหรับครีมกันแดดที่ดีและเหมาะสมสำหรับทุกคนคือครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม โดยสามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และรังสี UVB ได้ โดยเราสามารถอ่านฉลากด้านข้างที่เขียนว่า Broad-Spectrum ซึ่งหมายถึงว่าครีมกันแดดหลอดนั้นสามารถป้องกันผิวไหม้แดดและสามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังและผิวเหี่ยวก่อนวัยอันควรได้ 

2. มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 30

เพราะว่าค่า SPF ยิ่งสูงจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่มากขื้น โดยค่า SPF นั้นจะช่วยบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสี UVB โดยควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเกิน 30 เพราะถ้าหากต่ำกว่านั้นจะสามารถป้องกันได้เพียงผิวไหม้จากแสงแดด แต่ไม่สามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ 

3. ทดสอบความแพ้ของผิว

เพราะว่าครีมกันแดดเป็นสิ่งที่เราใช้งานทุกวัน ดังนั้นเราจำเป็นต้องเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรมีการทดสอบความแพ้ของผิวก่อนใช้งาน โดยอาจลองทาบริเวณใต้ท้องแขน ซึ่งหากไม่พบอะไรก็สามารถใช้ครีมกันแดดชนิดนั้นต่อไปได้

4. สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้

สำหรับใครที่ต้องเดินทางหรือทำงานกลางแจ้งตลอดเวลา ซึ่งแม้ว่าเราจะทาครีมกันแดดทุก ๆ เช้าแล้ว แต่ครีมกันแดดเหล่านั้นก็ไม่สลายกลายเป็นน้ำหรือเหงื่อหมดแล้ว ดังนั้นจึงควรพกครีมกันแดดสูตรสำหรับกันน้ำกันเหงื่อจะช่วยให้เราออกไปทำงานได้อย่างสบายใจ และมั่นใจได้ว่าครีมกันแดดยังคงทำหน้าที่ปกป้องผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 

บทสรุป ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี น่าใช้ที่สุด

สำหรับครีมกันแดดทั้ง 5 ยี่ห้อมีประเภทที่แตกต่างกัน และระดับราคาที่แตกต่างโดยทุกคนสามารถเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวของตนเองมากที่สุดได้เลยค่ะ โดยอาจคำนึงถึงสภาพผิว การใช้งานเป็นหลัก 

สำหรับเรายังคงเลือก Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare เพราะเป็นครีมกันแดดที่ใช้มานาน อีกทั้งยังเหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย เพราะด้วยครีมกันแดดชนิดนี้เป็นเนื้อน้ำนมจึงบางเบาและซึมซาบเร็ว แล้วยังมีคุณสมบัติในการบำรุงผิว ทั้งคงความอ่อนเยาว์  ลดปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ความหมองคล้ำ และจุดด่างดำต่าง ๆ ทำให้เราสามารถออกแดดได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ 

Similar Posts