เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ผิวต่าง ๆ มักเสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ตากแดดอยู่บ่อยครั้ง จากใบหน้าใส ๆ อาจกลายมาเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยฝ้าและกระแดดได้ หากยังอายุน้อย ๆ อาจจะยังไม่มีปัญหานี้มากนัก แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ทั้งฝ้าและกระจะเกิดได้ง่าย และเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น การรักษาฝ้านั้น ต้องอาศัยการดูแลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการหลีกเลี่ยงแสงแดด แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ลักษณะของฝ้า การดูแลอย่างถูกต้อง รวมไปถึง ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจ ก็ถือเป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรรู้
ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี
- ครีมทาฝ้า Jula’s Herb Longan Melasma Serum
- ครีมทาฝ้าYanhee Mela Cream
- ครีมทาฝ้า Provamed Anti Melasma Overnight Mask
- ครีมทาฝ้า Amela Ex Anti Melasma Cream
- ครีมทาฝ้า Concept Anti Melasma Cream
ฝ้า คืออะไร
ฝ้า คืออาการที่ผิวมีรอยปื้นสีน้ำตาล มักจะเกิดจากการถูกแสงแดด พันธุกรรม หรือปัจจัยอื่น ๆ ทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงอายุที่มากขึ้น ฝ้าบนผิวหน้าโดยทั่ว ๆ ไปแล้วนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพใด ๆ แต่มักจะส่งผลกระทบทางด้านจิตใจและอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ เพราะมีลักษณะเป็นปื้น สามารถเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกแดด
ลักษณะของฝ้า
ฝ้ามีอยู่มากมายหลายประเภท หากเรารู้ลักษณะของฝ้า ก็จะช่วยให้เรารักษาได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น เรามาดูกันดีกว่า ว่าฝ้านั้นมีลักษณะใดบ้าง
ฝ้าแดด
เป็นฝ้าที่เกิดจากการที่ผิวโดนแสงแดด แสงไฟ แสงคอมพิวเตอร์ หรือแสงจากหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นประจำ หากปล่อยไว้ไม่รักษา จะทำให้ฝ้านั้นมีความเข้มขึ้น
ฝ้าเลือด
เป็นฝ้าแดง ๆ มีลักษณะคล้ายเส้นเลือด จะเห็นได้ชัดเจนเมื่อตากแดดมาก ๆ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวบางลงกว่าเดิม
ฝ้าลึก
เกิดจากการที่ชั้นผิวหนังแท้มีการสร้างเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติ และมักรักษาให้หายขาดได้ยาก
ฝ้าตื้น
ต่างจากฝ้าลึกตรงที่เกิดที่ชั้นผิวหนังกำพร้า เป็นฝ้าที่เกิดง่าย แต่สามารถรักษาให้หายได้ไว โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน
สาเหตุการเกิดฝ้า
การเกิดฝ้านั้น สามารถมาได้จากหลาย ๆ สาเหตุ ทั้งปัจจัยภายนอก สิ่งแวดล้อม มลภาวะต่าง ๆ และปัจจัยภายใน ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเราเอง โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่จะทำให้ผิวใส ๆ กลายเป็นฝ้าได้นั้น มีดังนี้
แสงแดด
ปัจจัยหลักตัวร้าย ที่ไม่ได้ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้ฝ้ามาเยือนผิวหน้าของสาว ๆ ได้โดยที่ไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแดดจัด ๆ ในช่วง 10 โมงเช้า ไปจนถึงช่วงบ่าย 3 โมง ซึ่งเป็นแดดที่แรง ที่ทำให้ผิวไหม้ และเกิดฝ้าได้
การทานยาบางชนิด
ยาบางชนิด มักส่งผลให้เกิดฝ้าได้ มีรายงานว่าผู้ที่ทานยาต้านชัก มักจะมีรอยผื่นเป็นปื้น ๆ ลักษณะคล้ายฝ้า จึงเชื่อว่าเจ้ายาชนิดนี้มีความเกี่ยวกันกับการเกิดฝ้า นอกจากนี้ ยาคุมกำเนิดก็ทำให้เกิดฝ้าได้ด้วยเช่นเดียวกัน
เครื่องสำอาง
อาการแพ้เครื่องสำอางบางชนิด มักจะก่อให้เกิดฝ้าบนผิวหน้า โดยสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบนผิว ได้แก่ น้ำหอม สี หรือสารสังเคราะห์ อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ ไหม้ และเกิดเป็นฝ้าขึ้นได้
ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือการทำงานที่ผิดปกติไปจากเดิม อาจจะทำให้การผลิตเม็ดสีผิวในชั้นผิวหนังทำงานเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดฝ้าได้
พันธุกรรม
พันธุกรรม ถือว่าเป็นสาเหตุที่เปลี่ยนแปลงหรือหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยพบว่า 30-50% ของครอบครัวที่เป็นฝ้า มักจะถ่ายทอดคุณลักษณะนี้ให้รุ่นลูกได้
วิธีรักษาฝ้า
การรักษาฝ้านั้น ต้องอาศัยเวลาและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ในปัจจุบันนั้น ยังไม่มีวิธีการไหนที่มีประสิทธิภาพมากพอในการรักษาฝ้าให้หายขาดได้ ดังนั้น อาจจะต้องใช้หลากหลายวิธีในการรักษาฝ้าร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลที่สุด
การรักษาฝ้าด้วยแสงเลเซอร์
การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะมีความรวดเร็ว และสามารถรักษาได้อย่างตรงจุด แต่ทั้งนี้ การรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้นั้นนิยมใช้ร่วมกับวิธีการอื่น อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด จึงไม่ใช้วิธีที่ยั่งยืนในการรักษาฝ้า
การกรอผิว
การกรอผิวนั้น ถือเป็นการลอกผิวเพื่อกำจัดสารเม็ดสีผิวให้ลอกออกไป แต่ทั้งนี้ควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้ นอกจากนี้ ผู้ที่ทำการกรอผิวต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและหมั่นทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เพราะอาจทำให้ผิวไหม้และแย่กว่าเดิม
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง
วิธีที่สามารถทำได้ง่ายและเข้าถึงได้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ ๆ แถมยังมีความปลอดภัยมากกว่าวิธีการอื่น ๆ คือ การทาผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งบนผิวหน้า แต่สารบางตัวมักมีผลข้างเคียงต่อการใช้งาน เช่น สารไฮโดรควิโนน ที่ทำให้ผิวไหม้ ลอกเป็นขุย ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
ข้อควรระวังในการใช้ ครีมทาฝ้า
ครีมทาฝ้า ในท้องตลาดนั้น สามารถลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ ได้อย่างเห็นผล แต่ประสิทธิภาพในการรักษาฝ้านั้น จะขึ้นอยู่กับตัวยาในแต่ละชนิดที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ แต่สิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ การที่ทางแบรนด์บางแบรนด์มักใส่ส่วนผสมที่อันตรายต่อผิว ในช่วงแรก ๆ ที่ใช้ อาจจะได้ผลดี แต่หากใช้อย่างต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวได้ ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อใด ๆ จึงควรเลือกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา เพื่อความปลอดภัยแก่ผิวหน้า
อันตรายจากการใช้ครีมทาฝ้า ที่อาจเกิดขึ้นได้จากส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย มีดังนี้
- ทำให้ผิวอ่อนแอ ไม่แข็งแรง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส เป็นต้น
- ทำให้ผิวบางจนเห็นเส้นเลือด หรือสีผิวขาวเป็นหย่อม ๆ จนทำให้ดูสีผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอกัน
- อาจทำให้เกิดรอยดำแบบถาวร ไม่สามารถแก้ไขให้หายขาดได้
ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ดีที่สุด ปี 2022
ครีมทาฝ้า นั้นมีมากมายหลากหลายแบรนด์ในท้องตลาด หน้าที่ของผู้บริโภคอย่างเรา คือการศึกษารายละเอียดให้ดี และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และในวันนี้ เราได้คัดสรรครีมทาฝ้า 5 ตัว มาบอกต่อ จะมีครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจยี่ห้อไหนบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า
1. ครีมทาฝ้า Jula’s Herb Longan Melasma Serum
ครีมทาฝ้า ทีมีส่วนผสมของสารสกัดลำไย มีส่วนช่วยในการปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส ช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ให้ผิวขาว เรียบเนียน กระจ่างใส มีความอ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิว เพราะผ่านการศึกษาวิจัยจากสถาบันจุฬาฯ อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย และซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะบนผิว
คุณสมบัติเด่น
- สารสกัดลำไย ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิว
- ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
2.ครีมทาฝ้าYanhee Mela Cream
ครีมทาฝ้า ปรับผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส ช่วยลดความเข้มของฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ ให้จางลงได้อย่างเห็นผล ภายใน 2 สัปดาห์ ด้วยส่วนผสมและสารสกัดจากเข้มข้น ให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ อีกทั้งยังปลอดภัยต่อผิว สามารถใช้ได้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติเด่น
- ช่วยลดความเข้มของฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- เห็นผล ภายใน 2 สัปดาห์
- ปลอดภัยต่อผิว สามารถใช้ได้เป็นประจำ
3. ครีมทาฝ้า Provamed Anti Melasma Overnight Mask
ผลิตภัณฑ์ลดฝ้ายามค่ำคืนขณะนอนหลับ มีคุณสมบัติในการลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์หน้าจนผิวบาง ไวต่อแดด หรือผู้ที่มีผิวอ่อนล้า หมองคล้ำ ไม่สดใส ผสานส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบ และช่วยชะลอริ้วรอย ให้ผิวสวย กระจ่างใส เรียบเนียนสม่ำเสมอทั่วกันทั้งใบหน้า
คุณสมบัติเด่น
- ลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ผสานส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบ
- ให้ผิวสวย กระจ่างใส เรียบเนียน
4. ครีมทาฝ้า Amela Ex Anti Melasma Cream
ครีมลดฝ้า กระ จุดด่างดำ สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าเป็นฝ้าและสีผิวไม่สม่ำเสมอ เนื้อผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัย อ่อนโยนต่อผิวหน้า สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผล ด้วยนวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ที่ปลอดภัยจนมีการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์
คุณสมบัติเด่น
- ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ อย่างอ่อนโยนและปลอดภัย
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผล
- ปรับสีผิวให้เรียบเนียน สม่ำเสมอ ทั่วทั้งใบหน้า
5. ครีมทาฝ้า Concept Anti Melasma Cream
ครีมทาหน้าสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำอย่างเห็นผล โดยไม่ทำให้หน้าบาง ไม่ทำร้ายผิว ให้ผิวไวต่อแดด อุดมไปด้วยสารสกัดจาก Alpha Albutin วิตามินอีและบีสาม ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส เรียบเนียน สม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน
คุณสมบัติเด่น
- ไม่ทำให้หน้าบาง ไม่ทำร้ายผิว
- ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส
- ปลอดภัย สามารถใช้ได้ทุกวัน
บทสรุป การเลือกใช้ ครีมทาฝ้า ยี่ห้อไหนดี น่าลงทุน ใช้แล้วหน้าใส
การดูแลผิวให้ห่างไกลจากฝ้า ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการดูแลผิว เพื่อให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ยาวนาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่มีปัญหาเรื่องผิว ไม่ว่าจะเป็นฝ้าหรือสิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไว้ใจได้และปลอดภัย เช่น ครีมทาฝ้า หรือ สกินแคร์รักษาสิวโดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานและยั่งยืน