เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี
-

รีวิว 5 อันดับ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 มีคุณภาพดีที่สุด ใช้งานง่าย

เครื่องชงกาแฟ จัดเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านที่ทุกคนควรมี เพราะเสมือนเป็น Barista ประจำตัวให้กับคุณ โดยการชงกาแฟด้วยตนเองคุณจะได้รับ Cafein (กาเฟอีน) จากธรรมชาติ ซึ่งกาแฟให้ความอร่อย ความหอม ไม่แพ้การดื่มกาแฟที่ร้านและอาจอร่อยกว่าที่ร้าน รวมไปถึงมอบความสะดวกสบายให้กับคุณได้เช่นกัน 

ซึ่งเครื่องชงกาแฟสดมีฟังก์ชั่นให้เลือกมากมาย โดยมีกาแฟมาตรฐานที่คุณได้รับคือ Espresso และหากต้องการดื่มกาแฟชนิดอื่นๆ เช่น Latte, Mocha อาจต้องผสมนมทำกินเอง หรือเครื่องชงกาแฟบางยี่ห้อก็มีฟังก์ชั่นเมนูผสมนมในตัวอีกด้วย ดังนั้นเราชอบรีวิวจะมาแนะนำ 5 อันดับ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี มีคุณภาพดี ใช้งานง่าย ชงดื่มเองได้ทุกวัน

สำหรับใครต้องการเครื่องชงกาแฟแบบอื่นๆ เช่น หม้อต้ม Moka pot สำหรับพกพา หรือชอบความสบายๆ ชงกาแฟได้อย่างง่ายๆ กับเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล เป็นต้น สามารถเลือกใช้ตามความต้องการของตัวเองได้เลย 

เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี

อันดับ 1
9.7
Duchess CM5000 เครื่องชงกาแฟสด
Duchess CM5000 เครื่องชงกาแฟสด
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสและพลาสติกเนื้อหนา มีขนาดเล็ก ให้ความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับใช้งานได้ในระยะยาว
  • ใช้ระบบกำลังไฟอยู่ที่ 1,050W และมีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ทำให้เมนูกาแฟของคุณมีความเข้มข้น และหอมกลิ่นกาแฟชัดเจน
  • มีแผ่นอลูมิเนียมป้องกันความร้อนจากตัวเครื่อง ป้องกันความร้อนและการลวกจากการต้มน้ำได้
  • สร้างสรรค์เครื่องดื่มได้หลากหลายเช่น Espresso, Latte, Cappuccino และ Macchiato
  • ความจุถังน้ำขนาด 1.5 ลิตร สามารถชงกาแฟต่อเนื่องได้ประมาณ 10-15 แก้ว
อันดับ 2
9.3
Ksrain เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
Ksrain เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสคุณภาพดีให้ความแข็งแรง พร้อมกับระบบสัมผัส สามารถปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟได้
  • มีความจุถังน้ำขนาด 1.6 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องประมาณ 11-16 แก้ว
  • มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ทำให้น้ำมีการไหลเวียนรวดเร็ว และรสชาติกาแฟเข้มข้น
  • ใช้ระบบกำลังไฟ 800W ประหยัดค่าไฟได้เยอะ
  • มีพื้นที่อุ่นแก้วน้ำ เพื่อได้รับรสชาติกลมกล่อมของกาแฟชัดเจนยิ่งขึ้น
อันดับ 3
8.9
ETZEL รุ่น SN603
ETZEL รุ่น SN603
  • ใช้วัสดุล้ำสมัยอย่างเหล็กสแตนเลส มีความแข็งแรง ทนทาน
  • มีความจุของถังน้ำ 1.7 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องประมาณ 12-18 แก้ว
  • ระบบทำความร้อนแบบ Thermoblock ทำให้น้ำร้อนเร็วยิ่งขึ้น
  • มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ได้รับกาแฟเข้มข้นทุกเมนู หอมกลิ่นกาแฟชัดเจน
  • สามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละ 2 แก้ว

แนะนำ 5 อันดับ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ใช้งานง่าย สะดวกสบาย

วันนี้เรามาแนะนำ 5 อันดับ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 โดยเราได้รวบรวมข้อมูลคุณสมบัติของเครื่องชงกาแฟสดมาให้คุณได้พิจารณาเลือกซื้อ ซึ่งเราการันตีว่าใช้งานง่าย อำนวยความสะดวกสบายอย่างแน่นอน ไปดูพร้อมๆกันเลย

1. Duchess CM5000 เครื่องชงกาแฟสด

Duchess CM5000 เครื่องชงกาแฟสด

เริ่มต้นเครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี อันดับแรก Duchess CM5000 เครื่องชงกาแฟสด มีดีไซน์ล้ำสมัยเสมือนเครื่องชงกาแฟสดระดับมือโปร ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสและพลาสติกเนื้อหนาคุณภาพเยี่ยม ทนทาน แข็งแรง และมีขนาดเล็ก กะทัดรัด ซึ่งตัวเครื่องมีขนาด 24 x 20 x 29 เซนติเมตร 

โดยมีความจุถังน้ำขนาด 1.5 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องได้ประมาณ 10-15 แก้ว และสกัดกาแฟได้ครั้งละ 1 แก้ว น้ำหนักตัวเครื่อง 3.8 กิโลกรัม มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ใช้ระบบกำลังไฟอยู่ที่ 1,050W ด้วยระบบหม้อต้มนำแบบ Thermoblock ที่ทำให้น้ำร้อนเร็วยิ่งขึ้นด้วยความร้อนจากทุกทิศทาง 

ทำให้กาแฟทุกเมนูของคุณรสชาติเข้มข้น พร้อมทำฟองนม ไอน้ำอย่างง่ายดาย สร้างสรรค์เครื่องดื่มได้หลากหลายเช่น Espresso, Latte, Cappuccino และ Macchiato และมีแผ่นอลูมิเนียมป้องกันความร้อนจากตัวเครื่อง ป้องกันความร้อนจากการต้มน้ำได้ อีกทั้งมีระบบไอน้ำ อุ่นเครื่องดื่มอื่นให้ร้อน เช่น ชา, กาแฟ, นมหรือช็อคโกแลตได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสและพลาสติกเนื้อหนา มีขนาดเล็ก ให้ความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับใช้งานได้ในระยะยาว
  • ใช้ระบบกำลังไฟอยู่ที่ 1,050W และมีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ทำให้เมนูกาแฟของคุณมีความเข้มข้น และหอมกลิ่นกาแฟชัดเจน
  • มีแผ่นอลูมิเนียมป้องกันความร้อนจากตัวเครื่อง ป้องกันความร้อนและการลวกจากการต้มน้ำได้
  • สร้างสรรค์เครื่องดื่มได้หลากหลายเช่น Espresso, Latte, Cappuccino และ Macchiato
  • ความจุถังน้ำขนาด 1.5 ลิตร สามารถชงกาแฟต่อเนื่องได้ประมาณ 10-15 แก้ว
  • มีระบบไอน้ำ สามารถทำฟองนม เนื้อละเอียด ฟูนุ่ม หนาได้ตามที่ต้องการ
  • มีระบบไอน้ำ อุ่นเครื่องดื่มอื่นให้ร้อนได้
จุดควรพิจารณา
  • ชงกาแฟได้ครั้งละ 1 แก้วเท่านั้น หากต้องชงกาแฟหลายแก้วต้องใช้เวลานานพอสมควร
  • เนื่องจากใช้กำลังไฟเกิน 1,000W หากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้เครื่องร้อนได้
  • เหมาะกับใช้งานในครัวเรือนหรือร้านกาแฟขนาดเล็กเท่านั้น

2. Ksrain เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ

Ksrain เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ

ต่อกันที่อันดับสอง Ksrain เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ดีไซน์สวยงาม ดูหรูหรา ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสคุณภาพดีให้ความแข็งแรง ทนทาน มาพร้อมกับระบบสัมผัส สามารถปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟได้ ซึ่งตัวเครื่องมีขนาด 31 x 26 x 42 เซนติเมตร 

โดยมีความจุถังน้ำขนาด 1.6 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องประมาณ 11-16 แก้ว และสกัดกาแฟได้ครั้งละ 1 แก้ว น้ำหนักตัวเครื่อง 3.2 กิโลกรัม มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ใช้ระบบกำลังไฟ 800W ทำให้เมนูกาแฟมีความเข้มข้น

หอมกลิ่นกาแฟชัดเจน มาพร้อมกับก้านทำฟองนมมีลูกบิดปรับแรงดันเพื่อเพิ่มความละเอียด ให้ฟองนมดูหนา นุ่ม เนียนได้ตามที่ต้องการ และมีพื้นที่อุ่นแก้วน้ำบนตัวเครื่องชงกาแฟ เพื่อได้รับรสชาติกลมกล่อมของกาแฟชัดเจนยิ่งขึ้น

จุดเด่น
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสคุณภาพดีให้ความแข็งแรง พร้อมกับระบบสัมผัส สามารถปรับระดับความเข้มข้นของกาแฟได้
  • มีความจุถังน้ำขนาด 1.6 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องประมาณ 11-16 แก้ว
  • มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ทำให้น้ำมีการไหลเวียนรวดเร็ว และรสชาติกาแฟเข้มข้น
  • ใช้ระบบกำลังไฟ 800W ประหยัดค่าไฟได้เยอะ
  • มีพื้นที่อุ่นแก้วน้ำ เพื่อได้รับรสชาติกลมกล่อมของกาแฟชัดเจนยิ่งขึ้น
จุดควรพิจารณา
  • เป็นเครื่องชงกาแฟสดที่เหมาะกับใช้งานสำหรับครัวเรือนหรือร้านกาแฟขนาดเล็กเท่านั้น
  • ชงกาแฟได้ครั้งละ 1 แก้วเท่านั้น หากต้องการชงหลายๆแก้ว อาจใช้เวลานานพอสมควร
  • ก้านทำฟองนมหมุนได้เพียง 180 องศา ซึ่งต้องใช้เวลาในการตีฟองนานพอสมควร

3. ETZEL รุ่น SN603

ETZEL รุ่น SN603

เครื่องชงกาแฟสด ETZEL รุ่น SN603 มีดีไซน์ย้อนยุค ให้ความคลาสสิก แต่ใช้วัสดุล้ำสมัยอย่างเหล็กสแตนเลส มีความแข็งแรง ทนทาน ตัวเครื่องมีขนาด 29 x 23 x 32 เซนติเมตร น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม

โดยมีความจุของถังน้ำ 1.7 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องประมาณ 12-18 แก้ว มาพร้อมกับปุ่มควบคุม สามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละ 2 แก้ว มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ และระบบทำความร้อนแบบ Thermoblock ที่ทำให้น้ำร้อนเร็วยิ่งขึ้นด้วยความร้อนจากทุกทิศทาง

กำลังไฟ 1,450W การันตีได้เลยว่าคุณได้รับกาแฟเข้มข้นทุกเมนู หอมกลิ่นกาแฟชัดเจน อีกทั้งมีก้านใช้สำหรับทำฟองนม ตีฟองนมให้นุ่มเนียนตามความต้องการ ใช้สำหรับทำเมนู Latte, Cappuccino เป็นต้น

จุดเด่น
  • ใช้วัสดุล้ำสมัยอย่างเหล็กสแตนเลส มีความแข็งแรง ทนทาน
  • มีความจุของถังน้ำ 1.7 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องประมาณ 12-18 แก้ว
  • ระบบทำความร้อนแบบ Thermoblock ทำให้น้ำร้อนเร็วยิ่งขึ้น
  • มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ได้รับกาแฟเข้มข้นทุกเมนู หอมกลิ่นกาแฟชัดเจน
  • สามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละ 2 แก้ว
จุดควรพิจารณา
  • เนื่องจากใช้วัสดุเหล็กสแตนเลส ส่งผลให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเยอะ และทำให้เคลื่อนย้ายลำบาก
  • ใช้กำลังไฟมากจนเกินไป ทำให้เสียค่าใช้จ่ายหรือค่าไฟสูง
  • ก้านฟองนมหมุนได้ 180 องศาเท่านั้น

4. KONIG เครื่องชงกาแฟสด

KONIG เครื่องชงกาแฟสด

เครื่องชงกาแฟสดอันดับรองสุดท้ายกับ KONIG เครื่องชงกาแฟสดสไตล์วินเทจ ออกแบบให้มีสีเขียวคลาสสิกตามสไตล์ อิตาลี ตัวเครื่องใช้วัสดุสแตนเลสให้ความแข็งแรง คงทน โดยมีน้ำหนัก 4.4 กิโลกรัม ขนาด 27 x 23 x 29 เซนติเมตร 

มีความจุของถังน้ำ 0.8 ลิตร สามารถชงกาแฟสดได้ต่อเนื่องประมาณ 3-5 แก้ว และสกัดกาแฟได้ครั้งละ 1 แก้ว มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ใช้กำลังไฟ 850W ทำให้คุณสร้างสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลายและมีรสชาติ 3 ระดับ รสขม, รสกลมกล่อม, รสเปรี้ยว มาพร้อมกับก้านทำฟองนมใช้งานง่าย เหมาะกับทำเมนู Latte, Mocha อย่างมาก

จุดเด่น
  • ดีไซน์วินเทจ ดูสวยงาม ออกแบบให้มีสีเขียวคลาสสิกตามสไตล์ อิตาลี
  • ใช้วัสดุสแตนเลสให้ความแข็งแรง คงทน
  • ความจุของถังน้ำ 0.8 ลิตร ชงกาแฟสดได้ต่อเนื่อง ประมาณ 3-5 แก้ว
  • สร้างสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลายและมีรสชาติ 3 ระดับ รสขม, รสกลมกล่อม, รสเปรี้ยว
  • ก้านทำฟองนมใช้งานง่าย เหมาะกับทำเมนู Latte, Mocha
จุดควรพิจารณา
  • ระบบหม้อต้มน้ำร้อนเป็นรูปแบบธรรมดา ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความร้อน เพื่อชงกาแฟ 1 แก้ว
  • หากคุณเป็นคนที่ต้องชงกาแฟดื่มกินเองทุกวัน ต้องหมั่นเติมน้ำอยู่บ่อยๆ เพราะมีความจุถังน้ำน้อยเกินไป
  • สามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละ 1 แก้วเท่านั้น หากชงเกิน 2 แก้วขึ้นไป ต้องใช้เวลาพอสมควร

5. HOMU เครื่องชงกาแฟสดพร้อมทำฟองนม

HOMU เครื่องชงกาแฟสดพร้อมทำฟองนม

มาถึงอันดับสุดท้ายกันแล้วกับเครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี คือ HOMU เครื่องชงกาแฟสดพร้อมทำฟองนม มีดีไซน์แปลกตา สไตล์วินเทจ รูปทรงสวยงาม ใช้วัสดุสแตนเลสให้ความแข็งแรง ทนทาน โดยมีน้ำหนัก 4.2 กิโลกรัม ขนาด 25 x 21 x 28 เซนติเมตร 

มีความจุถังน้ำ 1 ลิตร สามารถชงกาแฟสดได้ต่อเนื่องประมาณ 5-7 แก้ว และสามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละ 2 แก้ว มีระบบหม้อต้มน้ำขนาดใหญ่ ใช้กำลังไฟ 1,100W แรงดันน้ำ 15 บาร์ ให้รสชาติกาแฟทุกเมนูรสกลมกล่อม

มาพร้อมกับก้านทำฟองนม สามารถตีฟองนมให้มีเนื้อครีมได้ตามที่ต้องการ นุ่ม เนียน และฟูนุ่ม เพื่อนำไปทำลวดลายบนกาแฟได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • เครื่องชงกาแฟสดพร้อมทำฟองนม มีดีไซน์แปลกตา สไตล์วินเทจ รูปทรงสวยงาม
  • ก้านทำฟองนม สามารถตีฟองนมให้มีเนื้อครีมได้ตามที่ต้องการ เช่น ฟูนุ่ม, เนียน
  • ความจุถังน้ำ 1 ลิตร สามารถชงกาแฟสดได้ต่อเนื่องประมาณ 5-7 แก้ว
  • ใช้วัสดุสแตนเลสให้ความแข็งแรง ทนทาน
  • สามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละ 2 แก้ว
จุดควรพิจารณา
  • แรงดันบาร์ 15 บาร์ มีแรงดันค่อนข้างน้อย เพราะอาจทำให้กลิ่นไม่ชัดเจน และมีรสอ่อนกว่า 20 บาร์
  • กำลังไฟ 1,100W หากใช้เป็นระยะเวลานาน ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมากและกินไฟอีกด้วย
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการชงดื่มกาแฟกินเองภายในบ้านมากกว่าใช้ในร้านกาแฟ

ประเภทของ เครื่องชงกาแฟสด มีกี่ประเภท?

เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม

1. เครื่องชงกาแฟสด Espresso

เครื่องชงกาแฟสด Espresso จะเป็นเครื่องชงกาแฟที่ได้รับความนิยมสูง เพราะใช้งานง่าย มีก้านทำฟองนม และมีราคาย่อมเยาว์ จับต้องได้ ซึ่งกาแฟ Espresso สามารถนำไปทำกาแฟได้หลายเมนู เช่น Latte, Cappuccino ที่ต้องการความเข้มข้นของกาแฟและต้องใช้นมเป็นส่วนผสม จึงให้รสชาติเข้มข้นกว่าเครื่องชงกาแฟสดรูปแบบอื่นๆ เพียงแต่ไม่มีที่บดกาแฟภายในตัวนั่นเอง

2. เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ

จัดเป็นประเภทเครื่องกาแฟที่มักจะเห็นกันตามสถานที่สำนักงาน, ออฟฟิศ แน่นอนว่ามีราคาค่อนข้างสูง ใช้งานง่าย มีระบบบดกาแฟอัตโนมัติมากับตัวเครื่อง และสามารถเลือกเมนูได้ว่าต้องการใช้นมหรือไม่ ซึ่งสามารถสกัดกาแฟได้ครั้งละหลายแก้ว เหมาะสำหรับชงกาแฟสดหลายแก้วพร้อมๆกัน ประหยัดเวลา และได้รับรสชาติกาแฟเข้มข้นอีกด้วย

3. เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล

เป็นประเภทเครื่องชงกาแฟสดที่ใช้งานง่ายที่สุด ด้วย Capsule ที่อัดแน่นไปด้วยผงกาแฟคุณภาพ เข้มข้น ซึ่งให้รสชาติแบบสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยน และบางเครื่องสามารถเลือกเมนูได้ว่าต้องการเมนูรูปแบบใด

โดยการใช้งานง่ายมากเพียงใส่ Capsule ลงไปในเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล เลือกเมนูกาแฟที่ต้องการ เพียงเท่านี้ก็ดื่มกาแฟสดรสชาติตามที่ต้องการได้ทันที

4. เครื่องชงกาแฟสดแบบ Drip Pot

การชงกาแฟสดแบบ Drip Pot คือน้ำไหลเวียนผ่านตัวกรองที่มีกาแฟบดอยู่ข้างใน และเมื่อน้ำไหลผ่านกาแฟบด จะมีโถแก้วรองรับน้ำกาแฟนั้นอยู่ ซึ่งให้รสชาติกาแฟเข้มข้นน้อย เพราะเป็นการชงกาแฟรูปแบบน้ำไหลผ่านเท่านั้น

5. เครื่องชงกาแฟสดแบบ Percolator

การทำงานของเครื่องชงกาแฟแบบ เพอร์โคเลเตอร์ เป็นการต้มกาแฟลงในเหยือก ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟทั่วไปในการต้ม จะพบเห็นการใช้งานได้ตามสถานที่โรงแรม ร้านอาหาร โดยอาศัยหลักการให้น้ำร้อนผ่านกาแฟที่เดือด

โดยผงกาแฟจะไม่หลุดออกมาระหว่างเท ซึ่งตัวเครื่องใช้วัสดุสแตนเลส เพื่อให้ใช้งานบนเตาไฟฟ้า หรือเตาแก๊ศได้ เหมาะสำหรับดื่มชงเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะ

วิธีเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาว

เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี น่าสนใจ

1. เลือกจากประเภทของเครื่องชงกาแฟ

การเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ควรคำนึงถึงประเภทการใช้งานของคุณ หากเป็นคนที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟเข้มข้น เราขอแนะนำเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสด Espresso ที่ไม่มีเมนูให้เลือก เพียงเป็นการสกัดน้ำกาแฟให้เข้มข้นในรูปแบบ Espresso ซึ่งสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูเพิ่มเติมได้ด้วยตนเองเช่น Latte, Mocha, Cappuccino, Macchiato เป็นต้น

2. ขนาดของตัวเครื่อง

ขนาดตัวเครื่องก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะคุณต้องนำเครื่องชงกาแฟสดไปวางในบริเวณจุดที่ต้องการ ซึ่งต้องคำนวณพื้นที่ใช้สอยให้ดี เพราะเครื่องชงกาแฟสดส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ หากต้องการใช้งานเล็กๆ จำเป็นต้องดูประเภทของเครื่องชงกาแฟด้วย

3. ความจุของถังน้ำ

จัดเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี เพราะความจุของถังน้ำจะช่วยให้คุณชงกาแฟได้ต่อเนื่องหลายแก้ว เราขอแนะนำไม่ควรเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสดที่มีความจุของถังน้ำน้อยกว่า 1 ลิตร เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเติมน้ำอยู่บ่อยครั้ง และประหยัดเวลาได้อีกด้วย

4. แรงดันน้ำ

การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาแรงดันน้ำไม่น้อยกว่า 15 บาร์ เพราะเป็นแรงดันน้ำที่ให้ความเข้มข้นของกาแฟสูง น้ำไหลผ่านกาแฟที่บดแล้วได้ดี ไม่เจือจางจนเกินไป และยังคงได้กลิ่นกาแฟที่หอมชัดเจนนั่นเอง

5. ระบบกำลังไฟ

เครื่องชงกาแฟสดใช้กำลังไฟเท่าไหร่เป็นสิ่งที่ควรคำนึงเช่นกัน เพราะตัวเครื่องใช้กำลังไฟเยอะ ยิ่งเกิน 1,000W สิ้นเปลืองพลังงานและกินไฟ หากคุณจำเป็นต้องซื้อเครื่องชงกาแฟที่มีกำลังไฟเกิน 1,000W และใช้สำหรับครัวเรือน

เราขอแนะนำอย่าเปิดใช้งานเป็นระยะเวลานาน ควรเปิดใช้งานเมื่อต้องการดื่มกาแฟ เมื่อชงเสร็จแล้วให้ปิดทันที เพื่อประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย

เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี น่าลงทุน

บทสรุปเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว

สำหรับบทสรุปเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟสด ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เราขอแนะนำ Duchess CM5000 เครื่องชงกาแฟสด มีดีไซน์ล้ำสมัยเสมือนเครื่องชงกาแฟสดระดับมือโปร แต่ใช้งานง่าย สะดวกและรวดเร็วมากที่สุด ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสและพลาสติกเนื้อหนาคุณภาพเยี่ยม ทนทาน แข็งแรง และมีขนาดเล็ก กะทัดรัด ซึ่งตัวเครื่องมีขนาด 24 x 20 x 29 เซนติเมตร 

โดยมีความจุถังน้ำขนาด 1.5 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องได้ประมาณ 10-15 แก้ว มีแรงดันน้ำ 20 บาร์ ใช้ระบบกำลังไฟอยู่ที่ 1,050W ด้วยระบบหม้อต้มนำแบบ Thermoblock ที่ทำให้น้ำร้อนเร็วยิ่งขึ้นด้วยความร้อนจากทุกทิศทาง 

ทำให้กาแฟทุกเมนูของคุณรสชาติเข้มข้น พร้อมทำฟองนม ไอน้ำอย่างง่ายดาย สร้างสรรค์เครื่องดื่มได้หลากหลายเช่น Espresso, Latte, Cappuccino และ Macchiato มาพร้อมกับแผ่นอลูมิเนียมป้องกันความร้อนและป้องกันการลวกได้ จัดเป็นเครื่องชงกาแฟสดที่ใช้งานง่าย ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการเป็น Barista ประจำบ้านได้อีกด้วย

Similar Posts