รีวิว 5 อันดับ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เสียงเงียบ ประหยัดพลังงาน

แอร์อินเวอเตอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยม สำหรับหน้าร้อนอย่างประเทศไทยบ้านเรา เพราะเมื่อถึงฤดูร้อน แดดก็แรง ทำให้คุณหงุดหงิด เหงื่อออกท่วมตัว ในปัจจุบันแอร์นั้นมีหลากหลายขนาด ซึ่งถ้าสถานที่นั้นๆมีแอร์เย็นๆ ขนาด 12,000 BTU ขึ้นไป จะทำให้คุณมีความสุขอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากเปิดแอร์เป็นเวลานานก็อาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และมีค่าไฟมหาศาลได้ ดังนั้น เราชอบรีวิวจะมาแนะนำ 5 อันดับแอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 ให้ความเย็นที่รวดเร็ว การทำงานเงียบสงบ พร้อมประหยัดพลังงานอีกด้วย

แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี

• Hisense รุ่น AS-12TR4RYRCD01
• Sharp รุ่น AH/AU-GX13
• LG รุ่น ISR13E2
• Haier  รุ่น HSU-12CQEA03T
• Samsung รุ่น AR13TYHZCWKNST

แนะนำ 5 อันดับ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024

หากคุณไม่รู้ว่าซื้อแอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เราได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานจริง และนำมาบอกคุณสมบัติให้คุณได้เลือกซื้อแอร์ได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งมียี่ห้อแอร์ 5 อันดับด้วยกันดังนี้

1. Hisense รุ่น AS-12TR4RYRCD01

เริ่มต้นกันที่ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี อันดับแรกกับ Hisense รุ่น AS-12TR4RYRCD01 ขนาด 12,000 BTU มีค่า SEER 16.00 ใช้กำลังไฟฟ้า 830W ถือว่าเป็นแอร์ที่ประหยัดพลังงานอย่างมาก ซึ่งทางแบรนด์ได้การันตีว่าเป็นเครื่องปรับอากาศที่ใส่ใจสุขภาพของคุณมากกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป ด้วยระบบ Anti Mildew Running ระบบป้องกันการเกิดเชื้อรา กลิ่นอับชื้น และสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้ทุกชนิดแม้กระทั่ง PM2.5 เช่นกัน

ส่วนระบบให้ความเย็นด้วยเทคโนโลยีพิเศษอย่าง QSD ทำให้ระบบ Invertor ทำงานได้รวดเร็วกว่าแอร์ปกติทั่วไป หรือใช้งาน Super Mode เครื่องจะทำงานที่อุณหภูมิต่ำสุด เพื่อเร่งความเย็นภายในห้องให้รวดเร็วที่สุด พร้อมระบบเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิด้วยโหมด I Feel ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลา ช่วยลดความผันผวนอุณหภูมิภายในห้องของคุณและได้อุณหภูมิห้องตามที่ต้องการอีกด้วย

2. Sharp รุ่น AH/AU-GX13

แอร์ยี่ห้อถัดไปกับ Sharp รุ่น AH/AU-GX13 ขนาด 12,000 BTU มีค่า SEER 17.09 ใช้กำลังไฟ 1,100W และทางแบรนด์มีมาตรฐาน 7 ประการ เช่น ป้องกันอัคคีภัย ป้องกันฟ้าผ่า ป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน เป็นต้น ซึ่งให้ความปลอดภัยตลอดการใช้งานแอร์นั่นเอง มาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงาน ECO โดยลดการทำงานของเครื่องให้เบาลง

ส่วนระบบความเย็นแบบ Powerful Jet ส่งลมเย็นปริมาณด้วยความเร็วสูง ทำให้ห้องของคุณเย็นรวดเร็วทันใจ พร้อมระบบ Best Sleep เมื่อคุณเข้านอนเครื่องจะทำงานเบาลงโดยอัตโนมัติ และเสียงเครื่องเงียบ ทำให้ห้องของคุณได้รับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการนอน เพราะมี Quiet Operation ฟังก์ชั่นการทำงานเงียบ ด้วยความเร็วพัดลมที่เบามากเป็นพิเศษนั่นเอง

3. LG รุ่น ISR13E2

เครื่องปรับอากาศ LG รุ่น ISR13E2 เป็นแอร์ขนาด 12,000 BTU มีค่า SEER 16 ใช้กำลังไฟฟ้า 1,090W ซึ่งเป็นระบบ Dual Inverter Compressor ทนทาน ประหยัดพลังงานกว่าแบบ Inverter ทั่วไป มาพร้อมกับแผ่นกรองฝุ่นละอองทุกขนาด และป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความปลอดภัย และได้รับอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้น

โดยตัวเครื่องใช้ระบบ Auto Cleaning เป็นการทำความสะอาดเครื่องอัตโนมัติ ลดการสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย อีกทั้งมีระบบควมคุมอุณหภูมิขณะนอนหลับ ช่วยให้ห้องของคุณมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้นอนหลับสนิท หลับสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

4. Haier รุ่น HSU-12CQEA03T

แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดีอันดับรองสุดท้ายกับ Haier รุ่น HSU-12CQEA03T ขนาด 12,000 BTU มีค่า SEER 16 ใช้กำลังไฟฟ้า 1,100W ผลิตจากวัสดุป้องกันการกัดกร่อนแบบพิเศษ ทำให้มีความทนทานมากขึ้น มาพร้อมกับระบบ Evaporation Self-Cleaning เป็นฟังก์ชั่นทำความสะอาดเครื่องอัตโนมัติ ลดการสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียภายในตัวเครื่อง

รวมถึงมีโหมด Comfortable Sleep ระบบที่ช่วยปรับอุณหภูมิขณะที่คุณนอนหลับ ทำให้ความรู้สึกสบาย พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ตลอดคืน อีกทั้งแผงวงจร Hyper PCB ช่วยควบคุมความผันผวนของแรงไฟฟ้าและความเสียหายอื่นๆที่อาจส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานผิดปกติ ซึ่งสามารถทำความเย็นได้ด้วยอุณหภูมิคงที่ แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายก็ตาม

5. Samsung รุ่น AR13TYHZCWKNST

เดินทางมาถึงอันดับสุดท้ายแอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดีกับ Samsung รุ่น AR13TYHZCWKNST มีขนาด 12,000 BTU มีค่า SEER 18 ใช้กำลังไฟฟ้า 1,065W ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่สามารถส่งความเย็นได้กว้างและไกล ทำให้ความเย็นไหลเวียนไปทั่วทุกมุมห้อง

ซึ่งมีโหมดประหยัดพลังงาน ECO ที่ใช้การทำงานของคอมเพรสเซอร์น้อยลงกว่าปกติ และระบบAuto Clean ทำความสะอาดเองอัตโนมัติ ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา อีกทั้งระบบ Triple Protector Plus ป้องกันความเสียหายจากไฟกระชากและความผันผวนของกระแสไฟฟ้าได้ดี จึงทำให้ได้รับความเย็นด้วยอุณหภูมิคงที่ เย็นสบายอย่างแน่นอน

ประเภทของแอร์หรือเครื่องปรับอากาศมีอะไรบ้าง

1. เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง

เป็นประเภทเครื่องปรับอากาศที่พบเห็นได้ทั่วไปและเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะมีราคาไม่แพงมากและราคาติดตั้งค่อนข้างถูก อีกทั้งไม่เปลืองพื้นที่ในการติดตั้ง ซึ่งเครื่องปรับอากาศประเภทนี้มีฟังก์ชั่นในการใช้งานมากมาย อาทิเช่น โหมดนอนหลับ, ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติ เป็นต้น

2. เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น

เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้นมีความสามารถคล้ายกับแบบแขวนใต้ฝ้า คือสามารถกระจายความเย็นได้ตามจุดที่ต้องการและกระจายได้รวดเร็ว ซึ่งเคลื่อนย้ายได้ง่าย เพราะมีล้อเลื่อนภายใต้ตัวเครื่อง โดยจะพบเห็นได้ตามสถานที่จัดงานประชุมที่ต้องใช้แอร์ตั้งพื้น กระจายทั่วห้องนั่นเอง

3. เครื่องปรับอากาศแบบฝัง

เป็นเครื่องปรับอากาศที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดตามโรงแรม ซึ่งใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยมาก แต่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งโดยเฉพาะ โดยแอร์ประเภทนี้สามารถให้ความเย็นได้รวดเร็วที่สุด เพราะตัวปล่อยความเย็นมีขนาดใหญ่ แต่ข้อเสียคือ สิ้นเปลืองพลังงาน จึงทำให้โรงแรมใช้งานแอร์ประเภทนี้น้อยลงขึ้นในปัจจุบัน

4. เครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้า

สำหรับเครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้า เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ เพราะสามารถกระจายลมเย็นได้หลายทิศทาง และให้อุณหภูมิห้องเย็นได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เครื่องมีความทนทานแต่มีราคาค่อนข้างสูงอย่างมาก

ขนาด BTU คืออะไร เหมาะสำหรับใช้งานกับขนาดห้องใดบ้าง

BTU (British Thermal Unit) คือ เป็นหน่วยวัดค่าพลังงานความร้อนตามมาตรฐานสากล เพื่อนำมาใช้ในส่วนของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการทำความเย็นของแอร์ที่ถ่ายเทความร้อนภายใน 1 ชั่วโมง

โดยความร้อน 1 BTU เท่ากับ ปริมาณความร้อนมีอุณหภูมิลดลง 1 องศาฟาเรนไฮต์ ยิ่งค่า BTU เยอะ เท่ากับว่าเครื่องปรับอากาศหรือแอร์สามารถทำความเย็นได้มาก ดังนั้นเรามีตารางเปรียบเทียบของ BTU และสามารถนำไปปรับใช้ตามพื้นที่ห้องต่างๆได้ดังนี้

ตารางขนาด BTU และขนาดห้องที่เหมาะสม

ขนาด BTU	เหมาะสำหรับห้องทั่วไป	เหมาะสำหรับห้องที่โดนแดด
9,000 BTU	12-15 ตารางเมตร	10-14 ตารางเมตร
12,000 BTU	16-20 ตารางเมตร	14-18 ตารางเมตร
18,000 BTU	24-30 ตารางเมตร	21-27 ตารางเมตร
21,000 BTU	28-35 ตารางเมตร	25-32 ตารางเมตร
24,000 BTU	32-40 ตารางเมตร	28-36 ตารางเมตร

วิธีเลือกซื้อ แอร์ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ พิจารณาจากอะไรบ้าง

1. พิจารณาจากขนาดห้อง

การเลือกซื้อ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ต้องพิจารณาจากขนาดห้องไม่เกิน 16-20 ตารางเมตร หากเป็นห้องที่โดนแดดไม่เกิน 14-18 ตารางเมตร เพราะเป็นพื้นที่เหมาะสมในการใช้งานขนาด 12,000 BTU และสามารถกระจายความเย็นได้ทั่วทุกมุมห้อง อีกทั้งแอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไปอีกด้วย

2. ระบบกรองอากาศหรือฝุ่นละออง

ในปัจจุบันมลพิษทางอากาศนั้นเลวร้ายอย่างมาก ยิ่งฝุ่นละออง PM2.5 ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องกรองอากาศมาช่วย แต่การเลือกซื้อแอร์ที่มีความสามารถกรองอากาศหรือแผ่นกรองฝุ่นละออง ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นและได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ พร้อมได้รับสุขภาพที่ดีจากการยับยั้งฝุ่นละออง แบคทีเรีย และการเกิดเชื้อราได้อีกด้วย

3. ประหยัดพลังงาน

แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดก็คือ เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ ซึ่งการเลือกซื้อแอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นหลัก และความสามารถในการใช้กำลังไฟฟ้าที่ไม่เกิน 1,000W เพราะทำให้ประหยัดพลังงานและเครื่องไม่ทำงานหนักจนเกินไป

4. เลือกจากค่า SEER

ค่า SEER คือ Seasonal Energy Efficiency Ratio เป็นค่าที่ใช้สำหรับวัดประสิทธิภาพของการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศตามฤดูกาล ยิ่งค่า SEER มีค่ามากเท่าไหร่ ทำให้เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟมากขึ้น โดยเลือกจากค่า SEER ที่ไม่ต่ำกว่า 15 ทำให้คุณได้แอร์ที่ประหยัดไฟและทำความเย็นได้รวดเร็วอีกด้วย

5. ฟังก์ชั่นในการใช้งาน

นอกจากนี้การเลือกซื้อแอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ควรคำนึงถึงฟังก์ชั่นในการใช้งานเพิ่มเติมด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน เช่น เครื่องทำงานเงียบ การปรับตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติ รวมไปถึงโหมดสำหรับการนอน เพื่อทำให้คุณได้รับอุณหภูมิที่เหมาะสมขณะนอนหลับ รู้สึกสบายและหลับสนิทมากขึ้นตลอดคืนนั่นเอง

บทสรุปเลือกซื้อ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เสียงเงียบ ประหยัดไฟ

สำหรับบทสรุปเลือกซื้อ แอร์ 12000 BTU ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เราขอแนะนำ Hisense รุ่น AS-12TR4RYRCD01 ขนาด 12,000 BTU สามารถคัดกรองฝุ่นละอองได้ทุกชนิด ยิ่งฝุ่นระบาดในปัจจุบันอย่าง PM2.5 ทำให้ผู้ใช้งานได้รับอากาศที่บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

และระบบพิเศษที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานด้วยระบบ I Feel ช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องของคุณคงที่ ลดความผันผวนของอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และตอบโจทย์ในเรื่องการกระจายความเย็นได้ดี เพราะมีระบบ Super Mode เครื่องจะทำงานที่อุณหภูมิต่ำสุด เพื่อเร่งความเย็นภายในห้องให้รวดเร็วที่สุด หากคุณต้องการแอร์ที่ให้ความเย็นได้รวดเร็วและเสียงเงียบ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน อีกทั้งเป็นแอร์ที่ประหยัดพลังงานอย่างมาก ซึ่งมีค่า SEER 16.00 ใช้กำลังไฟฟ้า 830W เท่านั้น จัดเป็นแอร์ราคาเหมาะสม ฟังก์ชั่นใช้งานครบ เสียงเงียบ และกรองฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย

สำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบหน่อยอาจจะมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ราคาไม่สูงมาก เช่น พัดลมไอเย็น พัดลม หรือพัดลมติดเพดาน เป็นต้น