เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี

แนะนำ 5 อันดับ เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี ที่ผสมทุกวัตถุดิบทำขนมได้อย่างลงตัว ฉบับปี 2023

การทำอาหารหรือขนมเนี่ยอุปกรณ์อย่างเครื่องผสมอาหารได้กลายมาเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะด้วยความที่เครื่องนี้สามารถผสมวัตุถดิบได้หลากหลายซึ่งค่อนข้างเอนกประสงค์เลยก็ว่าได้ จึงทำให้การทำขนมกลายเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นแถมยังประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น 

แต่สำหรับบางคนอาจจะยังลังเลที่จะเลือกซื้อเครื่องผสมอาหารมาใช้เพราะว่าอุปกรณ์ชนิดนี้นั้นค่อนข้างจะมีราคาสูง อย่างไรก็ดีถ้าหากว่าคุณจริงจังกับการทำขนมล่ะก็เครื่องผสมอาหารนี่แหละค่ะเป็นสิ่งที่ควรลงทุนเป็นอย่างยิ่งเพราะนอกจากความเอนกประสงค์แล้ว เรื่องของพลังการตีวัตถุดิบให้เข้ากันก็ยังทำได้ดีและรวดเร็วกว่าการที่เราจะลงไม้ลงมือนวดแป้งด้วยตัวเอง

ดังนั้นการเลือกเครื่องผสมอาหารจากยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและทำให้ขนมที่เราตั้งใจทำออกมาให้อร่อยนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราควรคำนึงเช่นกัน วันนี้เราจึงถือโอกาสพาทุกคนไปดู เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี ที่นำมาเสนอด้วยกันทั้งหมด 5 ยี่ห้อในบทความนี้ค่ะ จะมียี่ห้อไหนบ้างที่เข้าตาและน่าคบหาไม่รอช้าเราไปดูกันเลย

5 เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี

KENWOOD รุ่น KVL8361S
อันดับ 1
  • ความจุโถอยู่ที่ 6.7 ลิตร
  • หัวตีส่วนผสมมีด้วยกันทั้งหมด 5 หัวที่ครอบคลุมการทำขนมหลากหลายรูปแบบ
  • ตัวเครื่องผลิตมาจากไทเทเนียมที่ได้มาตรฐาน ไม่ทำให้ส่วนผสมเสียรสชาติ
  • มีไฟส่องสว่างภายในโถและส่วนของลูกบิด
  • ระบบการตี 2 ทิศทางมีทั้งการตีแบบหมุนรอบตัวเองและการตีแบบหมุนรอบโถ
  • ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ปรับระดับความเร็วที่มีให้เลือกหลายระดับตามความเหมาะสม
  • มีฝาครอบกันกระเด็น 2 ชิ้น ที่สามารถถอดได้ขณะตี
KitchenAid Stand Mixer เครื่องผสมอาหาร 4.8L รุ่น150
อันดับ 2
  • ราคากำลังดีไม่แพงหรือถูกเกินไป
  • ระบบเฟืองทดรอบ ทำงานด้วยกำลังมอเตอร์ 300 วัตต์
  • โถใส่ส่วนผสมสามารถบรรจุได้ที่ 5 ควอทซ์ หรือ 4.83 ลิตร ทำมาจากสแตนเลสสตีลพร้อมที่จับที่ออกแบบมาให้เขากับหลัก ergonomic และเป็น diswasher safe
  • หัวตีส่วนผสมมีทั้งหมด 3 แบบ
  • เครื่องผสมอาหารมีระบบยกหัว (Tilt-Head) และสามารถปรับความเร็วในการตีส่วนผสมได้ถึง 10 ระดับ
  • มีสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย
Bosch รุ่น MUM58720
อันดับ 3
  • โถบรรจุส่วนผสมสามารถบรรจุได้สูงสุดที่ 3.9 ลิตรซึ่งค่อนข้างกระทัดรัดและเหมาะสมกับการทำขนมในครัวเรือน
  • ตีส่วนผสมด้วยระบบเฟืองแบบ 3D Planetary Mixing ทำให้วัตถุดิบได้รับการคลุกเคล้าที่เข้ากันเป็นอย่างดี
  • สามารถใช้โหมด EasyArmLift ในการพลิกหัวตีเพื่อสับเปลี่ยนไปใช้หัวตีแบบอื่นๆได้อย่างสะดวกสบาย
  • มี Safety Fuction ที่ดูแลตั้งแต่การจัดเก็บใบมีดที่ไม่ได้ใช้ ระบบล็อคโถใส่ส่วนผสมเพื่อความปลอดภัย สลักแบบพิเศษที่ฝาของอุปกรณ์ และอื่นๆอีกมากมาย

แนะนำ 5 เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดีที่ผสมทุกวัตถุดิบทำขนมได้อย่างลงตัว

จากลิสต์เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดีด้านบน จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายยี่ห้อที่น่าสนใจมากเลยค่ะ แต่ว่าแต่และยี่ห้อจะงัดเอาอะไรมาเป็นจุดเด่นบ้าง ราคาน่าสนใจหรือเปล่า เราไปเจาะลึกดูรายละเอียดของเครื่องผสมอาหารของแต่ละยี่ห้อเลยดีกว่าค่ะ

1. KENWOOD รุ่น KVL8361S

KENWOOD รุ่น KVL8361S

เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี เครื่องแรกที่เราจะมาแนะนำก็คือเครื่องผสมอาหารจากยี่ห้อ Kenwood รุ่น KVL8361S ค่ะ รุ่นนี้มีความจุโถอยู่ที่ 6.7 ลิตรค่ะ มาพร้อมกับดีไซน์ที่น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ ดูดีและทันสมัย สำหรับหัวตีส่วนผสมก็มีให้เราเลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 5 หัว ที่เหมาะสำหรับการตีครีมหรือไข่ขาวให้ขึ้นฟองสวยงาม การตีแป้งทุกชนิด การทำพัฟ พาย ขนมปังบิสกิต และเค้ก หรือมันฝรั่งบด ตีและผสมส่วนผสมที่อ่อนนุ่น ต้องการความเบาและต้องการอากาศอยู่ภายใน ซึ่งถามว่าคุ้มไหม เราว่าคุ้มมากเลยค่ะเพราะค่อนข้างครอบคลุมการทำขนมได้หลากหลายชนิด รับรองว่าใครที่เข้าครัวชอบอบขนมอยู่แล้วนี่ต้องติดใจทุกครั้งที่ต้องนำส่วนผสมมาตีให้เข้ากันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ตัวเครื่องโดยส่วนใหญ่ก็ผลิตมาจากไทเทเนียมที่ได้มาตรฐาน ไม่ทำให้ส่วนผสมเสียรสชาติ และในขณะที่เรากำลังคนวัตถุดิบให้เข้ากันอยู่นั้นเขาก็ได้เพิ่มไฟส่องสว่างภายในโถและส่วนของลูกบิดทำให้เราเห็นการทำงานของเครื่องและเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นว่าส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว สำหรับระบบการตี Kenwood รุ่นนี้เป็นระบบการตี 2 ทิศทาง มีทั้งการตีแบบหมุนรอบตัวเอง และการตีแบบหมุนรอบโถซึ่งยอดเยี่ยมมาก

เรื่องของการควบคุมความเร็วของการทำงานก็ออกแบบมาให้ง่ายแสนง่ายด้วยการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการปรับระดับความเร็วที่มีให้เลือกหลายระดับตามความเหมาะสม และหากถามว่าตีไปแล้วมีการกระเด็นของส่วนผสมล่ะ ตรงจุดนี้ทาง Kenwood เขาก็ได้มีฝาครอบกันกระเด็น 2 ชิ้น ที่สามารถถอดได้ขณะตีอีกด้วยค่ะ โดยรวมแล้วค่อนข้างคุ้มค่าน่าใช้ทีเดียว

จุดเด่น
  • ความจุโถอยู่ที่ 6.7 ลิตร
  • หัวตีส่วนผสมมีด้วยกันทั้งหมด 5 หัวที่ครอบคลุมการทำขนมหลากหลายรูปแบบ
  • ตัวเครื่องผลิตมาจากไทเทเนียมที่ได้มาตรฐาน ไม่ทำให้ส่วนผสมเสียรสชาติ
  • มีไฟส่องสว่างภายในโถและส่วนของลูกบิด
  • ระบบการตี 2 ทิศทางมีทั้งการตีแบบหมุนรอบตัวเองและการตีแบบหมุนรอบโถ
  • ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ปรับระดับความเร็วที่มีให้เลือกหลายระดับตามความเหมาะสม
  • มีฝาครอบกันกระเด็น 2 ชิ้น ที่สามารถถอดได้ขณะตี
จุดควรพิจารณา
  • ราคาค่อนข้างสูง

2. KitchenAid Stand Mixer เครื่องผสมอาหาร 4.8L รุ่น150

KitchenAid Stand Mixer เครื่องผสมอาหาร 4.8L รุ่น150

เครื่องผสมอาหารยี่ห้อที่สองของบทความนี้ก็เป็นเครื่องผสมอาหารจายี่ห้อ KitchenAid รุ่น 150 นี่เลยค่ะ รุ่นนี้ราคากำลังดีไม่แพงหรือถูกเกินไปนะคะ เอาล่ะมาดูกิมมิกของเครื่องนี้เลยละกัน รุ่นนี้เขามาพร้อมความประหยัดพลังงานค่ะโดยที่ระบบเฟืองทดรอบนั้นทำงานด้วยกำลังมอเตอร์ 300 วัตต์นั่นเอง สำหรับโถใส่ส่วนผสมก็สามารถบรรจุได้ที่ 5 ควอทซ์ หรือ 4.83 ลิตรนะคะ

ซึ่งทำมาจากสแตนเลสสตีลพร้อมที่จับที่ออกแบบมาให้เขากับหลัก ergonomic แถมยังเป็น diswasher safe ด้วยซึ่งก็หมายความว่าบ้านไหนที่มีเครื่องล้างจานนั้นสามารถนำโถของรุ่นนี้เข้าเครื่องทำความสะอาดได้นั่นเอง มาดูที่ตัวตีส่วนผสมกันบ้าง รุ่นนี้มีหัวตีส่วนผสมด้วยกันทั้งหมด 3 แบบแบบเเรกเป็นหัวตีแบบแบนสำหรับตีส่วนผสมที่เป็นของแช่แข็งหรือพวกมันฝรั่งบด แบบที่สองคือหัวตีแบบ dough hook สำหรับผสมและนวดแป้งโด และหัวตีแบบสุดท้ายก็คือแบบ wire whisk ที่มีให้เพื่อการผสมวัตถุดิบที่ต้องมีเรื่องของอากาศเข้ามาเป็นตัวชูรสชาติเช่นพวกไข่ขาว วิปครีมนั่นเองค่ะ

และเราก็ไม่ต้องกังวลว่ากำลังการทำงานที่ดูแล้วค่อนข้างน้อยอาจจะทำให้การตีส่วนผสมยังออกมาไม่เพอร์เฟ็คทาง KitchenAid เขาก็ได้ทดแทนส่วนนี้ด้วยการออกแบบให้เครื่องผสมอาหารมีระบบยกหัว (Tilt-Head) ทำให้เข้าถึงโถใส่วัตถุดิบได้มากขึ้นและสามารถปรับความเร็วในการตีส่วนผสมได้ถึง 10 ระดับเลยค่ะ แถมดีไซน์โดยรวมก็ออกแบบมาให้มีสีสันที่หลากหลายต่อความต้องการด้วยนะคะ

จุดเด่น
  • ราคากำลังดีไม่แพงหรือถูกเกินไป
  • ระบบเฟืองทดรอบ ทำงานด้วยกำลังมอเตอร์ 300 วัตต์
  • โถใส่ส่วนผสมสามารถบรรจุได้ที่ 5 ควอทซ์ หรือ 4.83 ลิตร
  • ทำมาจากสแตนเลสสตีลพร้อมที่จับที่ออกแบบมาให้เขากับหลัก ergonomic และเป็น diswasher safe
  • หัวตีส่วนผสมมีทั้งหมด 3 แบบ
  • เครื่องผสมอาหารมีระบบยกหัว (Tilt-Head) และสามารถปรับความเร็วในการตีส่วนผสมได้ถึง 10 ระดับ
  • มีสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย
จุดควรพิจารณา
  • อาจจะเหมาะสำหรับการทำขนมทานในครัวเรือน
  • ส่วนผสมสามารถกระเด็นออกมาข้างนอกได้เนื่องจากไม่มีฝาครอบกันกระเด็น

3. Bosch รุ่น MUM58720

Bosch รุ่น MUM58720

เอาล่ะมาถึงเครื่องผสมอาหารยี่ห้อต่อมาซึ่งก็มาจากยี่ห้อ Bosch นะคะกับรุ่นที่ชื่อว่า MUM58720 นั่นเอง โถบรรจุของรุ่นนี้สามารถบรรจุส่วนผสมได้สูงสุดที่ 3.9 ลิตร ทำมาจากสแตนเลสสตีล ซึ่งค่อนข้างกระทัดรัดและเหมาะสมกับการทำขนมในครัวเรือนค่ะ มาดูในส่วนการทำงานกันต่อ เครื่องผสมอาหารของ Bosch รุ่นนี้นั้นเป็นการตีส่วนผสมด้วยระบบเฟืองแบบ 3D Planetary Mixing ที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านของความทรงพลังด้วยการหมุนแบบ 3 มิติตลอดเวลาขณะที่ใช้งาน ทำให้วัตถุดิบได้รับการคลุกเคล้าที่เข้ากันเป็นอย่างดี

นอกจากนี้เวลาที่เราจะเติมอะไรลงไปในโถก็สามารถทำได้อย่างคล่องตัวเลยค่ะเพราะว่าตัวตีส่วนผสมจะเลื่อนไปชิดขอบของโถโดยอัตโนมัติเพื่อให้เราเติมส่วนผสมได้ง่ายขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้การเปลี่ยนหัวตีแป้งก็เปลี่ยนได้ง่ายดายด้วยเช่นกัน เราสามารถใช้โหมด EasyArmLift ในการพลิกหัวตีให้เราสามารถสับเปลี่ยนไปใช้หัวตีแบบอื่นๆได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้การทำงานทั้งหมดสามารถไว้วางใจในความปลอดภัยได้เลยค่ะเพราะเครื่องนี้มี Safety Fuction ที่ดูแลตั้งแต่การจัดเก็บใบมีดที่ไม่ได้ใช้ ระบบล็อคโถใส่ส่วนผสมเพื่อความปลอดภัย สลักแบบพิเศษที่ฝาของอุปกรณ์ และอื่นๆอีกมากมาย

จุดเด่น
  • โถบรรจุส่วนผสมสามารถบรรจุได้สูงสุดที่ 3.9 ลิตรซึ่งค่อนข้างกระทัดรัดและเหมาะสมกับการทำขนมในครัวเรือน
  • ตีส่วนผสมด้วยระบบเฟืองแบบ 3D Planetary Mixing ทำให้วัตถุดิบได้รับการคลุกเคล้าที่เข้ากันเป็นอย่างดี
  • สามารถใช้โหมด EasyArmLift ในการพลิกหัวตีเพื่อสับเปลี่ยนไปใช้หัวตีแบบอื่นๆได้อย่างสะดวกสบาย
  • มี Safety Fuction ที่ดูแลตั้งแต่การจัดเก็บใบมีดที่ไม่ได้ใช้ ระบบล็อคโถใส่ส่วนผสมเพื่อความปลอดภัย สลักแบบพิเศษที่ฝาของอุปกรณ์ และอื่นๆอีกมากมาย

 

จุดควรพิจารณา
  • ราคากลางๆค่อนไปทางสูง
  • ยังไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการผลลัพธ์ในปริมาณมาก

 

4. Smeg รุ่น SMF02RDEU

Smeg รุ่น SMF02RDEU

Smeg รุ่น SMF02RDEU เป็นเครื่องผสมอาหารยี่ห้อรองสุดท้ายที่เรานำมาให้ทำวามรู้จักกัน ส่วนนี้เราจะขอข้ามในเรื่องของดีไซน์นะคะเพราะเราต่างรู้กันอยู่แล้วว่าผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อ Smeg เนี่ยไม่เป็นรองใครแถมสีสันยังมีเยอะแยะจนเลือกไม่ถูกเลย อย่างไรก็ตามเรามาเข้าเรื่องของจุดเด่นด้านการทำงานของเครื่องผสมอาหารยี่ห้อนี้เลยดีกว่าค่ะ เริ่มต้นด้วยการทำงานของมอเตอร์กันก่อน เครื่องนี้ทำงานที่ 800 วัตส์ค่ะ แต่เขาก็ได้ทดแทนส่วนนี้ด้วยการเพิ่มระดับความเร็วที่สามารถปรับได้ถึง 10 ระดับ พร้อมการทำงานแบบ Smooth Start ที่จะเริ่มผสมส่วนผสมอย่างช้าๆ ทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้อย่างง่ายดายและผสมอาหารได้หลายชนิดมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของโถบรรจุก็ทำมาจากสเตนเลสสตีล มีขนาดความจุอยู่ที่ 4.8 ลิตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เราสามารถปรุงอาหารได้ตามความต้องการแบบไม่น้อยไปหรือมากไป เรื่องการทำงานของหัวตีส่วนผสมก็เป็นระบบ Planetary movement คล้ายๆกับเครื่องผสมอาหารจากยี่ห้อที่สามของบทความนี้เลยค่ะดังนั้นเรื่องของการเข้ากันจึงเป็นสิ่งที่เราอุ่นใจได้นะ และเรื่องของความปลอดภัยก็ทำได้ดีเช่นกันโดยที่จะมีระบบ Safety Lock เมื่อยกหัวเครื่องขึ้นและระบบป้องกันมอเตอร์ทำงานหนักมาช่วยให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัยยันขั้นตอนสุดท้ายเลย

อย่างไรก็ตามสำหรับอุปกรณ์เสริมอื่นๆเช่น อุปกรณ์รีดแป้งพาสต้าและอุปกรณ์ตัดเส้นพาสต้านั้นเราต้องซื้อแยกต่างหากนะคะ ดังนั้นส่วนนี้ถ้าเรามีความจำเป็นต้องใช้ก็จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มค่ะ

จุดเด่น
  • มอเตอร์ทำงานที่ 800 วัตส์ สามารถเพิ่มระดับความเร็วได้ถึง 10 ระดับ พร้อมการทำงานแบบ Smooth Start ที่จะเริ่มผสมส่วนผสมอย่างช้าๆให้เข้ากันได้อย่างง่ายดาย
  • โถบรรจุสเตนเลสสตีลมีขนาดความจุอยู่ที่ 4.8 ลิตร 
  • การทำงานของหัวตีส่วนผสมก็เป็นระบบ Planetary movement
  • มีระบบ Safety Lock เมื่อยกหัวเครื่องขึ้นและระบบป้องกันมอเตอร์ทำงานหนักมาช่วยให้เราใช้งานได้อย่างปลอดภัย
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูง
  • อุปกรณ์เสริมอื่นๆต้องซื้อแยกต่างหาก

5. Ankarsrum Assistent AKM6230 Stand Mixer 1500w

Assistent AKM6230 Stand Mixer 1500w

สุดท้ายนี้ก็มาถึงเครื่องผสมอาหารจากยี่ห้อ Ankarsrum Assistent ที่มาพร้อมกับชื่อรุ่นว่า AKM6230 ค่ะ รุ่นนี้มีมอเตอร์ที่ทำงานได้อย่างทรงพลังที่ 1500 วัตส์ที่ทำให้การผสมวัตถุดิบทุกอย่างเป็นไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่การทำขนมอย่าง sponge cake ไปจนถึงขนมปัง sourdoughเลยทีเดียว และสิ่งที่เจ๋งมากสำหรับเครื่องผสมอาหารยี่ห้อนี้และรุ่นนี้เลยนั่นคือการที่ตัวเครื่องสามารถปรับความเร็วในการตีวัตถุดิบตามน้ำหนักที่ใส่มาในภาชนะได้ด้วยตัวเองซึ่งทุกอย่างเป็นไปโดยปราศจากเสียงรบกวน

ในส่วนของความสามารถในการบรรจุนั้นโถใส่ส่วนผสมมีความจุสูงสุดที่ 7 ลิตรค่ะ ซึ่งดูแล้วก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องผสมอาหารที่เหมาะกับการทำขนมในปริมาณมากหรือทำเพื่อค้าขายในบทความนี้นะ นอกจากนี้ด้วยความที่เครื่องค่อนข้างทรงพลัง ระบบความลอดภัยก็ควรมาคู่กันใช่ไหมคะดังนั้นรุ่นนี้จึงมีการใส่ระบบ Overload protection เข้ามาเพื่อป้องกันการทำงานที่หนักจนเกินไปนั่นเอง

ส่วนเรื่องอุปกรณ์เสริมอื่นๆนั้นรุ่นนี้ก็มีทั้ง ลูกกลิ้งนวดแป้ง ใบมีดตัดแป้ง หัวตีรูปตะขอ และฝาครอบกันกระเด็นแถมมาด้วยซึ่งจุดนี้ค่อนข้างดีมากและดูแล้วก็ค่อนข้างคุ้มราคาเพราะไม่ต้องซื้อแยกค่ะ นอกจากนี้ Ankarsrum Assistent รุ่นนี้ก็ทำออกมาหลายสีมาก เราสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยนะ

จุดเด่น
  • มอเตอร์ทำงานได้อย่างทรงพลังที่ 1500 วัตส์
  • ตัวเครื่องสามารถปรับความเร็วในการตีวัตถุดิบตามน้ำหนักที่ใส่มาในภาชนะได้ด้วยตัวเองและทำงานโดยปราศจากเสียงรบกวน
  • โถใส่ส่วนผสมมีความจุสูงสุดที่ 7 ลิตร
  • ระบบ Overload protection ป้องกันการทำงานที่หนักจนเกินไป
  • อุปกรณ์เสริมอื่นๆไม่ต้องซื้อแยก
  • ตัวเครื่องมีหลายสีให้เลือกตามใจชอบ
จุดควรพิจารณา
  • ราคาค่อนข้างสูง
  • เหมาะกับการทำขนมในปริมาณมากหรือทำเพื่อค้าขาย

จะซื้อเครื่องผสมอาหารต้องนึกถึงอะไรบ้าง

เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี น่าสนใจ

เอาล่ะพอถึงเวลาที่เราไปเลือกซื้อเครื่องผสมอาหารที่ร้านเราก็อยากดำเนินการทุกขั้นตอนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงความต้องการใช่ไหมคะ การที่เรารู้ว่าสิ่งที่เราต้องการจากเครื่องผสมอาหารที่จะซื้อเป็นอย่างไร มีอะไรบ้างนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนทำการตัดสินใจ ซึ่งข้อควรคำนึงในการเลือกซื้อก็มีเพียง 3 ข้อดังนี้เลยค่ะ

  1. ความสามารถในการบรรจุ: ข้อนี้จะขึ้อยู่กับว่าคนในครอบครัวเรามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน หรืออาจจะขึ้นอยู่จุดประสงค์ในการทำขนมค่ะ ถ้าคนในครอบครัวมีหลายคนหรือจะการทำขนมจองเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของเราอยู่แล้วก้ควรหาเครื่องผสมอาหารที่บรรจุส่วนผสมได้ในปริมาณมาก แต่ถ้าเราทำขนมกินเองในครอบครัวก็ลองหาเครื่องที่กระทัดรัดและเพียงพอต่อความต้องการก็ถือว่าเป็นการตัดสินที่ดีค่ะ
  1. อุปกรณ์เสริม: ข้อนี้จะสำคัญตรงที่การจัดการกับความหลากหลายของเมนูขนมและวัตถุดิบนั่นเอง เพื่อให้การทำขนมเป็นไปได้สนุกมากขึ้น การที่มีอุปกรณ์เสริมหลายๆแบบเพื่อสอดรับความแตกต่างของวัตถุดิบจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกเครื่องผสมอาหารได้ตรงตามความต้องการของเราได้มากขึ้นค่ะ
  1. ขนาดและน้ำหนัก: ข้อสุดท้ายก็คือเรื่องของขนาดและน้ำหนักซึ่งตรงนี้ต้องมาวัดกันที่พื้นที่ในการจัดเก็บเครื่องผสมอาหารอีกที ถ้าหากเราจะเก็บเจ้าเครื่องนี้ไว้ในตู้ที่ไม่ใช่แบบ countertop เรื่องน้ำหนักอาจจะไม่ได้มีผลเท่าไรนักแต่เรื่องขนาดก็ต้องดูว่าสามารถใส่ตู้ได้พอดีหรือไม่เกะกะจนเกินไป แต่ถ้าที่บ้านใครมีตู้เก็บอุปกรณ์เครื่องครัวแบบ countertop อาจจะต้องเลือกเครื่องที่กระทัดรัดลงมาหน่อยและไม่หนักจนเกินไปนะคะ

บทสรุป เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี

สำหรับบทสรุปของบทความนี้นั้นถ้าหากเลือกโดยอิงจากข้อควรคำนึง 3 ข้อที่เรานำมาแบ่งปันก็พอจะเห็นได้ว่า เครื่องผสมอาหารจากยี่ห้อ Kenwood รุ่น KVL8361S นี้ดูจะคุ้มค่าตอการลงทุนที่สุดค่ะเพราะความสามารถในการบรรจุและอุปกรณ์เสริมของเครื่องผสมอาหารยี่ห้อนี้นั้นสามารถทำให้เราสนุกกับการทำขนมที่หลากหลายมากๆ เพียงพอต่อความต้องการของคนในครอบครัว และถ้าหากที่บ้านเราจัดปาร์ตี้มีคนมาเพิ่มจำนวนเยอะๆแล้วนั้น เราไม่ต้องกังวลว่าขนมที่ทำออกมาจะพอกับจำนวนแขกหรือเปล่า ซึ่งเป็นจุดที่ดีมากเลยค่ะ และการที่มีไฟส่องสว่างนั้นก็ทำให้การผสมอาหารมีความแม่นยำ เพิ่มความมั่นใจเมื่อเราใช้งานอีกด้วย

อย่างไรก็ตามถ้าหากที่บ้านของคุณมีเครื่องผสมอาหารไปแล้วแต่ยังอยากหาอุปกรณ์เครื่องครัวอื่นๆมาใช้ในการทำเมนูที่นอกเหนือจากการใช่เครื่องผสมอาหาร ในเว็บไซต์ของชอบรีวิวก็ยังมีบทความอย่างเช่น เครื่องปั่น ไมโครเวฟ เตาอบไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆให้คุณได้ไปลองอ่านอยู่นะคะ ซึ่งเราก็หวังว่าแต่ละบทความที่เรานำมาแบ่งปันจะสามารถทำให้คุณได้เจออุปกรณ์ที่ใช่และสนุกกับการเข้าครัวในครั้งต่อไปค่ะ

Similar Posts