ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี

การเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวถือว่ายังเป็นปัจจัยสำคัญในการบำรุงผิวที่ยังคงได้รับความนิยมกันมาอย่างต่อเนื่อง  เพราะนอกจากจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวแล้ว ก็ยังทำให้ผิวดูมีเอิบอิ่มดูมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้นด้วย ยิ่งสำหรับสาว ๆ คนไหนที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำแต่มีผิวแห้งและผิวที่บอบบางมีโอกาสแพ้ง่าย การมีสกินแคร์ที่เป็นตัวช่วยในเรื่องนี้จะเป็นอะไรที่ทำให้ใจฟูสุด ๆ เพราะถือว่าได้เพิ่มเกราะความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทำให้ใบหน้าไม่แห้งลอกเป็นขุยและยังช่วยให้เเต่งหน้าได้เป๊ะขึ้น และยังทำให้เครื่องสำอางติดทนตลอดวันอีกด้วย

ตัวสกินแคร์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการนำความชุ่มชื้นมาสู่ผิวในปัจจุบันก็มีหลายแบบให้สาว ๆ ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของสภาพผิว ซึ่งสกินแคร์เหล่านั้นก็จะมีการใช้ส่วนผสมหลากหลายมาก เช่น กรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน ยูเรีย สารสกัดจากว่านหางจระเข้ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับอีกหนึ่งส่วนผสมที่นิยมใช้ในการผลิตสกินแคร์สาขาการเติมน้ำเข้าสู่ผิวซึ่งก็คือ เซราไมด์ นั่นเองค่ะ 

เซราไมด์เป็นส่วนผสมที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผิว ช่วยให้เราเลี่ยงกรณีที่ผิวเกิดความแห้งกร้านและเกิดอาการระคายเคือง อีกทั้งยังป้องกันผิวจากมลภาวะภายนอกได้เป็นอย่างดี เมื่อเห็นประโยชน์ของส่วนผสมชนิดนี้แล้วหลาย ๆ คนคงอยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่า เอ๊ะ! จะเลือกใช้ ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับผิวและอยู่ในงบที่ตั้งไว้ วันนี้เราได้ขนครีมเซราไมด์ที่น่าสนใจและใช้ดีจนต้องบอกต่อมาไว้ ณ ที่นี้แล้วค่ะ!

แนะนำ 7 ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี

แนะนำ 7 ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้ดีจนต้องบอกต่อ

แนะนำ 7 ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี

ครีมเซาราไมด์ที่เราได้รวบรวมมาในไว้ในบทความนี้นั้นมีหลากหลายแบรนด์ที่เรียกได้ว่าน่าสนใจ ได้ใช้ทีนี่ติดใจเลยเพราะใช้แล้วเห็นผลดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีผิวแห้งมากและแพ้ง่าย ซึ่งเราได้เลือกเอามาโชว์กันถึง 7 แบรนด์กันเลยทีเดียว เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลาเราไปลุยกับแบรนด์แรกกันเลยค่ะ

1. CeraVe Moisturising Cream

CeraVe Moisturising Cream

ตัวแรกเป็นแบรนด์ดังจาก CeraVe กันเลย เป็นผลิตภัณฑ์ที่แต่ละตัวนั้นได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ซึ่งได้นำเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด ได้แก่ เซราไมด์ 1, 3, และ 6-II รวมถึงกรดไขมันและลิปิดนานาชนิดมาเป็นส่วนประกอบในการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายและรองรับกับทุกสภาพผิว ผลิตภัณฑ์ของ CeraVe ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ก็คือ CeraVe Moisturising Cream มีทั้งในรูปแบบกระปุกและหลอดสีฟ้าเข้ม เนื้อสัมผัสเป็นแบบเนื้อครีมเข้มข้น อุดมไปด้วยเซราไมด์และกรดไฮยาลูโรนิกที่จะช่วยให้เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพและในขณะเดียวกันก็ฟื้นฟูเกราะป้องกันของผิวของเราอีกด้วย 

มอยส์เจอร์ไรเซอร์นี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งถึงแห้งมาก และถึงแม้เนื้อครีมจะเข้มข้น แต่ตอนทาเรารู้สึกว่าตัวครีมซึมลงผิวเร็วมาก ไม่รู้สึกถึงความเหนอะหนะ และผิวก็เรียบเนียนทั้งวันเลยค่ะ เนื่องจากทางแบรนด์ได้มีการใช้นวัตกรรมที่มีชื่อว่า MultiVesicular Emulsion Technology (MVE) ที่ทำให้สารบำรุงค่อยๆ ซึมลงไปในผิวหนังแต่ละชั้นได้อย่างล้ำลึกตลอด 24 ชั่วโมงนี่เอง ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย นอกจากนี้ก็ยังเป็นครีมที่ fragrance free อีกด้วยนะคะ ใครที่รู้ตัวว่ามีประวัติแพ้น้ำหอมสามารถอุ่นใจในการใช้ครีมได้เลย

จุดเด่น

  • มีเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด มีกรดไฮยาลูโรนิกช่วยฟื้นบำรุงและมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  • ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
  • นวัตกรรม MVE ช่วยให้ตัวครีมซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้อย่างล้ำลึกตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ 
  • fragrance free คนแพ้น้ำหอมสามารถใช้ได้
  • บรรจุภัณฑ์มีทั้งแบบหลอดขนาด 50 มล. 177 มล. และแบบกระปุกขนาด 454 กรัม

จุดควรพิจารณา

  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งถึงแห้งมาก

 

2. SOS Hyaluron & Ceramide X3 Moisturizing Cream

SOS Hyaluron & Ceramide X3 Moisturizing Cream

ครีมเซราไมด์ แบรนด์ต่อมานี้ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นเลยกับ SOS ซึ่งมาในผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า SOS Hyaluron & Ceramide X3 Moisturizing Cream เนื้อสัมผัสเป็นครีมเนื้อเจลสีขาวขุ่นค่ะ ทำให้รู้สึกว่าทาแล้วบางเบา แต่ว่าเข้มข้นไปด้วยไฮยาลูโรนิกและเซราไมด์ 3 ชนิด ที่สามารถเรียกคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำและจากมลภาวะภายนอกได้เป็นอย่างดี แถมยังลดอาการอักเสบและผื่นที่ขึ้นบนผิวได้ด้วย ทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น เติมเต็มความสดใสและคืนความมีชีวิตชีวามาสู่ผิว

ครีมตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่มีผิวแห้ง ผิวที่บอบบาง และผิวแบบผสมที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ อย่างไรก็ตามในตอนนี้นั้นบรรจุภัณฑ์ของตัวครีมเซราไมด์แบรนด์นี้มาในรูปแบบหลอดขนาด 30 มิลลิลิตร เพียงขนาดเดียวนะคะ  สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน วิธีการใช้คือ ตอนเช้าให้ใช้ก่อนทาครีมกันแดด ส่วนตอนก่อนนอนใช้สำหรับขั้นตอนการบำรุงผิวได้เลย

จุดเด่น

  • เข้มข้นด้วยเซราไมด์ 3 ชนิดมีกรดไฮยาลูโรนิกช่วยฟื้นบำรุงและมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว 
  • เนื้อสัมผัสเป็นครีมเนื้อเจลสีขาวขุ่น บางเบา
  • ใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน

 

จุดควรพิจารณา

  • มีบรรจุภัณฑ์เพียงขนาดเดียว
  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ผิวที่บอบบาง และผิวแบบผสม

 

3. The Shott Skin Barrier 5 Ceramide Cream 

The Shott Skin Barrier Ceramide Cream

ต่อด้วย The Shott Skin Barrier Ceramide Cream กันเลย สำหรับครีมแบรนด์นี้เรียกได้ว่าอัดแน่นและเข้มข้นไปด้วยเซราไมด์ถึง 5 ชนิดเลยทีเดียว ซึ่งได้แก่ Ceramide NP, Ceramide NS, Ceramide EOS, Ceramide EOP และ Ceramide AP ทั้ง 5 ชนิดนี้ได้นำมาผสมผสานกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างสูงสุด แต่ละตัวสำคัญต่อการคงความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างไรบ้าง

เริ่มจากขั้นตอนที่ผิวของเราสร้างเซราไมด์และเซลล์ผิวใหม่ด้วยตัวเองเลย ขั้นตอนนี้  Ceramide NP, Ceramide NS และ Ceramide EOP จะเข้ามามีบทบาทในการเป็นตัวที่ป้องกันไม่ให้ผิวหนังสูญเสียน้ำ ปรับสมดุลน้ำ และลดอาการระคายเคือง จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการฟื้นฟูและเพิ่มความกระชับของผิว ซึ่งหน้าที่นี้ต้องยกให้ Ceramide EOS กับ Ceramide AP เลยค่ะ เมื่อรวมเซราไมด์ทั้ง  5 ตัวนี้ไว้ด้วยกันในรูปแบบ Multi-Lameller Delivery System จะทำให้การครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น 

นอกจากนี้ก็ยังนำเอากรดไฮยาลูโรนิก 8 ชนิด ทั้งโมเลกุลใหญ่ กลาง และเล็ก รวมทั้ง Sacran สารสกัดจากสาหร่ายซุยเซนจิที่มาช่วยเติมเต็มและคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูเอิบอิ่มเนียนนุ่มนานตลอดวัน ในส่วนของเนื้อครีมก็ทำมาในรูปแบบของโครงสร้าง Liquid Crystal เพื่อเสริมความเเข็งแรงให้กับ Lipid Barrier ในชั้นผิวหนังอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถฟื้นฟูและกู้คืนความชุ่มชื้นในผิวได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ

จุดเด่น

  • ผสานเซราไมด์ 5 ชนิด ปกป้องการสูญเสียน้ำจากภายใน พร้อมปกป้องการทำร้ายผิวจากมลภาวะ แสงแดด คล้ายการเสริมสร้างเกราะคุ้มกันผิว
  • กรดไฮยาลูโรนิกทั้ง 8 ชนิด ทั้งโมเลกุลขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน เต็มประสิทธิภาพ
  • มีสารสำคัญอย่าง “Sacran” สารสกัดสาหร่ายซุยเซนจิ จากเกาะคิวชูประเทศญี่ปุ่น สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 6,100 เท่า ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นของผิว
  • เนื้อครีมมีโครงสร้างเป็น Liquid Crystal ที่มีโครงสร้างเหมือน Lipids Barrier ในผิว จึงช่วยปกป้องให้ผิวแข็งแรงขึ้น 
  • มีความอ่อนโยนต่อผิว ช่วยปลอบประโลมผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

จุดควรพิจารณา

  • เหมาะกับผู้ที่ผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือผิวอ่อนแอแพ้ง่ายหรือขาดการบำรุง

 

4. PAPA FEEL 5X Ceramide Barrier Moisturizer Gel

PAPA FEEL 5X Ceramide Barrier Moisturizer Gel

ครีมเซราไมด์ต่อมานี้มาไกลจากประเทศเนเธอแลนด์กันเลยกับแบรนด์ PAPA FEEL 5X Ceramide Barrier Moisturizer Gel เจ้าตัวนี้เนี่ยเขาใส่เซราไมด์มาถึง 5 ชนิดเลยซึ่งก็มีตั้งแต่ Ceramide NS, Ceramide AS, Ceramide NP, Ceramide AP ไปจนถึง Ceramide EOP มาพร้อมกับกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งทำให้ตัวครีมทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ช่วยเรื่องการให้ความชุ่มชื้นซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย ป้องกันและลดการเกิดสิว ปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใสและช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

นอกจากจะมีเซราไมด์ที่เป็นส่วนผสมตัวชูโรงแล้ว ก็ยังมีส่วนผสมของ Centella ที่มีในใบบัวบกเพื่อช่วยในการต้านการอักเสบของผิวอีกต่างหาก แถมยังเป็นอีกหนึ่งตัวที่สามารถใช้เพื่อการบำรุงผิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่มีการใส่สเตียรอยด์ ไม่มีพาราเบน ไม่มีสี และไม่มีน้ำหอม เรียกได้ว่าอ่อนโยนต่อผิวทุกสภาพผิว

จุดเด่น

  • มีเซราไมด์ 5 ชนิด กรดไฮยาลูโรนิก และ Centella ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอิ่มน้ำ ลดการเกิดสิว
  • เนื้อสัมผัสเป็นครีมเนื้อเจล 
  • อ่อนโยนต่อผิวทุกประเภท
  • ปราศจากสเตียรอยด์ พาราเบน ไม่มีสี และไม่มีน้ำหอม

จุดควรพิจารณา

  • เหมาะกับการบำรุงผิวบนใบหน้า

 

5. Cetaphil moisturizing cream

Cetaphil moisturizing cream

สำหรับ Cetaphil ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมกันเป็นวงกว้างเลยนะคะ ซึ่งในส่วนของผลิตที่มีเซราไมด์เป็นส่วนประกอบนี้ก็จะเป็น Cetaphil moisturizing cream บรรจุภัณฑ์สีเขียวอ่อนตัวนี้เลย ตัวครีมผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาเรียบร้อย คุณสมบัติของมอยส์เจอร์ไรเซอร์นี้ก็เป็นเนื้อครีมเข้มข้นที่นอกจากจะมีส่วนผสมของเซราไมด์แล้วก็ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งและหมองคล้ำให้กลายเป็นที่อิ่มน้ำและกระจ่างใสขึ้นตลอด 48 ชั่วโมง เช่น Sweet Almond Oil วิตามินบี 3 โปรวิตามินบี 5 และกลีเซอรีน

นอกจากนี้ยังเป็นสูตรไฮโปอัลเลอร์เจนิกที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวเวลาที่ทาลงไปบนตัวหรือใบหน้า ไม่ทำให้เกิดสิว ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน สำหรับแบรนด์นี้มีมาให้ลอง 2 ขนาดด้วยกันคือ กระปุกขนาด 453 กรัมและหลอดขนาด 100 กรัมค่ะ คนที่มีผิวแห้งถึงผิวแห้งมาก ผิวบอบบาง แพ้ง่าย สามารถใช้ได้นะคะ

จุดเด่น

  • มีส่วนประกอบของเซราไมด์, Sweet Almond Oil, วิตามินบี 3, โปรวิตามินบี 5 และกลีเซอรีน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน อ่อนโยนต่อผิว
  • ใช้ได้ทั้งผิวกายและผิวหน้า
  • ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน

จุดควรพิจารณา

  • มี 2 ขนาด
  • เหมาะกับผิวแห้งถึงผิวแห้งมาก ผิวบอบบาง แพ้ง่าย

 

6. Physiogel Daily MOISTURE THERAPY FACIAL CREAM

Physiogel Daily MOISTURE THERAPY FACIAL CREAM

มาถึงลำดับที่ 6 กันแล้วกับ Physiogel Daily MOISTURE THERAPY FACIAL CREAM ที่ใช้แล้วทำให้สุขภาพผิวหน้าดีขึ้นด้วย 3 คุณประโยชน์คือ ซ่อมแซม ฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ทั้งสามสิ่งนี้ก็มาจากส่วนผสมที่ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากโครงสร้างตามธรรมชาติของผิวหนังด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า Bio Mimic Technology ที่มีส่วนประกอบเป็นลิปิดที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับไขมันในชั้นผิวหนัง เพื่อเป็นปราการป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื้นหายไป และยังมีส่วนผสมของเซราไมด์และสควาลีน ที่ใส่เข้ามาเพื่อช่วยเสริมพลังให้ผิวได้กักเก็บความชุ่มชื้นได้ถึง 72 ชั่วโมง เป็นสูตรเนื้อครีมที่เข้มข้นแต่น้ำหนักบางเบา อ่อนโยนต่อผิวเมื่อทาลงบนใบหน้า ไม่ก่อให้เกิดสิวและปราศจากน้ำหอม เหมาะสำหรับคนที่มีผิวเเห้งและผิวบอบบางแพ้ง่าย

จุดเด่น
  • มีส่วนประกอบของเซราไมด์และสควาลีน 
  • ใช้เทคโนโลยี Bio Mimic Technology กักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
  • เนื้อครีมเข้มข้นแต่น้ำหนักบางเบา อ่อนโยนต่อผิว
  • ปราศจากน้ำหอม และไม่ก่อให้เกิดสิว
จุดควรพิจารณา

  • เหมาะสำหรับคนที่มีผิวเเห้งและผิวบอบบางแพ้ง่าย

 

7. ATOPALM Mle Cream

ATOPALM Mle Cream

ปิดท้ายบทความไปด้วยครีมเซราไมด์จาก ATOPALM Mle Cream สกินแคร์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ดีต่อใจของกลุ่มคนที่มีผิวบอบบาง เนื้อครีมมีความเข้มข้นแต่ว่าไม่เหนอะหนะและบางเบา ใช้บำรุงได้ทั้งผิวหน้าละผิวกาย นอกจากจะมีเซราไมด์แล้ว ก็ยังมีสวนผสมของกรดอะมิโน 5 ชนิด ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวชั้นนอกให้ผิวคงความชุ่มชื่นได้ยาวนาน ผสานเทคโนโลยี MLE (Multi Lameller Emulsion) ที่ช่วยลดอาการระคายเคืองและทำให้เนื้อครีมซึบซาบเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้เร็วยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งเสียและผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นครีมที่ปราศจากพาราเบนค่ะ

จุดเด่น

  • มีสวนผสมของเซราไมด์ กรดอะมิโน 5 ผสานเทคโนโลยี MLE ลดอาการระคายเคือง ครีมซึมเข้าสู่เร็วขึ้น
  • บำรุงผิวได้ทั้งผิวหน้าละผิวกาย
  • ปราศจากพาราเบน

จุดควรพิจารณา

  • เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งเสียและผิวแพ้ง่าย

 

ความสำคัญของเซราไมด์

แนะนำ 7 ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี

เซราไมด์มีส่วนสำคัญในการกักเก็บความชุมชื้นของชั้นผิวหนังและป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกจากภายนอกเข้ามาสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง ซึ่งเซราไมด์บนร่างกายของเราเนี่ยสามารถเสื่อมสภาพไปตามอายุขัยของเรา ทำให้ผิวเผชิญกับความแห้งกร้าน เหี่ยวย่น ดูไม่มีน้ำมีนวล ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาทางผิวหนังได้ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข อาจจะมีอาการคัน ระคายเคืองตามผิวหนัง เพราะนอกจากผิวหนังจะขาดความชุ่มชื้นแล้ว การที่เราไม่ได้ดูแลผิวให้ดีและการที่ปริมาณเซราไมด์ลดลง การทำงานของเซลล์ผิวอาจจะถูกรบกวนจากมลภาวะภายนอกได้

ดังนั้นเราจะพึ่งการผลิตเซราไมด์ที่ผิวหนังเราผลิตเองอย่างเดียวก็คงจะไม่ได้นะคะ อย่างน้อยการใช้พวกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์สังเคราะห์ที่จำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ผิวหนังก็เป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยให้ผิวของเราไม่แห้ง ไม่ขาดน้ำ เป็นการบำรุงและฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพที่ดีพร้อมผจญกับมลภาวะภายนอกไปในทุกวันอย่างไร้กังวลยังไงล่ะคะ

บทสรุป ครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี

เป็นอย่างไรกันบ้างคะบทความครีมเซราไมด์ ยี่ห้อไหนดี ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ทุกคนจะเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากเซราไมด์นั้นมีเยอะมาก แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเซราไมด์ว่ามีประโยชน์อย่างไรต่อการทำงานของผิวหนังบ้าง ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้ไปลองใช้กันถึง 7 แบรนด์กันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ ที่มาเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างความชุ่มชื้นและเสริมปราการเพื่อปกป้องผิวของเราให้มีสุขภาพที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้พูดได้เลยค่ะว่าใช้ดีจนสามารถบอกต่อความจึ้งให้คนที่รู้สึกได้ไปลองกันได้เลย แต่ละแบรนด์ที่เราได้นำมาเสนอนั้นค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว ทำให้มั่นใจสามารถใช้ได้หายห่วงแน่นอนค่ะ 

Similar Posts