แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี

แท่นชาร์จไร้สาย หรือ Wireless Charger คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยที่ทุกคนจำเป็นต้องมีติดตัวหรือติดบ้านเอาไว้ สามารถพบเห็นได้ตามออฟฟิศ หรือร้านคาเฟ่ต่างๆ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานอย่างมาก เพียงแค่วางโทรศัพท์มือถือลงไปบนแท่นชาร์จ ระบบจะทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้คุณโดยอัตโนมัติ ง่ายแล้วสะดวกเช่นเดียวกับการใช้ PowerBank เลยทีเดียว

และในปัจจุบันแท่นชาร์จไร้สายก็ถูกพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การชาร์จไร้สายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการประหยัดพื้นที่ในการใช้งานปลั๊กพ่วงไฟฟ้าได้อีกด้วย ดังนั้นเราชอบรีวิวจะพาคุณไปดู 5 อันดับ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 ว่ายี่ห้อไหนใช้งานสะดวก และมีคุณภาพมากที่สุด

แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี

Apple MagSafe Charger
อันดับ 1
Apple MagSafe Charger
  • ดีไซน์ไม่เหมือนใคร โดยเป็นรูปแบบทรงกลม ดูเรียบง่าย แต่ประสิทธิภาพการชาร์จเต็มนั้นไวอย่างมาก
  • เป็นแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับระบบ Fast Charge มีกำลังไฟ 15W ชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ไว
  • รองรับมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi ซึ่งสามารถใช้งานกับอุปกรณ์แบรนด์อื่นๆได้อีกด้วย
  • หากเป็นรุ่น iPhone 12 ขึ้นไป MagSafe แม่เหล็กจะทำงาน ติดแน่น ไม่หลุดแน่นอน
  • USB-TYPE C ทำงานการชาร์จแบตเตอรี่ได้ไว และจ่ายไฟได้เสถียรภาพ
  • มีน้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย
Eloop W1
อันดับ 2
Eloop W1
  • รองรับมาตรฐาน Qi  ทำให้อุปกรณ์ที่รองรับ Qi สามารถใช้งานแท่นชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายได้
  • รองรับระบบ Fast Charge ด้วยเชื่อมต่อผ่าน Port USB-Type A
  • ดีไซน์สวยงาม ลักษณะคล้ายกระจก มีทรงกลม น่าใช้งาน
  • ขนาดเล็กกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน
Xiaomi Vertical Wireless Charger
อันดับ 3
Xiaomi Vertical Wireless Charger
  • มีขาตั้งแนวตั้ง ทำให้ชาร์จสมาร์ทโฟนและสามารถท่องโลก Social หรืออ่านข้อมูลข่าวสาร แชทกับเพื่อนได้อีกด้วย
  • รองรับระบบ Fast Charge มีกำลังไฟ 20W ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เต็มไม่เกิน 1 ชั่วโมง
  • Port USB-Type C ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว และการจ่ายไฟเข้าสมาร์ทโฟนมีความเสถียร
  • รองรับมาตรฐาน Qi ใช้งานกับอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi
  • ขนาดเล็ก สามารถนำพกพาไปได้ง่าย

แนะนำ 5 อันดับ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ใช้งานสะดวก คุณภาพดี

หากคุณไม่รู้ว่าจะซื้อ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ให้เราแนะนำ 5 อันดับ แท่นชาร์จไร้สาย ที่ผ่านการคัดสรรสินค้าคุณภาพดี ใช้งานได้สะดวก แค่วางโทรศัพท์มือถือลงไปก็ทำการชาร์จได้ทันที และให้คุณได้พิจารณาเลือกซื้อได้ง่ายอีกด้วย ไปดูพร้อมๆกันเลยว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง

1. แท่นชาร์จไร้สาย Apple MagSafe Charger

แท่นชาร์จไร้สาย Apple MagSafe Charger

เริ่มต้นแท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดีอันดับแรกกับ Apple MagSafe Charger มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร ทรงกลม ดูเรียบง่าย มีขนาด 8.2×8.2×1.8 เซนติเมตร น้ำหนัก 45 กรัม แต่แฝงไปด้วยระบบประสิทธิภาพ เพราะ MagSafe เป็นแท่นชาร์จไร้สายรูปแบบแม่เหล็ก ยึดติดโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดายและการชาร์จได้ไว

โดยเชื่อมต่อเข้ากับ Port USB-C ใช้ควบคู่กับ Adapter USB-C ขนาด 20W ให้กำลังไฟในการชาร์จ 15W ซึ่งเป็นระบบ Fast Charge ที่อยู่ในแท่นชาร์จแบบไร้สาย โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเต็มประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทั้งนี้ยังมีการรองรับมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi สามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ที่รองรับ Qi ไม่ใช่เพียง Apple เท่านั้น แต่ถ้าเป็น iPhone 12 ขึ้นไป Apple MagSafe จะประกบติดเครื่องได้พอดี แม่เหล็กติดแน่น ไม่หลุดอย่างแน่นอน

จุดเด่น
  • ดีไซน์ไม่เหมือนใคร โดยเป็นรูปแบบทรงกลม ดูเรียบง่าย แต่ประสิทธิภาพการชาร์จเต็มนั้นไวอย่างมาก
  • เป็นแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับระบบ Fast Charge มีกำลังไฟ 15W ชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ไว
  • รองรับมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi ซึ่งสามารถใช้งานกับอุปกรณ์แบรนด์อื่นๆได้อีกด้วย
  • หากเป็นรุ่น iPhone 12 ขึ้นไป MagSafe แม่เหล็กจะทำงาน ติดแน่น ไม่หลุดแน่นอน
  • USB-TYPE C ทำงานการชาร์จแบตเตอรี่ได้ไว และจ่ายไฟได้เสถียรภาพ
  • มีน้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย
จุดควรพิจารณา
  • เมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่แบรนด์ Apple แท่นชาร์จไร้สาย MagSafe แม่เหล็กไม่ทำงาน 
  • หากโทรศัพท์ใช้ เคสหนัง เมื่อใช้งาน MagSafe เคสหลังเครื่องจะเป็นรอยทรงกลม
  • ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ Apple Watch ได้
  • ใช้งานชาร์ตแบตเตอรี่ได้เพียง 1 ชิ้นเท่านั้น

2. แท่นชาร์จไร้สาย Eloop W1

แท่นชาร์จไร้สาย Eloop W1

แท่นชาร์จไร้สาย Eloop W1 มีดีไซน์สีดำสวยงาม ทรงกลม ลักษณะคล้ายกระจก เป็นแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนกำลังไฟขนาด 10W มีน้ำหนัก 103 กรัม ขนาด 10.5×10.5×6 เซนติเมตร รองรับระบบ Fast Charge ด้วยเชื่อมต่อผ่าน Port USB-Type A โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเต็มเกือบๆ 2 ชั่วโมง และรองรับอุปกรณ์อย่าง Apple

รวมไปถึงอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Qi  ทำให้อุปกรณ์ที่รองรับ Qi สามารถใช้งานแท่นชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายได้ ซึ่งตัวแท่นชาร์จไร้สายจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไม่เท่ากัน เช่น อุปกรณ์จำพวก Android จ่ายไฟที่กำลัง 10W (MAX) ส่วน Apple จ่ายไฟอยู่ที่ 5-7.5W เท่านั้น

จุดเด่น
  • รองรับมาตรฐาน Qi  ทำให้อุปกรณ์ที่รองรับ Qi สามารถใช้งานแท่นชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายได้
  • รองรับระบบ Fast Charge ด้วยเชื่อมต่อผ่าน Port USB-Type A
  • ดีไซน์สวยงาม ลักษณะคล้ายกระจก มีทรงกลม น่าใช้งาน
  • ขนาดเล็กกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน
จุดควรพิจารณา
  • Port USB-TYPE A เป็นเทคโนโลยีค่อนข้างเก่า ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ช้า
  • กำลังไฟเพียง 10W ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ช้า
  • ใช้งานชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ได้เพียง 1 ชิ้น

3. แท่นชาร์จไร้สาย Xiaomi Vertical Wireless Charger

แท่นชาร์จไร้สาย Xiaomi Vertical Wireless Charger

แท่นชาร์จไร้สาย Xiaomi Vertical Wireless Charger มีดีไซน์ขนาดเล็กกะทัดรัด มีขาตั้งสำหรับตั้งสมาร์ทโฟนแบบแนวตั้ง น้ำหนัก 300 กรัม มีขนาด 9.1×9.1×10.97 เซนติเมตร รองรับระบบ Fast Charge โดยมีกำลังไฟ 20W ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เต็มไม่เกิน 1 ชั่วโมง

มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-Type C ทำให้ทุกการชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว และการจ่ายไฟเข้าสมาร์ทโฟนมีความเสถียร ช่วยยืดอายุในการใช้งานของสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถชาร์จกับสมาร์ทโฟนที่ใส่เคสได้ และรองรับมาตรฐาน Qi หากอุปกรณ์ใดที่รองรับมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi ก็สามารถใช้งานแท่นชาร์จไร้สายได้

จุดเด่น
  • มีขาตั้งแนวตั้ง ทำให้ชาร์จสมาร์ทโฟนและสามารถท่องโลก Social หรืออ่านข้อมูลข่าวสาร แชทกับเพื่อนได้อีกด้วย
  • รองรับระบบ Fast Charge มีกำลังไฟ 20W ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เต็มไม่เกิน 1 ชั่วโมง
  • Port USB-Type C ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว และการจ่ายไฟเข้าสมาร์ทโฟนมีความเสถียร
  • รองรับมาตรฐาน Qi ใช้งานกับอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi
  • ขนาดเล็ก สามารถนำพกพาไปได้ง่าย
จุดควรพิจารณา
  • น้ำหนักแท่นชาร์จไร้สายค่อนข้างเยอะ หากนำพกพาไปข้างนอก ควรคำนึงเรื่องน้ำหนักด้วย
  • ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประเภท Smart Watch ได้
  • ใช้งานชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ได้เพียง 1 ชิ้น

4. แท่นชาร์จไร้สาย BELKIN F7U083

แท่นชาร์จไร้สาย BELKIN F7U083

แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี อันดับรองสุดท้ายกับ BELKIN F7U083 มีดีไซน์ทรงกลม ออกแบบมาให้ชาร์จได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยตั้งสมาร์ทโฟนให้เข้ากับแท่นชาร์จไร้สาย พร้อมให้คุณได้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้อีกเช่นกัน อาทิ เล่นเกม, Social Media หรือแชทพูดคุยกับเพื่อนๆ เป็นต้น

มีน้ำหนัก 500 กรัม ขนาด 12.8×10.1×15.9 เซนติเมตร ซึ่งรองรับทุกอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi โดยมีกำลังไฟ 10W ใช้เวลาชาร์จแบตเตอเต็มเกือบๆ 2 ชั่วโมง มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความร้อนควบคุมอุณหภูมิ เพื่อการชาร์จที่ปลอดภัย ทำให้ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และฟังก์ชั่นโทรศัพท์ใช้งานได้ปกติไม่หยุดชะงัก

จุดเด่น
  • ดีไซน์ทรงกลม ออกแบบมาให้ชาร์จได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
  • เซ็นเซอร์ความร้อนควบคุมอุณหภูมิเพื่อการชาร์จที่ปลอดภัย
  • ชาร์จแบตเตอรี่พร้อมเล่น Multi-Function ต่างๆได้
  • รองรับทุกอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi
จุดควรพิจารณา
  • แท่นชาร์จไร้สายขนาดค่อนข้างใหญ่และน้ำหนักเยอะ ไม่สามารถพกพาได้สะดวก
  • กำลังไฟ 10W น้อยจนเกินไป ไม่เหมาะสมกับขนาดแท่นชาร์จไร้สาย
  • ไม่สามารถชาร์จอุปกรณ์ Smart Watch ได้ และไม่รองรับระบบ Fast Charge
  • ใช้ชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ได้ 1 ชิ้นเท่านั้น

5. แท่นชาร์จไร้สาย OPPO AirVOOC

แท่นชาร์จไร้สาย OPPO AirVOOC

มาถึงอันดับสุดท้ายในหัวข้อ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี OPPO AirVOOC มีดีไซน์รูปทรงแนวตั้ง เหมาะสำหรับใช้งานสมาร์ทโฟนแบบแนวตั้ง เพื่อใช้งานชาร์จแบตเตอรี่และพร้อมเล่น Application ต่างๆได้เช่นกัน ซึ่งมีน้ำหนัก 460 กรัม รองรับการ Fast Charge ด้วยกำลังไฟ 45W

โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเต็ม 45 นาทีเท่านั้น มาพร้อมกับระบบระบายอากาศใต้แท่นชาร์จ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิแท่นชาร์จไร้สายร้อนจนเกินไป โดยมีพัดลมเสียงเบา ทำหน้าที่ลดอุณหภูมิไม่ให้เกิน 39 องศา เพื่อการชาร์จที่ปลอดภัย ทำให้ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้รองรับมาตรฐาน Qi ใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi 

จุดเด่น
  • มีดีไซน์รูปทรงแนวตั้ง เหมาะสำหรับใช้งานสมาร์ทโฟนแบบแนวตั้ง
  • เมื่อชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมเล่น Application ต่างๆ เช่นดูหนัง ฟังเพลง
  • รองรับมาตรฐาน Qi ใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi 
  • มีพัดลมระบายอากาศใต้แท่นชาร์จไร้สาย ไม่ให้อุณหภูมิเกิน 39 องศา
  • ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเต็ม 45 นาทีเท่านั้น
  • รองรับการ Fast Charge ด้วยกำลังไฟ 45W
จุดควรพิจารณา
  • มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ และไม่ระบุขนาดตัวเครื่อง ทำให้จัดสรรพื้นที่ในการใช้งานได้ยาก
  • เนื่องจากมีกำลังไฟ 45W ควรระมัดระวังเรื่องอุณหภูมิเครื่องสมาร์ทโฟนร้อนจนเกินไป
  • ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ Smart Watch ได้
  • ใช้ชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ได้ 1 ชิ้นเท่านั้น

การใช้งาน แท่นชาร์จไร้สาย มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

ปัจจุบันการใช้งาน แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะให้ความสะดวก และสามารถจัดสรรพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้งานไม่ต้องเสียบสายเข้ากับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับมาตรฐาน Qi ทำให้พอร์ตการเชื่อมต่อมีอายุการใช้งานได้นานขึ้น แต่ทั้งนี้การใช้งานแท่นชาร์จไร้สายก็มีข้อดีและข้อเสียดังต่อไปนี้

แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี น่าใช้

ข้อดีในการใช้งานแท่นชาร์จไร้สาย

  • อำนวยความสะดวกในการใช้งาน เพราะไม่ต้องถอดสาย ลดการใช้งาน Port เชื่อมต่อบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสมาร์ทโฟน เพื่อยืดอายุการใช้งานของ Port เชื่อมต่อให้ใช้งานได้นานขึ้น
  • ส่วนใหญ่แท่นชาร์จไร้สายจะมีขาตั้ง หรือแม่เหล็ก ทำให้คุณใช้งานอุปกรณ์พร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ได้
  • ป้องกันกระแสไฟกระชากได้กว่าการใช้งานชาร์จแบบมีสาย และสามารถใช้งานได้หลายอุปกรณ์
  • แท่นชาร์จมีหลากหลายรูปแบบ และหลายรูปทรง ทำให้คุณเลือกแท่นชาร์จไร้สายได้ตามที่ต้องการ

ข้อเสียในการใช้งานแท่นชาร์จไร้สาย

  • ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มนั้น ใช้เวลานานกว่ารูปแบบการชาร์จแบบมีสาย เพราะกำลังไฟที่แตกต่างกัน ปกติแล้วแบบมีสายจะใช้ Adapter เป็นตัวส่งกำลังไฟ โดยมีกำลังไฟมากกว่า 50W ซึ่งแท่นชาร์จไร้สายมีกำลังไฟเพียง 10-45W เท่านั้นเอง
  • แท่นชาร์จไร้สาย พกพาได้ยากกว่าประเภทชาร์จมีสาย เพราะบางยี่ห้อมีขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างหนัก
  • หากต้องการระบบ Fast Charge ภายในตัว และ Port เชื่อมต่อแบบ USB-TYPE C จะมีราคาค่อนข้างสูง

การใช้งานแท่นชาร์จไร้สาย หรือ Wireless Charger ทำให้แบตเสื่อมจริงหรือไม่?

แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม

หลายๆคนคงมีความเชื่อว่า “การใช้งานชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม” ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะแบตเตอรี่เสื่อมเกิดจาก “พฤติกรรมการใช้งาน” โดยเกิดจากการชาร์จแบตเตอรี่เป็นเวลานาน หรือใช้อุปกรณ์จนแบตเตอรี่ต่ำจนเกินไป และนำไปทำการชาร์จแบตเตอรี่และเกิดความร้อนจากการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเราขอแนะนำการใช้งานเพื่อถนอมแบตเตอรี่ดังนี้

  • การชาร์จบ่อยครั้ง ก็ถือว่าเป็นการลดทอนอายุในการใช้แบตเตอรี่เช่นกัน เพราะแบตเตอรี่ภายในอุปกรณ์จะมีรอบจำนวนการชาร์จแตกต่างกันออกไปเช่น iPhone 500 รอบ เป็นต้น
  • ไม่ควรใช้งานแบตเตอรี่จนเหลือ 0% ทางที่ดีควรชาร์จแบตเตอรี่ไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อถนอมยืดอายุการใช้งานได้มากกว่าใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง
  • หากแบตเตอรี่คุณต่ำกว่า 50% อุปกรณ์จะมีความร้อน และเมื่อนำไปชาร์จยิ่งทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เร็วมากยิ่งขึ้น
  • ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ข้ามคืน เพราะแบตเตอรี่ต้องเก็บประจุไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้แบตเสื่อมไวยิ่งขึ้น

วิธีเลือกซื้อ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี น่าสนใจ

1. เลือกจากลักษณะการนำไปใช้งาน

สิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี คือ เลือกจากลักษณะการใช้งานของคุณ เพราะแท่นชาร์จไร้สายมีขนาด น้ำหนัก ที่แตกต่างกัน ซึ่งบางคนต้องการแท่นชาร์จที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ไม่เกิน 50 กรัม เพราะสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ แทนการชาร์จแบบมีสายได้ อีกทั้งแท่นชาร์จไร้สาย เหมาะสำหรับจัดสรรพื้นที่ ประหยัดช่องปลั๊กพ่วงได้อีกด้วย

2. จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

โดยปกติแท่นชาร์จไร้สายมักรองรับอุปกรณ์ในการชาร์จได้เพียง 1 ชิ้น หรือ 1 เครื่อง แต่เริ่มมีการพัฒนาตัวแท่นชาร์จให้มีขนาดใหญ่ และฐานที่ชาร์จกว้างมากขึ้น เพื่อรองรับอุปกรณ์ในการชาร์จพร้อมกันได้หลายชิ้น ซึ่งหากต้องการความเสถียรในการชาร์จ เราขอแนะนำแท่นชาร์จไร้สายที่ใช้งานได้ 1 ชิ้นก่อน เพราะจ่ายไฟได้นิ่งและอุณหภูมิของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วย

3. เลือกจากกระแสกำลังไฟ

ความสามารถในการจ่ายไฟของแท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี มีความแตกต่างกัน ซึ่งกำลังไฟส่งผลต่อเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม รวมไปถึงความเสถียรที่จ่ายไฟเข้าสู่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากมีกำลังไฟที่เยอะจนเกินไป อาจทำให้ตัวอุปกรณ์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป โดยเราขอแนะนำ แท่นชาร์จไร้สายที่มีกำลังไฟไม่เกิน 25W ถือว่าเป็นกำลังไฟที่เหมาะสม ใช้เวลาในการชาร์จเต็มใกล้เคียงกับชาร์จแบบมีสาย

4. รองรับมาตรฐาน Qi

การเลือกแท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ต้องรองรับมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึงเทคโนโลยีที่สถาบันอิสระด้านพลังงานไร้สายอย่าง WPC หรือ Wireless Power Consortium ได้สร้างขึ้น เพื่อใช้ในการส่งผ่านพลังงานกระแสไฟฟ้าแบบพลังงานต่ำ ภายในแท่นชาร์จไร้สายจะมีแผ่นขดลวด และมีสนามพลังงานแม่เหล็ก

ทำให้เกิดการชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือสมาร์ทโฟนก็ต้องรองรับการชาร์จไร้สาย Qi อีกด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ดังๆอย่าง Apple, Samsung, Oppo, Xiaomi เป็นต้น สามารถตรวจสอบรายการอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi 

บทสรุปเลือกซื้อ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 คุณภาพดี ใช้งานสะดวก

สำหรับการเลือกซื้อ แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เราขอแนะนำ Apple MagSafe Charger เพราะมีดีไซน์ขนาดเล็กกะทัดรัด ดูเรียบง่าย ขนาด 8.2×8.2×1.8 เซนติเมตร แต่แฝงไปด้วยประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม น้ำหนักเบาเพียง 45 กรัม เป็นระบบ Fast Charge โดยมีกำลังไฟ 15W ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเต็มประมาณ 1-2 ชั่วโมง

ซึ่งตัว MagSafe มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก ยึดติดกับหลังสมาร์ทโฟนของคุณหรือด้านหลังเคส ไม่ก่อให้ความร้อน เป็นการถนอมแบตเตอรี่อีกด้วย ทั้งนี้ไม่ได้ใช้งานเพียงแค่แบรนด์ Apple เท่านั้น แต่ยังรองรับอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน Qi แต่ถ้าเป็น iPhone 12 ขึ้นไป Apple MagSafe แม่เหล็กติดแน่น ไม่หลุดอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นแท่นชาร์จไร้สายที่คุณภาพดี ปี 2024 แค่วางอุปกรณ์ลงไปก็ทำการชาร์จทันที พกพาง่าย ใช้งานสะดวก

Similar Posts