ความสวยความงาม เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างปรารถนา ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ เราต่างรับรู้เข้าใจตรงกันว่าความงามนั้นมักจะควบคู่ไปกับความอ่อนเยาว์ แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น ความอ่อนเยาว์มักจะค่อย ๆ เลือนหายไปตามอายุ ทิ้งไว้เพียงแต่ริ้วรอย รอยตีนกาบนผิวหน้า อันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น ความชุ่มชื้นในผิวจึงลดลง และผิวไม่สามารถสร้างคอลลาเจนได้ดีเหมือนแต่ก่อน แล้วครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี ล่ะ ที่จะเป็นตัวช่วยให้กับสาวๆได้
เราสามารถทำได้เพื่อชะลอความเหี่ยวย่นบนใบหน้า คือการดูแลและป้องกันปัญหาริ้วรอยไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การกินอาหารที่มีประโยชน์ การดูแลรักษาความสะอาด และบำรุงผิวอยู่อย่างสม่ำเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ในท้องตลาดเกี่ยวกับความงามในปัจจุบันจะมีพวก สกินแคร์ และ ครีมลดริ้วรอย มากมายวางขาย แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์ไหนใช้แล้วเห็นผลได้จริงโดยไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
ครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี
- ครีมลดริ้วรอย Jungsaemmool Essential Mool Cream
- ครีมลดริ้วรอย Innisfree Perfect 9 Repair Cream
- ครีมลดริ้วรอย Olay Regenerist Anti-Aging Day+Night Micro-Sculpting Cream
- ครีมลดริ้วรอย L’OREAL PARIS REVITALIFT DAY & NIGHT CREAM
- ครีมลดริ้วรอย Australian Lanolin Oil เดย์ครีม + ไนท์ครีม
คุณสมบัติของครีมลดริ้วรอยที่ดี
จริงอยู่ ที่ว่าทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยเข้าสักวันหนึ่ง แต่วิธีที่จะชะลอและป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ คือการใช้ครีมลดริ้วรอย ที่ไม่ได้มีส่วนช่วยในการดูแลผิวในเรื่องของริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและให้ผิวที่ดูสุขภาพดีด้วย แล้วคุณสมบัติของครีมลดริ้วรอยที่ดี คืออะไรล่ะ? วันนี้เรามีคำตอบ
ครีมลดริ้วรอย ที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ
ก่อนอื่นเลยนั้น เราควรพิจารณาที่ส่วนผสมของครีมลดริ้วรอย โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และมีส่วนผสมที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่ใส่สารอันตรายที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง แต่ควรพิจารณาส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ในการดูแลผิวอย่างตรงจุดในเรื่องของริ้วรอยต่าง ๆ โดยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในการต่อต้านริ้วรอย มีดังนี้
- เรตินอยด์ เป็นสารประกอบวิตามินเอ เช่น เรตินอล และกรดเรติโนอิก ส่วนผสมเหล่านี้ถูกนำมาใช้อย่างยาวนานเพื่อช่วยในการซ่อมแซมผิวที่ถูกแสงแดดทำร้าย และมีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผล
- วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ จึงทำให้แก่ช้า ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดดและลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี แต่ควรระมัดระวังและจัดเก็บวิตามินซีในภาชนะที่ปิดทึบ ไม่ให้สัมผัสกับแสง เพื่อคงประสิทธิภาพของสารบำรุงผิว
- AHA ได้แก่ ไกลโคลิก กรดซิตริก และแลคติค สามารถนำใช้เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อใช้อย่างเป็นประจำ จะช่วยเตรียมผิวของคุณให้พร้อมดูดซึมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ลงสู่ผิวได้ดีขึ้น และจะไปช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่เรียบเนียนและมีเม็ดสีที่สม่ำเสมอมากขึ้น
- โคเอนไซม์คิวเทน เป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาและปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด
- เปปไทด์ เป็นโมเลกุลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เปปไทด์บางชนิดสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยดูแลผิวในเรื่องของริ้วรอย และความเรียบเนียนของผิว
- ไนอะซินาไมด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิวหนังและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวให้ดูเด้งอยู่เสมอ
ครีมลดริ้วรอย ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นลงสู่ผิว แต่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
ผิวที่เริ่มมีริ้วรอย คือผิวที่ขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน จึงทำให้เซลล์ใต้ผิวหนังเหี่ยวและไม่เต่งตึง การเติมความชุ่มชื้นลงสู่ผิว จึงถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการทำงานของครีมลดริ้วรอย ที่ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น เซลล์ใต้ผิวหนังเต่งตึง ส่งผลให้ผิวภายนอกดูอิ่มและดูอ่อนเยาว์
แต่ครีมบำรุงผิวหลาย ๆ ตัว จำเป็นต้องใช้น้ำมันเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นลงสู่ผิว แต่น้ำมันอาจส่งผลให้ผิวเกิดการอุดตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาว ๆ ที่มีผิวมันหรือิวเป็นสิวง่าย ครีมลดริ้วรอยที่ดีควรใช้สารเติมเต็มความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพ และช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นลงสู่ผิว โดยไม่ก่อให้เกิดอาการอุดตัน โดยสารที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ที่ทางบริษัทผลิตสกินแคร์ส่วนใหญ่ต่างนิยมใช้ มีดังนี้
- กรดไฮยาลูโรนิค เป็นสารที่สามารถซึมซาบและพบได้ในชั้นผิว ทั้งชั้นผิวชั้นนอกและชั้นใน มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี จึงช่วยให้ผิวเด้ง ชุ่มชื้น ดูเรียบเนียน เปรียบเสมือนผิวเด็ก
- อีลาสติน เส้นใยโครงสร้างที่บริเวณชั้นผิวหนังแท้ ที่มีหน้าที่ในการจัดเรียงกล้ามเนื้อและผิวหนังให้เรียบเนียนเป็นระเบียบ และช่วยให้ผิวกลับคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากผิวขาดอีลาสติน ก็จะทำให้ผิวไม่เด้ง ไม่กลับคืนสภาพ เป็นสัญญาณของผิวที่ขาดอีลาสติน และดูมีอายุ
- คอลลาเจน สารสำคัญยอดฮิตที่มีหน้าที่ในการคงความยืดหยุ่นของชั้นผิว ช่วยให้ผิวนุ่มเด้ง และดูอ่อนเยาว์ ถูกใช้เป็นส่วนประกอบในครีมบำรุงและอาหารเสริมมากมาย
วิธีเลือกซื้อ ครีมลดริ้วรอย ให้เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหรือครีมลดริ้วรอยให้เหมาะกับสภาพผิว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้การดูแลผิวนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสภาพผิวที่มีความแตกต่างกัน ย่อมต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน เรามาดูกันกว่า ว่าเราจะสามารถเลือกซื้อครีมลดริ้วรอยที่เหมาะกับสภาพผิวของเราได้อย่างไรบ้าง
สาวผิวมัน ผิวผสม
สาว ๆ ที่มีผิวมันหรือผิวผสม มักจะมีความมันบนผิวหน้าเนื่องจากการผลิตน้ำมันใตเชั้นผิวหนังที่มากจนเกินไป ดังนั้น จึงแนะนำให้เลือกซื้อครีมบำรุงผิวและครีมลดริ้วรอยที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา อย่างเช่นเนื้อโลชั่น หรือเนื้อเจล เพราะจะไม่ทำให้หน้า หนักหน้า หรือเกิดการอุดตัน นอกจากนี้ ยังอาจลองเลือกจากส่วนประกอบ อย่างสารเรตินอลหรือวิตามินเอ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระชับรูขุมขน และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
สาวผิวแห้ง
สาว ๆ ผิวแห้ง มักต้องการการบำรุงและการเติมความชุ่มชื้นขั้นสุด สาว ๆ ที่มีผิวประเภทนี้ มักเสี่ยงที่จะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าสภาพผิวประเภทอื่น จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อที่ค่อนข้างเข้มข้น ลองเลือกจากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ที่ระบุว่ามีกรดไฮยาลูโรนิคเป็นส่วนผสม เพราะจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน
สาวผิวบอบบาง แพ้ง่าย
สาว ๆ ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย อาจจะประสบปัญหาในการเลือกซื้อครีมบำรุงผิว และเลือกซื้อได้ยากกว่าสาว ๆ ที่มีผิวปกติทั่วไป เพราะผิวที่แพ้ง่าย มักจะเกิดอาการระคายเคือง และเกิดปฏิกิริยาต่อสารและสวนผสมต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์ จึงควรเลือกซื้อครีมลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว แนะนำให้หลีกเลี่ยงสารประเภทน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ และสีสังเคราะห์ เพราะสารเหล่านี้มักจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย
ใช้ครีมลดริ้วรอยอย่างไรให้เห็นผล
หากต้องการใช้ครีมลดริ้วรอยได้อย่างเห็นผล สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักถึง คือ ความสม่ำเสมอในการใช้ผลิตภัณฑ์ บางคนใช้ไปได้ 4-5 วัน แล้วยังไม่เห็นผล ก็ยอมแพ้ถอดใจไม่ใช้ต่อ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว เราควรใช้ครีมบำรุงผิวทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อการเห็นผลในระยะเริ่มแรก
แต่การทาครีมอย่างเดียวนั้น อาจจะไม่เพียงพอเสมอไป ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวและลดริ้วรอยต่าง ๆ มักจะผลิตสินค้าออกมาเป็นเซ็ต เพื่อการดูแลครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม ครีมกลางวัน-กลางคืน หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในไลน์เดียวกัน
ขั้นตอนที่ 1 ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด
การล้างหน้า ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนแรก ในการดูแลผิวให้ห่างไกลจากริ้วรอย เพราะผิวที่สะอาด จะช่วยลดการอุดตัน ลดการเกิดริ้วรอย และช่วยให้ผิวพร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่
ก่อนล้างหน้า ควรเช็ดทำความสะอาดผิวให้หมดจดด้วยคลีนซิ่ง ซึ่งจะช่วยขจัดคราบฝุ่น เหงื่อไคล สิ่งสกปรกต่าง ๆ และคราบครีมกันแดดและเครื่องสำอางออกจากรูขุมขน จากนั้นตามด้วยขั้นตอนการล้างหน้าปกติ
ขั้นตอนที่ 2 เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์
การใช้โทนเนอร์จะช่วยเป็นการเช็ดทำความสะอาดผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่การล้างหน้าไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังเป็นการเตรียมผิวให้ผิวพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
การเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์นั้น สาว ๆ ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีความอ่อนโยน หากเป็นไปได้ ให้เลือกโทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพื่อป้องกันผิวเกิดอาการระคายเคือง
ขั้นตอนที่ 3 ลงพรีเซรั่มหรือเซรั่มบำรุงผิว
บำรุงผิวอย่างล้ำลึก ด้วยเซรั่ม ที่จะซึมซาบลงไปถึงผิวชั้นใน เซรั่มส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อเหลว ซึมง่าย จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวมันและผิวผสม บางคนอาจจะหยุดอยู่ที่ขั้นตอนนี้ แต่หากใครผิวแห้ง เราแนะนำให้ไปที่ขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 4 ทาครีมลดริ้วรอย
การทาครีมหลังการลงเซรั่ม จะเป็นการล็อคทุกผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในชั้นผิว และเป็นการช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นลงสู่ผิว ให้ผิวไม่แห้งกร้าน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ หากสาว ๆ เป็นผู้ที่มีผิวแห้ง หรือผิวที่มีริ้วรอยแห่งวัย
ขั้นตอนที่ 5 อย่ามองข้ามอายครีม
อายครีมหรือครีมทารอบดวงตา เป็นอีกหนึ่งครีมบำรุงที่ช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในอายครีมมักจะมีส่วนผสมสุดเข้มข้น และถูกคิดค้นมาเพื่อใช้กับผิวในบริเวณที่มีความบอบบาง อย่างเช่นผิวบริเวณรอบดวงตา
รีวิว 5 ครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดีที่สุด
เมื่อคุณได้ทำความรู้จักกับ ครีมลดริ้วรอย วิธีการเลือกซื้อและการใช้ครีมลดริ้วรอยอย่างเห็นผลแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมาดูกันว่าครีมลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดี ที่สามารถใช้ได้อย่างเห็นผลจริง จะมียี่ห้อไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยดีกว่า
1. ครีมลดริ้วรอย Jungsaemmool Essential Mool Cream
ขนาด: 50 มิลลิลิตร
เนื้อสัมผัส: ครีมบางเบา
ครีมบำรุงผิวเนื้อลื่น บางเบา มีคุณสมบัติในการช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นลงสู่ผิว ให้ผิวดูฉ่ำ อิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการบำรุงให้กระจ่างใส เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ มอบเอฟเฟ็กต์ผิวฉ่ำน้ำ สไตล์ Glass skin เนื้อผลิตภัณฑ์ผลิตจากเทคโนโลยี Water-Light Fixer ที่ช่วยโอบอุ้มความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น พร้อมเฟิร์มผิวให้ดูแน่น กระชับ ดูอ่อนเยาว์
จุดเด่น
- มอบความชุ่มชื้นลงสู่ผิวได้ยาวนาน
- ให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส
- ให้ผิวเฟิร์ม ดูเด็กลง
2. ครีมลดริ้วรอย Innisfree Perfect 9 Repair Cream
ขนาด: 60 มิลลิลิตร
เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น
ครีมลดริ้วรอบ บำรุงผิวยามกลางคืน จากแบรนด์สกินแคร์บำรุงผิวจากเกาหลีที่เป็นมิตรกับทั้งผิวและสิ่งแวดล้อม ตัวครีมอุดมไปด้วยสารบำรุงผิวที่สกัดมาจากเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ จึงมีคุณสมบัติในการช่วยเติมความชุ่มชื้น และรับมือกับสัญญาณปัญหาผิวและริ้วรอยก่อนวัย และช่วยบำรุงปรนนิบัติผิวยาวค่ำคืน ให้ผิวแลดูเรียบเนียน กระจ่างใส อิ่มน้ำตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า
จุดเด่น
- เนื้อครีมเข้มข้น เติมความชุ่มชื้นได้ดี
- ให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานตลอดทั้งคืน
- ส่วนผสมจากธรรมชาติ
3. ครีมลดริ้วรอย Olay Regenerist Anti-Aging Day+Night Micro-Sculpting Cream
ขนาด: 50 กรัม / กระปุก
เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น
ครีมลดริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่นิยมทั้งในหมู่สาวไทยและต่างประเทศ มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีสวนช่วยในการกระชับรูขุมขน ให้ผิวกระจ่างใส สุขภาพดี ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวครีมอุดมไปด้วย Amino-peptide complex ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดร่องลึกของผิว ให้ผิวดูกระชับ อ่อนเยาว์ขึ้น
จุดเด่น
- คงความชุ่มชื้นในผิวได้ยาวนาน
- ปรับผิวอ่อนเยาว์ กระจ่างใส
- ลดริ้วรอยร่องลึกและรูขุมขนได้ดี
4. ครีมลดริ้วรอย L’OREAL PARIS REVITALIFT DAY & NIGHT CREAM
ขนาด: 50 มิลลิลิตร / กระปุก
เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น
ครีมลดริ้วรอยสุดเข้มข้น ที่มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมหลักของโปรเรตินอลเอ จะช่วยดูแลผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และยังช่วยยกกระชับบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ร่องแก้มหรือบริเวณรอบริมฝีปากได้เป็นอย่างดี ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งแบบเดย์ครีม และไนท์ครีมเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
จุดเด่น
- ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ
- เติมเต็มผิวให้เรียบเนียน กระชับ
5. ครีมลดริ้วรอย Australian Lanolin Oil เดย์ครีม + ไนท์ครีม
ขนาด: 100 กรัม / กระปุก
เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น
ครีมลดริ้วรอย ที่ดูแลผิว มีส่วนช่วยในการปกป้งผิวและน้ำหล่อเลี้ยงในชั้นผิวให้มีความสมดุล ให้ผิวอ่อนนุ่ม น่าสัมผัส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูความแข็งแรงให้แก่ผิว ให้ผิวดูกระชับ ยืดหยุ่น มีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันและน้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และดูแลผิวให้ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย เนื้อสัมผัสมีความเข้มข้น แต่ซึมซาบไว ไม่มีส่วนผสมของพาราเบนและมิเนอรัลออย
จุดเด่น
- ปกป้องผิวและน้ำหล่อเลี้ยงในชั้นผิวให้มีความสมดุล
- ฟื้นฟูความแข็งแรงให้แก่ผิว ให้ผิวดูกระชับ ยืดหยุ่น
- ไม่มีส่วนผสมของพาราเบนและมิเนอรัลออย
บทสรุป ครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี
เรื่องริ้วรอยแห่งวัยเป็นปัญหาผิวที่สาว ๆ ต่างกังวลกันมากเป็นพิเศษ ดังนั้น การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผล จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การดูแลผิวจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาจใช้ได้ไม่เห็นผล หากไม่ทำไปควบคู่กับการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การดื่มน้ำมาก ๆ และการกินอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ หากทำได้ รับรองว่าสาว ๆ จะดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กได้มาก ๆ เลยทีเดียว
สำหรับ ครีมลดริ้วรอยที่ไม่ควรพลาดในปีนี้ เราขอยกให้ ครีมลดริ้วรอย L’OREAL PARIS REVITALIFT DAY & NIGHT CREAM นอกจากจะช่วยยกกระชับผิวให้กับสาวๆแล้วยังบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส พร้อมทั้งราคายังน่าลงทุนอีกด้วย