รีวิว 10 Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี ความจุสูง รับ-ส่งข้อมูลได้รวดเร็ว และใช้งานได้ดีกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกตัว ฉบับปี 2024

Micro SD Card คือ อุปกรณ์เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบทั้งหมด ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือแม้แต่กล้องถ่ายภาพและกล้องวงจรปิด ทำให้เป็นหนึ่งในตัวช่วยพื้นฐาน ที่มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานอย่างมาก โดยจากสาเหตุนี้จึงทำให้มีผู้คนมากมาย ที่มองหาและตั้งคำถามว่าควรเลือกซื้อ Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี มาไว้สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่ ซึ่งก็คือสิ่งที่เราจะแนะนำให้กับคุณในวันนี้ด้วยเช่นกัน

10 Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี

• Micro SD Card SanDisk Extreme SDSQXAV-1T00-GN6MN
• Micro SD Card Lexar 128GB Professional
• Micro SD Card SanDisk Ultra SDSQUAC-256G-GN6MN
• Micro SD Card Kingston High Endurance SDCE/32GB
• Micro SD Card Samsung Evo Plus 64 GB
• Micro SD Card Sandisk Ultra SDSQUNR-128G-GN6MN
• Micro SD Card 10X 32 GB
• Micro SD Card Sandisk Ultra SDSQUNR-032G-GN3MN
• Micro SD Card USAMS 32 GB
• Micro SD Card ROBOT 32 GB

Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี 2024

Micro SD Card มีให้เราเลือกซื้อได้มากมาย แต่สำหรับรุ่นที่น่าสนใจ คือ 10 สินค้าของเราดังต่อไปนี้

1. SanDisk Extreme SDSQXAV-1T00-GN6MN

แบรนด์และรุ่นสินค้า	SanDisk Extreme SDSQXAV-1T00-GN6MN
ประเภท	SDXC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	1 TB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	190 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	130 MB/s
คลาสแอปพลิเคชัน	A2

Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี รุ่นแรกเป็น Micro SD Card รุ่นขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมความจุ 1 TB ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีสำหรับการใช้งานระยะยาว สำหรับคนที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก เช่น ไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ หรือข้อมูลการทำงานอื่น ๆ และสิ่งที่ช่วยการันตีความสามารถในการเล่นวิดีโอได้มากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นการรับรองมาตรฐานการเล่นวิดีโอที่ระดับ V30 นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ คือ

การรองรับคลาสความเร็ว A2 สำหรับแอปพลิเคชัน และอ่านหรือเขียนข้อมูลได้ที่ 190 และ 139 MB2s ตามลำดับ ส่วนการแก้ไขและจัดการข้อมูลต่าง ๆ จะสามารถทำได้สะดวกสบาย ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน Memory Zone บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ดังนั้น หากต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับการใช้เพื่อถ่าย Vlog หรือบันทึกวิดีโอในการทำงาน รุ่นนี้ก็คือตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

2. Lexar 128GB Professional

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Lexar 128GB Professional
ประเภท	SDXC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	128 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	160 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	120 MB/s
คลาสแอปพลิเคชัน	A2

Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี ลำดับต่อมา Lexar 128GB Professional เป็นอีกหนึ่งการ์ดเก็บข้อมูล ที่มีคุณสมบัติในการใช้งานด้านวิดีโอที่น่าสนใจ อย่างการรองรับมาตรฐาน V30 ที่ทำความเร็วในการอ่านข้อมูลได้ 160 MB/s และเขียนข้อมูลได้ที่ 120 MB/s ภายใต้คลาสของความเร็วระดับ A2 ซึ่งในภาพรวมของการใช้งาน จะเหมาะทั้งสำหรับคนที่มองหาพื้นที่ ในการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมให้กับสมาร์ทโฟน และการใช้เพื่อทำงานด้านวิดีโอขั้นพื้นฐาน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้บันทึกวิดีโอของกล้องวงจรปิดความละเอียดสูง หรือการใช้ถ่ายทำรายการในการทำงานต่าง ๆ การ์ดตัวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีด้วยกันทั้งสิ้น

3. SanDisk Ultra SDSQUAC-256G-GN6MN

แบรนด์และรุ่นสินค้า	SanDisk Ultra SDSQUAC-256G-GN6MN
ประเภท	SDXC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	256 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	150 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	–
คลาสแอปพลิเคชัน	A1

SanDisk Ultra SDSQUAC-256G-GN6MN เป็น Micro SD Card แบบ SDXC ที่ตอบโจทย์การใช้งานระยะยาวในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี จากการรองรับความจุในการเก็บข้อมูลได้ที่ระดับ 256 GB ซึ่งเหมาะสมทั้งสำหรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และกล้องถ่ายภาพหรือวิดีโอ โดยสนับสนุนความคุ้มค่าให้กับเงินที่คุณเสียไปได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการแถมระยะเวลาการรับประกันถึง 10 ปี ที่ถือว่ายาวนานเป็นอย่างมาก

สำหรับสิ่งที่ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของการ์ดตัวนี้ คือ การทนทานต่อการใช้งานได้สูง โดยเฉพาะเรื่องของระดับอุณหภูมิของการทำงาน ที่ระหว่างการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลัก จะรองรับได้ตั้งแต่ -25 ถึง 85 องศาเซลเซียส และสำหรับการจัดเก็บก็ยังทำได้ตั้งแต่ -40 ถึง 85 องศาเซลเซียส แบบไม่เกิดความเสียหายเลยแม้แต่น้อย

4. Kingston High Endurance SDCE/32GB

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Kingston High Endurance SDCE/32GB
ประเภท	SDHC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	32 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	95 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	45 MB/s
คลาสแอปพลิเคชัน	A1

Micro SD Card ตัวนี้ค่อนข้างได้รับความนิยม สำหรับการติดตั้งและใช้งานกับกล้องติดรถยนต์ และกล้องวงจรปิดนิรภัยระดับมาตรฐาน เพราะถึงแม้จะมีขนาดความจุเพียง 32 GB แต่สามารถรองรับการบันทึกวิดีโอระหว่างการเดินทาง ได้อย่างยาวนานถึง 5,000 ชั่วโมง โดยจากการถูกออกแบบมาอย่างมีคุณภาพ จึงทำให้สามารถทนทานต่อช่วงอุณหภูมิ ในระหว่างการติดตั้งใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่น ๆ ในระดับ -25 ถึง 85 องศาเซลเซียส ที่สำคัญเพื่อสนับสนุนความคุ้มค่าให้มากยิ่งขึ้น ก็ยังมีการรับประกันสินค้ามาให้ถึง 2 ปีอีกด้วย

5. Samsung Evo Plus 64 GB

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Samsung Evo Plus 64 GB
ประเภท	SDXC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	63 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	130 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	–
คลาสแอปพลิเคชัน	A1

Samsung Evo Plus 64 GB เป็นตัวเลือกของ Micro SD Card จาก Samsung ที่เหมาะสำหรับการใช้งานพื้นฐาน ด้วยความจุขนาด 64 GB และการรับรองมาตรฐานการใช้งานอื่น ๆ เช่น คลาสความเร็วระดับ A1 และการจัดเก็บวิดีโอที่ V10 ทำให้ค่อนข้างได้รับความนิยม สำหรับคนที่กำลังใช้งานสมาร์ทโฟน ที่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลเล็กน้อย หรือใช้การ์ดเพื่อนำเข้าและส่งออกข้อมูลจากสมาร์ทโฟนโดยตรง เนื่องจากสามารถใช้ในการบันทึกข้อมูลลักษณะภาพถ่าย, วิดีโอ, เพลง และไฟล์ขนาดทั่วไปอื่น ๆ ได้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่มาพร้อมการรับประกันในระยะยาวยาวนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว

6. Sandisk Ultra SDSQUNR-128G-GN6MN

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Sandisk Ultra SDSQUNR-128G-GN6MN
ประเภท	SDXC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	128 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	100 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	–
คลาสแอปพลิเคชัน	–

Sandisk Ultra SDSQUNR-128G-GN6MN เป็นการ์ดจัดเก็บข้อมูลรุ่นมาตรฐานอีกหนึ่งตัว ที่สามารถใช้งานทั่วไปได้เพียงพอ ภายใต้ขนาดความจุ 128 GB และการรับ-ส่งข้อมูลระดับ 100 MB/s โดยที่ความน่าสนใจของการ์ดรุ่นนี้ ก็คือการที่ทนทานต่อระดับอุณหภูมิได้สูง ตั้งแต่ -25 ถึง 85 องศาเซลเซียส ทำให้ใช้งานได้อย่างเข้ากันกับสมาร์ทโฟนและกล้องวิดีโอ ที่มักจะมีโอกาสเกิดความร้อนได้มากเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกันกับอุปกรณ์หลักประเภทอื่น ๆ ส่วนการการันตีการใช้งานของรุ่นนี้ ทาง SanDisk ก็ถือว่ามีการออกแบบมาอย่างคุ้มค่า ด้วยการรับประกันที่ยาวนานถึง 7 ปี ซึ่งก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าตัวนี้ขึ้นมาได้ดีอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

7. 10X 32 GB

แบรนด์และรุ่นสินค้า	10X 32 GB
ประเภท	SDHC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	32 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	65 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	–
คลาสแอปพลิเคชัน	–

หากคุณกำลังมีคำถามว่าควรเลือกใช้งาน Micro SD Card รุ่นไหนดี จึงจะเหมาะกับกล้องวงจรปิดหรือกล้องติดรถยนต์ และมีราคาที่ย่อมเยามากที่สุด ในขณะที่ยังคงมีความคุ้มค่าและใช้งานได้ในระยะยาว การ์ด SDHC ตัวนี้จะเป็นหนึ่งในคำตอบที่น่าสนใจ เพราะสามารถรองรับการบันทึกวิดีโอได้ในความละเอียดมาตรฐาน ที่มักจะถูกใช้งานกันกล้องนิรภัยอย่าง Full HD และสามารถอัดวิดีโอได้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งในสถานการณ์ที่จำเป็น ก็ยังสามารถถอดไปใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากคุณเพิ่งทดลองใช้งานกล้องวงจรปิดเป็นครั้งแรก เราก็ขอแนะนำว่ารุ่นนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

8. Sandisk Ultra SDSQUNR-032G-GN3MN

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Sandisk Ultra SDSQUNR-032G-GN3MN
ประเภท	SDHC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	32 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	100 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	–
คลาสแอปพลิเคชัน	–

Sandisk Ultra SDSQUNR-032G-GN3MN เป็นตัวเลือกของการ์ดจัดเก็บข้อมูล ที่เหมาะสำหรับการใช้เพื่อบันทึกไฟล์รูปภาพและเอกสาร หากคุณต้องการ Micro SD Card ขนาดเล็กหลาย ๆ ตัว เพื่อแยกการจัดเก็บข้อมูลออกจากกัน เพราะถึงแม้จะมีความจุในระดับ 32 GB แต่ตัวการ์ดสามารถรองรับการอ่านข้อมูลได้ที่ 100 MB/s ซึ่งถือเป็นความเร็วที่ค่อนข้างสูง สำหรับการ์ดเก็บข้อมูลประเภท SDHC โดยสำหรับการใช้บันทึกข้อมูลประเภทวิดีโอ ก็ยังสามารถรองรับได้เพียงพอ และจัดการกับข้อมูลได้อย่างสะดวก ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชันของทาง SanDisk อย่าง Memory Zone ที่สำคัญถึงแม้จะเป็นการ์ดที่มีราคาเพียงหลักร้อยบาท แต่ก็ยังมีการรับประกันแถมมาให้ยาวนานถึง 7 ปีด้วยเช่นกัน

9. USAMS 32 GB

แบรนด์และรุ่นสินค้า	USAMS 32 GB
ประเภท	SDHC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	32 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	75 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	12 MB/s
คลาสแอปพลิเคชัน	–

สำหรับ Micro SD Card รุ่นนี้มาพร้อมความน่าสนใจในด้านต่าง ๆ มากมาย ทั้งจากการที่สามารถเชื่อมต่อกับกล้อง เพื่อใช้ในการถ่ายภาพและวิดีโอได้โดยตรง จากการมาพร้อม Card Cover สำหรับการเพิ่มขนาดให้เชื่อมต่อกับกล้องได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับตัวการ์ดได้มากกว่ารุ่นอื่น ๆ โดยอีกหนึ่งส่วนที่่น่าสนใจ ก็คือการทนทานต่อสภาพอุณหภูมิ หรือความร้อนได้ในระดับสูง รวมไปถึงยังสามารถป้องกันความชิ้น ที่อาจเข้าสู่ตัวการ์ดในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ได้เลยทีเดียว ส่งผลให้ในภาพรวมจึงเหมาะกับการใช้งานกับกล้องถ่ายภาพเป็นหลัก เพราะสามารถป้องกันข้อมูลเสียหายได้ดี จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง

10. ROBOT 32 GB

แบรนด์และรุ่นสินค้า	ROBOT 32 GB
ประเภท	SDHC
ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล	32 GB
ความเร็วการอ่านข้อมูล	25 MB/s
ความเร็วการเขียนข้อมูล	15 MB/s
คลาสแอปพลิเคชัน	–

Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี รุ่นสุดท้ายเป็นการ์ดเก็บข้อมูลขนาด 32 GB ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่ความเร็วการเขียนข้อมูล ซึ่งสามารถทำได้สูงมากกว่าการ์ด SDHC รุ่นมาตรฐาน ที่มีขนาดความจุเทียบเท่ากันเล็กน้อย โดยจะอยู่ที่ระดับ 15 MB/s ส่งผลให้ยังคงใช้งานทั่วไปได้ดี ทั้งกับสมาร์ทโฟนหรือการใช้งานเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ให้กับการทำงานของอุปกรณ์อื่น ๆ

สำหรับความเร็วในการอ่านข้อมูล ถึงแม้จะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ผ่านการรับรองคลาสความเร็วระดับ 10 หรือ Class 10 ช่วยสนับสนุนการทำงานทั่วไปของการ์ดเก็บข้อมูลได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ถึงแม้จะวางขายเพียงราคาหลักร้อยบาท แต่ก็ยังมีการแถมการรับประกันมาให้ 1 ปี และหลังจากที่หมดการรับประกันแล้ว ก็ยังจะได้รับความคุ้มครองพื้นฐานอื่น ๆ ในด้านการใช้งานจากแบรนด์ ROBOT ตลอดอายุการใช้งานอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อMicro SD Card 

1. เลือกจากขนาดความจุของพื้นที่เก็บข้อมูล

สิ่งที่คนทั่วไปจะให้ความสนใจก่อนในการเลือกซื้อ หรือตั้งคำถามว่าควรจะเลือกใช้งาน Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี คือ ขนาดความจุของพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ซึ่งมีให้เราสามารถเลือกซื้อได้ตั้งแต่ 4 GB ไปจนถึงสูงสุดที่ 2 TB ในปัจจุบัน จึงทำให้มีความหลากหลายอย่างมาก และเราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนความเหมาะสม ให้เข้ากันกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กอื่น ๆ อย่างลำโพงหรือหูฟังก็ตาม

โดยจุดที่จะนำมาใช้พิจารณาได้ ก็คือความจำเป็นและขนาดของข้อมูล ที่คุณจะต้องจัดเก็บในตัวการ์ด ซึ่งหากต้องการจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่อย่างวิดีโอ หรือการติดตั้งกับสมาร์ทโฟนเพื่อเล่นเกมที่มีความจุสูง ก็ควรเลือกรุ่นที่มีความจุขนาดใหญ่ เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่หากต้องการใช้เพื่อบันทึกรูปภาพหรือไฟล์เอกสารทั่วไป การเลือกรุ่นที่มีขนาดความจุต่ำลงมา ก็จะทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงมาได้มากกว่านั่นเอง

2. เลือกจากความเร็วการอ่านและเขียนข้อมูล

เรื่องพื้นฐานอีกหนึ่งอย่างที่ Micro SD Card จะสามารถทำได้แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน คือ ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล ที่จะเป็นไปตามมาตรฐานความเร็วการ์ด ซึ่งการ์ดที่สามารถทำความเร็วได้สูง ก็มักจะมีช่วงราคาวางขายที่สูงกว่า เนื่องจากจะทำให้มีข้อดีข้อในการใช้งานมากกว่า เช่น เมื่อทำการติดตั้งกับสมาร์ทโฟน ก็จะทำให้การดึงข้อมูลทำได้มีเสถียรภาพมากกว่า หรือกรณีที่ใช้เพื่อเป็นตัวกลางในการจัดเก็บข้อมูล ก็จะทำให้สามารถนำเข้าหรือส่งออกข้อมูลจากการ์ด

โดยเฉพาะไฟล์ขนาดใหญ่ได้ด้วยระยะเวลาที่สั้นมากกว่า เป็นต้น แต่อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรรู้ คือ ไม่ใช่ว่าการ์ดที่มีช่วงราคาสูง จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดเสมอไป เนื่องจากจะมีส่วนอื่น ๆ อย่างขนาดความจุ หรือการรองรับมาตรฐานต่าง ๆ ที่จะทำให้ช่วงราคาแตกต่างออกจากมาตรฐานไปได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงจะต้องพิจารณาควบคู่กับทุกด้าน และตัดสินใจเลือกรุ่นที่มีความเป็นกลาง และเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานของคุณ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

3. เลือกจากความทนทานในการใช้งาน

หลายคนที่เคยใช้งาน Micro SD Card ในอดีต อาจสามารถพบเจอปัญหาในลักษณะเดียวกันได้บ่อยครั้ง อย่างการที่ตัวการ์ดเกิดความเสียหาย จนไม่สามารถใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลได้ต่อ ถึงแม้ว่าจะทำการเสียบใช้งานกับสมาร์ทโฟน โดยที่ไม่ได้ถูกนำออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดจากการที่ตัวการ์ด ได้รับความเสียหายจากความร้อนของตัวเครื่อง ในขณะที่ตัวการ์ดไม่สามารถทนทานต่อสภาพอุณหภูมิได้เพียงพอ ส่งผลให้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ที่คุณจะต้องเลือก SD Card ที่สามารถทนทานต่ออุณหภูมิได้เพียงพอ

เมื่อจะต้องใช้งานกับอุปกรณ์หลักแต่ละชนิด โดยสมาร์ทโฟนกับกล้องบันทึกวิดีโอนั้น จะมีโอกาสที่ทำให้ตัวการ์ดสัมผัสกับความร้อนได้มากเป็นพิเศษ จึงทำให้ควรเลือกรุ่นที่ทนทานต่ออุณหภูมิได้กว้าง แต่สำหรับการใช้งานกับลำโพงหรือหูฟังไร้สายนั้น อาจไม่ได้ทำการให้เกิดความร้อนได้มากนัก ทำให้คุณอาจไม่จำเป็นจะต้องให้ความสนใจเรื่องนี้ และไปพิจารณาในส่วนอื่น ๆ ประกอบกับการตัดสินใจแทน เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพได้มากที่สุด

ประเภทของ Micro SD Card

1. SD Standard Capacity หรือ SD

SD เป็นการ์ดจัดเก็บข้อมูล ที่ถูกเลิกใช้งานใช้งานกันไปแล้ว ในช่วงเวลาหลายปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นการ์ดที่จะมีความจุอยู่ในช่วงต่ำกว่า 2 GB เป็นต้นไป ทำให้ไม่เพียงพอสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคนี้ ที่จำเป็นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพ, วิดีโอ หรือแม้แต่ไฟล์เอกสารทั่วไปก็ตาม ส่งผลให้ในปัจจุบันเป็นรูปแบบของการ์ด ที่อาจไม่สามารถหาซื้อได้แล้วตามท้องตลาด

2. SD High Capacity หรือ SDHC

Micro SD Card ประเภท SDHC คือ ตัวเลือกของการ์ดจัดเก็บข้อมูลราคาประหยัด ที่สามารถใช้งานได้เพียงระดับมาตรฐาน ซึ่งยังคงมีออกมาให้เราสามารถพบเห็นกันได้อยู่บ้างตามท้องตลาด เนื่องจากยังคงเพียงพอสำหรับการใช้งานกับบางอุปกรณ์ และมีช่วงราคาที่ต่ำมากเป็นพิเศษ ทำให้เข้าถึงผู้คนหลากหลายกลุ่มได้อย่างเหมาะสม โดยลักษณะของการใช้งานที่เหมาะกับการ์ดประเภทนี้ จะเป็นการจัดเก็บเพลงให้กับลำโพง, การใช้งานกับสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเสริมมากนัก หรือการจัดเก็บไฟล์เอกสารเพื่อนำเข้าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ด้วยขนาดความจุที่จะมีให้พบเห็นได้ตั้งแต่ 4 GB ไปจนถึง 32 GB นั่นเอง

3. SD eXtended Capacity หรือ SDXC

SDXC เป็นลักษณะของการ์ดจัดเก็บข้อมูล ที่เรากำลังใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีขนาดความจุที่เพียงพอ และเป็นมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบในยุคนี้ ทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือแม้แต่กล้องวิดีโอและอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วยการมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลตั้งแต่ 32 GB ไปจนถึง 2 TB ซึ่งถือเป็นขนาดความจุสูงสุดที่เราสามารถเลือกใช้งานกันได้ในปัจจุบัน ดังนั้น จึงทำให้มีตัวเลือกของสินค้ามากเป็นพิเศษ และมีความแตกต่างในด้านของความเร็ว รวมไปถึงมาตรฐานการใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น การรับ-ส่งข้อมูล, การรองรับการบันทึกวิดีโอ และส่วนอื่น ๆ ให้เราเลือกได้มากเป็นพิเศษ ซึ่งก็ยังรวมไปถึงช่วงราคาที่วางขาย ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่มีขนาดความจุเทียบเท่ากันด้วยเช่นกัน

บทสรุป Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี

เนื่องจาก Micro SD Card เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ที่ใช้งานได้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายดังที่เราได้กล่าวไป ดังนั้น คุณจึงควรเลือกซื้อสินค้าที่น่าสนใจติดเอาไว้ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในทันทีที่ต้องการ ซึ่งหากคุณมีคำถามว่า Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี ที่จะรองรับการใช้งานระยะยาวได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดตลอดหลาย 10 ปี เราขอแนะนำให้คุณลองเลือกซื้อ SanDisk Extreme SDSQXAV-1T00-GN6MN ด้วยขนาดความจุที่แทบจะสูงที่สุดในยุคนี้ และการอ่าน-เขียนข้อมูลที่รวดเร็ว รวมไปถึงยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย และหากคุณอยากช้อปปิ้งสิ่งอื่น ๆ เพิ่มเติม เราก็มีอุปกรณ์ที่เข้ากันได้อย่างโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องวงจรปิดไร้สายให้คุณลองเลือกดูได้บนเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน