สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาเดินไม่สะดวก การใช้งาน “รถเข็นไฟฟ้า” ถือเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสมมาก เพราะไม่จำเป็นต้องมีคนอื่นคอยเข็นให้ตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยพาไปยังจุดต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสมอีกด้วย เป็นอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นมาจากรถเข็นทั่วไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สะดวกสบายทั้งผู้ใช้และผู้เข็นอย่างมาก มาดูกันว่า รถเข็นไฟฟ้า รุ่นไหนดี น่าสนใจ
หากมีรถเข็นไฟฟ้าสำหรับดูแลคนที่เราห่วงใยแล้ว อย่าลืมมองหา แท่นยืนคลายเส้น สำหรับการออกกำลังกายเบาๆหรือทำกายภาพ เพื่อคนที่เรารักก็เป็นไเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียว
รถเข็นไฟฟ้า รุ่นไหนดี
- JIESUQI รถเข็นไฟฟ้า รุ่น อัปเกรด
- ROVED รถเข็นไฟฟ้า รุ่น Standard
- Senior Care รถเข็นไฟฟ้า รุ่น Inspire-L
- Cosin รถเข็นไฟฟ้า รุ่น Color 180H
- Karma รถเข็นไฟฟ้า รุ่น FLEXX
ระบบบังคับพื้นฐานของรถเข็นไฟฟ้า
1. ปุ่มสำหรับเปิด – ปิด
ด้วยความที่เป็นระบบไฟฟ้าซึ่งใช้พลังงานในการเคลื่อนที่ จึงจำเป็นต้องมีปุ่มเปิด-ปิดให้รถทำงานในช่วงเวลาเหมาะสม อีกทั้งยังประหยัดพลังงานในจังหวะที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งบางรุ่นอาจใช้ปุ่มเดียวกันหรือแยกออกเป็น 2 ปุ่มตามแต่ดีไซน์
2.ปุ่มเพิ่ม – ลด ระดับความเร็ว
ด้วยความที่เป็นระบบไฟฟ้าจึงสามารถบังคับอัตราความเร็วได้ตามต้องการ โดยใช้ปุ่มกดที่มีเครื่องหมาย + คือ เพิ่มความเร็ว และเครื่องหมาย – คือ ลดความเร็ว
3. คันโยกบังคับทิศทาง
มีลักษณะคันโยกที่ปรับหมุนทิศทางได้หลัก ๆ 4 ทิศ คือ เดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เมื่อต้องการบังคับรถเข็นไฟฟ้าให้ไปในทิศทางใดเพียงแค่เลื่อนคันโยกดังกล่าว รถก็จะหันล้อไปตามทิศนั้นทันที
4. สัญญาณเสียงแตร
สำหรับผู้ใช้งานบางคนที่มีอายุมาก ไม่สามารถส่งเสียงดังใด ๆ ได้ สัญญาณปุ่มแตรตรงนี้จะช่วยบอกคนที่อยู่ด้านหน้าให้รู้ว่าตนเองกำลังเคลื่อนที่ไป อีกทั้งยังมีประโยชน์ในกรณีต้องการขอความช่วยเหลืออีกด้วย
5. หน้าจอแสดงระดับแบตเตอรี่
อย่างที่กล่าวไปว่ารถเข็นไฟฟ้าจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ดังนั้นจึงต้องมีแถบสำหรับแสดงค่าพลังงานว่าตอนนี้อยู่ในระดับใด สามารถใช้งานได้อีกนานแค่ไหน เพื่อเตรียมความพร้อมในการชาร์จให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางครั้งถัดไป
วิธีใช้งานรถเข็นไฟฟ้าให้เกิดความปลอดภัยที่สุด
1. ปรับระดับความเร็วให้เหมาะสม
เรื่องความเร็วเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่แนะนำให้ทำระดับความเร็วสูงจนเกินไปเพราะในกรณีที่เส้นทางข้างหน้าขรุขระหรือมีสิ่งของกีดขวางอยู่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้นหากไมมีการเบรกที่รวดเร็วมากพอ
2. ใช้งานกับพื้นที่ปลอดภัยเท่านั้น
ต้องทำความเข้าใจว่ารถเข็นไฟฟ้าไม่ใช่ยานพาหนะสำหรับการขับขี่ จึงต้องใช้งานบริเวณพื้นที่ปลอดภัย เช่น บนทางเท้า สวนสาธารณะ อย่าออกไปเข็นตามถนนหน้าบ้านหากไม่จำเป็น เพราะถ้ารถที่ขับมาไม่ได้สังเกตอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ และไม่แนะนำให้ใช้งานกับบันไดเลื่อนแบบขั้นเพราะโอกาสเสี่ยงในการเกิดความผิดพลาดมีสูง
3. ล็อกรถทุกครั้งเมื่อหยุดใช้งานชั่วคราว
สำหรับคนที่เข็นหากมีการหยุดรถเพื่อทำกิจธุระไม่ว่าพื้นที่ใดก็ตามต้องจอดให้เป็นระเบียบไม่เกะกะขวางทางผู้อื่น และทำการล็อกรถให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันรถไหลออกไปจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับคนนั่งได้
4. ควรคาดเข็มขัดให้เรียบร้อยสำหรับคนนั่ง
รถเข็นไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่นจะมีเข็มขัดสำหรับคาดเพื่อความปลอดภัย แม้ผู้นั่งจะรำคาญหรือรู้สึกอึดอัดที่โดนล็อกเอาไว้ตลอด แต่มันสร้างความปลอดภัยได้มากกว่าที่คิดจริง ๆ
5. เข็นด้วยความระมัดระวังที่สุด
สำหรับผู้เข็นต้องสังเกตเส้นทางอยู่ตลอดและเลือกใช้เฉพาะเส้นทางที่มีความปลอดภัยเท่านั้น รวมถึงกรณีที่ต้องเข็นผ่านพื้นที่แคบคนนั่งไม่ควรนำส่วนใดยื่นออกจากบริเวณรถเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ การขีดข่วนได้
6. ตรวจสอบสภาพรถทุกครั้งก่อนการใช้งาน
อีกเรื่องที่ห้ามมองข้ามคือ ก่อนำรถเข็นไฟฟ้าไปใช้ควรมีการตรวจสอบสภาพให้เรียบร้อยก่อน เช่น พลังงานแบตเตอรี่เพียงพอ, ล้อรถไม่มีสิ่งผิดปกติ, เบาะนั่งยังรับน้ำหนักได้ดี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยเมื่อใช้งานไม่ว่าสถานการณ์ใดก็ตาม
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://wheelchairmate.wordpress.com/
รีวิว รถเข็นไฟฟ้า รุ่นไหนดี น่าสนใจบ้าง
เพื่อการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม สำหรับคนที่กำลังมองหารถเข็นไฟฟ้าเพื่อไว้ให้คนในครอบครัวหรือตนเอง ก็มีสินค้า 5 รุ่นมาที่อยากนำเสนอมาให้ลองพิจารณา สร้างความสะดวกสบาย ปลอดภัย และสามารถไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่า รถเข็นไฟฟ้า รุ่นไหนดี น่าลงทุนกันบ้าง
1. รีวิว JIESUQI รถเข็นไฟฟ้า รุ่น อัปเกรด
รถเข็นไฟฟ้าที่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่เดินเองไม่ถนัด รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 150 กิโลกรัม ขณะที่ตัวสินค้าหนักเพียง 30 กิโลกรัม จึงสามารถขนย้ายได้สะดวกเมื่อพับ โครงสร้างมีความมั่นคง แข็งแรง จุดเชื่อมยึดแน่น ไม่เปลี่ยนรูปหรือพังเสียหายง่าย
พลังงานไฟฟ้าใช้ระบบมอเตอร์คู่จึงช่วยให้ขับเคลื่อนไปในระยะทางที่ไกลขึ้น หากเส้นทางเป็นเนินก็ยังเคลื่อนที่ได้ ไม่ลื่นไหล เบาะใช้วิธีการเย็บแบบผ้ารังผึ้ง ช่วยระบายอากาศและความร้อน ไม่รู้สึกอับชื้น สัมผัสนุ่มสบาย ตัวล้อมีขนาดใหญ่ เป็นยางชนิดเติมลม จึงไม่ต้องกลัวว่าจะแตกหัก ช่วยรับน้ำหนักในกรณีเกิดการกระแทก
มีดอกล้อช่วยลดแรงเสียดทานและความลื่นบนถนน เคลื่อนข้ามสิ่งกีดขวางได้ง่ายมาก เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพพื้นผิว ระบบล็อกเป็นแบบคู่ช่วยลดการไหลของตัวรถ คันโยกปรับทิศทางได้ 360 องศา พร้อมปุ่มต่าง ๆ ครบถ้วนบนแผงบังคับ เข็มขัดสามารถปรับระดับเพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้งานทุกสรีระ เบรกมือบริเวณล้อสะดวกต่อการใช้ทั้งผู้นั่งและผู้เข็น
จุดเด่น
- น้ำหนักของตัวรถไม่เยอะ เคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย
- ระบบมอเตอร์แบบคู่ช่วยให้ระยะทางการขับเคลื่อนไกลยิ่งขึ้น
- เบาะรองนั่งและพนักพิงผ่านการเย็บแบบรังผึ้ง ช่วยระบายอากาศได้ดี
2. รีวิว ROVED รถเข็นไฟฟ้า รุ่น Standard
รถเข็นไฟฟ้ารุ่นมาตรฐาน มีการออกแบบให้เหมาะกับสรีระของผู้ใช้งานพร้อมโครงเหล็กสีดำจึงมีความแข็งแกร่ง รองรับน้ำหนักตัวได้ถึง 120 กิโลกรัม แบตเตอรี่แบบ Lead Acid ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ชาร์จแล้วไม่เสื่อมสภาพง่าย หากชาร์จเต็ม 1 ครั้ง จะขับเคลื่อนได้ 15 กิโลเมตร
ตัวเบาะสามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ พนักแขนยกขึ้นสำหรับการจับลำตัวของผู้ใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น ระบบเบรกมีคันโยกล้อคู่เพื่อ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้อย่างดี อัตราความเร็วสูงสุด 6 กิโลเมตร / ชั่วโมง ขนาดของเบาะ 46 x 42 เซนติเมตร ไม่รู้สึกอึดอัด แผงหน้าปัดควบคุมมีปุ่มครบถ้วนทั้งการปรับความเร็ว แสดงหน้าจอแบตเตอรี่
คันโยกสามารถหมุนได้แบบ 360 องศา เพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งกว่าเดิม โดยสีสันจะถูกตัดบริเวณตัวเบาะเลือกได้ 3 สี คือ สีดำ สีแดง และสีน้ำเงิน ตัวรถน้ำหนัก 45 กิโลกรัม
จุดเด่น
- แบตเตอรี่แบบ Lead Acid มีความทนทาน ชาร์จ 1 ครั้งใช้งานได้ไกลถึง 15 กิโลเมตร
- พนักแขนยกขึ้นได้ จึงสะดวกต่อผู้เข็นหรือคนที่ต้องพยุงเพื่อจับนั่ง
- เบาะสามารถถอดออกไปซักเพื่อความสะอาดและยืดอายุการใช้งานได้
3. รีวิว Senior Care รถเข็นไฟฟ้า รุ่น Inspire-L
รถเข็นไฟฟ้าแบบพับได้โฉมใหม่ล่าสุด ตัวรถผลิตด้วยโครงสร้างของอะลูมิเนียม-อัลลอยด์ จึงมีความแข็งแรงทนทาน กันสนิม น้ำหนักเบาเพียง 26.5 กิโลกรัม ขนาดเมื่อกางออกเต็มที่ 110 x 63 x 96 เซนติเมตร นำขึ้นเครื่องบินได้ เพราะผ่านการรับรองมาตรฐานการส่งออกต่างประเทศ
รับน้ำหนักผู้ใช้งาน 120 กิโลกรัม อัตราความเร็วสูงสุด 6 กิโลเมตร / ชั่วโมง ขับเคลื่อนบนระดับทางลาดชันได้สูงสุด 12 องศา ใช้ยางตันทั้ง 4 ล้อ แบตเตอรี่ลิเธียม ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้งานได้ระยะทาง 20-25 กิโลเมตร ตัวเบาะมีการเสริมความหนาแบบพิเศษนั่งแล้วสบายตัวยิ่งขึ้น ผ้าหุ้มด้านนอกตัวเบาะผลิตจากไนลอนด้วยรูปแบบการถักทอตาข่ายช่วยให้การระบายความชื้นดีเยี่ยม
ถอดซักทำความสะอาดได้ แป้นบังคับมีโหมดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ปรับความเร็วได้ 5 ระดับ พิเศษด้วยระบบ Sleep Mode มอเตอร์จะหยุดทำงานอัตโนมัติหากไม่ได้มีการเข็นหรือใช้งานใด ๆ ปรับย้ายให้อยู่ในระดับที่ผู้ใช้ต้องการได้ และเมื่อปล่อยมือออกจากแป้นรถจะหยุดทำงานทันที ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม สปริงคู่หน้าแบบกันสะเทือนช่วยให้การเข็นในทุกเส้นทางนิ่มนวลขึ้น ระบบเบรกไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย
จุดเด่น
- โครงสร้างทำจากอะลูมิเนียม-อัลลอยด์ แข็งแรง ทนทาน กันสนิมได้อย่างดีเยี่ยม
- น้ำหนักเบามากเพียง 26.5 กิโลกรัม เคลื่อนย้ายสะดวก
- มาตรฐานการผลิตส่งออกระดับโลก ผ่านการรับประกันสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้
4. รีวิว Cosin รถเข็นไฟฟ้า รุ่น Color 180H
รถเข็นไฟฟ้าสำหรับผู้จำเป็นต้องใช้งานทุกประเภท โครงสร้างทำจากเหล็กพ่นสีป้องกันสนิมอย่างดี จึงมีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน บริเวณล้อจะมีตัวกันหงายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องใช้งานด้วยตนเอง
ตัวล้อเป็นยางตันไม่ต้องเติมลม ดูแลง่าย เบาะรองนั่ง พนักพิงหลัง และพนักพิงศีรษะมีการเพิ่มช่องระบายอากาศเพื่อความสบาย ไม่เกิดการอับชื้น พร้อมถอดออกมาซักทำความสะอาดได้ ที่วางเท้าและส่วนรองหลังปรับให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งานตามท่าทางตามต้องการ รถทั้งคันน้ำหนัก 48 กิโลกรัม พับเก็บได้ รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 120 กิโลกรัม อัตราความเร็วสูงสุด 6 กิโลเมตร / ชั่วโมง ขึ้นทางลาดชันได้สูงสุด 15 องศา
แป้นบังคับมีระบบครบถ้วน แสดงระดับแบตเตอรี่ชัดเจน คันโยกหมุนได้ 360 องศา เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง เคลื่อนที่ได้ไกล 15 กิโลเมตร ในกรณีที่รถเข็นถอยหลังจะมีเสียงเตือนแจ้ง ระบบเบรกเป็นแบบ EABS รถจะหยุดเคลื่อนที่ทันทีเมื่อปล่อยมือจากแป้นบังคับ
จุดเด่น
- บริเวณล้อมีตัวกันหงายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบายอากาศได้ดีด้วยช่องระบายอากาศทั้งบริเวณเบาะรอง พนักพิงหลัง และพนักพิงศีรษะ
- เมื่อรถถอยหลังจะมีสัญญาณเสียงแจ้งเตือน
5. รีวิว Karma รถเข็นไฟฟ้า รุ่น FLEXX
ด้วยการออกแบบของรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ที่เน้นน้ำหนักให้มีความเบามากที่สุดเพียง 27.5 กิโลกรัม อีกทั้งยังพับเก็บได้ง่าย ใส่กระโปรงหลังท้ายรถได้ทุกรุ่น จึงเหมาะกับการนำไปใช้งานได้ทุกสถานที่ รองรับน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ถูกออกแบบให้ตรงกับหลักสรีระศาสตร์ พร้อมเสริมความแข็งแรงให้กับตัวรถด้วยการเติมบาร์คู่ X-Bar จึงมั่นใจในทุกการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 26.1 mAh มีน้ำหนักเบา ติดตั้งและถอดออกได้ง่าย จึงชาร์จไฟได้กับทุกวิธี ทำความเร็วได้สูงสุด 8 กิโลเมตร / ชั่วโมง เมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ขับเคลื่อนได้ไกลถึง 20 กิโลเมตร มือจับสำหรับคนเข็นออกแบบใหม่ พับเก็บเองได้ ไม่เกะกะ
ตัวแผงควบคุมมีการออกแบบให้เอียงออกด้านข้างเล็กน้อย ป้องกันเข่าของผู้นั่งกระแทกในตอนลุกยืนและลงนั่ง อีกทั้งยังช่วยไม่ให้นิ้วโดนหนีบระหว่างแป้นกับตัวผู้ใช้งานด้วย แป้นควบคุมมีระบบต่าง ๆ ครบถ้วน พนักหลังปรับระดับเพื่อความพอดีระหว่างใช้งาน ไม่เมื่อย และไม่อึดอัด
จุดเด่น
- มีน้ำหนักเบามากเพียง 27.5 กิโลกรัม เมื่อรวมแบตเตอรี่จะหนักเพียง 33 กิโลกรัมเท่านั้น
- เมื่อชาร์จไฟ 1 ครั้ง ใช้งานได้ถึง 20 กิโลเมตร
- มือจับพับเก็บได้ สะดวกต่อคนเข็น
สรุป รถเข็นไฟฟ้า รุ่นไหนดี เหมาะกับการใช้งานที่สุด
จากรีวิวทั้งหมดมานี้ขอยกให้กับ JIESUQI รถเข็นไฟฟ้า รุ่น อัปเกรด ด้วยน้ำหนักเบา พับเก็บได้ จึงสะดวกต่อการนำไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ตัวยางเป็นแบบเติมลม ลดความเสี่ยงการแตกหัก รองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม พร้อมระบบมอเตอร์คู่จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพพื้นผิว ระบบควบคุมครบถ้วน สะดวกและคุ้มค่าทั้งผู้เข็นและผู้นั่ง