รีวิว 5 อันดับ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี จากแบรนด์ชั้นนำ ฉบับปี 2024

ข้าวกับคนไทยคือสิ่งที่อยู่คู่กันมาเพราะเราบริโภคข้าวเป็นอาหารหลักนั่นเอง ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้เรามีข้าวสวยๆ เอาไว้รับประทานก็คือหม้อหุงข้าวนั่นเอง โดยปัจจุบันเราใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหลัก ที่ต้องมีในทุกบ้าน เช่นเดียวกับ หม้อทอดไร้น้ำมัน หม้ออบลมร้อน ไมโครเวฟ เครื่องชงกาแฟ หรือตู้เย็นขนาดเล็ก และนับวันหม้อหุงข้าว ก็ยิ่งมีเทคโนโลยีการหุงที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความสะดวกสบายในยุคนี้มากขึ้น มีหลายรุ่น หลายราคา หลายยี่ห้อ ให้ได้เลือกกัน สำหรับบทความนี้เรามี  5 รุ่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2024 จากแบรนด์ชั้นนำมาฝากให้คุณได้เลือกใช้งานกัน 

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

• หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Electrolux รุ่น E7RC1-550K
• หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Toshiba รุ่น RC-10NMF(H)A
• หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Otto รุ่น CR-110
• หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Panasonic รุ่น SR-CX108SSN
• หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Tefal รุ่น RK6011TH –White

แนะนำ 5 รุ่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024

มาดูรายชื่อ 5 รุ่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ประจำปี 2024 กันเลยว่ารุ่นไหนที่น่าจะตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด 

1. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Electrolux รุ่น E7RC1-550K

เริ่มต้นรายชื่อ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อ Electrolux รุ่น E7RC1-550K โดยเป็นแบบดิจิทัลที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบอันทันสมัยในสีดำตัดด้วยสีทองดูหรูหราน่าใช้เหมาะกับครัวยุคใหม่ที่ต้องการอุปกรณ์อัจฉริยะ เอาไว้หุงข้าวร้อนๆ ไว้รับประทานกันภายในบ้าน เพราะรุ่นนี้มากับฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายให้ได้เลือกใช้กัน  

Electrolux E7RC1-550K มาพร้อมความจุขนาด 1.0 ลิตร ใส่ข้าวได้ประมาณ 5 ถ้วย เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ตัวสินค้าผ่านมาตรฐาน มอก.1039-2547 วางใจได้ในมาตรฐานการผลิตและความทนทาน มีฟังก์ชันเด่นๆ อาทิ รูปแบบการทำความร้อนแบบ 3 ทิศทางคือ ด้านข้าง ด้านล่าง และด้านบน

สามารถทำการตั้งเวลาทำงานล่วงหน้าได้ถึง 24 ชม. มีโปรแกรมอัตโนมัติให้เลือกสร้างสรรค์เมนูได้ถึง 10 แบบ เลยทีเดียว ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอแสดงผลในตัว ภายในเคลือบสารกันติดทำความสะอาดง่าย มีระบบอุ่นอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้ในราคาที่จับต้องได้ 

2. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Toshiba รุ่น RC-10NMF(H)A 

หากถามว่า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี Toshiba รุ่น RC-10NMF(H)A คืออีกรุ่นที่ต้องรับไว้พิจารณา โดยมีรูปทรงที่ทันสมัยในแบบของหม้อหุงข้าวยุคใหม่ที่ทั้งสวยและเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันการทำงานที่จะมาช่วยรังสรรค์เมนูอาหารมากมายไม่ใช่แค่เพียงใช้หุงข้าวเท่านั้น ตัวหม้อด้านในมีความหนาและทนทานมากเป็นพิเศษพร้อมเคลือบด้วย Healthy Flon ช่วยให้อาหารไม่ติดหม้อและยังทำความสะอาดได้ง่ายไม่เปลืองแรงขัด ด้านนอกมีจอแบบ LCD แสดงสถานการณ์ทำงาน เรียกว่าสวยใช้ได้เลยล่ะ 

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Toshiba รุ่น RC-10NMF(H)A นอกจากจะใช้หุงข้าวได้ทุกประเภทแล้วยังเพิ่มเมนูพิเศษให้คุณสามารถทำทานที่บ้านได้ทั้งการตุ๋นและการนึ่ง มีโปรแกรมทำอาหารถึง 10 อย่างให้เลือกใช้ อาทิ ทำซุป, ทำไข่ตุ๋น, ทำขนมต่างๆ,อบขนมปัง, ทำเค้ก, หมักอาหาร, ต้มโจ๊ก  ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

รุ่นนี้สามารถตั้งเวลาหุงได้ล่วงหน้าถึง 14 ชม. มีระบบหุงด่วนช่วยให้ข้าวสุกเร็วขึ้น 15 นาที แถมยังมากับการรับประกันตัวทำความร้อนนานถึง 5 ปี เรียกว่าสมกับสโลแกน “โตชิบา นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” เอามากๆ 

3. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Otto รุ่น CR-110

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Otto CR-110 คืออีกรุ่นที่ต้องเอาเข้าลิสต์ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี โดยเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพักที่ต้องการหม้อหุงข้าวธรรมดา ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ราคาไม่แพงมากเอาไว้ใช้งาน โดยรุ่นนี้สามารถหุงข้าว อุ่น และนึ่งอาหาร เช่น ไข่ตุ๋นได้เพราะแถมหม้อนึ่งมาให้ได้ใช้งานกันด้วย 

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อ Otto รุ่น CR-110 เล็กแต่ได้มาตรฐาน มอก.1039-2547 วางใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความทนทาน ประหยัดไฟเพียง 400w 220v 50Hz ความจุอยู่ที่ 1.0 ลิตร น้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม ตัวหม้อและซึ้งสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวก  การใช้งานก็ง่ายๆ เพียงแค่เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มเริ่มต้นการทำงานเท่านั้น 

4. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Panasonic รุ่น SR-CX108SSN

ต่อกันที่หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อ Panasonic รุ่น SR-CX108SSN หม้อหุงข้าวแบบดิจิทัลดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชันจัดเต็ม พร้อมมาตรฐานการผลิตที่วางใจได้สำหรับทุกครัวเรือน มาพร้อมความจุขนาด 1.0 ลิตร เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ภายในเคลือบสารกันติดช่วยให้ข้าวและอาหารไม่ติดหม้อ ทำความสะอาดได้ง่าย เก็บความร้อนได้ดี และช่วยให้ข้าวสุกอย่างทั่วถึง มีหน้าจอแสดงผลแบบ LED บอกสถานะ การทำงานต่างๆ อย่างชัดเจน 

Panasonic SR-CX108SSN รองรับการหุงข้าวและทำอาหารที่หลากหลายถึง 16 เมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแข็ง, ข้าวนุ่ม, ข้าวกล้อง, ธัญพืช, โจ๊ก, ทำซุป, เมนูตุ๋น, ข้าวอบหม้อดิน, เค้กและขนมปัง, เมนูนึ่งต่างๆ หรือจะประยุกต์ใช้สร้างสรรค์เมนูอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

รุ่นนี้ยังมากับระบบอุ่นอัตโนมัติ 12 ชม. ตั้งเวลาหุงล่วงหน้าได้ และยังแถมอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ทั้งตะกร้านึ่ง, ทัพพีตักข้าว, ทัพพีตักแกง, และถ้วยตวงมาให้เสร็จสรรพ  

5. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Tefal รุ่น RK6011TH White

ปิดท้ายรายชื่อ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี กันด้วย หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อ Tefal รุ่น RK6011TH –White จากยี่ห้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแถวหน้าที่โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์การออกแบบและฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัยในราคาที่เข้าถึงได้แบบไม่อึดอัดกระเป๋าสตางค์มากจนเกินไป รุ่นนี้เป็นหม้อหุงข้าวดิจิทัลอัตโนมัติที่ทำอาหารได้หลากหลายทั้งกับการหุงข้าวและเมนูอื่นๆ ออกแบบมาให้มีรูปทรงแบบกลมช่วยในการถ่ายเทความร้อนทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึงมากขึ้น 

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Tefal RK6011TH มาพร้อมความหนาเป็นพิเศษ เคลือบกันติดถึง 6 ชั้น ช่วยในเรื่องของการกระจายความร้อนและการทำความสะอาดที่ง่าย มีความแข็งแรงทนทาน มีระบบอุ่นอัตโนมัติถึง 24 ชั่วโมง มีโปรแกรมการทำอาหารมาถึง 7 อย่าง ให้เลือกปรุงเมนูโปรดได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วไม่ว่าจะเป็น หุงข้าวแบบต่างๆ, นึ่ง, เตรียมอาหารเด็ก, ทำซุป, ต้มโจ๊ก

ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด ความจุ 0.7 ลิตร เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ภายในชุดมีการแถมตำราทำอาหาร, ทัพพีตักแกง, ทัพพีตักข้าว, ถ้วยตวง และตะแกรงนึ่ง มาให้แบบครบชุด 

คำแนะนำในการเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งาน 

หม้อหุงข้าวไฟฟ้าแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ราคาก็ขึ้นอยู่กับว่ามีคุณสมบัติและฟังก์ชันอะไรใส่มาบ้าง โดยสิ่งที่เราสามารถนำมาเป็นเกณฑ์ในการเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งานนั้นประกอบไปด้วยเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากราคา

ในการจะเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีสิ่งแรกที่เราต้องคำนึงถึงก็คือราคาของหม้อหุงข้าวนั่นเองว่าตรงตามงบประมาณ เรามีอยู่หรือไม่ เพราะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียวขึ้นกับคุณสมบัติรวมถึงยี่ห้อของหม้อหุงข้าวใบนั้นด้วย

เพราะแต่ละยี่ห้อก็จะมีเทคโนโลยีของตัวเองที่ใช้เป็นจุดขาย เช่นฟังก์ชันอัจฉริยะ สั่งงานด้วยระบบสัมผัส มีระบบอุ่นในตัว ซึ่งข้อดีของการตั้งงบประมาณเอาไว้คร่าวๆ จะช่วยให้เราตัดตัวเลือกที่นอกเหนืองบประมาณออกไปแล้วมาโฟกัสกับการเปรียบเทียบในช่วงราคาที่ต้องการได้ละเอียดขึ้น 

2. เลือกจากประเภทของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า

หม้อหุงข้าวไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้คือ 

–หม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบบธรรมดา เป็นแบบที่เราใช้งานกันทั่วไป ใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่ข้าว เทน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เสียบปลั๊ก แล้วกดปุ่มหุง หม้อหุงข้าวก็จะทำงานเอง ฟังก์ชันไม่ซับซ้อน มีหลายขนาดให้เลือก เป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่มีราคาไม่แพงมาก 

-หม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบบดิจิทัล เป็นแบบที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติมขึ้นมามากขึ้น มีปุ่มควบคุมต่างๆ ที่ช่วยให้สามารถกำหนดเวลาหรือประเภทของอาหารได้ โดยสามารถทำได้มากกว่าการหุงข้าวเพียงอย่างเดียว เช่น ทำโจ๊ก ทำอาหารประเภทต้ม ตุ๋น รวมถึงช่วยคงอุณหภูมิของอาหารได้ บางรุ่นอาจมีฟังก์ชันอัจฉริยะหรือระบบสัมผัสมาให้ใช้งานด้วย 

-หม้อหุงแบบอุ่นอัตโนมัติ เป็นแบบที่มีฟังก์ชันช่วยอุ่นข้าวให้ร้อนอยู่เสมอ แม้กระทั่งถอดปลั๊กออกก็ยังร้อนอยู่ได้อีกสักพัก ซึ่งกลไกการทำงานนั้นจะเป็นแบบมีแผ่นความร้อนหรือขดลวดอยู่ภายใน ออกแบบฝาหม้อมาให้สามารถเก็บความร้อนได้ดีกว่าทั่วไป ช่วยให้เรามีข้าวร้อนๆ ทานทันทีที่ต้องการ 

3. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว

ข้อต่อมาในการเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีก็คือการเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว โดยสามารถเลือกได้ดังนี้คือ 

-จำนวนสมาชิกในครอบครัว 1-2 คน เลือกหม้อหุงข้าวความจุ 0.3-1.0 ลิตร

-จำนวนสมาชิกในครอบครัว 3-6 คน เลือกหม้อหุงข้าวความจุ 1.0-1.5 ลิตร

-จำนวนสมาชิกในครอบครัว 5-8 คน เลือกหม้อหุงข้าวความจุ 1.6-2.0 ลิตร

4. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าตามการใช้งาน

หม้อหุงข้าวไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ทั้งในครัวเรือนและตามร้านอาหาร ซึ่งขนาดก็จะแตกต่างกันออกไป จึงควรเลือกอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ของเราด้วย เช่นเน้นใช้งานที่บ้านเป็นหลัก หรือบางคนชอบท่องเที่ยวอาจมีหม้อหุงข้าวสักใบติดรถเอาไว้เพื่อความสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาก่อไฟเองหรือใช้เตาสนาม ซึ่งในกรณีนี้ก็ใช้เพียงหม้อหุงข้าวขนาดเล็กก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ควรเน้นเรื่องของความทนทานมากเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดความเสียหายระหว่างเดินทางได้นั่นเอง 

5. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากวัสดุ

หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องใช้งานทุกวันบางบ้านหุงข้าววันสองครั้งคือมื้อเช้าและมื้อเย็น ทำให้ต้องใส่ใจในเรื่องของวัสดุที่ใช้ในการผลิตที่ต้องมีความทนทานมากเป็นพิเศษ ทั้งในส่วนของวัสดุภายในและภายนอก โดยควรเลือกที่ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมหรือไม่ก็สแตนเลสเหมาะทนทานและไม่เป็นสนิมง่าย ส่วนหม้อด้านในนั้นควรเลือกแบบที่มีการเคลือบกันข้าวติดหม้อเพื่อให้สะดวกในการทำความสะอาด และควรระมัดระวังไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนขึ้นเพราะอาจจะทำให้สารที่เคลือบอยู่หลุดออกได้ง่าย 

6. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากดีไซน์

ในการเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีเชื่อว่าดีไซน์ของหม้อหุงข้าวเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่หลายคนใช้เป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อ เรียกว่าเห็นแล้วต้องโดนใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง สีสัน หรือขนาดของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า โดยบางคนอาจจะชอบสีขาวที่ดูเรียบหรู บางคนชอบสีดำ หรือบางคนชอบสีสันที่สดใสมีลวดลายต่างๆ ทั้งนี้ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งานและสถานที่ตั้งวางด้วย รวมถึงควรเป็นแบบที่สามารถถอดชิ้นส่วนที่เปื้อนง่ายออกมาทำความสะอาดได้สะดวก เพื่อไม่ให้มีคราบสกปรกตกค้างและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค 

7. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าจากฟังก์ชันเสริม

หม้อหุงข้าวไฟฟ้าในปัจจุบันมีการเพิ่มลูกเล่นหรือฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้ตอบโจทย์ความทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคนี้มากขึ้น อาทิ ฟังก์ชันในการอุ่นอัตโนมัติ, ฟังก์ชันการตั้งเวลาเพื่อให้เหมาะกับการหุงข้าวแต่ละประเภท, ฟังก์ชันการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส, ฟังก์ชันการทำขนม นอกจากนี้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าบางรุ่นยังสามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนูทั้ง ต้ม ผัด แกง ทอด ตุ๋น เพียงกดปุ่มเลือกประเภทของอาหารเท่านั้น เรียกว่าทันสมัยสุดๆ แต่แน่นอนว่าราคาก็ย่อมแพงตามไปด้วย 

8. เลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าโดยพิจารณาจากการรับประกัน 

ข้อสุดท้ายในการเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีที่หลายคนอาจมองข้ามไปนั่นก็คือเรื่องของเงื่อนไขการรับประกันของผู้ผลิตหรือร้านค้าที่จำหน่าย ว่ารับประกันความเสียหายในเรื่องใดให้บ้างและเป็นระยะเวลานานแค่ไหน เพราะหากเกิดการชำรุดเสียหายขึ้นระหว่างการใช้งานจะช่วยให้เราประหยัดค่าซ่อมแซมลงได้หากยังอยู่ในระยะเวลาของการรับประกันตามที่ระบุเอาไว้ในแต่ละรุ่น 

บทสรุปหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024

ผ่านไปแล้วกับ 5 รุ่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 ที่เราคัดมาให้คุณได้เลือกใช้งานกัน จากแบรนด์ชั้นนำของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็มากับคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป

หากจะให้เลือกมาสักรุ่นในรายชื่อข้างต้น เราขอเลือก หม้อหุงข้าวไฟฟ้า Electrolux รุ่น E7RC1-550K เพราะมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนเหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การทำความร้อนแบบ 3 ทิศทาง, ทำเมนูได้ถึง 10 แบบ, ตั้งเวลาล่วงหน้าได้ถึง 24 ชั่วโมง, ผ่านมาตรฐาน มอก.1039-2547 และยังมีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยอีกด้วย อย่างไรก็ตามคุณสามารถเปรียบเทียบรายละเอียดกันดูอีกครั้งว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้ารุ่นไหนที่ตรงตามที่คุณกำลังมองหาอยู่มากที่สุด