ด้วยยุคสมัยพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด อุปกรณ์ใช้ในครัวเพื่อรังสรรค์เมนูอาหารแสนอร่อยก็ก้าวล้ำตามไปด้วยเช่นกัน หนึ่งในอุปกรณ์น่าสนใจต้องยกให้กับ “หม้ออบลมร้อน” ที่ไม่ใช่แค่การทำอาหารแต่ยังเติมเต็มความสะดวกให้กับเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านอีกต่างหาก ใครที่กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะซื้อ หม้ออบลมร้อน ยี่ห้อไหนดี เราจึงขอนำเอา 5 ยี่ห้อเด็ดมารีวิวให้ตัดสินใจกันง่ายขึ้น จะมื้อไหนก็ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวอิ่มหนำสำราญไปกับรสชาติที่คุ้นเคย
หม้ออบลมร้อน ยี่ห้อไหนดี
- หม้ออบลมร้อน LE CUISSON 12L
- หม้ออบลมร้อน OTTO CO-703A
- หม้ออบลมร้อน Imarflex IB-704
- หม้ออบลมร้อน Phliplus HM98
- หม้ออบลมร้อน SMARTHOME MV-009
การทำงานของหม้ออบลมร้อน
หลักการทำงานของหม้ออบลมร้อนจะใช้พลังงานแสงทความร้อนสูงจากหลอดฮาโลเจนบริเวณฝาหม้อ แสงที่ออกมาจะมีทั้งแสงสีแดงและแสงอินฟาเรดซึ่งสายตาของคนมองไม่เห็น ผ่านตัวพัดลมเพื่อให้ความร้อนดังกล่าวเกิดการหมุนเวียนจนอาหารที่ใส่เอาไว้สุกพร้อมทาน
กับอีกแบบคือความร้อนผ่านขดลวด วัสดุของตัวหม้อมักทำจากแก้วใสที่มีความหนา ทนร้อนได้ดี เพื่อมองเห็นระดับความสุกของอาหารภายในอย่างที่ต้องการ
หม้ออบลมร้อนทำอาหารประเภทไหนได้บ้าง
สำหรับผู้ที่จะใช้งานหม้ออบลมร้อนในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร ส่วนมากนิยมเลือกทำกลุ่มเมนูประเภทอบ, อบกรอบ, ย่าง ด้วยการกระจายความร้อนที่ทั่วถึง แต่จะไม่ค่อยนิยมนำมาใช้กับอาหารประเภททอดเท่าไหร่นัก
เนื่องจากระบบการทำงานจะต่างกับหม้อทอดไร้น้ำมัน หากทำอาหารประเภททอดสิ่งที่ได้จึงไม่เกิดความกรอบฟู ในทางกลับกันอาจมีความฉ่ำน้ำเข้ามาแทนที่
ความแตกต่างระหว่างหม้ออบลมร้อนกับหม้อทอดไร้น้ำมัน
1. วัตถุประสงค์การใช้งาน
อย่างที่กล่าวไปว่าประเภทอาหารที่ใช้ของอุปกรณ์ 2 ชิ้นนี้ต่างกัน หม้ออบลมร้อนจะเน้นการปิ้งย่าง อบ ให้ความฉ่ำน้ำ รสชาติเข้าเนื้อ แต่สำหรับหม้อทอดไร้น้ำมันมักเน้นไปที่อาหารทอด อาหารมีความกรอบ แห้งมากกว่า
2. วิธีใช้งาน
หม้ออบลมร้อนเวลาจะใช้งานต้องเปิด-ปิดฝาจากด้านบนออก แต่หม้อทอดไร้น้ำมันใช้วิธีเลื่อนถาดเข้า-ออกสำหรับการปรุงหรือพลิกอาหาร
3. ขนาดของตัวหม้อ
เรื่องขนาดเป็นอีกสิ่งที่บ่งบอกด้านความแตกต่าง ทั่วไปหม้ออบลมร้อนจะมีพื้นที่ในการใส่อาหารมากกว่า สามารถใส่ปลาได้ทั้งตัว หรือเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ แต่หม้อทอดไร้น้ำมันตัวหม้อจะมีหน้าแคบ ใส่อาหารได้น้อย หรือต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กลง
4 การทำความสะอาด
หม้ออบลมร้อนต้องคอยระวังเรื่องตัวหม้อที่ทำจากแก้ว มีน้ำหนักมาก รวมถึงเวลาเช็ดบริเวณหลอดไฟฮาโลเจนเพื่อไม่ให้เกิดความชื้นและลัดวงจร ส่วนหม้อทอดไร้น้ำมันแค่ถอดตัวหม้อออกมาจากเครื่องก็ล้างได้ทันที น้ำหนักเบา ภายในเครื่องไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ให้ต้องระวังมากนักเมื่อต้องการเช็ดทำความสะอาด
รีวิว 5 หม้ออบลมร้อน ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ทุกครอบครัว
หลังจากรู้ถึงความแตกต่างและการใช้งานอย่างเหมาะสมของหม้ออบลมร้อนกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูกันว่าหากคุณคือคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์ประเภทนี้เอาไว้ใช้งานที่บ้านของตนเองมียี่ห้อไหนน่าสนใจ รวมถึงตอบโจทย์ด้านการลงทุน ซื้อแล้วคุ้มค่า ใช้งานดี ไม่มีปัญหาจุกจิกตามมาภายหลัง กับ 5 ยี่ห้อที่จะขอรีวิวกันเลย
1. หม้ออบลมร้อน LE CUISSON 12L
เริ่มต้นด้วยหม้ออบลมร้อนที่จุอาหารได้ถึง 12 ลิตร กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ใช้ปรุงอาหารเมนูได้ตามใจชอบ ตัวหม้อทำจากแก้วหนา แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน ทนต่อความร้อนสูง มองเห็นอาหารชัดเจน ล้างทำความสะอาดง่าย ปรับใช้อุณหภูมิได้ตั้งแต่ 65 – 250 องศาเซลเซียส ตัวเลขระบุค่าความร้อนเอาไว้ชัดเจน มีโหมดในการตั้งเวลาเพื่อทำอาหารสูงสุด 60 นาที ขนาดอุปกรณ์ 36 x 36 x 23 ซม. น้ำหนัก 1.35 กิโลกรัม
ถือเป็นหม้ออบลมร้อนคุณภาพดีน่าใช้งาน ขนาดใหญ่จุอาหารได้เยอะ ทำเมนูต่าง ๆ ได้ในคราวเดียว ไม่ต้องเสียเวลาอบซ้ำหลายรอบ เพิ่มความรวดเร็วในมื้ออาหารนั้น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่
จุดเด่น
- ปรับอุณหภูมิได้หลากหลายตามประเภทอาหาร
- ปุ่มหมุนปรับอุณหภูมิระบุตัวเลขชัด กำหนดค่าความร้อนง่าย
- น้ำหนักหม้อถือว่าเบาเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
- ตัวหม้อทำจากแก้วอย่างหนา ทนความร้อน ใช้งานได้นาน
- ตั้งเวลาในการทำอาหารต่อครั้งได้สูงสุด 60 นาที
จุดควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ทำอาหารปริมาณน้อย
- ขาตั้งทำจากพลาสติก ระวังหักเมื่อต้องยกหม้อหนักบ่อย ๆ
- หากใช้ความร้อนสูงเกินไปฝาอบพลาสติกด้านบนอาจละลายได้
2. หม้ออบลมร้อน OTTO CO-703A
ต่อกันที่หม้ออบลมร้อนจากยี่ห้อดังที่ทุกคนรู้จักดี ขนาดความจุ 12 ลิตร กำลังไฟ 1,300 วัตต์ ใช้ระบบการทำความร้อนจากขดลวด พร้อมพัดลมกระจายความร้อน อาหารสม่ำเสมอ อุณหภูมิตัวหม้อปรับได้สูงสุด 250 องศาเซลเซียส ตั้งเวลาการทำนาน 60 นาที
ตัวไฟสีแดงจะบ่งบอกสถานะหากกำลังถูกใช้งาน ตัวหม้อทำจากแก้วใสชนิดหนา ทนความร้อนได้ดี ขาตั้งผลิตจากพลาสติก ABS พร้อมการยืนยันมาตรฐาน มอก. ชัดเจน
ใครที่ทำอาหารเองบ่อย ๆ การมีหม้ออบลมร้อนยี่ห้อนี้ติดบ้านจะช่วยให้ทุกเมนูของคุณเป็นเรื่องง่ายมากกว่าเดิม ให้กำลังไฟแรงสะใจ อาหารสุกทั่วถึง เมนูไหนก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด อร่อยจนต้องอยากทำซ้ำแน่นอน
จุดเด่น
- ให้กำลังไฟสูง 1,300 วัตต์ อาหารสุกเร็ว
- ปรับอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 250 องสาเซลเซียส
- ตั้งเวลาในการทำอาหารได้ยาวนาน 60 นาที
- ตัวหม้อทำจากแก้วใส มองเห็นอาหารชัด แข็งแรง
- ขาตั้งผลิตจากพลาสติก ABS ผ่านมาตรฐาน มอก.
จุดควรพิจารณา
- ปุ่มหมุนปรับความร้อนและเวลาเป็นร่องลึกลงไป ความถนัดมือลดลง
- ระบบขดลวดมักมีปัญหาเกี่ยวกับความร้อนไม่คงที่ และต้องระวังสนิม
- ระวังขาตั้งพลาสติกอาจหักได้ถ้าใส่อาหารในหม้อเยอะเกินไป
3. หม้ออบลมร้อน Imarflex IB-704
สำหรับหม้ออบลมร้อนยี่ห้อนี้โดดเด่นด้วยสีสันจากพลาสติกขาตั้งและฝาปิดด้านบน ขนาดความจุ 12 ลิตร พัดลมขนาดเล็กบนฝาครอบใช้สำหรับละลายน้ำแข็งได้ง่าย กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ปรับค่าอุณหภูมิได้สูงสุด 250 องศาเซลเซียส ปรับเวลาได้ระหว่าง 0-60 นาที
ใช้ระบบการกระจายความร้อนแบบขดลวด อาหารสุกทั่วถึง สร้างเมนูสุดโปรดได้อย่างใจปรารถนา ตัวหม้อทำจากแก้วใส ทนทาน และยังมีระบบ Thermostat ตัดไฟอัตโนมัติหากความร้อนขึ้นสูงขึ้นไปด้วย
เป็นอีกยี่ห้อของหม้ออบลมร้อนที่ตอบโจทย์ครอบครัวมาก จะทำเมนูอาหารปิ้ง ย่าง อบ ก็ได้รสชาติแบบเต็มคำ มองเห็นระดับความสุกของอาหารภายในชัดเจน สร้างเมนูโปรดของทุกคนในบ้านอย่างลงตัวสุด ๆ
จุดเด่น
- สีสันของฝาหม้อและขาตั้งโดดเด่น สะดุดตา
- พัดลมขนาดเล็กด้านบนใช้ประโยนชน์สำหรับการละลายน้ำแข็ง
- ปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 250 องศาเซลเซียส
- ปรับระยะเวลาการทำอาหารได้ตามชอบเกิน 60 นาที / ครั้ง
- ตัวหม้อทำจากแก้วใส ทนทาน มองเห็นอาหารภายในง่าย
จุดควรพิจารณา
- ระบบทำความร้อนจากขดลวดต้องระวังการเกิดสนิมและความสม่ำเสมอของไฟ
- ปุ่มหมุนปรับความร้อนและเวลาเป็นร่องลึก ผู้ใช้บางคนอาจไม่ถนัด
- หูจับด้านบนทำจากพลาสติกต้องระวังเรื่องการแตกหัก
4. หม้ออบลมร้อน Phliplus HM98
หม้ออบลมร้อนยี่ห้อนี้มีขนาดความจุ 12 ลิตร กำลังไฟ 1,300 วัตต์ ระบบทำความร้อน 3 มิติ ช่วยให้เกิดความสม่ำเสมอ อาหารสุกง่าย รวดเร็ว มีปุ่ม Safety Lock บริเวณหูจับ หากยกขึ้นมาเครื่องจะหยุดทำงาน ปรับอุณหภูมิระหว่าง 125-250 องศาเซลเซียส
ตั้งค่าทำงานได้นาน 60 นาที ไฟจะแสดงสถานะระหว่างใช้งาน มาพร้อมโถ 2 แบบ คือ สเตนเลสและแก้ว ทนความร้อนดี แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน เมนูไหนก็อร่อยทั้งครอบครัว
ครอบครัวไหนนิยมทำอาหารเพื่อสุขภาพ หรือต้องการหม้ออบลมร้อนที่มีความแรงของไฟดี ทำงานผ่านระบบหลอดฮาโลเจน ยี่ห้อนี้จัดว่าตอบโจทย์ และช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเมนูแสนอร่อยอย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน
จุดเด่น
- กำลังไฟสูงถึง 1,300 วัตต์ อาหารสุกง่ายและเร็วขึ้น
- มีรูปแบบทำความร้อน 3 มิติ กระจายความร้อนให้ทั่วถึง
- ปุ่ม Safety Lock หยุดทำงานเมื่อยกหูขึ้น
- มีโถให้ 2 แบบ ทั้งสเตนเลส และแก้วใส
- ตั้งค่าทำงานได้นานสุด 60 นาที
จุดควรพิจารณา
- ตั้งค่าอุณหภูมิต่ำยาก ไม่มีตัวเลขระบุชัดเจน
- ระบบหลอดฮาโลเจนทนทานน้อยกว่าแบบขดลวด
- น้ำหนัก 7 กิโลกรัม ถือว่าหนักมาก
5. หม้ออบลมร้อน SMARTHOME MV-009
ปิดท้ายกันด้วยหม้ออบลมร้อนความจุ 12 ลิตร กำลังไฟ 1,200 วัตต์ สามารถปรับอุณหภูมิได้ระหว่าง 65-250 องศาเซลเซียส ให้ความร้อนระบบหลอดฮาโลเจน อาหารสุกทั่วถึง ประหยัดพลังงาน ไม่กินไฟ ทำอาหารสุกเร็วทันใจ
ตัวหม้อเป็นโถแก้วใส มองเห็นอาหารชัดเจน ทนความร้อนดีมาก พร้อมระบบ Safety Locks เพียงยกหูจับก็หยุดทำงาน น้ำหนัก 6 กิโลกรัม ขนาด 33.5 x 33 x 35 ซม.
ใครมองหาหม้ออบลมร้อนคุณภาพดี ให้กำลังไฟเยี่ยมในระบบหลอดฮาโลเจน น้ำหนักกลาง ๆ เหมาะกับทำอาหารให้กับทุกคนในครอบครัว เลือกยี่ห้อนี้ถือว่าตอบโจทย์มากทีเดียว ใช้งานได้คุ้มค่าแน่นอน
จุดเด่น
- ปรับอุณหภูมิในการทำอาหารได้หลากหลาย ร้อนเร็ว
- ประหยัดไฟในการใช้งานจากกำลังไฟไม่สูงเกินไป
- ระบบ Safety Locks ปลอดภัยมากขึ้น
- ปรับเวลาได้สูงสุด 60 นาที
- ตัวหม้อทำจากแก้วใส มองเห็นอาหารชัดเจน
จุดควรพิจารณา
- ต้องระวังเรื่องการทำความสะอาดจากระบบหลอดฮาโลเจน
- ปุ่มหมุนปรับความร้อนและเวลาเป็นร่องลึก ไม่ค่อยถนัดสำหรับบางคน
- น้ำหนัก 6 กิโลกรัม ยังถือว่าหนักมาก
สรุป หม้ออบลมร้อน ยี่ห้อไหนดี เหมาะกับการซื้อมาใช้มากที่สุด
จากที่ได้รีวิวทั้ง 5 ยี่ห้อนี้ ต้องบอกว่า หม้ออบลมร้อน OTTO CO-703A มีความคุ้มค่าในการเลือกซื้อมาใช้งานเป็นอย่างมากด้วยกำลังไฟที่สูง 1,300 วัตต์ ให้ความร้อนเร็ว อาหารสุกทันใจ ปรับความร้อนได้สูงสุด 250 องศาเซลเซียส ผ่านการทำความร้อนระบบขดลวด ทนทานมากกว่ามีระบบ Safety เพิ่มความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวควันหรือน้ำมันกระเด็น ตั้งเวลาได้สูงสุด 60 นาที เหมาะกับการใช้งานสำหรับครอบครัว เมนูอบ ปิ้ง ย่าง สไตล์ไหนก็อร่อยโดนใจ ไม่เสียดายเงินแน่นอน