โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี

อุปกรณ์ที่บรรดาออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องใช้งานกันประจำนั่นคือ “โปรเจคเตอร์” ไม่ว่าจะเอาไว้นำเสนองานให้กับผู้บริหาร, ทีมงาน หรือกับลูกค้าทำได้ทั้งหมด ดังนั้น การมองหาสินค้าคุณภาพดีในราคาสุดประหยัดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่แค่การใช้งานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงช่วยประหยัดต้นทุนให้กับองค์กรอีกด้วย จึงขอรีวิว 5 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก เพื่อการนำเสนองานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน งานเล็กงานใหญ่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

หากการใช้งานโปรเจคเตอร์ใช้กำลังไฟมาก เราขอแนะนำการประหยัดค่าไฟฟ้าด้วยการติด แผงโซล่าเซลล์ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการลดภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกัน

โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี

รีวิว 5 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี โดนใจ จัดไปเลย

เมื่อทำความรู้จักกับโปรเจคเตอร์แต่ละประเภทรวมถึงรูปแบบการใช้งานทั่วไปกันแล้ว คราวนี้จะขอพาทุกคนไปรีวิว 5 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ขอบอกว่าแต่ละยี่ห้อที่หยิบยกมานี้มีคุณภาพดี น่าสนใจ เหมาะกับการซื้อไว้ใช้งานทั้งในออฟฟิศของตนเองหรือจะใช้เพื่อความบันเทิงในบ้านก็ตอบโจทย์ไม่แพ้กัน จะมีรุ่นไหนบ้างจัดไปกันเลย

1. โปรเจคเตอร์ Freesun TV 500A

โปรเจคเตอร์ Freesun

เริ่มต้นด้วยโปรเจคเตอร์ LCD ที่รองรับการใช้งานระบบ Android 9.0 ช่วยให้การรับชมความบันเทิงของคุณไม่มีสะดุด รวมถึงยังเชื่อมต่อกับระบบ iOS ได้ด้วย แสดงภาพคมชัดระดับ Full HD 480p เชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธ ไม่ต้องมีสายให้เกะกะ เหมาะกับการพกพา ไม่ต้องทำการติดตั้งใด ๆ ให้ยุ่งยาก ระยะฉาย 1.2 – 6 เมตร ขนาดความกว้างเมื่อฉาย 36 – 150 นิ้ว มีลำโพงในตัว หลอดไฟใช้งานได้ 30,000 ชม. ความสว่าง 2600 Lumen

จัดเป็นโปรเจคเตอร์ที่น่าใช้งานมากโดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ ซีรีย์ มีตัวนี้ติดบ้านไว้ช่วยเพิ่มอรรถรสแห่งความสนุก ดูแล้วไม่มีเบื่อ จอขนาดใหญ่ เพลินไปกับหนังเรื่องโปรดแน่นอน

จุดเด่น
  • ใช้งานผ่านระบบบลูทูธ ไม่ต้องเชื่อมต่อสาย
  • รองรับทั้งการเชื่อมต่อระบบ iOS, Android
  • ภาพคมชัดระดับ Full HD 480p
  • มีลำโพงในตัว
  • หลอดไฟใช้งานได้นานถึง 30,000 ชม.
จุดควรพิจารณา
  • กรณีต้องใช้การเชื่อมต่อผ่านสาย HDMI หรือ AV ทำไม่ได้
  • คู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ
  • ความคมชัด 480p อาจมีภาพแตกบ้างเมื่อฉายด้วยขนาดจอใหญ่

2. โปรเจคเตอร์ Rigal RD825

โปรเจคเตอร์ Rigal

ต่อกันที่โปรเจคเตอร์ LCD ที่ให้ความสว่างถึง 2200 Lumen เชื่อมต่อได้ทั้งผ่านบลูทูธและสาย USB ระดับความคมชัด 720p HD Wide Screen มีแอปฯ ความบันเทิงใช้งานในตัวพร้อมลำโพงเสียงดังสะใจ รองรับระบบ Android 6.0 iOS 14.4.2 มีระบบภาษาไทย

ใช้งานง่าย ตั้งเครื่องเพื่อใช้งานจากด้านข้างได้ในกรณีพื้นที่จำกัด ความกว้างของภาพสูงสุด 150 นิ้ว ขนาดไม่ใหญ่มาก พกพาใช้งานนอกสถานที่ได้สบายนี่คือโปรเจคเตอร์ยี่ห้อน่าสนใจมากทีเดียว

ด้วยการใช้งานรองรับภาษาไทย ไม่ต้องปวดหัวกับการค้นหาวิธีเพื่อปรับค่าให้ถูกต้อง ใช้งานได้ทั้งแบบไร้สายและเชื่อมต่อสาย ความคมชัดจัดเต็มมาก

จุดเด่น
  • เชื่อมต่อได้ทั้งบลูทูธและสาย USB
  • มีแอปพลิเคชันความบันเทิงในตัว และดาวน์โหลดเพิ่มได้
  • รองรับการใช้งานภาษาไทย
  • ตั้งเครื่องจากด้านข้างได้ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน
  • ขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักเบาเพียง 1 กก.
จุดควรพิจารณา
  • เชื่อมต่อระบบ Android และ iOS แบบเก่า
  • ปรับค่าความสว่างไม่ได้ตามที่ต้องการ
  • เมื่อปรับภาพแล้วอาจเบลอ 1 ข้าง

3. โปรเจคเตอร์ Owlenz SD150S

โปรเจคเตอร์ Owlenz

โปรเจคเตอร์ที่ขอแนะนำเป็นรุ่นรองรับระบบ Android ใช้งานได้ทั้ง Wi-Fi และการเชื่อมต่อผ่าน Android ช่วยให้การรับชมความบันเทิงหรือการนำเสนองานของคุณสะดวกขึ้นกว่าเดิม ไม่มีลำโพงในตัวแต่ใช้การเชื่อมต่อบลูทูธได้ ความสว่างถึง 2500 Lumen ระบบ LCD ให้ความคมชัด น้ำหนักเบามากเพียง 750 กรัม มีช่องเสียบสาย USB รองรับการใช้งานครบครัน เล่นแอปฯ อื่นเพื่อเชื่อมต่อใช้งานได้ตามชอบ

ใครที่ต้องการเน้นเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ยี่ห้อนี้ให้เลือกรุ่นรองรับ Android และ iOS จะช่วยให้คุณสนุกกับความบันเทิงที่ตนเองชื่นชอบ น้ำหนักเบา พกพาง่ายมาก 

จุดเด่น
  • ความสว่างสูงถึง 2500 Lumen
  • น้ำหนักเบามากเพียง 750 กรัม
  • ใช้งานได้ทั้งระบบบลูทูธ และสาย USB
  • มีแอปพลิเคชันในตัว และรองรับแอปฯ อื่น
  • ใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android
จุดควรพิจารณา
  • ไม่มีลำโพงในตัว ต้องใช้การเชื่อมต่อลำโพงแยก
  • ไม่รองรับการต่อกับภาพโปรเจคเตอร์บางยี่ห้อ บางรุ่น เช่น Samsung
  • ต้องสังเกตระบบปฏิบัติการให้ดีว่ารุ่นที่ใช้เชื่อมต่อได้หรือไม่

4. โปรเจคเตอร์ WANBO T2 Max

โปรเจคเตอร์ WANBO

ต่อกันกับโปรเจคเตอร์ประเภท LCD ใช้งานเชื่อมต่อผ่านระบบ Android และ iOS ให้ความละเอียด 1920 x 1080 คมชัดระดับ 4K หลอดไฟ LED ใช้งานได้ 20,000 ชม. ความกว้างการฉายสูงสุด 120 นิ้ว ตัวเครื่องเชื่อมต่อได้ทั้งระบบบลูทูธและสาย USB น้ำหนักเพียง 900 กรัม ปรับแก้ไขภาพได้เฉพาะซ้าย-ขวา เมมโมรี่การ์ด 16GB มีลำโพง 2 ตัว พัดลมระบายอากาศ 3 ตัว ไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป 

นี่คือโปรเจคเตอร์คุณภาพดีที่อยากแนะนำให้ใช้งานอีกรุ่น ด้วยความคมชัดของหน้าจอที่ให้ภาพระดับ 4K จะนำเสนองานหรือรับชมความบันเทิงก็ชัดเจน น้ำหนักเบา พกพาง่ายอีกต่างหาก มีเมมโมรี่การ์ดในตัวเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น

จุดเด่น
  • ใช้งานได้ทั้งระบบ iOS, Android
  • ความคมชัดระดับ 4K
  • เชื่อมตต่อได้กับบลูทูธและสาย USB
  • มีลำโพง 2 ตัว กระหึ่มสะใจ
  • พัดลมระบายอากาศ 3 ตัว ลดระดับความร้อนของเครื่อง
จุดควรพิจารณา
  • หลอดไฟ LED ใช้งานได้ 20,000 ชม.
  • ขนาดความกว้าง 120 นิ้ว
  • ปรับภาพได้แค่เลื่อนซ้าย-ขวา

5. โปรเจคเตอร์ CNM Z01

โปรเจคเตอร์ CNM

ปิดท้ายด้วยโปรเจคเตอร์ที่ให้ความสว่างถึง 6000 Lumen คมชัด 1920 x 1080 หรือ 4K ขนาดภาพขยายความกว้างได้สูงสุด 300 นิ้ว ระยะการฉาย 1.5 – 5 เมตร อายุของหลอดไฟ 50,000 ชม. เชื่อมต่อการทำงานผ่านระบบ iOS, Android ลำโพงในตัวรองรับคุณภาพเสียง Dolby Sound ปรับองศาคางหมูได้ +-45 พร้อมช่องเชื่อมต่อพอร์ตทุกชนิด รองรับ Wi-Fi 5G ต่อผ่านบลูทูธได้ ครบครันกับการใช้งาน

ใครอยากได้ความคุ้มค่าแบบไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ โปรเจคเตอร์รุ่นนี้รับรองว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว ค่าความสว่างสูงมาก พร้อมความคมชัดเต็มตา จะนำเสนองานหรือใช้เพื่อความบันเทิงก็ไม่ว่ากัน

จุดเด่น
  • ความสว่างสูงถึง 6000 Lumen
  • ให้ความคมชัดระดับ 4K
  • อายุหลอดไฟยาวนานถึง 50,000 ชม.
  • เชื่อมต่อได้ทั้งบลูทูธและสาย USB
  • รองรับระบบปฏิบัติการ iOS, Android
จุดควรพิจารณา
  • น้ำหนัก 2.5 กก. ถือว่าหนักมาก
  • ไม่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือห้องประชุมแสงสว่างมาก
  • หากต้องการสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดีต้องต่อผ่านสาย LAN

ประเภทของโปรเจคเตอร์

โปรเจคเตอร์ ราคาถูก 2021

1. LCD Projector

โปรเจคเตอร์ประเภทแรกจะนิยมใช้สำหรับการนำเสนองาน รวมถึงการใช้เพื่อรับชมคลิป วิดีโอต่าง ๆ มีระบบการทำงานคือยิงแสงผ่าน panel สีที่มี 3 ชุดสี ได้แก่ สีแดง, เขียว, น้ำเงิน แล้วแสงจะถูกรวมเอาไว้ที่ LCD Panel ก่อนส่งต่อผ่านชุดเลนส์เพื่อขึ้นจอภาพ

2. DLP Projector

โปรเจคเตอร์ประเภทนี้ก็มีคนใช้งานอยู่จำนวนมาก ด้วยประโยชน์สุดหลากหลายทั้งการนำเสนองานและรับชมคลิป วิดีโอ ระบบการทำงานคือ ยิงแสงผ่าน Color Wheel (วงล้อสี) แล้วภาพจะถูกส่งไปที่ชิป DMD (ชิปแสดงภาพ) ในชิปดังกล่าวจะมีกระจกสะท้อนแสงขนาดเล็กจำนวนมากก่อนส่งไปยังหน้าจอเพื่อฉายต่อไป

3. LCOS Projector

เป็นประเภทโปรเจตเตอร์ที่พัฒนามาจาก 2 ระบบก่อนหน้า ระบบการทำงานคือนำทั้งวิธีสะท้อนแสงจาก Panel สีผ่านแผ่น Liquid Crystal แทนชิป DMD ส่งผลให้มีเซลล์ภาพเยอะกว่า คมชัดมากกว่า จึงนิยมใช้กับงานพวกวิดีโอ คลิปต่าง ๆ

4. Laser Projector

ปิดท้ายกันด้วยประเภทโปรเจคเตอร์ที่ใช้เลเซอร์เป็นตัวกำเนิดแสง (รุ่นก่อนหน้าทั้งหมดใช้หลอดภาพ) มีระดับความสว่างมากกว่า ใช้งานได้ยาวนาน การใช้เลเซอร์นี้จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของยี่ห้อนั้น ๆ เช่น EPSON ใช้วิธีสร้างแหล่งกำเนิดแสงด้วย Dual Light Source ถือว่าเป็นประเภทที่ให้ความคมชัดดีเยี่ยม

โปรเจคเตอร์ ใช้ทำอะไรได้บ้าง

โปรเจคเตอร์ ราคาถูก

หลักการทั่วไปของโปรเจคเตอร์มักนำมาใช้เพื่อ Presentation หรือการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมองเห็นเป็นภาพเดียวกัน มีทั้งการนำเสนอข้อมูลผ่านภาพนิ่งจากกระดาษ, นำเสนอด้วยการเชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์ มือถือ นอกจากการใช้ทางธุรกิจแล้ว

ยังมีหลายคนที่ซื้อโปรเจคเตอร์เอาไว้ใช้งานในเรื่องของความบันเทิง เช่น การฉายเพื่อรับชมคลิปวิดีโอ ภาพยนตร์ ซีรีย์ต่าง ๆ ซึ่งให้ระดับความคมชัดตามประเภทที่เหมาะสม ถือเป็นอุปกรณ์สำหรับองค์กรจำนวนมากที่ควรมีเอาไว้

สรุปรีวิว โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี 2024

จากที่ได้ทำการรีวิวมาทั้งหมด มาดูกันเลยว่า โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราขอยกตำแหน่งความคุ้มค่าและคุณภาพดีเยี่ยมให้กับ โปรเจคเตอร์ CNM Z01 ที่ให้ความสว่างถึง 6000 Lumen ให้ความคมชัดระดับ 4K ขนาดภาพขยายความกว้างได้สูงสุด 300 นิ้ว มีอายุของหลอดไฟ 50,000 ชม. เชื่อมต่อการทำงานผ่านระบบ iOS, Android ลำโพงได้อย่างดีเยี่อมถือเป็นรุ่นที่ควรมีติดบ้านหรือออฟฟิศไว้เลย จะนำเสนองานหรือเพื่อความบันเทิงก็โดนใจ

9.6out of 10

ดีไซน์9
ทนทาน10
ราคาถูก คุ้มค่า9.7

Similar Posts