ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี

แนะนำ 5 ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ที่แช่ของกินให้สดใหม่ ตอบโจทย์คนรักการทำอาหาร ฉบับปี 2024

ทุกวันนี้พอมีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนมากขึ้น อุปกรณ์ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘Smart’ ก็เกิดขึ้นมาเต็มไปหมด มีจนถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องแยกออกเป็นอุปกรณ์แล้วนะคะ อย่างบ้านเนี่ยบางหลังก็กลายเป็น Smart Home ไปแล้ว ผู้ใช้งานนี่สามารถควบการทำงานของระบบทุกอย่างและทุกส่วนที่อยู่ในบ้านได้เลย 

แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ เราจะมาลงรายละเอียดกันสักเล็กน้อยในส่วนของตู้เย็นประจำห้องครัว ต้องเกริ่นก่อนว่าในช่วงที่ทุกพื้นที่ในโลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดในช่วงแรกๆที่แทบจะไม่มีใครออกมาทำกิจกรรมข้างนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องหากิจกรรมที่สามารถทำที่บ้านซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการทำอาหารหรือการทำขนมนั่นเอง บางคนนี่ถึงกับปั้นอาชีพเสริมจากการทำอาหารได้เลย แต่การที่ติดอยู่ที่บ้านไม่สามารถออกไปตลาดได้นั้นความกังวลที่ตามมาก็คืออาหารที่แช่ตุนไว้เนี่ยอาจจะเก็บได้ในระยะที่ค่อนข้างจำกัดและเราอาจจะต้องการพื้นที่ในการแช่วัตถุดิบต่างๆมากกว่าเดิม ดังนั้นถ้าหากเรามีตู้เย็นคุณภาพดีอย่างพวก smart refridgerator จากยี่ห้อที่มีมาตรฐานการผลิตเยี่ยมๆที่เราสามารถควบคุมอุณหภูมิภายในตู้เย็นได้ ควบคุมการละลายน้ำแข็ง กำหนดวันหมดอายุของสิ่งที่เราแช่ในตู้แล้วทำการแจ้งเตือนแบบนี้เป็นต้นอยู่คู่ครัวแล้วล่ะก็ อย่างน้อยก็ช่วยลดความกังวลเหล่านั้นได้เยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าใครที่ชอบทำอาหาร มากๆอยู่แล้ว พอเจอตู้เย็นฉลาดๆแบบนี้เข้าไปที่ช่วยรักษาความสดของอาหารได้นานขึ้น แถมมีพื้นที่เยอะๆให้บรรจุจัดจำแนกชนิดของวัตถุดิบได้อย่างเป็นระเบียบและสะดวกต่อการหยิบจับ การทำอาหารก็กลายเป็นอะไรที่สนุกขึ้นมาเยอะเลยเนอะ 

แล้วเราจะเลือกตู้เย็นยังไง จากยี่ห้อไหน ในบทความนี้เราก็จะมานำเสนอ 5 ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ที่แช่ของกินให้สดใหม่ ตอบโจทย์คนรักการทำอาหารเอาไว้ให้ทุกคนได้เอาไปเป็นไอเดียก่อนตัดสินใจกันค่ะ

ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี

ตู้เย็น Smeg รุ่น FAB28
อันดับ 1
  • ดีไซน์โดดเด่น วัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทานมาก
  • ความจุภาย 281 ลิตร (9.93 คิวบิกฟุต)
  • ระบบความเย็น Multiflow ช่วยให้ความเย็นกระจายอย่างทั่วถึง
  • มาตรฐานประหยัดพลังงาน A+++
  • ละลายน้ำเเข็งภายใน 9 ชั่วโมง
  • ช่องแช่แข็งความจุ 26 ลิตรช่วยให้คงสภาพคาวหรือของหวานได้อย่างยาวนาน
ตู้เย็น Bosch รุ่น KFN96APEAG
อันดับ 2
  • สามารถควบคุมการทำงานตู้เย็นผ่านแอปพลิเคชั่น home connect
  • ระบบ NoFrost ช่วยแช่แข็งอาหารด้วยการเป่าลมแห้งที่คงที่เพื่อป้องกันการก่อตัวของน้ำแข็ง
  • VitaFresh XXL Pro 0°C ช่วยคงสภาพวัตถุดิบได้นานขึ้นด้วยอุณหภูมิเกือบแตะจุดเยือกเเข็ง
  • สามารถปรับความสูงของช่องเก็บได้อย่างอิสระ
ตู้เย็น Whirlpool รุ่น JumboFlexi 5WQ24NIJAS
อันดับ 3
  • ตู้เย็นมีความจุถึง 591 ลิตร หรือ 20.8 คิว
  • ตู้เย็นมี 4 ประตู มาพร้อมกับหน้าจอ touch screen ช่วยควบคุมการทำงานของตู้เย็น
  • 6TH Sense technology เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บรักษาอาหาร
  • Zen Inverter ช่วยลดเสียงดังรบกวน

รีวิวแนะนำ 5 ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024

เอาล่ะทุกคนคงจะเห็นแล้วว่ามีตู้เย็นยี่ห้ออะไร รุ่นไหนบ้างตรงส่วนสารบัญมาแล้ว แต่รายละเอียดของแต่ละรุ่นมีจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นบ้างนั้นเราไปดูกันเลย

1. ตู้เย็น Smeg รุ่น FAB28

ตู้เย็น Smeg รุ่น FAB28

มาเริ่มกันเลยกับ ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี อันดับแรกกับแรนด์ Smeg เป็นตู้เย็นที่ใครๆก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีไซน์เขาน่ารักสุดๆ แต่ราคานั้นสูงมาก เราก็แอบสงสัยมาสักพักจนต้องไปรีเสิร์ชหาเหตุผลว่าตู้เย็นตัวดังจากประเทศอิตาลีนี้มีดีอะไรบ้างนอกจากการที่มีดีไซน์โดดเด่น สะดุดตา และดูมีชีวิตชีวากว่ายี่ห้ออื่นๆ อ่ะไม่พูดเยอะ สำหรับ Smeg รุ่น FAB28 นี้นั้นอันดับแรกเลยคือเจ้าของแบรนด์ใส่ใจกับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมากๆ เขาเน้นใช้วัสดุคุณภาพที่ดีที่สุดแบบเกรดพรีเมี่ยมในการผลิตตู้เย็นจึงทำให้ตู้เย็นของ Smeg ที่ออกมานั้นสามารถทำให้ผู้ใช้มั่นใจในความทนทานต่อการใช้งานได้เลย อันดับต่อมาคือความสามารถในการบรรจุอาหารค่ะ

เท่าที่ลองดูตู้เย็นจากแบรนด์อื่นๆ ตู้เย็นของ Smeg มีความจุภายในที่เยอะมากถึง 281 ลิตร (9.93 คิวบิกฟุต) นี่จึงทำให้เราสามารถนำอาหารหรือวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารชิ้นใหญ่ๆ แช่ในตู้เย็นได้แบบสบายๆเลยค่ะ มาที่ระบบความเย็นก็เป็นแบบ Multiflow ช่วยให้ความเย็นกระจายอย่างทั่วถึงแล้วถามว่า Energy efficiency class หรือประสิทธิภาพในกรประหยัดพลังงานล่ะเป็นยังไง

คำตอบก็คือการันตีได้เลยว่ามีอัตราการใช้ไฟฟ้าน้อยมากซึ่งเข้าขั้นมาตรฐานประหยัดพลังงาน A+++ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีระบบละลายน้ำเเข็งที่สามารถทำได้ภายใน 9 ชั่วโมงและช่องแช่แข็งที่มีความจุ 26 ลิตรนั้นก็ยังช่วยให้เราเก็บของไม่ว่าจะของคาวหรือของหวานให้คงสภาพได้อย่างยาวนาน ซึ่งพอจะเป็นคำคอบที่ดูจะทำให้ตู้เย็นจากยี่ห้อนี้ได้มาเป็น 1 ในตู้เย็นที่ถ้าหากมีแล้วถือว่าคุ้มค่าที่ได้มา แล้วยิ่งใครที่ชอบทำอาหารมากๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครัวนี่ล่ะก็ตู้เย็นจาก Smeg ถือว่าสามารถทำให้แฮปปี้ได้ทุกครั้งเลยค่ะ  

จุดเด่น
  • ดีไซน์โดดเด่น วัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทานมาก
  • ความจุภาย 281 ลิตร (9.93 คิวบิกฟุต)
  • ระบบความเย็น Multiflow ช่วยให้ความเย็นกระจายอย่างทั่วถึง
  • มาตรฐานประหยัดพลังงาน A+++
  • ละลายน้ำเเข็งภายใน 9 ชั่วโมง
  • ช่องแช่แข็งความจุ 26 ลิตรช่วยให้คงสภาพคาวหรือของหวานได้อย่างยาวนาน
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูงมาก

2.  ตู้เย็น Bosch รุ่น KFN96APEAG

ตู้เย็น Bosch รุ่น KFN96APEAG

ต่อมาเป็นตู้เย็นจากทางฝั่งเยอรมนีนะคะซึ่งนั่นก็คือ ตู้เย็นยี่ห้อ Bosch รุ่น KFN96APEAG รุ่นนี้สิ่งที่เด่นๆเป็นอันดับแรกเลยคือรุ่นนี้เป็นรุ่น 4 ประตูและมีช่องเก็บอาหารค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งบ้านไหนที่เป็นสมาชิกในครอบครัวเกิน 4 คนขึ้นไปนี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างเหมาะสมเลยค่ะ และที่สำคัญเทคโนโลยีต่างๆที่ทำมาผลิตกับตู้เย็นรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยเพราะตู้เย็นรุ่นนี้เราสามารถควบคุมการทำงานของเขาได้ด้วยการโหลดแอปพลิเคชั่น home connect แล้วจับคู่กับตู้เย็นเพื่อควบคุมอุณหภูมิ

ปรับแสงในตู้เย็น ทำการสั่งงานเพื่อตรวจสอบ ระบบต่างๆของตู้เย็นได้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มาที่ระบบการละลายน้ำแข็งบ้างซึ่งมันเจ๋งมากค่ะ เขาถึงกับเปรียบเทียบเลยนะว่ารุ่นนี้คือจุดจบของยุคน้ำแข็งเนื่องจากรุ่นนี้มีระบบที่ชื่อว่า NoFrost ที่จะแช่แข็งอาหารด้วยการเป่าลมแห้งที่คงที่เพื่อป้องกันการก่อตัวของน้ำแข็งนั่นเอง ดังนั้นเวลาที่เอาอาหารออกมาก็ไม่ต้องเสียเวลารอให้น้ำเเข็งค่อยๆละลายเลย

ในส่วนของอาหารสดก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเก็บไว้ไม่ได้นานเพราะเขามี VitaFresh XXL Pro 0°C เป็นเทคโนโลยีที่มาทำให้สภาพแวดล้อมภายในช่องเก็บของสดมีอุณหภูมิเกือบแตะที่ 0°C ซึ่งทำให้คงสภาพวัตถุดิบได้นานขึ้น และแต่ละช่องเก็บก็สามารถปรับความสูงได้ตามต้องการเพื่อให้สะดวกต่อการจัดแจงพื้นที่บรรจุภายใจตู้ได้อย่างอิสระเลยค่ะ อย่างไรก็ตามราคาก็ถือว่ายังสูงอยู่ และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานก็อยู่ในเกรด E นะคะ

จุดเด่น
  • สามารถควบคุมการทำงานตู้เย็นผ่านแอปพลิเคชั่น home connect
  • ระบบ NoFrost ช่วยแช่แข็งอาหารด้วยการเป่าลมแห้งที่คงที่เพื่อป้องกันการก่อตัวของน้ำแข็ง
  • VitaFresh XXL Pro 0°C ช่วยคงสภาพวัตถุดิบได้นานขึ้นด้วยอุณหภูมิเกือบแตะจุดเยือกเเข็ง
  • สามารถปรับความสูงของช่องเก็บได้อย่างอิสระ
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูง
  • ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานอยู่ในเกรด E 
  • ตู้เย็นค่อนข้างเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป

 

3.  ตู้เย็น Whirlpool รุ่น JumboFlexi 5WQ24NIJAS

ตู้เย็น Whirlpool รุ่น JumboFlexi 5WQ24NIJAS

มาถึงตู้เย็นยี่ห้อที่สามกันแล้วซึ่งก็คือ ตู้เย็น Whirlpool รุ่น JumboFlexi 5WQ24NIJAS เป็นตู้เย็นจากอเมริกาที่มีความจุถึง 591 ลิตร หรือ 20.8 คิว เลยทีเดียว และเช่นเคยค่ะเป็นตู้เย็นที่มี 4 ประตูนะมาพร้อมกับหน้าจอ touch screen ช่วยควบคุมการทำงานของตู้เย็นด้วยค่ะ แถมยังมีระบบไฟ LED พร้อมเสียงสัญญาณเตือนตอนเปิดประตูอีกด้วย มาดูระบบการทำงานในตู้เย็นกันบ้าง

สำหรับตู้เย็น Whirlpool รุ่นนี้มี 6TH Sense technology ที่มาเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บรักษาอาหารซึ่งแบ่งออกเป็น 3 การทำงานได้แก่ 6th SENSE FreshLock ดูแลการควบคุมอุณหภูมิ คงคุณค่าและความสด 6th SENSE FreezeLock ช่วยแช่แข็งเร่งด่วน รักษาความสดใหม่ และ 6th SENSE Flexifreeze ที่เป็นช่องแช่แข็งปรับอุณหภูมิเอนกประสงค์ ซึ่งเราสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของแต่ละโหมดได้เลยค่ะ ที่สำคัญตู้เย็นรุ่นนี้มีเทคโนโลยี Zen Inverter ที่ช่วยลดเสียงดังรบกวนด้วยค่ะ อย่างไรก็ตามสำหรับประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนนะ

จุดเด่น
  • ตู้เย็นมีความจุถึง 591 ลิตร หรือ 20.8 คิว
  • ตู้เย็นมี 4 ประตู มาพร้อมกับหน้าจอ touch screen ช่วยควบคุมการทำงานของตู้เย็น
  • 6TH Sense technology เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บรักษาอาหาร
  • Zen Inverter ช่วยลดเสียงดังรบกวน
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูง
  • ไม่ได้ระบุเกรดของประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานอย่างชัดเจน

 

 

4.  ตู้เย็น SAMSUNG รุ่น RT38K501JS8/ST

ตู้เย็น SAMSUNG รุ่น RT38K501JS8_ST

สำหรับยี่ห้อที่สี่ของตู้เย็นที่เรานำมาแนะนำก็มาจากยี่ห้อที่เป็นที่นิยมในครัวเรือนและมีคุณภาพที่ถือว่าดีที่สุดในหลายๆยี่ห้อในใช้กันตามบ้านต่างๆเลยนะคะนั่นก็คือ ตู้เย็น SAMSUNG รุ่น RT38K501JS8/ST รุ่นนี้นี่เอง สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีประตู 2 บาน บน 1 ล่าง 1 นะคะ ความจุ 14.1 คิวที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี All-around Cooling ช่วยเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารทุกชนิด

มีช่องเก็บขนาดใหญ่สามารถใส่ของได้เยอะกว่าเดิม แต่ที่เด่นๆสำหรับรุ่นนี้ก็เห็นจะเป็นเทคโนโลยี Digital Inverter ที่ช่วยเรื่องการตัดเสียงรบกวน การประหยัดพลังงานและลดการสึกหรอของตู้เย็นเพื่อให้มีอายุการทำงานที่นานขึ้นนั่นเองค่ะ ในส่วนของประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานก็ค่อนข้างทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจนะเพราะเกรดที่ได้อยู่ในระดับ A+ แถมราคาก็ถือว่าไม่ได้ถูกเกินหรือว่าแพงจนเกินงบซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตู้เย็นคุณภาพที่ทำให้ทุกคนในบ้านพอใจกับการใช้งานค่ะ

จุดเด่น
  • มีประตู 2 บาน บน 1 ล่าง 1
  • ความจุ 14.1 คิว มีช่องเก็บขนาดใหญ่สามารถใส่ของได้เยอะกว่าเดิม
  • เทคโนโลยี All-around Cooling ช่วยเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารทุกชนิด
  • เทคโนโลยี Digital Inverter ที่ช่วยเรื่องการตัดเสียงรบกวน การประหยัดพลังงานและลดการสึกหรอของตู้เย็นเพื่อให้มีอายุการทำงานที่นานขึ้น
  • ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานเกรด  A+
จุดควรพิจารณา
  • อาจจะยังไม่เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกหลายๆคน
  • ราคากลางๆค่อนไปทางสูง

 

5.  ตู้เย็น  LG รุ่น GC-B257JQYL

ตู้เย็น LG รุ่น GC-B257JQYL

และแล้วก็มาถึง ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อสุดท้ายก็คือตู้เย็น LG รุ่น GC-B257JQYL นั่นเอง สำหรับตู้เย็นรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีประตูแบบ side-by-side ที่เหมาะกับครัวเรือนอีกเช่นกันค่ะ มีขนาด 22.9 คิวพร้อมกับพื้นที่ช่องเก็บของที่กว้างขึ้นเพื่อให้จัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบมากขึ้น ในส่วนของการรักษาอาหารให้สดใหม่อยู่เสมอก็ได้มีการใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า LinearCooling™ ที่มาช่วยลดความผันผวนของอุณหภูมิ สามารถทำให้อาหารคงสภาพได้นานถึง 7 วัน

นอกจากนี้ตู้เย็นรุ่นนี้ยังมีระบบ LG Inverter Linear Compressor ที่ทำให้ตู้เย็นเย็นเร็วขึ้นในขณะที่ยังสามารถยังคงความประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามในไลน์ของรุ่น GC ตู้เย็นเครื่องนี้จะไม่มีที่กดน้ำแแข็งและน้ำอัตโนมัติเหมือนตู้เย็นเครื่องอื่นๆนะคะ เอาล่ะแล้วถ้าหากว่าตู้เย็นเกิดมีปัญหาขึ้นมาล่ะ เราก็จำเป็นต้องเรียกหาช่างมาซ่อมใช่ไหมคะ

แต่ๆๆ ถ้ามีตู้เย็นเครื่องนี้แล้วนั้นเราไม่จำเป็นต้องเสียค่าโทรหาช่างอีกต่อไปเพราะตู้เย็นเครื่องนี้มี Smart diagnosis ที่จะมาช่วยให้เราแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดกับตู้เย็นได้ไวขึ้นพร้อมมีการแจ้งอัพเดตเรื่องการบำรุงรักษาตู้เย็นให้มีสภาพ ดีอย่างสม่ำเสมออีกด้วย ดังนั้นถ้าบ้านไหนที่พอมีงบแต่อยากได้ตู้เย็นที่กำลังดีในคุณภาพที่ค่อนข้างสูง ตู้เย็น LG รุ่น GC-B257JQYL ก็ค่อนข้างตอบสนองต่อความต้องการได้เช่นกันค่ะ

จุดเด่น
  • ประตูแบบ side-by-side
  • LinearCooling™ ทำให้อาหารคงสภาพความสดใหม่ได้นานถึง 7 วัน
  • LG Inverter Linear Compressor ทำให้ตู้เย็นเย็นเร็วขึ้นในขณะที่ยังสามารถยังคงความประหยัดพลังงาน
  • มี Smart diagnosis ช่วยให้ผู้ใช้งานแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดกับตู้เย็นได้ไวขึ้น
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูง
  • ไม่ได้ระบุเกรดของประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานอย่างชัดเจน
  • ในไลน์ของรุ่น GC ตู้เย็นเครื่องนี้จะไม่มีที่กดน้ำแแข็งและน้ำอัตโนมัติ

 

วิธีการเลือกซื้อตู้เย็น

ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี

จากลิสต์ด้านบนนี่มีแต่ตู้เย็นเจ๋งๆไปหมดเลย เจ๋งทั้งด้านนวัตกรรมแล้วก็ดีไซน์เลย แต่สุดท้ายแล้วเราก็จำเป็นต้องเลิอกสิ่งที่คู่ควรกับความต้องการของเราใช่ไหมคะ แล้วเราจะเลือกซื้อตู้เย็นยังไงได้บ้าง วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาฝากแล้วค่ะ

  1. สำรวจพื้นที่ในครัวก่อนซื้อตู้เย็น: ขั้นตอนนี้ก็ง่ายๆเลยเพียงแค่วัดพื้นที่ ความกว้าง ความยาว ความสูงที่เราจะเอาตู้เย็นที่อยากได้ไปวางก่อนเลยค่ะ อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับประตูตู้เย็นตอนเปิดออก หรือถ้าห้องครัวบ้านไหนมีเคาน์เตอร์บาร์อยู่ด้วยก็อย่าลืมเผื่อระยะห่างจากตัวตู้เย้นด้วยนะคะ จากนั้นก็ค่อยเอาไปเทียบกับรุ่นที่เราเล็งไว้ได้เลยค่ะ
  1. เลือกสไตล์ที่ชอบและขนาดที่ใช่: สำหรับเรื่องสไตล์ของตู้เย็นนั้นก็ขึ้นอยู่กับเทสต์ของแต่ละบุคคลเลยซึ่งโดยทั่วไปแล้วตู้เย็นจะมีสไตล์การออกแบบที่จำแนกโดยการออกแบบประตู การจัดวาง และสไตล์ที่เหมาะสำหรับบรรจุอาหารหรือเครื่องดื่มบางประเภทเท่านั้นซึ่งเราสามารถเลือกดูได้ทั้งไซส์และสไตล์ตามเว็บไซต์ของยี่ห้อตู้เย็นที่เราหมายตาไว้อยู่แล้วนะคะ
  1. พิจารณาความสามารถในการบรรจุ: สำหรับข้อนี้เราสามารถเทียบปริมาณอาหารที่เราแช่ตู้เย็นด้วยการเทียบกับหน่วยคิวบิกฟุตของตู้เย็นก่อนค่ะ จากนั้นตอนที่เราได้ไปเทียบกับของจริงก็ค่อยลองนึกถึงเวลาที่เราไปซื้อของหรือจ่ายตลาดก็ได้ค่ะว่าเราปกติเรามีของที่ต้องแช่ตู้เย็นเยอะหรือไม่ ถ้าคนในบ้านมีหลายคนก็อาจจะต้องการตู้เย็นที่ใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะได้บรรจุอาหารได้มากขึ้นนั่นเอง
  1. เช็คคุณสมบัติของตู้เย็นที่ตรงกับความต้องการ: ในส่วนของคุณสมบัติบางประการที่น่าเก็บมาพิจารณาอย่างเช่น ช่องกดน้ำแข็งหรือน้ำอัตโนมัติ ช่องเก็บดีไซน์พิเศษ หรือความสามารถบางประการที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บอาหารให้ยาวนาน ซึ่งถ้ามีคุณสมบัติไหนที่ตรงกับสิ่งที่เรากำลังตามหาอยู่ก็ถือว่าเราเข้าใกล้กับตู้เย็นที่คู่ควรแล้วค่ะ
  1. เลือกสีที่อยากได้เป็นอันดับสุดท้าย: พอถึงจุดนี้ก็สบายละค่ะ เลือกสีที่เราชอบถือว่าเป็นอันจบซึ่งส่วนใหญ่ตู้เย็นก็จะมีสีหลักๆอย่างสีขาวหรือดำ อย่างไรก็ตามต้องลองดูบริเวณรอบๆตู้เย็นก่อนก็ได้ค่ะเพื่อให้สีสันของตู้เย็นลงตัวกับพื้นที่ของห้องครัวค่ะ

บทสรุป ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี

เป็นยังไงกันบ้าง บทความนี้พอจะสามารถฉายไอเดียในการเลือกพิจารณาตู้เย็นที่ตอบโจทย์คนรักการทำอาหารบ้างหรือเปล่า สำหรับรุ่นที่เราอยากจะแนะนำมากๆเลยก็คือตู้เย็นจาก Smeg รุ่น FAB28 เพราะนอกจากจุดเด่นที่ค่อนข้างแพรวพราว ดีไซน์สุดปัง สีสันหลากหลายให้เราเลือกเเล้ว เราค่อนข้างมั่นใจกับความทนทานของตู้เย็นยี่ห้อนี้เป็นอย่างมากเลย ถือว่าลงทุนกับของที่ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมี่ยมเพื่อการใช้งานในระยะยาวได้อย่างคุ้มค่าเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ถ้าหากมีของใช้ในครัวอื่นๆที่กำลังอยากลองซื้อมาใช้เพื่อสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆอย่างเช่น เตาอบไฟฟ้า เตาปิ้งย่าง หม้อทอดไร้น้ำมัน หรือแก้วเก็บความเย็น ก็สามารถแวะมาอ่านบทความที่ชอบรีวิวได้รีวิวไว้เพิ่มเติมได้ตามสะดวกเลยจ้า

Similar Posts