แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ คืออุปกรณ์ในบ้านอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเรา ไม่ให้ต้องทนกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยเฉพาะกับเมืองไทยของเราที่เป็นเมืองร้อน การได้นั่งทำงานหรือพักผ่อนในห้องที่อากาศเย็นๆ มีส่วนช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีแอร์หลายแบบหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นแอร์เคลื่อนที่ต่างๆ ทั้งขนาดตั้งแต่ 9000 BTU , แอร์ 12000 BTU, แอร์ 18000 BTUให้เราได้เลือกใช้งานกัน
สำหรับบทความนี้ ชอบรีวิวขอแนะนำ 5 รุ่น แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี ที่น่าจะคู่ควรกับบ้านคุณมากที่สุด พร้อมวิธีเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม พร้อมแล้วเราไปดูพร้อมๆ กันเลย
แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี
- แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อ SHARP รุ่น AH/AU-XP10WMB
- แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อ TCL รุ่น TAC-IVX9
- แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อ ELECTROLUX รุ่น ESV09CRR-B5
- แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อ Panasonic รุ่น CS/CU-YU9VKT
- แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อ Samsung รุ่น AR10TYHZCWKNST
แนะนำ 5 รุ่น แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี 2024
การจะเลือก เครื่องปรับอากาศ เอาไว้ใช้งานนั้นต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง เพื่อให้ได้รุ่นที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณที่เรามี รวมถึงวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องด้วย คราวนี้เรามาดูกันเลยว่ามี แอร์ 9000 BTU รุ่นไหนที่น่าใช้บ้าง
1. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ SHARP รุ่น AH/AU-XP10WMB
เปิดลิสต์ของ แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี กันด้วย แอร์ ยี่ห้อ SHARP รุ่น AH/AU-XP10WMB จากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นที่มีมาตรฐานวางใจได้มาอย่างยาวนาน มาพร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันสำหรับความเย็นภายในห้องที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Powerful Jet ให้ความเย็นที่รวดเร็ว เป็นแอร์อินเวอร์เตอร์ที่ช่วยให้อุณหภูมิคงที่ มีความสามารถในการประหยัดพลังงาน ไม่เปลืองไฟ และทำงานเงียบ
SHARP AH/AU-XP10WMB มาพร้อมโหมดการทำงานที่ครบครันทั้ง Coanda Airflow กระจายความเย็นไม่ให้สัมผัสร่างกายโดยตรง, Best Sleep Mode ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมเพื่อการนอนหลับออย่างเต็มตื่น, โหมด Eco ประหยัดไฟและประหยัดเงิน รวมถึงมีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ช่วยกำจัดกลิ่นและเชื้อโรค ระบบทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ พร้อมมาตรฐานความทนทาน 7 ประการ ให้คุณใช้งานได้อย่างอุ่นใจ
- มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ กำจัดกลิ่นและเชื้อโรคต่างๆ
- เป็นแอร์อินเวอร์เตอร์ ประหยัดไฟ ทำงานเงียบ
- ระบบ Coanda Airflow กระจายความเย็นได้ดี
- ใช้น้ำยา R32 ประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- มีโหมด Eco ช่วยประหยัดพลังงาน
- ควรใช้กับห้องที่มีพื้นที่ไม่เกิน 15 ตารางเมตร
- ควรล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 6 เดือนครั้ง
2. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ TCL รุ่น TAC-IVX9
ต่อกันกับรายชื่อของ เครื่องปรับอากาศ อย่าง TCL รุ่น TAC-IVX9 แอร์แบบติดผนังระบบ Inverter ที่มีความสามารถในการประหยัดพลังงาน เสียงเงียบ ดีไซน์สวยงามทันสมัย เหมาะกับการตกแต่งห้องแทบทุกแบบ ใช้น้ำยาทำความเย็นแบบ R32 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง ท่อแอร์เป็นทองแดงทนทานต่อสารให้ความเย็นช่วยยืดอายุการใช้งาน มาในราคาที่คุ้มค่าเงิน
TCL รุ่น TAC-IVX9 มาพร้อมระบบกระจายความเย็น 4 ทิศทาง 3 มิติ 3D Air Flow ที่ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วทั้งห้อง ใช้ระบบ DC Inverter ช่วยคงอุณหภูมิตามที่ตั้งเอาไว้ได้อย่างแม่นยำ มีไฟแสดงสถานะชัดเจนช่วยให้ควบคุมง่าย ติดตั้งระบบ Turbo Cool เพื่อความเย็นที่รวดเร็วขึ้น พ่วงมาด้วยฟังก์ชัน Titan Gold ที่มีส่วนในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เพิ่มความสดชื่นทุกครั้งที่ใช้งาน
- เป็นแอร์อินเวอร์เตอร์ เสียงเงียบ ประหยัดไฟ
- ใช้น้ำยาทำความเย็นแบบ R32 ประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- มี ระบบ Turbo Cool ช่วยให้เย็นเร็วขึ้น
- ฟังก์ชัน Titan Gold ช่วยเติมความสดชื่น ยับยั้งแบคทีเรีย
- มีระบบ 3D Air Flow กระจายความเย็นอย่างทั่วถึง
- ไม่มีระบบการทำความสะอาดตัวเอง
- ไม่มีระบบฟอกอากาศ
3. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ ELECTROLUX รุ่น ESV09CRR-B5
มาถึง เครื่องปรับอากาศ 9000 BTU ยี่ห้อ ELECTROLUX รุ่น ESV09CRR-B5 กันบ้าง โดยเมื่อเอ่ยถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์นี้สามารถการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าเปี่ยมไปด้วยคุณภาพมาตรฐานสากลที่มีผู้ใช้ทั่วโลกให้ความไว้วางใจ รวมถึงแอร์รุ่นนี้ด้วยเพราะครบทั้งคุณสมบัติและรูปสมบัติก็ว่าได้ มาพร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ระบุว่าจะสิ้นเปลืองค่าไฟราว 6,911 บาท ต่อปี ใช้น้ำยาแอร์ R32 ที่มีประสิทธิภาพและมีส่วนช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม
ELECTROLUX ESV09CRR-B5 ยังก้าวล้ำทันสมัยด้วยฟังก์ชันมากมายได้แก่ I Favor ทางลัดฟังก์ชันโปรด, I-Feel เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยให้เย็นสม่ำเสมอทั่งห้อง, X-Fan ระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ, I Clean กำจัดเชื้อราเมื่อเริ่มต้นใช้งาน, HD Filter ดักจับฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็ก, Sleep Mode ช่วยประหยัดพลังงาน และหากเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างใช้งานก็จะแสดงรหัสให้เห็นเพื่อง่ายต่อการแก้ไข เป็นแอร์อัจฉริยะอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด
- ฟีเจอร์ I Favor บันทึกฟังก์ชันที่ชอบได้
- มี HD Filter ช่วยกรองฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็ก
- ระบบ I Clean กำจัดเชื้อราเมื่อเปิดเครื่อง
- Sleep Mode ช่วยประหยัดพลังงาน
- ระบบ X-Fan ไล่ความชื้นเมื่อปิดเครื่อง
- เหมาะสำหรับห้อง 12-14 ตารางเมตร
- ควรล้างทำความสะอาดทุก 6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
4.เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Panasonic รุ่น CS/CU-YU9VKT
เครื่องปรับอากาศ ตัวต่อมาคือ Panasonic รุ่น CS/CU-YU9VKT จากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ต้นๆ ที่เด่นเรื่องของเทคโนโลยีด้วยประสบการณ์อันยาวนาน รุ่นนี้เป็นติดผนังแอร์ระบบ Inverter มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการประหยัดพลังงาน และมีความสามารถในการคงอุณหภูมิให้มีความสม่ำเสมอ ช่วยไม่สิ้นเปลืองค่าไฟตอนสิ้นเดือนมากจนเกินไป พร้อมกระจายความเย็นให้ทั่วถึงไม่ว่าจะอยู่จัดใดของห้องก็ตาม
Panasonic CS/CU-YU9VKT ยังมีจุดเด่นในเรื่องของระบบป้องกันไฟกระชากระหว่าง 130-270 โวลต์ ช่วยให้ทำงานได้ต่อเนื่อง รักษาอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น บริเวณครีบคอยล์มีการเคลือบสาร Blue Fin ช่วยป้องกันสนิมและการกัดกร่อนของน้ำยาและกรดต่างๆ ตัวเครื่องทำงานเงียบไม่รบกวนสมาธิแม้ในยามนอน
- ระบบ Inverter ทำงานเงียบและประหยัดไฟ
- มีระบบป้องกันไฟกระชากในตัว ช่วยยืดอายุการใช้งาน
- เคลือบสาร Blue Fin ป้องกันสนิมที่ครีบคอยล์
- ให้ความเย็นที่รวดเร็ว
- กระจายความเย็นได้ทั่วทั้งห้อง
- ไม่มีระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรอง
- ไม่มีระบบฟอกอากาศ
5. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Samsung รุ่น AR10TYHZCWKNST
ส่งท้าย แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี ด้วยแอร์ Samsung รุ่น AR10TYHZCWKNST แอร์ติดผนังระบบ S-Inverter ที่เด่นด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้เย็นเร็วและเย็นไกล ครอบคลุมทุกพื้นที่ในห้อง เพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ที่เคลมว่าเย็นเร็วขึ้นถึง 43 เปอร์เซ็นต์ กระจายความเย็นได้ทั่วถึงขึ้น เสียงเบาลง และประหยัดพลังงานได้ถึง 73% เลยทีเดียว
มาดูในส่วนของฟังก์ชันการทำงานกันบ้าง Samsung AR10TYHZCWKNST มีระบบ Auto Clean ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ไส้กรองสามารถทำความสะอาดได้ง่ายพร้อมเคลือบสารป้องกันสิ่งสกปรก อุ่นใจด้วยเทคโนโลยี Triple Protector Plus ช่วยป้องกันตัวเครื่องกรณีเกิดไฟกระชาก
สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้สารทำความเย็น R32 ประสิทธิภาพสูงและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีโหมด ECO ช่วยประหยัดพลังงานและถนอมเงินในกระเป๋า หลับสบายด้วยโหมด Good Sleep เพิ่มการผ่อนคลายด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม เรียกว่าจัดเต็มเอามากๆ
- เทคโนโลยี Digital Inverter Boost เย็นเร็วขึ้น เสียงเบาลง
- ประหยัดพลังงานมากขึ้น 73%
- มีเทคโนโลยี Triple Protector Plus ป้องกันไฟกระชาก
- มีระบบ Auto Clean ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
- มีโหมด ECO ช่วยประหยัดพลังงาน
- ควรใช้กับห้องที่มีพื้นที่ไม่เกิน 15 ตารางเมตร เพื่อความเย็นที่ตรงตามขนาด BTU
- ไม่มีระบบฟอกอากาศ
เคล็ดลับการเลือก แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งานภายในบ้าน
อย่างที่บอกเอาไว้ในตอนต้นว่าปัจจุบันมีแอร์มากมายหลายลุ่ยหลากยี่ห้อให้เราเลือกใช้งานกัน คุณสมบัติของแต่ละเครื่องก็แตกต่างกันออกไป คำถามคือแล้วเราจะเลือกซื้อแอร์ 9000 BTU ถึงจะเหมาะสมกับบ้านเรามากที่สุด
ซึ่งปัจจัยที่เราสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือก เครื่องปรับอากาศ เอาไว้ใช้งานภายในบ้านนั้นสามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกจากงบประมาณที่มี
ข้อแรกสุดและอาจจะสำคัญที่สุดด้วยก็คือการเลือกเครื่องปรับอากาศ 9000 BTU จากงบประมาณที่มี เนื่องจากแม้จะเป็นแอร์ที่มีขนาดของ BTU เท่ากัน แต่ด้วยรายละเอียดอื่นๆ เช่น ความสิ้นเปลืองพลังงาน ระบบต่างๆ เทคโนโลยีของผู้ผลิตแต่ละราย รวมถึงดีไซน์ที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาก็ไม่เท่ากัน
โดยมีตั้งแต่หลักไม่กี่พันบาทไปจนถึงหลักหมื่น การกำหนดงบประมาณเอาไว้คร่าวๆ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบหารุ่นที่ตรงกับความต้องการของเราได้เร็วขึ้น
2. เลือกจากขนาดของห้องที่จะใช้งาน
ก่อนอื่นเรามาสรุปความหมายของคำว่า BTU แบบเข้าใจง่ายๆ กันก่อน โดย BTU หรือ British Thermal Unit ก็คือหน่วยวัดพลังงานความร้อนที่นิยมใช้กันในระดับสากล ซึ่งในความหมายที่ใช้กับ จะหมายถึงความสามารถในการทำความเย็นและถ่ายเทความร้อนภายใน 1 ชั่วโมง ให้กับพื้นที่ที่ใช้งาน ทั้งนี้ 1 BTU ก็คือ ปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์ มีอุณหภูมิเปลี่ยนไป 1 องศาฟาเรนไฮต์ นั่นเอง
คำถามต่อมาคือแล้วเครื่องปรับอากาศ 9000 BTU เหมาะกับห้องขนาดใด ส่วนใหญ่แล้วจะใช้กับห้องขนาด 12-15 ตารางเมตร สำหรับห้องที่เจอแดดส่อง และ 10-14 ตารางเมตร สำหรับห้องที่ไม่ค่อยโดนแสงแดดโดยตรง
3. เลือกที่ประหยัดพลังงาน
ความร้อนของอากาศในบ้านเราทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น การจะเลือกรุ่นไหนเอาไว้ใช้งานจึงต้องพิจารณาจากความประหยัดพลังงานร่วมด้วย พูดง่ายๆ ก็คือจะได้ไม่เป็นภาระต่อกระเป๋าสตางค์ของเราตอนสิ้นเดือนนั่นเอง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหากบ้านไหนติดแอร์ค่าไฟก็จะเพิ่มขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว
ซึ่งสิ่งที่เราสามารถดูได้ว่าแอร์รุ่นไหนประหยัดไฟได้ดีก็คือการมองหาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มาก่อนนั่นเอง ทั้งนี้เครื่องหมายนี้ไม่ใช่มีแค่ในแอร์เท่านั้นแต่ยังรวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ อีกด้วย
4. เลือกที่ใช้น้ำยาแอร์ R32
หลายคนที่ผ่านการใช้งานแอร์มาบ้าง น่าจะเคยได้ยินชื่อของน้ำยาแอร์ R32 เวลาที่จะเติมน้ำยาแอร์แต่ละรอบกันมาบ้าง ซึ่งน้ำยาแอร์ตัวนี้มีข้อดีหลายอย่างด้วยกันไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการการทำความเย็นที่ช่วยให้เห็นเร็วขึ้น มีส่วนช่วยในการประหยัดไฟ
นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของโลกเราอีกด้วย แม้ราคาจะสูงแต่หากมองในแง่ของความคุ้มค่ากับความเย็นที่ได้รับก็ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
5. เลือกระบบ Inverter
ระบบ Inverter คือระบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน โดยแม้ว่าราคาของแอร์ระบบ Inverter จะสูงกว่าแอร์ทั่วไป แต่ในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่ากว่าแน่นอนเพราะมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานมากกว่านั่นเอง ซึ่งกลไกการทำงานของแอร์ระบบนี้ก็คือช่วยให้คอมเพรสเซอร์ของแอร์ปรับรอบการทำงานให้พอดีกับอุณหภูมิในห้องของเรา
ในขณะที่แอร์ที่ไม่ได้ใช้ระบบ Inverter จะตัดรอบของตัวคอมเพรสเซอร์ตามอุณหภูมิที่ต้องเอาไว้ แล้วเริ่มต้นทำงานอีกครั้งเมื่อห้องร้อนขึ้น แน่นอนว่าการทำงานแบบนี้ทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟมากกว่าในระยะยาวด้วย
6. เลือกจากเสียงการทำงาน
การเลือก แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งานนั้นเรื่องเสียงระหว่างการทำงานคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ลองนึกภาพการพักผ่อนของตัวเองในห้องที่อากาศเย็นๆ แต่กลับมีเสียงของแอร์ดังจนนอนไม่หลับดูสิ หรือหากติดเอาไว้ในห้องทำงานถ้าเสียงดังเกินไปก็อาจรบกวนสมาธิจนไม่เป็นอันทำงาน แรกๆ ก็อาจจะทนได้ แต่นานไปส่วนใหญ่แล้วหลายคนถึงกับต้องเปลี่ยนแอร์กันเลยล่ะ
ทั้งนี้เสียงของเครื่องปรับอากาศขณะทำงานไม่ควรเกิน 19 เดซิเบล โดยส่วนใหญ่แล้วเราต้องดูจากรายละเอียดสเปคของแอร์รุ่นนั้นๆ ที่บอกเอาไว้ว่ามีความดังอยู่ที่ระดับใด
7. เลือกจากฟังก์ชันการทำงาน
ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้แอร์แต่ละรุ่นมักมากับฟังก์ชันการทำงานที่ล้ำสมัย การเลือกเครื่องปรับอากาศ 9000 BTU ที่ถูกใจจึงควรพิจารณาจากข้อนี้ร่วมด้วย เพราะนอกจากเรื่องของความประหยัดไฟ ความเย็น หรือเสียงที่เงียบแล้ว ฟังก์ชันเสริมต่างๆ จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพที่น่าพอใจมากยิ่งขึ้น
อาทิ มีระบบทำความสะอาดหรือไล่ความชื้นในตัว มีระบบฟอกอากาศ กำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ สามารถสั่งงานได้จากแอพในสมาร์ทโฟน มีระบบเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวเพื่อให้กระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง เป็นต้น และแน่นอนว่าฟังก์ชันยิ่งเยอะ ราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วย
8. อย่าลืมดูเงื่อนไขการรับประกัน
ข้อสุดท้ายแต่บอกเลยว่าสำคัญไม่แพ้ข้ออื่นก็คือการตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าว่าแอร์รุ่นที่เราสนใจนั้นมีการรับประกันความเสียหายในเรื่องใดบ้าง และเป็นระยะเวลานานแค่ไหน โดยเฉพาะกับตัวคอมเพรสเซอร์ที่ถือว่าเป็นส่วนที่ทำงานค่อนข้างหนัก ซึ่งหากเป็นยี่ห้อมาตรฐานส่วนใหญ่จะมีการรับประกันให้อย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป
เคล็ดลับการใช้งานเครื่องปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดค่าไฟ
แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ค่อนข้างกินไฟพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานหนักในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่ก็มีวิธีการใช้งานที่เราสามารถช่วยประหยัดค่าไฟและเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงรักษาอายุของแอร์ให้อยู่กับเรานานขึ้น ดังต่อไปนี้
1. ปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียส โดยการทำเช่นนี้จะช่วยให้สามารถประหยัดค่าไฟลงได้ โดยทุกการลดอุณหภูมิลง 1 องศา จะช่วยเราประหยัดค่าไฟจากการใช้แอร์ราว 10 เปอร์เซ็นต์ และอุณหภูมินี้ยังเป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกเย็นสบายกำลังดีด้วย
2. ปิดแอร์ก่อนจากห้อง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เนื่องจากหลังจากปิดเครื่องแล้วอุณหภูมิภายในห้องก็จะเย็นต่อไปอีกสักพัก แต่การทำแบบนี้ช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าไฟลงได้อีกพอสมควรเมื่อทำเป็นประจำทุกครั้งที่มีการใช้งาน
3. ติดตั้งคอนเดนเซอร์อย่างเหมาะสม โดยควรติดตั้งเอาไว้ในที่ร่ม และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือหาต้นไม้มาบังแดดเอาไว้ ตำแหน่งการติดตั้งควรอยู่ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 ซม. เพราะจะช่วยในการระบายความร้อน รวมถึงมีส่วนทำให้เราสามารถประหยัดค่าไฟได้อีก 15-20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
4. ตรวจสอบสภาพห้องที่จะใช้งานว่ามีช่องว่างให้อากาศภายในเล็ดลอดออกไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักแต่ความเย็นไม่ได้ตามที่ต้องการ หรือหากมีแสงแดดส่องเข้ามาในห้องก็ควรมีผ้าผ่านที่สามารถกันแดดได้ดีติดตั้งเอาไว้ร่วมด้วย
5. ทำความสะอาดและดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยควรตรวจเช็กน้ำยาแอร์ให้เพียงพอและล้างทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 6 เดือน การดูแลรักษาที่ดีจะช่วยให้ยืดอายุการใช้งานออกไปได้นานขึ้น รวมถึงเมื่อเครื่องมีสภาพสมบูรณ์ก็ยังมีส่วนช่วยประหยัดไฟได้ด้วย
บทสรุป แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี
ผ่านไปแล้วกับ 5 รุ่น แอร์ 9000 BTU ยี่ห้อไหนดี ที่เราคัดมาให้คุณได้พิจารณากัน จะสังเกตได้ว่าแม้จะมีขนาดของ BTU เท่ากัน แต่ราคาก็ต่างกันออกไปตามเทคโนโลยีของผู้ผลิตที่ใส่มาในแต่ละเครื่อง
โดยหากให้เราเลือกที่สุดของเครื่องปรับอากาศ 9000 BTU ในบทความนี้เราขอเลือก แอร์ ELECTROLUX รุ่น ESV09CRR-B5 เนื่องจากมีราคาที่ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปแต่ให้ฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเงียบ ความประหยัด ความทนทาน ความเย็น และยังมาพร้อมกับระบบป้องกันไฟกระชากอีกด้วย หรือหากยังไม่ถูกใจ คุณสามารถเลือกรุ่นอื่นๆ ได้ตามความเหมาะสมรวมถึงงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น แอร์ราคาไม่เกิน 10000 บาท หรือแอร์ขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่น แอร์ 12000 BTU ที่เราได้รวบรวมมาให้แล้วเช่นกันค่ะ