แทบไม่ต้องอธิบายอะไรมากหลายคนก็คงทราบดีถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายว่าส่งผลดีกับสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง ซึ่งโดยรวมแล้วช่วยให้ร่างกายรวมถึงจิตใจของเราแข็งแรงและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยหนึ่งในกีฬายอดนิยมของยุคนี้คงต้องยกให้กับการวิ่งแบบต่างๆ นั่นเอง เพราะสามารถทำได้ง่าย แค่กายพร้อม ใจพร้อม กับรองเท้าวิ่งดีๆ สักคู่ก็สามารถออกวิ่งได้แล้ว
สำหรับการวิ่งนั้นให้ประโยชน์ในเรื่องของการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานของร่างกายในหลายส่วน และสำหรับใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งอยู่แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี บทความนี้เรามีมาแนะนำ พร้อมวิธีเลือกอย่างเหมาะสมว่าคู่ไหนที่น่าจะคู่ควรกับคุณ
สำหรับนักวิ่งส่วนมากเมื่อมีรองเท้าวิ่งแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ สมาร์ทวอทช์ โดยมีให้เลือกหลากหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นของทาง Apple watch, หรือนาฬิกาของแบรนด์ Garmin นั้นเอง
รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี
- รองเท้าวิ่ง MIZUNO Wave Rider 24 D
- รองเท้าวิ่ง NEW BALANCE Fresh Foam Roav Haze
- รองเท้าวิ่ง adidas RUNNING Ultraboost 21
- รองเท้าวิ่ง ASICS GEL-NIMBUS 21 (MEN)
- รองเท้าวิ่ง PAN รุ่น PREDATOR P (PF16P1)
แนะนำ 5 รุ่น รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2023
การจะเลือกรองเท้าวิ่งสักคู่นั้นต้องพิจารณาองค์ประกอบในเรื่องใดบ้าง คราวนี้เรามาเข้าสู่การแนะนำ 5 รุ่น รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี กันเลย ว่ามีคู่ไหนบ้างที่น่าจะลงตัวกับสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่
1. รองเท้าวิ่ง MIZUNO Wave Rider 24 D
เริ่มกันเลยกับรายชื่อ รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี อย่าง MIZUNO Wave Rider 24 D รองเท้าดีไซน์สวยเพื่อผู้หญิงสายสปอร์ตที่ชื่นชอบการวิ่งแต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องแฟชั่น รุ่นนี้คือรุ่นยอดนิยมที่สาวกชาวมิตซูโน่เทใจให้ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Mizuno Enerzy ซึ่งมาแทนที่ U4icX โดยทางผู้ผลิตเคลมว่าหากเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Wave Rider 23 แล้วจะนุ่มขึ้นราว 6% รวมถึงสปริงตัวดีขึ้นถึง 12% อีกด้วย
MIZUNO Wave Rider 24 D เป็นรองเท้าวิ่งในระดับกลางค่อนไปทางระดับบนของค่ายที่ผสานเอาเทคโนโลยี Stability และ DynamicFit เข้าด้วยกันทำให้สวมใส่ได้อย่างกระชับรองรับแรงกระแทกได้ดีขึ้น เพื่อให้เข้ารูปแบบการวิ่งของผู้ใช้ พ่วงมาด้วย SmoothRide เพิ่มสมดุลในทุกก้าวของการวิ่ง ตัว Upper เป็นผ้าตาข่ายแบบ AIRmash ที่ถึงจะมีน้ำหนักเบาแต่ก็แกร่งและระบายอากาศได้ดี มันคงทุกก้าวด้วยพื้นแบบ X10 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการยึดเกาะ เรียกว่าดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เลยล่ะ
- ดีไซน์และสีสันสวยงามเหมาะกับผู้หญิง
- สวมใส่ได้กระชับ รับแรงกระแทกได้ดี
- พื้นรองเท้าด้านล่างแบบ X10 มีคุณสมบัติช่วยให้ยึดเกาะลู่วิ่งได้ดี
- Upper เป็นผ้าตาข่ายแบบ AIRmash สวมใส่สบาย ไม่อับเพราะระบายอากาศได้ดี
- ผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย เน้นการใส่วิ่งอย่างแท้จริง
- พื้นรองเท้าค่อนข้างหนาอาจไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล
2. รองเท้าวิ่ง NEW BALANCE Fresh Foam Roav Haze
ต่อกันด้วยรองเท้าวิ่ง NEW BALANCE Fresh Foam Roav Haze คู่นี้เป็นรองเท้าสำหรับผู้หญิงเช่นเดียวกัน ซึ่งหากเอ่ยชื่อของผู้ผลิตรายนี้ถือว่าผลงานเข้าตาเลยทีเดียวโดยนอกจากจะใส่วิ่งได้แล้วยังสามารถใส่เป็นรองเท้าแฟชั่นได้อีกต่างหาก จุดเด่นของแบรนด์นั้นคือเข้ามาจับตลาดตรงกลางระหว่าง Nike กับ Adidas ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
ในส่วนของ NEW BALANCE Fresh Foam Roav Haze นั้นมาพร้อมกับ Upper ที่เน้นการระบายอากาศได้ดีน้ำหนักเบาเพิ่มความแข็งแรงด้วยวัสดุสังเคราะห์ ออกแบบรูปทรงมาให้สวมใส่ได้อย่างกระชับ พื้นตรงกลางผลิตจาก Fresh Foam ให้ความนุ่มเป็นพิเศษและรับน้ำหนักได้ดีเมื่อมีการกระแทกในแต่ละก้าว ส่วนพื้นล่างก็ยึดเกาะได้ดีและมีความแข็งแรง เรื่องดีไซน์นั้นหายห่วงเพราะสวยสะดุดตา แถมราคายังสะดุดใจสาวนักวิ่งอีกด้วย
- ดีไซน์สวยงามสามารถใส่วิ่งและใส่แนวแฟชั่นได้
- ผลิตแบบขึ้นรูปชิ้นเดียวช่วยให้ใส่ได้กระชับ
- ภายในนุ่มสบายภายนอกยึดเกาะได้ดีและทนทาน
- ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
- ราคาไม่แพงจนเกินไป
- พื้นรองเท้าค่อนข้างหนา อาจไม่เหมาะกับการวิ่งในระยะไกลๆ
3. รองเท้าวิ่ง adidas RUNNING Ultraboost 21
พูดถึง รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี จะขาด adidas ไปได้อย่างไร โดย adidas RUNNING Ultraboost 21 คือตัวช่วยที่จะมาทำให้การวิ่งของคุณพัฒนาขึ้นอีกระดับ คู่นี้ผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับปรุงให้ได้โมเดลที่ดีที่สุดสำหรับนักวิ่ง ให้สัมผัสอันนุ่มนวลแต่รัดกระชับ สามารถใส่วิ่ง ใส่ออกกำลังกายเบาๆ หรือใส่เป็นรองเท้าแฟชั่นได้ มีให้เลือกทั้งหมดถึง 8 สีด้วยกัน
adidas RUNNING Ultraboost 21 ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลคุณภาพดี มีส่วนผสมของพลาสติก Parley Ocean อัปเปอร์ทำจากเส้นด้าย Primeblue ระบายอากาศได้ดี และด้วยเทคโนโลยี Linear Energy Push ที่รวมกับพื้นล่างช่วยเพิ่มความมั่นคงตรงปลายเท้า กลางเท้า รวมถึงตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม โอบกระชับรับกับเท้าได้ดี ซึ่งนอกจากเรื่องการวิ่งแล้วใครที่มาแนวสตรีทแฟชั่นก็น่าจะชอบรองเท้ารุ่นนี้ด้วยเช่นกัน
- สวยงาม แข็งแรงทนทาน สามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
- ใช้วัสดุในการผลิตคุณภาพดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- อัปเปอร์ทำจากผ้า adidas Primeknit+ ระบายอากาศได้ดี
- ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลประสิทธิภาพสูงที่มีส่วนประกอบของพลาสติก Parley Ocean เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ออกแบบมาให้กระชับรับรูปเท้า รับแรงกระแทกได้ดี
- มีตัวเลือกสีให้เลือกกันอย่างจุใจถึง 8 สี
- เหมาะกับการใส่วิ่งระยะสั้นและการทำกิจกรรมทั่วไป หรือใส่กับชุดลำลอง
4. รองเท้าวิ่ง ASICS GEL-NIMBUS 21 (MEN)
มาต่อกันที่ รองเท้าวิ่ง ASICS GEL-NIMBUS 21 (MEN) ยี่ห้อนี้มาพร้อมดีไซน์ที่ลงตัว คุณภาพที่วางใจได้ ในราคาที่เข้าถึงแบบไม่อึดอัดกระเป๋าสตางค์จนเกินไป รุ่นนี้ปรับโฉมมาให้ดูทันสมัยและปราดเปรียวมากขึ้น สวมใส่สบายกระชับเท้า รองรับแรงกระแทกได้ดี ช่วยให้วิ่งได้นานขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
ASICS GEL-NIMBUS 21 (MEN) ให้การเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยีระบบนำทางแรงปะทะ (Impact Guidance System) เพื่อรองรับทุกจังหวะก้าวให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น ส่วนบนทำจากผ้าตาข่ายแจ็คการ์ดระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วไม่อับหรือร้อนจนเกินไป พื้นหน้าและพื้นหลังใช้เทคโนโลยี GEL ในการรับแรงกระแทก พื้นกลางเป็น FLYTEFOAM Propel ช่วยในการเด้งกลับ พื้นรองเท้าเป็นยางที่ทั้งทนทานและยึดเกาะได้ดี ลองดูว่ารุ่นนี้จะเหมาะกับคุณหรือไม่
- อัปเปอร์ผ้าตาข่ายแจ็คการ์ดสองชั้นระบายอากาศได้ดี
- เทคโนโลยี FLUIDFIT ช่วยเพิ่มความมั่นคงและประสิทธิภาพในการวิ่ง
- มีระบบนำทางแรงปะทะ (Impact Guidance System) ช่วยให้เคลื่อนที่อย่างมั่นคง
- ยึดเกาะกับลู่วิ่งและสปริงตัวได้ดี
- ราคาไม่แพงจนเกินไป
- รูปทรงอาจไม่เหมาะกับคนหลังเท้าใหญ่
5. รองเท้าวิ่ง PAN รุ่น PREDATOR P (PF16P1)
ส่งท้ายรายชื่อรองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี กันด้วยรองเท้าวิ่ง PAN รุ่น PREDATOR P (PF16P1) จากผู้ผลิตที่เชื่อว่าคุ้นเคยกันมาอย่างดีตั้งแต่หลายคนยังเรียนหนังสืออยู่ก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นของรองเท้ายี่ห้อนี้คือเรื่องการสวมใส่สบายในดีไซน์ที่เรียบง่าย ส่วนรุ่นนี้ก็ตามชื่อรุ่นเลยก็คือออกแบบมาเพื่อนักวิ่งมาราธอนโดยเฉพาะ ที่สำคัญก็คือไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงก็มีรองเท้าวิ่งดีๆ เอาไว้สวมใส่
รองเท้าวิ่ง PAN รุ่น PREDATOR P (PF16P1) มาในสีกรมท่าดูมั่นคงแข็งแรง ออกแบบมาให้สามารถระบายอากาศได้ดีเป็นพิเศษแบบ Breathable Cool Mesh ทำให้เมื่อต้องวิ่งนานๆ ไม่ร้อนหรืออับชื้น รู้สึกสบายเท้ามากขึ้น เสริมด้วย REFLEXTIVE ที่ช่วยสะท้อนแสงให้มองเห็นได้ง่ายกรณีวิ่งในที่แสงน้อย
ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้วิ่ง พื้นชั้นกลางเป็น Bubble Foam (Eva foam) น้ำหนักเบาและช่วยลดแรงกระแทก ช่วยเพิ่มแรงส่งไปด้านหน้า ส่วนพื้นล่างเป็นยางแบบพิเศษ น้ำหนักเบา ยึดเกาะได้ดี และยังใส่สบายอีกด้วยเพราะดีไซน์มาให้รับกับรูปเท้าของผู้สวมใส่
- ดีไซน์เรียบง่าย แต่คุณภาพสูงเหมาะกับการวิ่งระยะไกล
- ออกแบบมาให้ใส่ได้กระชับ แต่เบาสบาย
- พื้นชั้นกลางเป็นBubble Foam (Eva foam) รับแรงกระแทกได้ดี
- ระบายอากาศได้ดีใส่แล้วไม่ร้อน
- ราคาไม่แพงมาก
- เน้นการใส่วิ่งระยะยาวเป็นหลัก
รองเท้าวิ่งและรองเท้าเดินต่างกันอย่างไร?
สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งสักคู่อาจจะมีคำถามว่ารองเท้าวิ่งและรองเท้าเดินต่างกันอย่างไร? เพราะดูเผินๆ ก็แทบจะเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเลือกรองเท้าผิดประเภทอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บตามมาได้
โดยการวิ่งนั้นจะมีการลงน้ำหนักและมีแรงกระแทกมากกว่าการเดิน โอกาสบาดเจ็บจะอยู่ที่ 20-70% ส่วนการเดินนั้นมีเพียง 1-5% เท่านั้น จึงควรที่จะเลือกรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะ มีส้นเท้าที่หนากว่ารองเท้าเดิน รับแรงกระแทกได้ดีกว่า มีความยืดหยุ่นสูง สวมใส่ได้กระชับ และมีน้ำหนักที่เบา รองเท้าวิ่งสามารถใส่เดินได้ แต่เราไม่แนะนำให้ใช้รองเท้าเดินมาใส่วิ่ง
วิธีเลือก รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้ใส่ได้พอดีกับเรามากที่สุด
ก่อนจะไปดูว่ารองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับเรา เรื่องแรกที่เราควรให้ความสำคัญก็คู่วิธีการเลือกรองเท้าวิ่ง เนื่องจากรองเท้าวิ่งในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ คุณสมบัติและราคาก็แตกต่างกันออกไป ทำให้มีรายละเอียดหลายอย่างที่เราควรนำมาเพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาตัดสินใจเลือกรองเท้าวิ่งประจำตัว ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย
1. เลือกรองเท้าวิ่งจากการไม่เลือก
อ่านหัวข้อแล้วบางคนอาจจะงงว่าคืออะไร โดยข้อมูลจากทาง Nike ผู้ผลิตรองเท้ากีฬาชั้นนำของวงการแนะนำว่าการตัดตัวเลือกที่ไม่เหมาะสมออกไปคือสิ่งแรงที่เราควรพิจารณา พูดง่ายๆ คือถ้าเราจะวิ่งเราก็ต้องเลือกรองเท้าที่ผลิตมาเพื่อการวิ่งไม่ใช่รองเท้าสำหรับการเดิน เทรนนิ่ง หรือว่ารองเท้าแฟชั่น ไม่ว่าจะซื้อที่หน้าร้านหรือสั่งออนไลน์ก็ตาม
ซึ่งรองเท้าวิ่งนั้นดีไซน์มาสำหรับการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง และเสริมวัสดุกันกระแทกเพื่อรองรับน้ำหนัก ในขณะที่รองเท้าเทรนนิ่งจะรองรับการเคลื่อนที่แบบไหลทิศทาง เพราะมีท่าต่างๆ มากมายที่ต้องฝึก
2. เลือกรองเท้าวิ่งจากสัมผัสยามสวมใส่
มีคำกล่าวของกูรูในวงการนักวิ่งว่ารองเท้าที่ดีนั้นควรเป็นรองเท้าที่เราใส่แล้วรู้สึกว่าสบายมากที่สุด เพราะมีผลต่อทุกก้าวที่เราวิ่งไปข้างหน้า หากได้รองเท้าที่ใส่แล้วไม่สบายอาจทำให้เราบาดเจ็บหรือวิ่งได้ไม่ดีเท่าที่ควร
คำแนะนำในเรื่องนี้หากเป็นไปได้ควรที่จะซื้อรองเท้าวิ่งจากหน้าร้านและลองดูหลายๆ คู่ ด้วยการสวมแล้วทดลองเดินด้วย จนได้คู่ที่คิดว่าใส่แล้วเหมาะกับเท้าเรามากที่สุด ไม่ควรซื้อโดยคำแนะนำของคนอื่น เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะให้คำตอบได้ว่าคู่ไหนเหมาะหรือไม่เหมาะ ใส่สบายหรือเปล่าก็คือตัวคุณนั่นเอง
3. เลือกจากขนาดของรองเท้า
สิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ ก็คือการเลือกขนาดของรองเท้าให้เหมาะสม เนื่องจากกีฬาประเภทนี้ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลานาน รวมถึงต้องรับน้ำหนักตลอดเวลาที่วิ่งอีกด้วย โดยหากคับหรือเล็กเกินไปก็อาจจะกัดเท้าจนทำให้เกิดตุ่มหนองหรือเล็บช้ำขึ้นได้
ในขณะที่หากหลวมเกินไปก็อาจจะรับน้ำหนักได้ไม่ดีและส่งผลต่อการออกตัววิ่งไปข้างหน้า ซึ่งรองเท้าที่พอดีนั้นควรที่จะมีที่ว่างระหว่างนิ้วเท้ากับปลายรองเท้าเล็กน้อย เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญเผยว่าเวลาจะเลือกซื้อรองเท้าควรเป็นเวลาเย็นหรือว่าหลังวิ่งเสร็จเพราะขนาดของเท้าจะขยายตัวใกล้เคียงเวลาวิ่งจริง ไม่ควรซื้อรองเท้าในช่วงเช้าเกินไปเพราะอาจได้คู่ที่คับเวลาใส่วิ่งได้
4. อย่าลืมพิจารณาถุงเท้าร่วมด้วย
แน่นอนว่ารองเท้าก็ต้องคู่กับถุงเท้า ดังนั้นในการเลือกรองเท้าวิ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไปด้วยก็คือถุงเท้าที่เราจะใส่วิ่งหรือแบบที่เราชอบ ซึ่งก็ควรเป็นถุงเท้าวิ่งนั่นล่ะแต่ต้องดูว่าความหนาแบบไหนที่กำลังพอดีและเราใส่แล้วรู้สึกสบายมากที่สุด โดยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบอกว่าในวันที่คุณจะไปหารองเท้าวิ่งคู่ใจต้องไม่ลืมที่จะติดถุงเท้าวิ่งคู่โปรดไปด้วย หรือหากไม่มีก็ต้องลองสวมด้วยถุงเท้าที่ใกล้เคียงกันไม่ใช่ใส่ถุงเท้าอะไรก็ได้ที่ทางร้านวางไว้ให้ใช้
5. เลือกตามรูปแบบการวิ่ง
ความหนักเบาและระยะทางในการวิ่งก็มีส่วนในการเลือกรองเท้าวิ่งเช่นกัน โดยหากคุณเป็นนักวิ่งมือสมัครเล่นที่เพิ่มเริ่มต้นรองเท้าวิ่งทั่วไปที่มีตัวรับแรงกระแทกก็น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนการวิ่งเพื่อแข่งขันอาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมในเรื่องของน้ำหนักที่เบา
พื้นรองเท้าไม่ต้องหนามากเพื่อให้รับรู้ถึงการลงพื้นมากขึ้นและออกตัวได้ดี แต่ถ้าเป็นการวิ่งแบบวิบากหรือวิงเทรลควรใส่ใจในเรื่องความทนทานของพื้นรองเท้าที่แข็งแรง กันน้ำและการยึดเกาะได้มากกว่าปกติเพราะต้องเจอกับเส้นทางหลากหลายรูปแบบ
6. ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ
ทั้ง 5 ข้อ ก่อนหน้านี้คือแนวทางการเลือกรองเท้าวิ่งเชิงเทคนิค ส่วนในข้อนี้เราจะตัดสินกันด้วยอารมณ์และความรู้สึก เชื่อไหมว่าหลายคนเลือกรองเท้าวิ่งคู่ใจจากข้อนี้ โดยดูจากยี่ห้อที่ตัวเองชอบหรือมีประสบการณ์การใช้งานมาบ้าง
ดีไซน์ รูปทรง และสีสันของรองเท้า พอถูกใจคู่ไหนก็ลองใส่ดูถ้าใช่ก็พร้อมจ่ายเงินทันที หรือบางคนอาจจะเป็นนักสะสมที่พอมีรุ่นพิเศษออกมาก็ขอให้ได้มีไว้ในคอลเลคชั่นของตัวเอง เพราะมันมีคุณค่าต่อจิตใจนั่นเอง ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีอะไรถูกหรือผิด อยู่ที่ใจล้วนๆ เลยล่ะ
7. ราคา
ในการจะเลือกรองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหนนั้นราคาค่าตัวของรองเท้าวิ่งก็คือปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดคุณสมบัติของรองเท้าที่เหมาะสมกับเรา ซึ่งข้อนี้ก็คงอยู่ที่งบประมาณของแต่ละคนว่ามีอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้าวิ่งแบรนด์ดังก็มีแนวโน้มที่จะมากับคุณภาพหรือเทคโนโลยีการผลิตที่เหนือกว่า
แต่ไม่ได้หมายความว่ารองเท้าที่ราคาไม่แพงจะใส่วิ่งไม่ได้ เพราะสุดท้ายก็วัดกันที่ความพอดีและความเหมาะสมกับเท้าและรูปแบบการวิ่งของเราเป็นหลัก ขอให้สวมสบาย ทนทาน ก็ใส่วิ่งได้แล้วล่ะ
บทสรุป รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ที่ควรคู่เท้าคุณ
จะเห็นได้ว่ารองเท้าวิ่งแต่ละคู่รวมถึงแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีจุดเด่นของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ สีสัน วัสดุที่ใช้ เทคโนโลยีในการผลิต ซึ่งการจะเลือกรองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ก็อยู่ที่ความพอใจ ความเหมาะสม รวมถึงงบประมาณเป็นหลัก
โดยหากจะให้เลือก 1 ใน 5 รุ่นที่เรานำมาให้คุณพิจารณากันในบทความนี้ก็ขอยกให้ adidas RUNNING Ultraboost 21 เพราะนอกจากจะเป็นรองเท้าวิ่งคุณภาพดีแล้วยังใส่ได้แทบทุกโอกาสไม่ว่าจะใส่เที่ยวหรือใส่แนวแฟชั่น ส่วนใครจะชอบรุ่นไหนเป็นพิเศษนั้นลองเทียบรายละเอียดกันดูอีกครั้ง เพื่อหารุ่นที่ลงตัวกับคุณมากที่สุด