สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

รีวิว 8 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ คุ้มค่ากับการลงทุน ฉบับปี 2024

ในช่วงนี้ถึงน้ำมันจะแพง หมูจะขึ้นราคายังไง เราก็มีทางเลือกดีๆที่จะช่วยให้คุณประหยัดและรักษ์โลก  นั่นก็คืออีกหนึ่งยานพาหนะทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมสำหรับการเดินทางนั่นก็คือ  สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เป็นการเดินทางแบบใหม่ที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัดไฟ ประหยัดเวลา คุ้มค่าต่อการลงทุน และยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย 

หลายคนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต และยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้ชอบรีวิวจะขอมารีวิว  8 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้งานสะดวก ตอบโจทย์ และเหมาะกับการลงทุนในกระเป๋า เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ เลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นที่เหมาะกับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

หากใครมองว่า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อาจจะเล็กไป อาจจะเลือก จักรยานเสือหมอบ จักรยานพับได้ หรือจักรยานไฟฟ้า มาใช้งานก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

รีวิว 8 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี น่าลงทุนซื้อใช้งาน

มาติดตามกันเลยกับ รีวิว 8 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ในด้านการใช้งาน แต่ละยี่ห้อที่แนะนำจะช่วยให้คุณเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าใช้แล้วได้ของที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา ใช้งานสบายใจ แต่ทั้งนี้ทุกครั้งที่ขับขี่ต้องไม่ประมาท และใช้งานเฉพาะกับเส้นทางหรือพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเท่านั้น

1. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D18W

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D18W

เริ่มต้นที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Segway-Ninebot กับ Ninebot D18W รุ่นขวัญใจสำหรับคนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟ้ารุ่นเริ่มต้นสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่ง Ninebot D18W เป็นรุ่นเริ่มต้นในตระกูลของ Ninebot D Series ที่ใช้งานสะดวกและคล่องตัวมากๆ สามารถหยิบไปใช้งานได้ทุกวันกับราคาที่เปิดตัวมาเพียง 16,900.- เท่านั้น

มาพร้อมกับความเร็วที่สามารถทำได้สูงสุดถึง 25 กม./ชม. และยังสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 18 กม./ชาร์จ โครงสร้างทำจากอลูมิเนียม อัลลอย (เกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน) สีเทาด้านสุดเรียบหรูแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 30 ถึง 100 กิโลกรัม ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มสบายด้วยล้อยางลมใหญ่ถึง 10 นิ้ว ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้งานในระยะใกล้ถึงปานกลางไปกลับไม่เกิน 18 กิโลเมตร ขนาดกะทัดรัดพกพาได้ง่ายใส่ติดไว้ท้ายรถก็ได้ โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 14.9 กิโลกรัม บอกเลยว่าสะดวกใช้งานในทุกๆวันตอบโจทย์ครบในทุกไลฟ์สไตล์

จุดเด่น
  • รุ่นเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับคนอยากมีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันแรก ตัวเครื่องใช้วัสดุเกรดอากาศยาน พร้อมประกันศูนย์นานสูงสุดถึง 2 ปี
  • แบตเตอรี่คุณภาพสูงพร้อมีระบบ BMS ตรงตามมาตรฐานระดับสากล พร้อมประกันศูนย์นานสูงสุดถึง 1 ปี
  • ล้อยางลมใหญ่ 10″ แบบมียางในนุ่มสบาย รองรับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี
  • ปรับความเร็วได้ถึง 3 โหมด
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นเพื่อดูข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้ (รองรับทั้ง Ios และ Android)
  • มีโหมดช่วยเข็น/ขี่บนทางเท้า (Walk Mode) สามารถเปิด-ปิดได้ผ่านแอปพลิเคชั่น
  • มีศูนย์บริการคอยดูแลตลอดอายุการใช้งาน (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อผ่านศูนย์บริการ MONOWHEEL)
จุดควรพิจารณา
  • เป็นสกู๊ตเตอร์ที่เหมาะสำหรับใช้งานในระยะใกล้ถึงปานกลาง (ไม่เกิน18 กิโลเมตร)
  • สเต็ปในการพับทำให้ต้องใช้เวลาในการพับ (ประมาณ 3 วินาที)
  • เป็นล้อยางลม ทำให้มีโอกาสรั่วซึมได้

2. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter Pro / Essential Lite

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi

มาถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพับเก็บได้ยี่ห้อดังส่งตรงจากจีน ตัวรถทำจากอัลลอยแบบเดียวกับเครื่องบิน ยางแบบเติมลมขนาด 8.5 นิ้ว ความเร็วสูงสุด 25 กม. / ชม. ความจุแบตเตอรี่ 12800 mAh ชาร์จนาน 8-9 ชม. ขับขี่ได้ไกลสุด 45 กม.

พิเศษกับระบบ Cruise Control คุมความเร็วออโต้ ไม่ต้องบิดคันเร่งค้างนาน เชื่อมต่อบลูทูธ แอปต่าง ๆ ได้ มีไฟหน้า จอ LED และระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ เพิ่มความปลอดภัย

ใครกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพดี ใช้งานคุ้มค่า ขนาดกำลังเหมาะสม พับเก็บได้ ต้องไม่พลาดกับยี่ห้อนี้เลย คุณภาพที่ไว้วางใจได้จริง ใช้งานพื้นที่ไหนก็ปลอดภัย ไร้กังวล

จุดเด่น
  • ตัวรถทำจากอัลลอยเกรดเดียวกับเครื่องบิน
  • ยางขนาดใหญ่ถึง 8.5 นิ้ว ปลอดภัย ไม่มีล้ม
  • ขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 45 กม.
  • ระบบ Cruise Control ขับเคลื่อนแบบออโต้ ไม่ต้องบิดคันเร่งค้าง
  • เชื่อมต่อบลูทูธและแอปต่าง ๆ ได้ตามสะดวก
จุดควรพิจารณา
  • รถมีน้ำหนักเยอะถึง 14.2 กก.
  • ใช้เวลาการชาร์จแบตเตอรี่ต่อครั้งนานมาก
  • ทำความเร็วได้เพียง 25 กม. / ชม.

3. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D38U

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D38U

มาต่อกันที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตัวท็อปสุดในตระกูล D Series กับ Segway-Ninebot KickScooter D38U ที่สาย Daily Use ไม่ควรพลาด โดดเด่นสะดุดตาด้วยบอดี้ของตัวเครื่องสีแดง (Bright Red) ที่ทำมาจากอะลูมิเนียม อัลลอยด์เกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน อัพเกรดกำลังมอเตอร์ ความเร็วและระยะทางที่ทำได้มากกว่ารุ่นเริ่มต้นโดย Ninebot D38U

มาพร้อมกับมอเตอร์ที่ส่งกำลังสูงสุดถึง 700W อัตราเร่งยอดเยี่ยม ขึ้นเนินได้สบาย สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 30 กม./ชม. และวิ่งได้ไกลสุดถึง 38 กม./ชาร์จ สร้างประสบการณ์การขับขี่นุ่มสบายด้วยล้อยางลมที่มีขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว รวมถึงมีการออกแบบระบบล็อกคอสกู๊ตเตอร์แบบใหม่ให้มีความเเข็งแรงมากขึ้น พับ/กางได้สะดวกมากยิ่งขึ้นพกไปไหนก็สบายๆ และมีอีกจุดที่อัพเกรดอย่างเห็นได้ชัดคือในส่วนของไฟท้ายที่มีขนาดใหญ่ สว่างชัดเจดมากยิ่งขึ้นตามมาตรฐาน E-MARK ขับขี่กลางคืนได้อย่างปลอดภัย

จุดเด่น
  • รุ่นที่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน และมีระยะเดินทางที่จำเป็น ตั้งแต่ 10-20 กิโลเมตรขึ้นไป ตัวเครื่องใช้วัสดุเกรดอากาศยาน พร้อมประกันศูนย์นานสูงสุดถึง 2 ปี
  • แบตเตอรี่คุณภาพสูงพร้อมีระบบ BMS ตรงตามมาตรฐานระดับสากล พร้อมประกันศูนย์นานสูงสุดถึง 1 ปี
  • ระบบล็อกคอแบบใหม่แข็งแรง พับ/กางง่ายกว่าเดิม
  • ปรับความเร็วได้ถึง 3 โหมด
  • ไฟท้ายขนาดใหญ่ตรงตามมาตรฐาน E-MARK
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นเพื่อดูข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้ (รองรับทั้ง Ios และ Android)
  • มีระบบ Regenerative Brake แปลงพลังงานจากการเบรกเป็นพลังงานไฟฟ้า
  • มีศูนย์บริการคอยดูแลตลอดอายุการใช้งาน (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อผ่านศูนย์บริการ MONOWHEEL)
จุดควรพิจารณา
  • เป็นระบบดรัมเบรก ระยะเบรกจะยาวกว่าระบบเบรกแบบดิสก์เบรก
  • ปรับระดับความสูงของคอสกู๊ตเตอร์ไม่ได้
  • เป็นล้อยางลม ทำให้มีโอกาสรั่วซึมได้

4. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter F25

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter F25

ต่อมาเป็นรุ่น Ninebot F25 รุ่นเริ่มต้นในตระกูล F Series เป็นรุ่นที่หลายๆคนก็ยังคงชื่นชอบเนื่องจากระบบเบรกในรุ่นนี้เป็นระบบดิสก์เบรก อย่างที่กล่าวไปใน Ninebot F25 มาพร้อมกับระบบเบรกล้อหลังที่เป็นแบบดิสก์เบรก ทำให้มีระยะเบรกที่สั้นกว่าระบบดรัมเบรก

ตัวเครื่องก็ยังมาพร้อมกับโครงสร้างอะลูมิเนียม อัลลอย เกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินตามมาตรฐานของ Segway-Ninebot สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 120 กก. (จากผู้ใช้งานจริง) ทำความเร็วได้สูงสุด 25 กม./ชม. วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 20 กม./ชาร์จ ใครที่กำลังมองหารุ่นที่เอาไว้ใช้เดินทางระยะใกล้ถึงปานกลาง เบรกหนึบๆต้องรุ่นนี้เลย

จุดเด่น
  • ตัวเครื่องแข็งแรงทนทานการันตีด้วยมาตรฐานระดับสากล
  • รับประกันมากกว่าใครด้วยประกันมอเตอร์ 2 ปี แบตเตอรรี่ 1 ปี (มีเฉพาะในรุ่น Ninebot F Series เท่านั้น)
  • แถมฟรี ยางอะไหล่ 1 เส้น (มีเฉพาะในรุ่น Ninebot F Series เท่านั้น)
  • ปรับโหมดการขับขี่ได้ 3โหมด
  • เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นดูข้อมูลต่างๆได้
  • มีระบบล็อคความเร็ว (Cruise Control)
  • มีศูนย์บริการคอยดูแลตลอดอายุการใช้งาน (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อผ่านศูนย์บริการ MONOWHEEL)
จุดควรพิจารณา
  • เป็นสกู๊ตเตอร์ที่เหมาะสำหรับใช้งานในระยะใกล้ถึงปานกลาง (ไม่เกิน 20 กิโลเมตร)
  • สเต็ปในการพับทำให้ต้องใช้เวลาในการพับ (ประมาณ 3 วินาที)
  • เป็นล้อยางลม ทำให้มีโอกาสรั่วซึมได้

5. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway P65U

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway P65U

มาต่อกันที่ Segway P65U สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ตระกูลใหม่ โดย Segway P65U เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นในตระกูล P Series Segway P65U สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 40 กม./ชม. และยังวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 65 กม./ชาร์จ

ที่พิเศษไปกว่านั้น Segway P65U มาพร้อมกับฟีเจอร์แบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น การมีระบบไฟเลี้ยว, การล็อก/ปลดล็อกจตัวเครื่องผ่าน NFC Card, เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นเพื่อปรับสีไฟ Ambient Light, ปรับระดับการทำงานของเบรกไฟฟ้า เป็นรุ่นที่เหมาะมากๆสำหรับ คนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ใช้งานในระยะไกลและต้องการเทคโนโลยีแบบที่ไม่มีในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นไหนมาก่อน

จุดเด่น
  • ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 65 กิโลเมตร
  • มาพร้อมกับ NFC Card เพื่อใช้ล็อก/ปลดล็อกตัวเครื่อง
  • Built-in ระบบชาร์จแบบใหม่ชาร์จเร็ว จาก 0-100% ภายใน 4 ชั่วโมง
  • หน้าจอ LED ขนาดใหญ่บอกครบทุกรายละเอียด
  • ระบบไฟครบชุด ไฟหน้า, ไฟเลี้ยวว. ไฟ Ambient light, ไฟเบรก
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นเพื่อปรับแต่งฟีเจอร์อื่นๆเพิ่มเติมได้
  • รับประกัน โครงสร้าง 3 ปี, มอเตอร์ 2 ปี, แบตเตอรี่ 1 ปี
  • มีศูนย์บริการคอยดูแลตลอดอายุการใช้งาน (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อผ่านศูนย์บริการ MONOWHEEL)
จุดควรพิจารณา
  • ตัวเครื่องมีน้ำหนีก 26.9 กิโลกรัม ไม่เหมาะกับการยกเพื่อพกพา
  • ขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บเยอะ
  • ปรับระดับความสูงของคอสกู๊ตเตอร์ไม่ได้

6. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า JIESUQI 

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า JIESUQI

ต่อกันที่ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้พลังงานเพียงแค่ 350 วัตต์ ก็สามารถขับเคลื่อนออโต้ไปได้ทุกที่ พับเก็บได้ รองรับน้ำหนักสูงสุด 120 กิโลกรัม ใช้เวลาการชาร์จราว 6-8 ชม. เมื่อแบตเตอรี่เต็มขับขี่ได้ยาวนาน 25-30 กม. มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้ในเวลากลางคืน

เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น น้ำหนัก 14.6 กิโลกรัม พิเศษด้วยระบบรีโมทล็อกรถป้องกันการโดนขโมย จอดไว้ไกลสายตาก็ไม่ต้องกลัวหายใครที่ชอบใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบสบาย ๆ รองรับน้ำหนักได้เยอะ ชาร์จไฟต่อครั้งใช้งานกับพื้นที่ไม่ไกลมาก รุ่นนี้ถือว่าเหมาะสมและน่าซื้อใช้งาน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม

จุดเด่น
  • รองรับน้ำหนักได้เยอะถึง 120 กก.
  • ชาร์จไฟ 1 ครั้ง ขับได้ไกล 25-30 กม.
  • มีไฟ LED ส่องสว่าง เพิ่มความปลอดภัยตอนกลางคืน
  • มีระบบรีโมทล็อกรถป้องกันขโมย
  • ใช้ความเร็วได้สูงสุด 35 กม. / ชม.
จุดควรพิจารณา
  • รถมีน้ำหนักเยอะมาก ไม่เหมาะกับการพกพา
  • ใช้เวลาในการชาร์จนาน 6-8 ชม. / ครั้ง
  • โครงสร้างมีส่วนประกอบของเหล็ก ต้องระวังเรื่องสนิม

7. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า SEALUP Q8 XLP-Q8-36V400W

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า SEALUP

ไปกันต่อกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ให้อารมณ์น้อง ๆ รถมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ปาน ขับเคลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังเอง พับเก็บได้ ระบบควบคุมระยะไกลป้องกันการโดนขโมย ยางสุญญากาศ  11 นิ้ว ทำความเร็ว 45 กม. / ชม. หน้าจอบอกกำลังแบตเตอรี่ ไฟหน้า LED ไฟเบรกด้านหลัง

เบาะขนาดใหญ่ นั่งสบาย มีสปริงป้องกันการกระแทก ตัวรถทำจากอัลลอยคุณภาพสูง รับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กก. มอเตอร์ขนาด 400 วัตต์ จากจินหยู่ซิง ขับขี่ได้ไกลสูงสุด 30 – 150 กม.  

ใครชอบใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแนวอึด ถึก ทน ขับขี่ได้ไกล ต้องไม่พลาดยี่ห้อนี้เลย มีฟังก์ชันพิเศษให้แบบครบครัน เทียบเคียงน้อง ๆ มอเตอร์ไซค์ได้สบายมากแม้ความเร็วจะต่างกันสักหน่อย

จุดเด่น
  • ระบบควบคุมระยะไกลป้องกันการโดนขโมย
  • ทำความเร็วได้ถึง 45 กม. / ชม.
  • หน้าจอบอกกำลังแบตเตอรี่
  • มีเบานั่ง รับน้ำหนักได้ 200 กก.
  • ขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 150 กม. 
จุดควรพิจารณา
  • รถขนาดใหญ่มาก แม้พับเก็บได้ก็ไม่สะดวกต่อการพกพา
  • ยางขนาดใหญ่ มีผลต่อการใช้งานแบตเตอรี่
  • ขับขี่ระยะทางจริงต้องคอยสังเกตกำลังแบตเตอรี่

8. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Promark Original 

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Promark

ปิดท้ายกันที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่เน้นความแข็งแรงพร้อมความสะดวกด้วยเป็นแบบพับเก็บและล็อกล้อได้ สกู๊ตเตอร์แบบขาไถที่พร้อมพาคุณไปยังทุกที่ตามต้องการ ต้องการความเร็วแค่ไหนใช้เท้าดันไปด้านหลังได้เลย

เหมาะกับคนน้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม ล้อทำจาก PU ขนาด 20 ซม. หนา 3.5 ซม. การออกแบบคลาสสิกเรียบ ๆ สบายตา ใช้การเบรกมือด้านหน้ามือจับ ปรับความสูงได้ถึง 104 ซม. 

ใครที่เน้นการออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กับการใช้งานสกู๊ตเตอร์แบบไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ รุ่นนี้นับว่าตอบโจทย์อย่างมาก ยิ่งระยะทางใกล้ ๆ ไม่ต้องเดินเองให้เมื่อยเลย

จุดเด่น
  • ล้อทำจาก PU แข็งแรง ขนาดใหญ่ หนา
  • รองรับน้ำหนักได้เยอะเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ
  • สามารถพับเก็บและล็อกล้อได้ พกพาสะดวก ปลอดภัย
  • ปรับความสูงได้ถึง 104 ซม.
  • ไม่ต้องเปลืองไฟในการชาร์จแบตเตอรี่
จุดควรพิจารณา
  • เป็นสกูตเตอร์แบบใช้ขาไถ ไม่เหมาะกับระยะทางไกล
  • การออกแบบธรรมดา ไม่มีลูกเล่นแปลกตา
  • การประกอบและตั้งค่ามีความยุ่งยากเล็กน้อย

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แต่ละรุ่นจุดเด่นไม่น้อยหน้ากันเลยครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้ และงบประมาณงานในการซื้อครับ ข้อมูลจุดเด่น และข้อพิจารณา หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นตัวช่วยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์คู่กายคันแรกมาไว้ใช้ประจำนะครับ สิ่งสำคัญก่อนการตัดสินใจซื้อคำนึง การรับประกัน และบริการการหลังการขาย เพื่อให้เราใช้สกู๊ตเตอร์อยู่กับเราไปนานๆครับ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

1. ขนาด น้ำหนัก และการพับเก็บ

เรื่องแรกที่ควรรู้เมื่อจะเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี เอาไว้ใช้งานต้องมองเรื่องความสะดวก ได้แก่ ขนาด, น้ำหนัก และการพับเก็บ หากคุณต้องพกพาไปตามสถานที่ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ควรเลือกขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พับเก็บได้ แต่ถ้าเน้นใช้บรรทุกของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เวลาไปตลาดอาจเลือกที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางของ เป็นต้น

2. ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ

อย่างที่รู้ว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่ถูกเก็บเอาไว้ตรงแบตเตอรี่เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จึงต้องรู้ว่าในการชาร์จ 1 ครั้ง จะใช้งานได้ราวกี่ชั่วโมง กี่นาที หรือขับได้กี่กิโลเมตร เพื่อเวลาใช้งานจริงจะได้วางแผนอย่างถูกต้อง หมดกังวลแบตเตอรี่หมดกลางทาง

3. เรื่องของยางกับล้อ

อย่ามองข้ามเรื่องยางกับล้อสกู๊ตเตอร์เป็นอันขาดก่อนเลือกซื้อ เพราะมีผลต่อเรื่องความเร็วและความปลอดภัย แนะนำว่าควรเลือกซื้อคันที่มีล้อขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เพื่อการทำความเร็วที่เหมาะสม ไม่เปลืองแบตเตอรี่ แต่ก็ไม่เสี่ยงต่อการสะดุดหินหรือเนินจนล้ม

4. เรื่องของไฟส่องสว่าง

เรื่องสุดท้ายอย่าลืมสังเกตไฟส่องสว่างทั้งไฟหน้าและไฟหลัง ยิ่งถ้าใครต้องขับขี่ตอนกลางคืนบ่อย ๆ ยังไงก็ต้องเลือกรุ่นที่มีติดไว้เลย ป้องกันอุบัติเหตุจากการขับขี่ที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีดูแลรักษาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม

1. หมั่นเช็คระบบและอะไหล่บ่อย ๆ 

พยายามตรวจสอบระบบการทำงานของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบ่อย ๆ เช่น กำลังไฟฟ้าต่อการชาร์จ, ความสึกของล้อ ความแข็งแรงของเบาะ ฯลฯ แนะนำว่าควรทำก่อนใช้งานทุกครั้ง

2. ทำความสะอาดเป็นประจำ

อย่าลืมทำความสะอาดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณเป็นประจำเพื่อให้ยังคงดูใหม่ น่าใช้งาน คุ้มค่ากับการลงทุนที่ซื้อด้วยราคาไม่ใช่เล่น ๆ

3. สังเกตความผิดปกติระหว่างใช้งาน

ในการใช้งานทุกครั้งหากรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เช่น ตอนสะดุดลูกระนาบแล้วล้อนิ่ม หรือมือจับหักเลี้ยวได้ไม่ตรง ต้องรีบเช็คความผิดปกติแล้วซ่อมทันที อย่าปล่อยไว้เด็ดขาด

สรุปรีวิว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี คุ้มต่อการลงทุน

หลังจากได้ทำการรีวิว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มาทั้ง 8 รุ่นแล้ว ชอบรีวิวขอยกให้กับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D18W เป็นสกู๊ตเตอร์ที่น่าใช้งาน คุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด

ด้วยขนาดกะทัดรัดพกพาได้ง่ายใส่ติดไว้ท้ายรถก็ได้ โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 14.9 กิโลกรัม บอกเลยว่าสะดวกใช้งานในทุกๆวันตอบโจทย์ครบในทุกไลฟ์สไตล์ กับขนาดรถที่กำลังพอเหมาะ จึงตอบโจทย์ในการซื้อหาติดบ้านไว้ใช้งาน คุ้มค่ากับราคาที่ลงทุนไปอย่างแน่นอน เมื่อบวกกับชื่อยี่ห้อ Segway – Ninebot ที่ทุกคนคุ้นเคยจึงไม่ต้องกังวลเลย

 

Similar Posts