อุปกรณ์ที่บรรดาออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องใช้งานกันประจำนั่นคือ “โปรเจคเตอร์” ไม่ว่าจะเอาไว้นำเสนองานให้กับผู้บริหาร, ทีมงาน หรือกับลูกค้าทำได้ทั้งหมด ดังนั้น การมองหาสินค้าคุณภาพดีในราคาสุดประหยัดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่แค่การใช้งานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงช่วยประหยัดต้นทุนให้กับองค์กรอีกด้วย จึงขอรีวิว 5 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก เพื่อการนำเสนองานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน งานเล็กงานใหญ่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
หากการใช้งานโปรเจคเตอร์ใช้กำลังไฟมาก เราขอแนะนำการประหยัดค่าไฟฟ้าด้วยการติด แผงโซล่าเซลล์ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการลดภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกัน
โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี
- โปรเจคเตอร์ Freesun TV 500A
- โปรเจคเตอร์ Rigal RD825
- โปรเจคเตอร์ Owlenz SD150S
- โปรเจคเตอร์ WANBO T2 Max
- โปรเจคเตอร์ CNM Z01
รีวิว 5 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี โดนใจ จัดไปเลย
เมื่อทำความรู้จักกับโปรเจคเตอร์แต่ละประเภทรวมถึงรูปแบบการใช้งานทั่วไปกันแล้ว คราวนี้จะขอพาทุกคนไปรีวิว 5 โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ขอบอกว่าแต่ละยี่ห้อที่หยิบยกมานี้มีคุณภาพดี น่าสนใจ เหมาะกับการซื้อไว้ใช้งานทั้งในออฟฟิศของตนเองหรือจะใช้เพื่อความบันเทิงในบ้านก็ตอบโจทย์ไม่แพ้กัน จะมีรุ่นไหนบ้างจัดไปกันเลย
1. โปรเจคเตอร์ Freesun TV 500A
เริ่มต้นด้วยโปรเจคเตอร์ LCD ที่รองรับการใช้งานระบบ Android 9.0 ช่วยให้การรับชมความบันเทิงของคุณไม่มีสะดุด รวมถึงยังเชื่อมต่อกับระบบ iOS ได้ด้วย แสดงภาพคมชัดระดับ Full HD 480p เชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธ ไม่ต้องมีสายให้เกะกะ เหมาะกับการพกพา ไม่ต้องทำการติดตั้งใด ๆ ให้ยุ่งยาก ระยะฉาย 1.2 – 6 เมตร ขนาดความกว้างเมื่อฉาย 36 – 150 นิ้ว มีลำโพงในตัว หลอดไฟใช้งานได้ 30,000 ชม. ความสว่าง 2600 Lumen
จัดเป็นโปรเจคเตอร์ที่น่าใช้งานมากโดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ ซีรีย์ มีตัวนี้ติดบ้านไว้ช่วยเพิ่มอรรถรสแห่งความสนุก ดูแล้วไม่มีเบื่อ จอขนาดใหญ่ เพลินไปกับหนังเรื่องโปรดแน่นอน
- ใช้งานผ่านระบบบลูทูธ ไม่ต้องเชื่อมต่อสาย
- รองรับทั้งการเชื่อมต่อระบบ iOS, Android
- ภาพคมชัดระดับ Full HD 480p
- มีลำโพงในตัว
- หลอดไฟใช้งานได้นานถึง 30,000 ชม.
- กรณีต้องใช้การเชื่อมต่อผ่านสาย HDMI หรือ AV ทำไม่ได้
- คู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ
- ความคมชัด 480p อาจมีภาพแตกบ้างเมื่อฉายด้วยขนาดจอใหญ่
2. โปรเจคเตอร์ Rigal RD825
ต่อกันที่โปรเจคเตอร์ LCD ที่ให้ความสว่างถึง 2200 Lumen เชื่อมต่อได้ทั้งผ่านบลูทูธและสาย USB ระดับความคมชัด 720p HD Wide Screen มีแอปฯ ความบันเทิงใช้งานในตัวพร้อมลำโพงเสียงดังสะใจ รองรับระบบ Android 6.0 iOS 14.4.2 มีระบบภาษาไทย
ใช้งานง่าย ตั้งเครื่องเพื่อใช้งานจากด้านข้างได้ในกรณีพื้นที่จำกัด ความกว้างของภาพสูงสุด 150 นิ้ว ขนาดไม่ใหญ่มาก พกพาใช้งานนอกสถานที่ได้สบายนี่คือโปรเจคเตอร์ยี่ห้อน่าสนใจมากทีเดียว
ด้วยการใช้งานรองรับภาษาไทย ไม่ต้องปวดหัวกับการค้นหาวิธีเพื่อปรับค่าให้ถูกต้อง ใช้งานได้ทั้งแบบไร้สายและเชื่อมต่อสาย ความคมชัดจัดเต็มมาก
- เชื่อมต่อได้ทั้งบลูทูธและสาย USB
- มีแอปพลิเคชันความบันเทิงในตัว และดาวน์โหลดเพิ่มได้
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- ตั้งเครื่องจากด้านข้างได้ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน
- ขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักเบาเพียง 1 กก.
- เชื่อมต่อระบบ Android และ iOS แบบเก่า
- ปรับค่าความสว่างไม่ได้ตามที่ต้องการ
- เมื่อปรับภาพแล้วอาจเบลอ 1 ข้าง
3. โปรเจคเตอร์ Owlenz SD150S
โปรเจคเตอร์ที่ขอแนะนำเป็นรุ่นรองรับระบบ Android ใช้งานได้ทั้ง Wi-Fi และการเชื่อมต่อผ่าน Android ช่วยให้การรับชมความบันเทิงหรือการนำเสนองานของคุณสะดวกขึ้นกว่าเดิม ไม่มีลำโพงในตัวแต่ใช้การเชื่อมต่อบลูทูธได้ ความสว่างถึง 2500 Lumen ระบบ LCD ให้ความคมชัด น้ำหนักเบามากเพียง 750 กรัม มีช่องเสียบสาย USB รองรับการใช้งานครบครัน เล่นแอปฯ อื่นเพื่อเชื่อมต่อใช้งานได้ตามชอบ
ใครที่ต้องการเน้นเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ยี่ห้อนี้ให้เลือกรุ่นรองรับ Android และ iOS จะช่วยให้คุณสนุกกับความบันเทิงที่ตนเองชื่นชอบ น้ำหนักเบา พกพาง่ายมาก
- ความสว่างสูงถึง 2500 Lumen
- น้ำหนักเบามากเพียง 750 กรัม
- ใช้งานได้ทั้งระบบบลูทูธ และสาย USB
- มีแอปพลิเคชันในตัว และรองรับแอปฯ อื่น
- ใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android
- ไม่มีลำโพงในตัว ต้องใช้การเชื่อมต่อลำโพงแยก
- ไม่รองรับการต่อกับภาพโปรเจคเตอร์บางยี่ห้อ บางรุ่น เช่น Samsung
- ต้องสังเกตระบบปฏิบัติการให้ดีว่ารุ่นที่ใช้เชื่อมต่อได้หรือไม่
4. โปรเจคเตอร์ WANBO T2 Max
ต่อกันกับโปรเจคเตอร์ประเภท LCD ใช้งานเชื่อมต่อผ่านระบบ Android และ iOS ให้ความละเอียด 1920 x 1080 คมชัดระดับ 4K หลอดไฟ LED ใช้งานได้ 20,000 ชม. ความกว้างการฉายสูงสุด 120 นิ้ว ตัวเครื่องเชื่อมต่อได้ทั้งระบบบลูทูธและสาย USB น้ำหนักเพียง 900 กรัม ปรับแก้ไขภาพได้เฉพาะซ้าย-ขวา เมมโมรี่การ์ด 16GB มีลำโพง 2 ตัว พัดลมระบายอากาศ 3 ตัว ไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป
นี่คือโปรเจคเตอร์คุณภาพดีที่อยากแนะนำให้ใช้งานอีกรุ่น ด้วยความคมชัดของหน้าจอที่ให้ภาพระดับ 4K จะนำเสนองานหรือรับชมความบันเทิงก็ชัดเจน น้ำหนักเบา พกพาง่ายอีกต่างหาก มีเมมโมรี่การ์ดในตัวเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น
- ใช้งานได้ทั้งระบบ iOS, Android
- ความคมชัดระดับ 4K
- เชื่อมตต่อได้กับบลูทูธและสาย USB
- มีลำโพง 2 ตัว กระหึ่มสะใจ
- พัดลมระบายอากาศ 3 ตัว ลดระดับความร้อนของเครื่อง
- หลอดไฟ LED ใช้งานได้ 20,000 ชม.
- ขนาดความกว้าง 120 นิ้ว
- ปรับภาพได้แค่เลื่อนซ้าย-ขวา
5. โปรเจคเตอร์ CNM Z01
ปิดท้ายด้วยโปรเจคเตอร์ที่ให้ความสว่างถึง 6000 Lumen คมชัด 1920 x 1080 หรือ 4K ขนาดภาพขยายความกว้างได้สูงสุด 300 นิ้ว ระยะการฉาย 1.5 – 5 เมตร อายุของหลอดไฟ 50,000 ชม. เชื่อมต่อการทำงานผ่านระบบ iOS, Android ลำโพงในตัวรองรับคุณภาพเสียง Dolby Sound ปรับองศาคางหมูได้ +-45 พร้อมช่องเชื่อมต่อพอร์ตทุกชนิด รองรับ Wi-Fi 5G ต่อผ่านบลูทูธได้ ครบครันกับการใช้งาน
ใครอยากได้ความคุ้มค่าแบบไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ โปรเจคเตอร์รุ่นนี้รับรองว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว ค่าความสว่างสูงมาก พร้อมความคมชัดเต็มตา จะนำเสนองานหรือใช้เพื่อความบันเทิงก็ไม่ว่ากัน
- ความสว่างสูงถึง 6000 Lumen
- ให้ความคมชัดระดับ 4K
- อายุหลอดไฟยาวนานถึง 50,000 ชม.
- เชื่อมต่อได้ทั้งบลูทูธและสาย USB
- รองรับระบบปฏิบัติการ iOS, Android
- น้ำหนัก 2.5 กก. ถือว่าหนักมาก
- ไม่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือห้องประชุมแสงสว่างมาก
- หากต้องการสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดีต้องต่อผ่านสาย LAN
ประเภทของโปรเจคเตอร์
1. LCD Projector
โปรเจคเตอร์ประเภทแรกจะนิยมใช้สำหรับการนำเสนองาน รวมถึงการใช้เพื่อรับชมคลิป วิดีโอต่าง ๆ มีระบบการทำงานคือยิงแสงผ่าน panel สีที่มี 3 ชุดสี ได้แก่ สีแดง, เขียว, น้ำเงิน แล้วแสงจะถูกรวมเอาไว้ที่ LCD Panel ก่อนส่งต่อผ่านชุดเลนส์เพื่อขึ้นจอภาพ
2. DLP Projector
โปรเจคเตอร์ประเภทนี้ก็มีคนใช้งานอยู่จำนวนมาก ด้วยประโยชน์สุดหลากหลายทั้งการนำเสนองานและรับชมคลิป วิดีโอ ระบบการทำงานคือ ยิงแสงผ่าน Color Wheel (วงล้อสี) แล้วภาพจะถูกส่งไปที่ชิป DMD (ชิปแสดงภาพ) ในชิปดังกล่าวจะมีกระจกสะท้อนแสงขนาดเล็กจำนวนมากก่อนส่งไปยังหน้าจอเพื่อฉายต่อไป
3. LCOS Projector
เป็นประเภทโปรเจตเตอร์ที่พัฒนามาจาก 2 ระบบก่อนหน้า ระบบการทำงานคือนำทั้งวิธีสะท้อนแสงจาก Panel สีผ่านแผ่น Liquid Crystal แทนชิป DMD ส่งผลให้มีเซลล์ภาพเยอะกว่า คมชัดมากกว่า จึงนิยมใช้กับงานพวกวิดีโอ คลิปต่าง ๆ
4. Laser Projector
ปิดท้ายกันด้วยประเภทโปรเจคเตอร์ที่ใช้เลเซอร์เป็นตัวกำเนิดแสง (รุ่นก่อนหน้าทั้งหมดใช้หลอดภาพ) มีระดับความสว่างมากกว่า ใช้งานได้ยาวนาน การใช้เลเซอร์นี้จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของยี่ห้อนั้น ๆ เช่น EPSON ใช้วิธีสร้างแหล่งกำเนิดแสงด้วย Dual Light Source ถือว่าเป็นประเภทที่ให้ความคมชัดดีเยี่ยม
โปรเจคเตอร์ ใช้ทำอะไรได้บ้าง
หลักการทั่วไปของโปรเจคเตอร์มักนำมาใช้เพื่อ Presentation หรือการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมองเห็นเป็นภาพเดียวกัน มีทั้งการนำเสนอข้อมูลผ่านภาพนิ่งจากกระดาษ, นำเสนอด้วยการเชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์ มือถือ นอกจากการใช้ทางธุรกิจแล้ว
ยังมีหลายคนที่ซื้อโปรเจคเตอร์เอาไว้ใช้งานในเรื่องของความบันเทิง เช่น การฉายเพื่อรับชมคลิปวิดีโอ ภาพยนตร์ ซีรีย์ต่าง ๆ ซึ่งให้ระดับความคมชัดตามประเภทที่เหมาะสม ถือเป็นอุปกรณ์สำหรับองค์กรจำนวนมากที่ควรมีเอาไว้
สรุปรีวิว โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี 2024
จากที่ได้ทำการรีวิวมาทั้งหมด มาดูกันเลยว่า โปรเจคเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราขอยกตำแหน่งความคุ้มค่าและคุณภาพดีเยี่ยมให้กับ โปรเจคเตอร์ CNM Z01 ที่ให้ความสว่างถึง 6000 Lumen ให้ความคมชัดระดับ 4K ขนาดภาพขยายความกว้างได้สูงสุด 300 นิ้ว มีอายุของหลอดไฟ 50,000 ชม. เชื่อมต่อการทำงานผ่านระบบ iOS, Android ลำโพงได้อย่างดีเยี่อมถือเป็นรุ่นที่ควรมีติดบ้านหรือออฟฟิศไว้เลย จะนำเสนองานหรือเพื่อความบันเทิงก็โดนใจ