การดื่มเครื่องดื่มสายสุขภาพต่าง ๆ ในปัจจุบัน กำลังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีตัวช่วยมากมายที่ทำให้เราสามารถทำเครื่องดื่ม หรือเตรียมพร้อมในการดื่มเครื่องดื่มประเภทนั้น ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เวย์โปรตีน, น้ำผัก หรือแม้แต่น้ำผลไม้ ที่จะมีขั้นตอนสำคัญก็คือการปั่นให้มีความละเอียดมากที่สุด แต่การทำเครื่องดื่ม่ประเภทนี้ นอกจากการใช้งานเครื่องปั่นมาตรฐานที่มีขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพการปั่นที่สูงแล้ว ก็ยังมีแก้วปั่นอีกมากมายให้เราสามารถเลือกซื้อกันได้ในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราก็ได้รวบรวมคำถามของคำตอบ ว่าควรเลือกซื้อ แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายดายมากที่สุดอีกด้วย
10 แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี
- แก้วปั่น LHHW Automatic Stirring Cup Electric Shaker 500ml
- แก้วปั่น Xiaomi Portable Juicer Cup 300ML
- แก้วปั่น Gaabor Mixer Blender Multi-purpose
- แก้วปั่น TIXX Blender
- แก้วปั่น Coffee boy automatic mixing cup
- แก้วปั่น ULife Self Stirring Mug
- แก้วปั่น B-HOME KC-ASHK
- แก้วปั่น BRUNO BHK249
- แก้วปั่น ULife Auto Stirring Mug
- แก้วปั่น Deerma NU11
- การใช้งานต่อเนื่อง 88 รอบต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- วัสดุป้องกันการสะสมตัวของสารตกค้าง
- การทำงานแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องตั้งค่า
- ระยะเวลาการปั่นหนึ่งรอบที่ยาวนานได้ถึง 2 นาที
- ความแข็งแรงทนทานสูง
- มาตรฐานการกันน้ำ IPX6
- ความเร็วรอบการปั่น 18,000 รอบต่อนาที
- การปั่นที่รวดเร็วเพียง 35 วินาที
- ระบบใบมีดแบบ 4 ชิ้นแบบสเตนเลส
- สามารถชาร์จได้ด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น พาวเวอร์แบงค์ หรือแล็ปท็อป
แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี 2024
ต่อไปจะเป็นการแนะนำ 10 แก้วปั่นที่น่าสนใจ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการแต่ละคนได้หลากหลายที่สุด
1. LHHW Automatic Stirring Cup Electric Shaker 500ml
แบรนด์และรุ่นสินค้า | LHHW Automatic Stirring Cup Electric Shaker 500ml |
ความจุ | 500 มิลลิลิตร |
ขนาด | – |
ความเร็วรอบการปั่น | 5,500 รอบต่อนาที |
แบตเตอรี่ | ลิเธียมไอออน |
กำลังไฟฟ้า | – |
แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี รุ่นแรกเป็นแก้วปั่นหรือแก้วเชค ที่ถูกออกแบบมาสำหรับสายกีฬาโดยเฉพาะ ด้วยลักษณะของการเป็นแก้วแบบอัตโนมัติ ที่มีกำลังมอเตอร์ในการปั่น 5,500 รอบต่อนาที ส่งผลให้คุณสามารถใช้เพื่อปั่นเวย์โปรตีน ซึ่งเป็นอาหารเสริมสำหรับการออกกำลังกายได้อย่างละเอียด โดยจุดเด่นสำคัญจองการใช้งาน คือ
การใช้งานต่อเนื่องที่ทำได้สูงสุด 88 รอบต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้ง จากแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนที่ต้องติดตั้งภายใน และครอบคลุมได้ยาวนานถึง 2 นาทีต่อการปั่นหนึ่งครั้งเลยทีเดียว รวมถึงการทำความสะอาดก็ยังสามารถทำได้ง่าย และมีความแข็งแรงทนทานสูงจากวัสดุแบบ TRITAN ที่ก็ช่วยป้องกันการสะสมตัวของแบคทีเรียได้ดีด้วยเช่นกัน
- การใช้งานต่อเนื่อง 88 รอบต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- วัสดุป้องกันการสะสมตัวของสารตกค้าง
- การทำงานแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องตั้งค่า
- ระยะเวลาการปั่นหนึ่งรอบที่ยาวนานได้ถึง 2 นาที
- ความแข็งแรงทนทานสูง
- ตัวฝามีขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร
- ขนาดความจุอาจไม่เพียงพอสำหรับบางคน
2. Xiaomi Portable Juicer Cup 300ML
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Xiaomi Portable Juicer Cup 300ML |
ความจุ | 300 มิลลิลิตร |
ขนาด | 82 x 82 x 205 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | 18,000 รอบต่อนาที |
แบตเตอรี่ | 1,300mAh |
กำลังไฟฟ้า | 45 วัตต์ |
แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี ลำดับต่อมา Xiaomi Portable Juicer Cup 300ML เป็นแก้วปั่นยอดนิยมจากทาง Xiaomi ที่ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ในการวางจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ซึ่งส่วนที่น่าสนใจของแก้วใบนี้ ก็ประกอบไปด้วยเรื่องต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่การใช้งานระบบใบมีดแบบ 4 ส่วน ที่ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุแบบสเตนเลส 304 ทำให้การปั่นสิ่งต่าง ๆ
ภายในแก้ว จะสามารถทำได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ภายในระยะเวลาเพียงแต่ 35 วินาทีเท่านั้น ไปจนถึงการรองรับมาตรฐานการกันน้ำ IPX6 ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้การใช้งานระยะยาวได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนการใช้งานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ขนาด 1,300mAh ก็ยังทำให้ใช้งานได้ถึง 10 รอบด้วยการชาร์จเพียงหนึ่งครั้งอีกด้วย
- มาตรฐานการกันน้ำ IPX6
- ความเร็วรอบการปั่น 18,000 รอบต่อนาที
- การปั่นที่รวดเร็วเพียง 35 วินาที
- ระบบใบมีดแบบ 4 ชิ้นแบบสเตนเลส
- สามารถชาร์จได้ด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น พาวเวอร์แบงค์ หรือแล็ปท็อป
- น้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาด
- แบตเตอรี่มีขนาดค่อนข้างเล็ก
3. Gaabor Mixer Blender Multi-purpose
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Gaabor Mixer Blender Multi-purpose |
ความจุ | 300 มิลลิลิตร |
ขนาด | 90 x 190 x 83 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | – |
แบตเตอรี่ | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี จาก Gaabor Mixer Blender Multi-purpose เป็นแก้วสำหรับปั่นน้ำผลไม้ ที่มีการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกมาอย่างสวยงามในสไตล์มินิมอล และขนาดที่มีความกะทัดรัดพร้อมความจุ 300 มิลลิลิตร ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้วน้ำขนาดเล็ก ที่สามารถพกพาและใช้งานได้สะดวก แบบไม่จำเป็นจะต้องใช้สายในการปั่นเครื่องดื่มที่ต้องการ สำหรับการใช้งานคุณจะสามารถทำได้สะดวกสบาย ด้วยการใช้งานปุ่มสั่งการและคลิ๊กเพียงแค่ 2 ครั้ง ในขณะที่ใบมีดในการใช้เพื่อปั่นเครื่องดื่ม ก็ยังเลือกใช้วัสดุแบบสเตนเลสที่ทนทานสูง และป้องกันการสึกกร่อนหรือเสียหายได้ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
- ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
- ดีไซน์สวยงามสไตล์มินิมอล
- การปั่นน้ำที่รวดเร็วเพียง 35 วินาที
- วัสดุแบบ PP ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
- พอร์ต USB Type C ชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว
- ความจุของแก้วเพียง 300 มิลลิลิตร
- ใช้ใบมีดในการปั่นเพียง 2 ชิ้น
4. TIXX Blender
แบรนด์และรุ่นสินค้า | TIXX Blender |
ความจุ | 380 มิลลิลิตร |
ขนาด | 85 x 85 x 240 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | 21,000 รอบต่อนาที |
แบตเตอรี่ | 1,400mAh |
กำลังไฟฟ้า | 60 วัตต์ |
แก้วปั่นน้ำผลไม้ตัวนี้เป็นแก้วที่ถูกออกแบบมา ในรูปทรงที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ พอสมควร ด้วยการที่บริเวณปากฝาของแก้ว จะถูกทำให้มีขนาดเล็กลงเหมาะสำหรับการดื่ม หรือช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ให้กับการเทไปยังแก้วใบอื่น ๆ ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีการออกแบบหูจับมา เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับการจับถือมากยิ่งขึ้นด้วยพร้อม ๆ กัน ส่วนเรื่องที่เป็นจุดเด่นสำคัญนั้น จะเป็นการปั่นที่รวดเร็วและมีคุณภาพ จากการทำรอบความเร็วในการปั่นน้ำผลไม้ได้สูงถึง 21,000 รอบต่อนาที ช่วยให้สามารถใช้ตัวแก้วในการปั่นน้ำแข็งได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การปั่นเครื่องดื่มก็ยังจะทำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระยะเวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้นด้วยในเวลาเดียวกัน
- รอบการปั่นสูงถึง 21,000 รองต่อนาที
- การปั่นเครื่องดื่มที่รวดเร็วเพียง 30 วินาที
- การออกแบบตัวแก้วมาให้เหมาะทั้งกับการดื่มและการเท
- หูจับที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการจับถือ
- การใช้งานสูงสุด 15 ครั้งต่อหนึ่งรอบการชาร์จ
- ใช้พลังงานค่อนข้างสูง
- ความจุค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับขนาดแก้ว
5. Coffee boy automatic mixing cup
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Coffee boy automatic mixing cup |
ความจุ | 380 มิลลิลิตร |
ขนาด | 68 x 68 x 175 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | – |
แบตเตอรี่ | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
Coffee boy automatic mixing cup เป็นตัวคำตอบที่ดีไม่น้อยสำหรับคนที่กำลังคิดว่า ควรจะเลือกซื้อแก้วปั่น ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสำหรับการพกพา และเน้นการออกแบบอย่างสวยงามในสไตล์มินิมอล และมีตัวเลือกของสีให้เลือกได้ค่อนข้างหลากหลาย เนื่องจากรุ่นนี้มีลักษณะสีทั้งหมด 3 รูปแบบ และมีการออกแบบส่วนฝามาให้โค้งมน
ในขณะที่ตัวแก้วก็ยังเป็นพลาสติกแบบใส ที่ช่วยให้คุณเห็นภายในได้อย่างทั่วถึง สำหรับระบบปั่นนั้นจะทำงานจากด้านบน ด้วยการปั่นช้อนที่ถูกติดตั้งมาให้กับตัวฝา ซึ่งการผสมหรือปั่นน้ำในลักษณะนี้ ก็นับว่าเหมาะสำหรับการผสมเวย์โปรตีน หรือเครื่องดื่มในการออกกำลังกายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
- ตัวเลือกสีสินค้า 3 รูปแบบ
- เหมาะสำหรับการผสมเครื่องดื่มเสริมการออกำลังกาย
- การเปิดใช้งานที่ไม่ซับซ้อน
- ด้ามจับช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการพกพา
- น้ำหนักโดยรวมค่อนข้างต่ำจากวัสดุพลาสติก
- การรักษาอุณหภูมิทำได้ไม่ดีเท่ารุ่นอื่น ๆ
- การปั่นอาจไม่รุ่นแรงมากนักในการผสมเครื่องดื่มประเภทผักและผลไม้
6. ULife Self Stirring Mug
แบรนด์และรุ่นสินค้า | ULife Self Stirring Mug |
ความจุ | 350 มิลลิลิตร |
ขนาด | 130 x 130 x 160 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | – |
แบตเตอรี่ | AAA |
กำลังไฟฟ้า | – |
ULife Self Stirring Mug เป็นแก้วปั่นอีกหนึ่งรุ่น ที่ก็นับว่าแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ อยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกัน ด้วยลักษณะของแก้วที่เป็นแบบแก้วกาแฟ ซึ่งมีการติดตั้งระบบการปั่น เพื่อให้คุณสามารถผสมเครื่องดื่มกับสิ่งที่ต้องการ ให้พร้อมดื่มได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยระบบมอเตอร์ที่ใช้พลังงานจากถ่านขนาด AAA จำนวน 2 แก้ว รวมไปถึงยังมีฝาปิดด้านบนสำหรับใช้ปิด และช่วยป้องกันการกระเด็นมาให้อีกด้วย โดยสิ่งที่เป็นจุดเด่นสำคัญที่สุด คือ การที่แก้วรุ่นนี้มีสีให้เลือกซื้อได้หลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสีพื้นฐานอย่างสีขาวและสีดำ หรือแม้แต่สีอื่น ๆ ที่เน้นความมีสีสันที่มากขึ้นก็ตาม
- มีสีให้เลือกซื้อได้หลากหลาย
- สามารถปั่นและใช้งานดื่มได้สะดวกในตัวเดียว
- ด้ามจับถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างถนัดมือ
- ฝาปิดที่มิดชิดสำหรับป้องกันการกระเด็น
- ใช้งานได้ทั้งกับเครื่องดื่มเย็นและร้อน
- น้ำหนักค่อนข้างมาก
- อาจพกพาได้ไม่สะดวกมากนัก
7. B-HOME KC-ASHK
แบรนด์และรุ่นสินค้า | B-HOME KC-ASHK |
ความจุ | 300 มิลลิลิตร |
ขนาด | 80 x 65 x 205 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | – |
แบตเตอรี่ | AAA |
กำลังไฟฟ้า | – |
สินค้ารุ่นนี้เป็นแก้วปั่นราคาประหยัด ที่มีคุณสมบัติในการใช้งานที่ครบครัน และเหมาะสำหรับการพกพาโดยเฉพาะ ด้วยขนาดความจุมาตรฐาน 300 มิลลิลิตร รวมไปถึงยังมีการติดตั้งมาตรวัด สำหรับการใช้เพื่อผสมเครื่องดื่มต่าง ๆ ถูกติดตั้งมาให้คุณสามารถตวงได้สะดวกมากยิ่งขึ้นมาให้ด้วยเช่นกัน ในด้านของการปั่่นนั้นจะใช้ฐานและปุ่มกดที่อยู่ด้านล่าง ในการสั่งใช้งานโหมดการปั่นแบบอัตโนมัติ ที่จะทำงานได้ด้วยกำลังไฟฟ้าจากถ่ายไฟฉายขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน เพราะฉะนั้นขั้นตอนการใช้งานแก้วใบนี้ จึงทำได้ง่ายดายเพียงแค่ใส่น้ำ, ส่วนผสม และกดปุ่มเริ่มต้นการทำงานก็เพียงพอแล้ว
- ฝาปิดที่ถูกออกแบบมาแน่นหนาป้องกันการรั่วซึม
- พลาสติกที่ใช้ผลิตมีความทนทานสูงมากเป็นพิเศษ
- การติดตั้งมาตรวัดสำหรับตวงส่วนผสม
- ความจุเหมาหะสำหรับการพกพา
- น้ำหนักเบาเพียง 215 กรัม
- ไม่เหมาะสำหรับการปั่นผลไม้เนื้อแข็ง
- รูปทรงไม่เป็นมิตรสำหรับการพกพามากนัก
8. BRUNO BHK249
แบรนด์และรุ่นสินค้า | BRUNO BHK249 |
ความจุ | 300 มิลลิลิตร |
ขนาด | 95 x 185 x 85 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | 20,000 รอบต่อนาที |
แบตเตอรี่ | – |
กำลังไฟฟ้า | – |
แก้วปั่นใบนี้ก็ถือว่าถูกออกแบบมาอย่างน่าสนใจในหลากหลายส่วนด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ในภาพรวม ที่เน้นความเรียบง่ายและดูสวยงาม ซึ่งให้ความรู้สึกดูหรูหราและมินิมอล ทั้งจากการเลือกใช้งานสีในโทนพาสเทล และการไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวแก้วมากจนเกินไป ที่ก็ทำให้การพกพาสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปด้วยพร้อม ๆ กัน
ในด้านของการใช้เพื่อปั่นเครื่องดื่มนั้น จะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 40 วินาที ด้วยการทำรอบการปั่นสูงสุด 20,000 ครั้งต่อนาที ด้วยใบมีดที่แข็งแรงทนทานพร้อมวัสดุแบบสเตนเลส ดังนั้น จากภาพรวมของส่วนต่าง ๆ ที่เรากล่าวไป จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทใด ก็สามารถปั่นได้ผ่านแก้วใบนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
- ระยะเวลาการปั่นที่รวดเร็ว
- รอบการปั่นสูงถึง 20,000 รอบต่อนาที
- สามารถใช้ปั่นและสสมเครื่องดื่มได้ทุกรูปแบบ
- การออกแบบมาให้มีขนาดและน้ำหนักที่กะทัดรัด
- มีตัวเลือกของสีที่หลากหลาย
- ระยะเวลาการชาร์จต่อหนึ่งรอบยาวนาน 2.5 ชั่วโมง
- ไม่สามารถรองรับอุณหภูมิได้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
9. ULife Auto Stirring Mug
แบรนด์และรุ่นสินค้า | ULife Auto Stirring Mug |
ความจุ | 400 มิลลิลิตร |
ขนาด | – |
ความเร็วรอบการปั่น | – |
แบตเตอรี่ | AAA |
กำลังไฟฟ้า | – |
ULife Auto Stirring Mug เป็นแก้วปั่นสำหรับผสมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มาพร้อมฐานสำหรับการใช้เพื่อปั่นส่วนผสมต่าง ๆ เช่น เวย์โปรตีน, ชา, กาแฟ, โกโก้ และเครื่องดื่มผงประเภทอื่น ๆ ด้วยลักษณะของการทำงานแบบอัตโนมัติ ที่จะทำให้คุณสามารถปั่นเครื่องดื่มได้รวดเร็ว ภายในถ้วยแก้วที่มีความจุดประมาณ 400 มิลลิลิตร
โดยส่วนหลักที่น่าสนใจของแก้วใบนี้ จะเป็นการที่สามารถทนทานต่ออุณหภูมิได้ดี ทั้งสำหรับอุณหภูมิแบบร้อนและแบบเย็น สำหรับการออกแบบภายนอกนั้น จะเน้นให้ดูมีความแข็งแรงทนทานสูง ซึ่งจากการที่ส่วนใหญ่ถูกใช้งานเป็นแก้วและสเตนเลส ก็ช่วยสนับสนุนความทนทานให้กับการใช้งานจริงให้ได้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
- เก็บอุณหภูมิทั้งร้อนและเย็นได้เป็นอย่างดี
- วัสดุความทนทานสูงแบบแก้วและสเตนเลส
- ความจุมาตรฐาน 400 มิลลิลิตร
- เหมาะสำหรับการชงเครื่องดื่มประเภทผง
- การออกแบบฝาปิดและช่องใส่หลอดให้ใช้งานได้สะดวก
- น้ำหนักโดยรวมค่อนข้างสูง
- ไม่เหมาะสำหรับการปั่นผลไม้
10. Deerma NU11
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Deerma NU11 |
ความจุ | 300 มิลลิลิตร |
ขนาด | 77 x 77 x 178 มิลลิเมตร |
ความเร็วรอบการปั่น | 15,800 รอบต่อนาที |
แบตเตอรี่ | 1,200mAh |
กำลังไฟฟ้า | 45 วัตต์ |
แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี รุ่นสุดท้ายเป็นแก้วปั่นน้ำผลไม้ขนาด 300 มิลลิลิตร ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันกับรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบัน ด้วยการออกแบบมาให้พกพาได้สะดวก จากการออกแบบส่วนของเชือกที่ใช้สำหรับการผูกหรือแขวน และการมีขนาดความจุทั่วไป 300 มิลลิลิตร ส่วนการออกแบบภาพรวมก็ยังมีความเรียบง่าย ซึ่งก็น่าจะทำให้ถูกใจใครหลายคนอยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกัน
สำหรับการปั่นเครื่องดื่มจะสามารถทำได้ดีกับทุกประเภท ด้วยความเร็วรอบการปั่น 15,800 รอบต่อนาที และการใช้งานใบมีสเตนเลสแบบ 4 ใบพัด ที่ช่วยให้การปั่นทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นวัสดุโดยรวมก็ยังถูกเลือกใช้งานเป็น PC ที่มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- การออกแบบที่เหมาะสำหรับการพกพา
- วัสดุ PC เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ใบมีดในการปั่นแบบ 4 แฉก
- สามารถปั่นสิ่งต่าง ๆ ได้หลากหลาย
- น้ำหนักเบาเพียง 360 กรัม
- การจับถืออาจทำได้ไม่สะดวกมากนัก
- ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่ยาวนาน 3 ชั่วโมง
วิธีเลือกซื้อ
1. เลือกจากลักษณะการปั่น
แก้วปั่นในปัจจุบันจะสามารถแบ่งแยกได้ 2 ประเภท คือ แก้วเชคเครื่องดื่ม และแก้วปั่นเครื่องดื่ม ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ ของทั้ง 2 ประเภท จะเป็นไปตามประสิทธิภาพและระดับความแรง ที่แต่ละประเภทสามารถทำการปั่นเครื่องดื่มได้ โดยคุณจะต้องเลือกให้เหมาะสมตามความต้องการ หรือประเภทของเครื่องดื่มที่ต้องการ เพราะการเลือกใช้งานอย่างผิดประเภทนั้น จะทำให้ตัวสินค้าไม่สามารถทำการปั่นเครื่องดื่มที่คุณต้องการได้ หรือในบางกรณีที่อาจเกิดความเสียหายขึ้นได้ ตั้งแต่การเริ่มต้นใช้งานครั้งแรกเลยทีเดียว
นอกจากนี้ถึงแม้จะสามารถใช้งานได้บ้างในบางครั้ง แต่ก็อาจทำให้การผสมเครื่องดื่ม ไม่สามารถทำได้อย่างมีคุณภาพมากนัก ส่งผลให้คุณอาจไม่สามารถทำการดื่มสิ่งที่ปั่นออกมา ได้อย่างเต็มรสชาติมากนักด้วยนั่นเอง
2. เลือกจากความจุที่เหมาะสม
ความจุของแก้วปั่นแต่ละตัวจะถูกออกแบบมาให้แตกต่างกัน ถึงแม้แก้วสำหรับปั่นเครื่องดื่มโดยส่วนใหญ่ มักจะถูกผลิตขึ้นมาให้มีความเป็นมาตรฐาน และเหมาะสำหรับการดื่มของคน 1 คนเป็นหลัก แต่ก็อาจมีบางรุ่นที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างกัน ด้วยการเพิ่มขนาดความจุหรือปรับแต่งส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่ม ในปริมาณที่มากหรือน้อยมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน
โดยขนาดความจุนั้นจะมีผลโดยตรงต่อการพกพา เพราะการที่แก้วมีความจุสูง ก็จะทำให้ขนาดและน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาได้มากยิ่งขึ้น จนทำให้การจัดเก็บลงกระเป๋า หรือถือโดยตรงผ่านทางด้ามจับหรือหูหิ้ว ก็อาจไม่สามารถทำได้สะดวกมากเท่าที่ควร ดังนั้น หากคุณเลือกจากขนาดความจุที่เหมาะสมเป็นส่วนแรก ก็มีโอกาสที่จะทำให้คุณเลือกซื้อแก้วที่เหมาะสม ให้คุณได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
3. เลือกจากความสะดวกในการพกพา
นอกจากเรื่องของน้ำหนักและขนาดที่แตกต่างกันออกไปในแก้วแต่ละใบแล้ว สิ่งที่มีผลต่อความสะดวกในการพกพา ก็ยังประกอบด้วยเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบด้ามจับหรือส่วนจับถือมาใช้งานได้ถนัดมือ หรือการผลิตส่วนอื่น ๆ มาให้ไม่ยื่นออกจากตัวแก้วมากจนเกินไป ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ช่วยสนับสนุนการใช้งานในด้านนี้ให้ดีได้มากยิ่งขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น
โดยส่วนที่คุณอาจสามารถนำมาใช้ เพื่อให้คุณทำการกำหนดเกี่ยวกับแก้วน้ำที่เหมาะสมกับคุณให้ดีได้มากที่สุด ก็สามารถนำเรื่องของไลฟ์สไตล์ มาเป็นตัวประกอกบในการพิจารณาได้ด้วยเช่นกัน เช่น หากคุณมักจะพกพาถุงผ้าหรือกระเป๋าติดตัวไปเสมอ ก็อาจไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับการมีด้ามจับ หรือการมีขนาดที่ใหญ่จนเกินไปมากนัก แต่หากคุณต้องการเน้นการนำไปใช้ในการออกกำลังกาย และมักจะทำเพียงแค่การถือแก้วน้ำไปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้ง 2 ส่วนที่เราได้กล่าวไป ก็อาจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณได้ด้วยนั่นเอง
ประเภทของแก้วปั่น
1. แก้วเชคเครื่องดื่ม
แก้วเชคเครื่องดื่มจะเป็นแก้วสำหรับการปั่น ที่ถูกออกแบบมาด้วยจุดประสงค์หลัก ในการใช้เพื่อผสมน้ำภายในแก้ว ให้เข้ากันกับส่วนผสมต่าง ๆ ที่มักจะเป็นลักษณะของผงโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น เวย์โปรตีน, ชา, กาแฟ และเครื่องดื่มแบบผงอื่น ๆ ด้วยลักษณะของการปั่นที่จะเป็นแบบเบา โดยอาจจะมีหรือไม่มีก้านผสม ที่อยู่ในส่วนของของแก้วใบนั้น ๆ ก็ได้ เนื่องจากก็มีบางรุ่นที่ใช้งานการหมุนส่วนฐาน เพื่อให้มีแรงหมุนในการผสมเครื่องดื่มด้วยนั่นเอง
สำหรับแก้วประเภทนี้จะมีทั้งรูปแบบของแก้วแบบกาแฟ และแก้วแบบยาวที่เน้นการพกพาสะดวก จึงทำให้สามารถเลือกซื้อได้หลากหลาย และได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมวดหมู่ของผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นหลัก
2. แก้วปั่นเครื่องดื่ม
หากกล่าวถึงแก้วปั่นเครื่องดื่ม จะเป็นแก้วที่เน้นการทำงานของมอเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูงมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้คุณภาพของการปั่น สามารถทำได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแบบผงผสมน้ำ หรือแม้แต่ผลไม้ที่มีเนื้อแข็งมากเป็นพิเศษก็ตาม
ดังนั้น จึงสามารถใช้งานได้ดีสำหรับผู้คนสายสุขภาพทุกกลุ่ม ทั้งคนที่ชื่นชอบการดื่มน้ำผลไม้ ไปจนถึงคนที่ต้องการใช้เป็นแก้วในการผสมสิ่งต่าง ๆ ส่วนขนาดความจุและการออกแบบนั้น ก็มีให้เราสามารถเลือกซื้อได้หลากหลาย ซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องของราคาที่วางขายให้เราเลือกซื้อได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ระบบการปั่นของเครื่องดื่ม ก็มีให้เราเห็นได้ทั้งแบบอัตโนมัติ ไปจนถึงการปั่นแบบปรับโหมดตามความต้องการเลยทีเดียว
บทสรุปแก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี
LHHW Automatic Stirring Cup Electric Shaker 500ml เป็นคำตอบของ แก้วปั่น ยี่ห้อไหนดี และน่าซื้อที่สุด ที่เราได้ทำการแนะนำให้กับคุณในวันนี้ ทั้งจากเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ไปจนถึงความคุ้มค่าในประสิทธิภาพโดยรวม ซึ่งทำให้การดื่มเครื่องดื่มประเภทใดก็ตาม ก็จะช่วยให้คุณสามารถดื่มได้อย่างเต็มรสชาติมากยิ่งขึ้น แต่หากคุณกำลังมองหาสินค้าประเภทอื่น ๆ ก็สามารถตามไปดูที่บทความตู้เย็นเล็ก หรือเครื่องชงกาแฟแคปซูลบนเว็บไซต์ของเราได้ด้วยเช่นกัน