แนะนำ 5 ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยให้กลับมา Enjoy Eating ได้อีกครั้ง  ปี 2023

หลายๆคนคงจะเคยผ่านการมีร้อนในกันมาบ้างแล้วและคงรู้ดีว่าร้อนในเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากขนาดไหน ยิ่งตอนเราเห็นของกินที่น่าทานมากๆ แต่ดันมีแผลร้อนในอยู่ซอกหลืบของปากเราก็ทำเอาใจละเหี่ย รำคาญจนบางทีก็ถึงขั้นที่ต้องเข้าไปหาสาเหตุและวิธีกำจัดเจ้าแผลร้อนในกับกูเกิ้ลเลยทีเดียว

แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยเป็นร้อนในเลยในชีวิตแล้วเพิ่งจะมาเป็นเนี่ย วิธีสังเกตลักษณะของร้อนในก็ง่ายๆเลยค่ะ ร้อนในมักจะมีรูปร่างเป็นวงๆ มีสีขาว เทา หรือสีเหลืองและขอบวงก็จะมีสีแดงล้อมรอบ มักจะเกิดบริเวณลิ้น ในริมฝีปากด้านใน กระพุ้งแก้มหรือเพดานปากและบริเวณที่ว่านี้แหละค่ะที่เป็นบ่อเกิดของความทรมานและอุปสรรคในการมีความสุขกับมื้ออาหารที่กำลังยั่วน้ำลายของเราอยู่นั่นเองค่ะ

และสิ่งที่จะมาบรรเทาความเจ็บปวดแบบนี้ได้นั้นก็คงจะไม่พ้นยาแก้ร้อนในนะคะ ตัวาแก้ร้อนในเนี่ยมีหลากหลายแบบเลย มีทั้งแบบแผ่นแปะ ยาทา น้ำยาบ้วนปาก ยาอื่นๆ และบางครั้งก็มาในรูปแบบอาหารเสริมสำหรับคนที่เป็นร้อนในที่เกิดจากการขาดสารอาหาร ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าจะมี ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดี ที่น่าใช้และจะทำให้เราสามารถ enjoy eating ได้อีกครั้ง

5 ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดีที่ช่วยให้กลับมา Enjoy Eating ได้อีกครั้ง 

• Time Oral Ulcer Patch 
• Taisho Quick Care Oral Patch
• Himalaya Hiora-SG
• Propoliz Mouth Spray
• Dentiste’ Oral Rinse

แนะนำ 5 ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดีที่ช่วยให้กลับมา Enjoy Eating ได้อีกครั้ง 

ยาแก้ร้อนในที่เราจะมาป้ายยาในบทความนี้นั้นมีทั้งแบบแผ่นแปะ แบบเจลสำหรับทา สเปรย์พ่นในปาก และแบบที่เป็นน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งแต่ละยี่ห้อของแต่ละประเภทนั้นก็ได้รับการแนะนำจากหลายๆที่เลยว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างบรรเทาอาการแสบร้อนจากแผลร้อนในได้ค่อนข้างดี จะมียี่ห้อไหนบ้าง ไปลุยกันเลย

1. Time Oral Ulcer Patch

ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดี รุ่นแรก Time Oral Ulcer Patch เป็นยาแก้ร้อนในตัวแรกที่เราจะมาพูดถึงความรวดเร็วและจุดเด่นต่างๆที่จะช่วยบรรเทาแผลร้อนในของเรา สำหรับยี่ห้อนี้เป็นยาแก้ร้อนในชนิดแผ่นแปะเฉพาะจุดที่เราชอบมากตรงที่เราสามารถทานอาหารได้เลยหลังจากแปะทิ้งไว้บนบริเวณที่เป็นร้อนในประมาณ 30 นาที 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็นเพื่อให้ตัวยาทำงาน ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือลดความปวดแสบของร้อนในไปได้เยอะ และแผลหายไวพอสมควรค่ะ ในกล่องก็จะมีแผ่นแปะด้วยกันทั้งหมด 6 แผ่นนะคะ

เอาล่ะมาดูที่ส่วนประกอบกันสักหน่อยเผื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับใครที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับส่วนประกอบในตัวยาโดยเฉพาะนะ ในแผ่นแปะแก้ร้อนในของ Time ก็จะประกอบไปด้วย แคลเซี่ยมธรรมชาติ ซิลิกอน ฟอสฟอรัส และไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ค่ะ ซึ่งตัวยาเหล่านี้ช่วยทำหน้าที่ในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อจากแผลร้อนในของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นแผลที่นอกเหนือจากแผลร้อนใน เช่นแผลที่เกิดจากการกัดหรือกระแทก แผลที่เกิดจากการใส่อุปกรณ์จัดฟัน ก็ใช้แผ่นแปะ Time ได้เช่นกันค่ะ

2. Taisho Quick Care Oral Patch

แผ่นแปะร้อนในยี่ห้อที่สองนี้ก็เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่เป็นแผ่นแปะเหมือนกันแต่ว่ายี่ห้อนี้มาจากแดนปลาดิบค่ะ มาในยี่ห้อที่ชื่อว่า Taisho Quick Care Oral Patch ซึ่งสูตรที่เราเอามาแนะนำนี้เป็นแผ่นแปะร้อนในสูตรหายเร็วขึ้น มีตัวกล่องเป็นสีเหลืองนะคะ เหมาะกับผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ตัวยาที่มากับแผ่นแปะจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ที่ช่วยเร่งให้แผลร้อนในหายเร็วขึ้น วิธีการใช้ก็คือตอนที่จะแปะควรซับแผลร้อนในเบาๆให้แห้งก่อนแปะค่ะเพราะว่าแผ่นตัวนี้จะติดแผลยากถ้าบริเวณแผลของเราเปียก

แนะนำว่าเวลาที่ควรใช้มากที่สุดก็อาจจะเป็นเวลาหลังกินข้าวหรือก่อนนอนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปากเราว่างแล้วนะคะ อย่างไรก็ตามแผ่นแปะของ Taisho นี้ไม่มีคุณสมบัติที่สามารถละลายตัวมันเองได้แต่ว่าเมื่อตัวยาถูกดูดซึมจนหมด แผ่นแปะนั้นเลื่อนหลุดออกจากแผลเองซึ่งเราต้องใช้ลิ้นดุนเพื่อเอาแผ่นแปะทิ้ง ทว่าถ้าเราเผลอกลืนแผ่นแปะก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ทางแบรนด์ได้วางแผนรับมือกับเหตุการณ์นี้โดยที่ให้แผ่นแปะดังกล่าวทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถทานได้นั่นเอง 

3. Himalaya Hiora-SG

ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดี มาต่อที่ Himalaya Hiora-SG ซึ่งเป็นยาแก้ร้อนในที่มาในรูปแบบของเจลทาแผลในปากที่สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เกิดจากแผลร้อนใน การปวดฟันหรือความรู้สึกระคายเคืองจากการใช้ฟันปลอม เราคิดว่าแบบเจลนี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่รู้สึกว่าการใช้ยาแก้ร้อนในแบบแผ่นแปะนั้นมีความสามารถในการยึดเกาะแผลที่ยังไม่ค่อยตรงใจหรือสาแก่ใจสักเท่าไหร่เพราะไม่ต้องจัดแจงองศาในการทาหรือการใช้งานเหมือนกับยาแก้ร้อนในแบบแผ่นแปะนั่นเอง อ่ะมาดูส่วนผสมของเจลทาแผลในปากของ Himalaya กันบ้าง

แน่นอนว่ายี่ห้อ Himalaya นี้เขาโฟกัสส่วนประกอบที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติหรือสมุนไพรมาเป็นตัวเอกอยู่แล้วซึ่งในเจลหลอดนี้ก็มีทั้งจัสมิน ชะเอม ตรีผลา และ ผักโขมหิน (Hogweed หรือ Punarnava) ที่มาช่วยเรื่องการต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และต่อต้านภูมิแพ้ ซึ่งเจลตัวนี้สามารถทาซ้ำได้ 3-5 ครั้งหลังทานอาหารเลย ราคาน่ารักและพกพาง่ายด้วยค่ะ

4. Propoliz Mouth Spray

ยาแก้ร้อนในตัวที่สี่ที่เราจะนำมาแนะนำนั้นก็คือยาแก้ร้อนในจากยี่ห้อ Propoliz ซึ่งมาในรูปแบบของสเปรย์พ่นปากนะคะ ปกติเราจะเห็นคุณเภสัชฯแนะนำ Propoliz เพื่อใช้บรรเทาอาการระคายเคืองคอนะคะ  แต่ว่า Propoliz ก็มีส่วนในการช่วยเรื่องการลดการติดเชื้อหรือการระคายเคืองในช่องปากอย่างแผลในปากหรือเหงือกอักเสบด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับแผลร้อนในนั้นจะขอแนะนำว่าถ้าเป็นแผลร้อนในที่ไม่ได้มีความรุนแรงมาก mouth spray ของ Propoliz ก็เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ในการรักษาอาการร้อนในค่ะ

วิธีใช้นั้นก็แค่ฉีดพ่นในช่องปากและลำคอ 2-3 ครั้ง บ่อยเท่าที่ต้องการเลย และเราชอบที่ส่วนประกอบในตัวยานั้นก็มีวัตถุดิบจากธรรมชาติที่น่าสนใจโดยเฉพาะโพรพอลิสหรือสารสกัดจากผิวของรังผึ้งที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสในช่องปากและลำคอ นอกจากนี้ก็เพิ่มวัตถุดิบให้ความสดชื่นด้วยการใส่เมนทอล เปปเปอร์มินต์ และสเปียร์มินต์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผสานพลังกับตัวโพรพอลิส อีกทั้งยังปราศจากสารกันบูดอีกด้วยค่ะ

5. Dentiste’ Oral Rinse 

ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อสุดท้ายนั้นก็จะมาในรูปแบบของน้ำยาบ้วนปากค่ะ ซึ่งยี่ห้อที่น่าใช้นั้นก็คือน้ำยาบ้วนปากจาก Dentiste’ นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะสามารถระงับกลิ่นปาก ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในช่องปากแล้วก็สามารถรักษาแผลในช่องปากได้อีกด้วย ซึ่งส่วนผสมในน้ำยาบ้วนปากนั้นก็มีสารสกัดจากสมุนไพรหลายตัวที่ช่วยให้ส่งเสริมสุขภาพช่องปากของเราให้ห่างไกลจากแบคทีเรียต่างๆ โดยเฉพาะส่วนผสมของดอกคาร์โมมายด์และชะเอมที่ช่วยเรื่องรักษาแผลในปากได้ดีมาก ซึ่งถ้าถามเราว่ามันจะช่วยแผลร้อนในให้หายเร็วพอๆกับยาแก้ร้อนในแบบอื่นๆไหม ส่วนตัวเราคิดว่าอาจจะไม่ได้เร็วขนาดนั้นแต่ก็ช่วยให้แผลเลี่ยงการได้รับเชื้อแบคทีเรียได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ

สาเหตุของการเกิดร้อนในและวิธีการป้องกัน 

สาเหตุของการเกิดแผลร้อนในนั้นก็จะมาจาก 5 สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้เรามีอาการดังกล่าวค่ะซึ่งก็ได้แก่

1. การขาดวิตามิน 

ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดกับผิวหนังหรือพื้นผิวชั้นนอกของร่างกายอย่างผิวภายในช่องปากนั้นมักมีสาเหตุจากการขาดวิตามินที่จำเป็นบางชนิด ซึ่งในกรณีของการเป็นร้อนในในปากนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิตามิน B-12 และสำหรับเด็กนั้นวิตามินตัวนี้ค่อนข้างสำคัญและเด็กๆควรได้รับวิตามิน B-12 มากกว่าผู้หญ่เพื่อที่จะให้ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้ในการเจริญเติบโตได้ อย่างไรก็ตามถ้าเราคิดว่านี่อาจจะเป็นสัญญาณหรือสาเหตุของแผลร้อนในเราก็สามารถซื้อวิตามินดังกล่าวแบบแคปซูลมารับประทานหรือเอาแกะเอาตัววิตามินที่อยู่ในแคปซูลมาทาเบาๆบนจุดที่เป็นร้อนในโดยตรงก็ได้ค่ะ

2. การขาดสารอาหาร

เรื่องการขาดสารอาหารนั้นได้รับการบันทึกไว้ในหลายๆงานวิจัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับการเกิดของแผลร้อนใน ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งสาเหตุและเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการดังกล่าวได้โดยเฉพาะถ้าหากเราขาดสารอาหารจำพวกกรดโฟลิค zincหรือสังกะสี หรือธาตุเหล็กแล้ว โอกาสที่เราจะเป็นร้อนในก็เกิดขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้การขาดแคลเซียมก็สามารถเป็นที่มาของแผลร้อนในได้เช่นกัน ฉนั้นถ้าดูตามข้อนี้แล้วเรื่องอาหารการกินก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรใส่ใจเพื่อเลี่ยงความทรมานที่มาจากร้อนในได้ค่ะ

3. การได้รับการบาดเจ็บภายในช่องปาก

ทุกคนคงจะเคยเผลอกัดกระพุ้งแก้มหรือริมฝีปากตัวเองตอนทานอาหารอยู่นะคะ ซึ่งอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็สามารถเป็นเหตุให้เกิดร้อนในได้ การแปรงฟันเเรงๆหรือการใส่อุปกรณ์การจัดฟันก็สามารถสร้างความเสียหายให้เนื้อเยื่อในปากจนนำไปสู่สาเหตุของแผลร้อนในได้เช่นกันค่ะ

4. ผักผลไม้บางชนิด

ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อที่เห็นตอนแรกเราก็อาจจะงงๆว่าผักผลไม้เนี่ยนะ ที่จะสามารถทำให้ในปากของเรามีแผลร้อนในหรือทำให้อาการร้อนในแย่ลงกว่าเดิม คำตอบก็คือเป็นไปได้ค่ะโดยเฉพาะการทานผลไม้ที่มีกรดมากๆอย่างผลไม้ตระกูลส้มหรือสับปะรดเนี่ยถ้าสังเกตดีๆเวลาที่เราแสบแผลร้อนในอยู่แล้วมากินผลไม้หรือของเปรี้ยวๆอีกล่ะก็ เหมือนเป็นการซ้ำเติมแผลร้อนในให้หายช้าลงไปอีกอย่างไรอย่างนั้นเลย ดังนั้นถ้าใครที่มีแผลในช่องปากอยู่ก็เลี่ยงการรับประทานผลไม้ดังกล่าวไปก่อนนะคะ นอกจากนี้ผลไม้อย่างสตรอว์เบอร์รี่ มะเดื่อ (Fig) มะเขือเทศและแอปเปิ้ลก็ควรเลี่ยงเช่นกันนะคะ

5. ภูมิคุ้มกันต่ำ

สำหรับข้อสุดท้ายนี้ถ้าใครมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันต่ำอยู่แล้วนั้น โอกาสที่จะเป็นแผลร้อนในก็ค่อนข้างจะมีเยอะและซับซ้อนมากกว่าคนทั่วไป เพราะบางทีมันก็ค่อนข้างยากที่จะหาความเกี่ยวเนื่องว่าภูมิตัวไหนที่เป็นตัวที่ดีลกับอาการร้อนใน ดังนั้นถ้าร้อนในจากสาเหตุในข้อนี้ทางที่ดีคือควรได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดค่ะ

บทสรุป ยาแก้ร้อนใน ยี่ห้อไหนดี

มาถึงส่วนสุดท้ายของบทความนี้กันแล้วซึ่งถ้าลองเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อที่เราลิสต์มาให้จากความสะดวกและความรวดเร็วในการรับมือกับร้อนในนั้นก็เห็นจะเป็นยาแก้ร้อนในยี่ห้อ Time Oral Ulcer Patch นี่แหละค่ะที่ถ้าเรามีร้อนในเมื่อไหร่ก็แปะบริเวณที่เป็นได้เลยโดยที่ไม่รบกวนการทานของอร่อยๆในระหว่างวัน อย่างไรก็ตามเพื่อให้แผลร้อนในหายเร็วขึ้นและเป็นการรักษาสุขภาพช่องปากเราก็ควรหาแปรงสีฟันไฟฟ้ามาลองใช้ด้วยก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกันนะเพราะว่าแปรงสีฟันชนิดนี้ช่วยให้ลดการเสียดสีที่แรงเกินไปเวลาเราแปรงฟันเองได้ค่ะ