แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนทั้งรักทั้งหวงเส้นผมของตัวเองกันทั้งนั้น นอกจากจะต้องรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพดีเงางามแล้ว การมีทรงผมสุดเก๋ที่พร้อมจะทำให้เรามั่นใจได้ทุกที่ทุกเวลาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สาวๆเราค่อนข้างจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากสาวๆคนไหนต้องทำงานที่ต้องพบปะผู้คนเป็นประจำละก็ เพียงแค่การไดร์ผมหรือการทำสีอาจจะยังไม่เพียงพอเสียด้วยซ้ำ การมีเครื่องหนีบผมมาเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยในการเสริมสวยจึงกลายมาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ
หากพูดถึงอุปกรณ์ทำผมที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศไทยแล้วละก็คงจะไม่พูดถึงแบรนด์ Lesasha ตัวแม่ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดแต่งทรงผมเป็นไม่ได้เลย เพราะอยู่คู่กับสาวไทยมาเป็นเวลากว่า 26 ปีและยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยอีกด้วย
ดังนั้นหากใครที่กำลังจะหาซื้อเครื่องหนีบผมมาใช้หรือจะซื้อเป็นของขวัญมอบให้คนพิเศษ ไม่ว่าจะเนื่องในโอกาสใดก็ตามแต่ ไม่ต้องคิดเยอะจนหัวระเบิดเลย ตรงดิ่งไปเลือกเครื่องหนีบผมจาก Lesasha ได้ทุกที่และมีหลากหลายรุ่นหลายขนาดให้เลือกอีกต่างหาก ทว่าจะมีเครื่องหนีบผมแบบไหนบ้างที่จะได้รับการแนะนำให้เป็นเครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดี ที่ซื้อมาใช้เองก็ชอบ มอบให้เป็นของขวัญก็ถูกใจปี 2023 วันนี้เราจะมาไขปริศนาไปพร้อมๆกับบทความนี้ด้วยกันค่ะ
แนะนำ 5 เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดี
- เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1495 SUPER SMOOTH & SHINE HAIR STRAIGHTENER
- เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1554 LS WAVY HAIR CRIMPER ROSE
- เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1268 MAXI WET2DRY HAIR CRIMPER
- เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1555 LS STRAIGHT & CURL HAIR CRIMPER MINT
- เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1647 STRAIGHT & CURL GLAMOUR
- ตัวเครื่องมีความโค้งมน ทำผมตรงก็ดี ทำลอนง่าย
- แผ่นหนีบเซรามิคเคลือบด้วย Ion+Pearl Powder ทำให้ผมเรียบตรงมากขึ้น หนีบผมได้ลื่นขึ้น 2 เท่า ช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์ได้เหนือกว่าและทำให้ผมดูเงางามขึ้น
- Floating Plate นั้นก็ช่วยลดแรงกดทับเส้นผมเพื่อไม่ให้ผมขาดหลุดร่วง
- LED Display สะดวกต่อการใช้งานและการปรับอุณหภูมิ
- ปรับอุณหภูมิได้ 12 ระดับไปจนถึง 230 องศา ร้อนเร็วใน 15 วินาที
- มี Auto Shut Off ป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นหากอุณหภูมิของเครื่องร้อนจนเกินไป
- แผ่นหนีบมีหน้ากว้างเหมาะกับการทำลอนผมโดยเฉพาะแบบเมอร์เมด
- แผ่นหนีบเคลือบเซรามิกกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้หนีบผมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
- ไอออนประจุลบช่วยรรักษาความนุ่มสวยของเส้นผม ให้เส้นผมยังมีน้ำหนักและลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์
- ปรับความร้อนได้ตั้งแต่ 100 – 230 องศาเซลเซียส
- ใช้ได้กับผมที่เปียกหมาด ประหยัดเวลาทำผม
- แผ่นหนีบผมแบบเซรามิกเคลือบนาโนทัวร์มาลีนผสานพลังกับน้ำมันคามีเลียทำให้ไม่กินเส้นผม มีความลื่ไหลในแต่ละครั้งทีหนีบ เส้นผมยังคงความนุ่มลื่นเงางามเป็นประกายได้เหมือนเดิม
- แผ่นหนีบขนาด 45 มิลลิเมตรที่มาพร้อมกับซี่หวีจัดเรียงเส้นผมทำให้ง่ายต่อการม้วนลอน
- ปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับไปจนถึง 220 องศาเซลเซียส
แนะนำ 5 เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดีที่ใช้เองก็ชอบ มอบให้เป็นของขวัญก็ถูกใจ ปี 2023
เครื่องหนีบผมของ Lesasha เนี่ยมีหลากหลายมากก็จริง แต่จะให้เอามาเขียนทุกรุ่นก็คงจะยาวเกินไป ดังนั้นวันนี้เราจึงนำ 5 รุ่นที่น่าสนใจมาให้ลองเอาเก็บไปนั่งคิดนอนคิดกันก่อน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1495 SUPER SMOOTH & SHINE HAIR STRAIGHTENER
เริ่มต้นบทความเครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดีด้วยรุ่น LS1495 SUPER SMOOTH & SHINE HAIR STRAIGHTENER กันก่อนเลย สำหรับเครื่องหนีบผมรุ่นนี้นะคะ เขาเน้นที่การเพิ่มความสนุกให้กับการรังสรรค์ทรงผมไม่ว่าจะเป็นทั้งทำผมตรงสวยหรือทำลอนเด้งๆปังๆ ด้วยการทำให้รูปทรงของตัวเครื่องมีความโค้งมน สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและดูทันสมัยในเวลาเดียวกัน แผ่นหนีบนั้นก็เป็นการนำเทคโนโลยีแผ่นหนีบเซรามิคเคลือบด้วย Ion+Pearl Powder ที่ผสานพลังในการทำให้ผมเรียบตรงมากขึ้น หนีบผมได้ลื่นขึ้น 2 เท่า ช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์ได้เหนือกว่าและทำให้ผมดูเงางามขึ้นจนผู้ใช้รู้สึกได้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นยอดเยี่ยมจริงๆและการที่มีแผ่นหนีบแบบ Floating Plate นั้นก็ช่วยลดแรงกดทับเส้นผมเพื่อไม่ให้ผมขาดหลุดร่วง
นอกจากนี้เพื่อให้ดีไซน์ออกมาดูทันสมัยยิ่งขึ้นไปอีกทาง Lesasha ก็ใช้ LED Display มาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบตัวเครื่องจึงทำให้สะดวกต่อการใช้งานและการปรับอุณหภูมิสุดๆ พอพูดถึงเรื่องอุณหภูมิแล้วนั้นรุ่น SUPER SMOOTH & SHINE HAIR STRAIGHTENER นี้สามารถปรับอุณหภูมิได้กว้างมาก มีให้เลือกแบบจุกๆถึง 12 ระดับโดยมีความร้อนสูงสุดอยู่ที่ 230 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ตัวเครื่องยังสามารถสร้างความร้อนได้เร็วมากภายในเวลา 15 วินาทีเลยค่ะ
และสิ่งที่เราชอบมากๆของเครื่องหนีบผมรุ่นนี้คือระบบ Auto Shut Off ที่เป็นระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นหากอุณหภูมิของเครื่องร้อนจนเกินไป ดังนั้นการทำผมด้วยใช้เครื่องหนีบรุ่นนี้นอกจากจะเพลิดเพลินไปกับการทำทรงผมสวยๆแล้วยังเกิดความอุ่นใจระหว่างการใช้งานอีกด้วย
- ตัวเครื่องมีความโค้งมน ทำผมตรงก็ดี ทำลอนง่าย
- แผ่นหนีบเซรามิคเคลือบด้วย Ion+Pearl Powder ทำให้ผมเรียบตรงมากขึ้น หนีบผมได้ลื่นขึ้น 2 เท่า ช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์ได้เหนือกว่าและทำให้ผมดูเงางามขึ้น
- Floating Plate นั้นก็ช่วยลดแรงกดทับเส้นผมเพื่อไม่ให้ผมขาดหลุดร่วง
- LED Display สะดวกต่อการใช้งานและการปรับอุณหภูมิ
- ปรับอุณหภูมิได้ 12 ระดับไปจนถึง 230 องศา ร้อนเร็วใน 15 วินาที
- มี Auto Shut Off ป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นหากอุณหภูมิของเครื่องร้อนจนเกินไป
- ตัวหนีบมีความเหลื่อมกันเล็กน้อย
2. เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1554 LS WAVY HAIR CRIMPER ROSE
เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดี รุ่นที่สองที่นำมาเเนะนำให้รู้จักกันในบทความนี้ก็คือรุ่น LS WAVY HAIR CRIMPER ROSE ซึ่งสีสันนี่น่ารักและน่าใช้มากๆเลยค่ะ เหมาะกับสาวสายหวานมากๆเลย เอาล่ะไม่พูดพล่าม เข้าเรื่องเลยดีกว่าเริ่มกันจากตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการทำลอนเป็นชีวิตจิตใจเลย ยิ่งสาวๆคนที่ชอบทำทรงผมสไตล์เมอร์เมดละก็ รุ่นนี้ถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ แผ่นหนีบนั้นเป็นแผ่นหนีบเคลือบเซรามิกที่มีความสามารถในการกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้หนีบผมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดและไม่มีปัญหาของการที่เครื่องหนีบจะดึงเส้นผมระหว่างการใช้งานเลยค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีไอออนประจุลบที่ทำหน้าที่ในการรักษาความนุ่มสวยของเส้นผมให้เส้นผมยังมีน้ำหนักและลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ ในส่วนของความกว้างของแผ่นหนีบก็อยู่ที่ 28 มิลเมตร ซึ่งสามารถทำให้ลอนผมออกมาสวยเป็นเมอร์เมดสมใจได้โดยการหนีบทีเดียวแบบไม่ต้องม้วนเลย ลอนที่ได้ออกมาก็อยู่ในขนาดที่พอดีไม่เล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป สำหรับอุณหภูมิความร้อนที่เครื่องนี้สามารถปรับได้นั้นมีตั้งแต่ 100 – 230 องศาเซลเซียสเลยซึ่งก็เพียงพอต่อความแตกต่างของเส้นผมแต่ละชนิดนะทุกคน ดังนั้นใครที่อยากได้ลอนผมเก๋ๆปังๆต้องจัดตัวนี้เลยเพราะถือว่าตอบโจทย์มากๆ
- แผ่นหนีบมีหน้ากว้างเหมาะกับการทำลอนผมโดยเฉพาะแบบเมอร์เมด
- แผ่นหนีบเคลือบเซรามิกกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้หนีบผมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
- ไอออนประจุลบช่วยรรักษาความนุ่มสวยของเส้นผม ให้เส้นผมยังมีน้ำหนักและลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์
- ปรับความร้อนได้ตั้งแต่ 100 – 230 องศาเซลเซียส
- เน้นทำลอนผม ไม่เน้นทำผมตรง
- ไม่มีระบบปิดการทำงานอัตโนมัติ
3. เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1268 MAXI WET2DRY HAIR CRIMPER
แล้วเราก็เดินทางมาได้ครึ่งทางของบทความแนะนำ 5 เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดี กันแล้วนะทุกคนซึ่งรุ่นต่อมาที่เราจะพุดถึงก็คือรุ่นที่ชื่อว่า LS1268 MAXI WET2DRY HAIR CRIMPER ถ้าหากดูจากชื่อเเล้วนั้นก็พอจะเดาได้ว่า เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นนี้นั้นสามารถมาใช้ได้กับผมที่เปียกอยู่ ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ถูกต้องค่ะ เพราะรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้สามารถหนีบผมได้ทั้งผมแห้งและผมที่เปียกหมาด ย้ำว่าเปียกหมาดนะคะ ดังนั้นข้อดีของจุดนี้ก็คือการที่เราสามารถประหยัดเวลาในการทำผมไปได้เยอะเลย
อีกทั้งประเภทของแผ่นหนีบก็ยังเป็นมิตรต่อเส้นผมแบบสุดๆไปเลยเพราะเป็นแผ่นหนีบผมแบบเซรามิกเคลือบนาโนทัวร์มาลีนที่มาผสานพลังกับน้ำมันคามีเลีย จึงทำให้ขณะที่เรากำลังประณีตกับการจัดแต่งทรงผมอยู่เนี่ยไม่กินเส้นผม มีความลื่นไหลในแต่ละครั้งที่เราหนีบและได้ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เส้นผมยังคงความนุ่มลื่นเงางามเป็นประกายได้เหมือนเดิม
อีกทั้งขนาดหน้ากว้างของแผ่นหนีบที่มีขนาด 45 มิลลิเมตรที่มาพร้อมกับซี่หวีจัดเรียงเส้นผมก็ทำให้ง่ายต่อการม้วนลอนได้เช่นกันไม่หวั่นแม้ว่าผมเราจะยาวแค่ไหนหรือผมจะมีความหนามากเท่าไหร่ ในส่วนของการปรับระดับความร้อนนั้นสามารถปรับได้ 5 ระดับไปจนถึง 220 องศาเซลเซียสเลยค่ะ
ซึ่งในความคิดเห็นของเราที่มีต่อรุ่นนี้นั้นเราคิดว่า LS1268 MAXI WET2DRY HAIR CRIMPER ค่อนข้างจะเหมาะกับคนที่อาจจะไม่มีเวลาในการจัดแต่งทรงผมมากนัก และอยากให้ประหยัดเวลาเพื่อไปทำกิจกรรมอื่นๆต่อ ขอแค่ได้รงผมที่สวยและดูดีพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสถานกาารณ์ก็เพียงพอ ดังนั้นหากคุณผู้อ่านมีไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรากำลังพูดอยู่ละก็เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ
- ใช้ได้กับผมที่เปียกหมาด ประหยัดเวลาทำผม
- แผ่นหนีบผมแบบเซรามิกเคลือบนาโนทัวร์มาลีนผสานพลังกับน้ำมันคามีเลียทำให้ไม่กินเส้นผม มีความลื่นไหลในแต่ละครั้งทีหนีบ เส้นผมยังคงความนุ่มลื่นเงางามเป็นประกายได้เหมือนเดิม
- แผ่นหนีบขนาด 45 มิลลิเมตรที่มาพร้อมกับซี่หวีจัดเรียงเส้นผมทำให้ง่ายต่อการม้วนลอน
- ปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับไปจนถึง 220 องศาเซลเซียส
- เหมาะกับคนที่มีผมยาวและหนา
- ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ
4. เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1555 LS STRAIGHT & CURL HAIR CRIMPER MINT
ต่อมาเราดูที่เครื่องหนีบผมรุ่น LS1555 LS STRAIGHT & CURL HAIR CRIMPER MINT รุ่นนี้ที่มาพร้อมกับสีเขียวมิ้นท์สุดคิ้วท์ที่มีฟังก์ชันหลากหลายมากๆเพื่อให้สาวๆมือโปรสามารถรังสสรค์จัดแต่งทรงผมได้สารพัดรูปแบบและเหมาะกับสาวๆมือใหม่ที่กำลังหัดใช้ให้เกิดความรู้สึกสนุกสนานไปกับการทำลอนผมที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งผมตรงคลาสสิค ผมลอนได้หลากหลาย และงุ้มปลายเพิ่มวอลลุ่ม ตัวเครื่องหนีบผมของ Lesasha รุ่นนี้นั้นได้รับการออกแแบบมาให้มีความโค้งมน
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเครื่องนี้จึงทำให้ผมที่หนีบทั้งแบบตรงและแบบลอน สามารถประคองเส้นผมขณะหนีบได้ดีมากและทำผมออกมาให้สวยเพอร์เฟคได้ตรงตามที่ใจต้องการ ในส่วนของเเผ่นหนีบนั้นก็เป็นแบบเคลือบเซรามิกนะคะทำให้หนีบผมได้ไม่มีสะดุด ไม่ดึงผม ไม่กินผมเลยและยังทำให้อุณหภูมิที่เราเลือกใช้มีความสม่ำเสมอกันตลอดการใช้งาน ที่พิเศษไปกว่านี้ก็คือ มีไอโอนิคฟังก์ชันที่ทำให้เกิดไอออนประจุลบค่ะ ซึ่งจุดนี้มีส่วนในการช่วยให้เส้นผมนุ่มสวย มีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟู และลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์นั่นเอง สำหรับระดับอุณหภูมิความร้อนที่เครื่องนี้สามารถปรับได้นั้นจะมีทั้งหมด 4 ระดับด้วยกันตั้งแต่ 160 – 220 องศาเซลเซียสค่ะ
- เหมาะกับทั้งคนที่เป็นกำลังหัดทำลอนและคนที่ช่ำชองการทำผม
- ความโค้งมนของตัวเครื่องสามารถประคองเส้นผมขณะหนีบได้ดีมาก
- เเผ่นหนีบแบบเคลือบเซรามิก หนีบผมได้ไม่มีสะดุด ไม่ดึงผม ไม่กินผมเลยและยังทำให้อุณหภูมิสม่ำเสมอกันตลอดการใช้งาน
- ไอโอนิคฟังก์ชันทำให้เกิดไอออนประจุลบ ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์
- ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ
5. เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1647 STRAIGHT & CURL GLAMOUR
และเครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นสุดท้ายของบทความนี้ก็คือเครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1647 STRAIGHT & CURL GLAMOUR รุ่นนี้เด่นตรงที่เป็นเครื่องหนีบถนอมเส้นผมที่มีแผ่นหนีบเป็นแบบเซรามิกเคลือบทัวร์มาลีนพร้อมกับเคราติน ดังนั้นระหว่างที่เรากำลังหนีบเส้นผมของเราเนี่ยเราจะไม่ต้องกังวลใจว่าผมจะดูแห้ง ไม่เงางาม เพราะแผ่นหนีบแบบนี้นั้นสามารถปกป้องเส้นผมจากความร้อน ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้เป็นอย่างดี ขจัดปัญหาผมชี้ฟูได้อีกด้วย
นอกจากนี้ด้วยความที่มีระบบไอโอนิก ความเงางามของเส้นผมจากที่เรามีอยู่เเล้วก็จะเพิ่มให้เงางามยิ่งขึ้นไปอีก มาดูกันที่การออกแบบตัวเครื่องกันต่อ รุ่นนี้เขาออกแบบมาให้ง่ายต่อการจัดทรงให้หลากหลายในขณะที่ยังทำให้ผมดูสุขภาพดีอยู่ ดังนั้นตรงตัวหนีบจึงนำซี่หวีโครเมี่ยมมาเป็นตัวช่วยในการจัดเรียงเส้นผมให้แน่นขึ้นและยังสามารถสร้างลอนผมได้อย่างสวยงาม
ยิ่งไปกว่านั้นแผ่นหนีบยังเป็นแบบสปริง (Floating Plate) ช่วยให้หนีบลื่นโดยไม่กดรั้งจนเกินไปและไม่ดึงเส้นผมอีกด้วย ในส่วนของระดับความร้อนที่เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1647 STRAIGHT & CURL GLAMOUR จัดมาให้ก็สามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 130 – 230 องศา ซึ่งอยู่ในช่วงความร้อนที่เหมาะกับเส้นผมทุกสภาพเลยค่ะ
- แผ่นหนีบเป็นแบบเซรามิกเคลือบทัวร์มาลีนพร้อมกับเคราติน
- ระบบไอโอนิกเพิ่มความเงางามของเส้นผม
- ซี่หวีโครเมี่ยมช่วยในการจัดเรียงเส้นผมให้แน่นขึ้นและยังสามารถสร้างลอนผมได้อย่างสวยงาม
- แผ่นหนีบไม่กินเส้นผม
- ช่วงความร้อนที่ปรับได้เหมาะกับทุกสภาพผม
- ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ
5 เคล็ดลับในการเลือกเครื่องหนีบผม
กว่าจะเจอเครื่องหนีบผมที่ใช่ใช้แล้วถูกใจ หรือซื้อให้เป็นของขวัญนี่ไม่ง่ายเลยนะคะ ดังนั้นเรามาดูตัวช่วยในการตัดสินใจกันดีกว่า ว่าเครื่องหนีบผมที่คู่ควรนั้นต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
เลือกจากรูปทรงของตัวเครื่อง
รูปทรงของตัวเครื่องหนีบผมมีผลต่อการออกแบบทรงผมมากเลยนะคะ เครื่องหนีบผมที่ออกแบบมาให้แบนเนี่ยเหมาะกับการทำผมให้เรียบสวยเงางามก็จริงแต่ตรงขอบของแผ่นหนีบผมแบบแบนนั้นอาจจะทำให้ไม่สะดวกต่อประสิทธิภาพในการใช้งานเท่าที่ควร ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเครื่องหนีบผมที่ตัวครื่องมีความโค้งมนเล็กน้อยนั้นความรู้สึกระหว่างการหนีบตรงกับการสร้างลอนเป็นอะไรที่แฮปปี้มากค่ะ เพราะรูปทรงแบบนี้จะช่วยให้เราปรับแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้นทั้งการทำผมให้ตรงเรียบหรือจะทำให้เกิดลอนปังๆก็ง่ายไปหมด
ความกว้างของแผ่นหนีบผม
ความกว้างของเเผ่นหนีบก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถนำมาเป็นเกณฑ์ในการเลือกเครื่องหนีบผมได้เช่นกัน แผ่นหนีบที่กว้างขึ้นจะเหมาะสำหรับคนที่มีผมยาวและหนา สามารถหนีบผมได้ทีละมากๆ คงความร้อนได้สม่ำเสมอ และทำให้ผมได้หลุดร่วง อย่างไรก็ตามหากคุณมีผมสั้น ผมผ่านการทำสีหรือกัดสีมาแล้วนั้นควรมองหาแผ่นหนีบที่แคบลงเพื่อให้ผมไม่ได้รับความร้อนในปริมาณมากจนเกินไปนั่นเอง
เลือกชนิดของแผ่นหนีบที่เหมาะกับสภาพผม
ต่อมาก็คือการเลือกชนิดของแผ่นหนีบ ในปัจจุบันนี้วัสดุที่ใช้ผลิตแผ่นหนีบผมนั้นได้รับการพัฒนาจนมีหลากหลายรูปแบบมากๆ ดังนั้นการเลือกแผ่นหนีบที่ตรงใจจึงขึ้นอยู่กับสภาพผมของคุณว่าต้องการแบบไหน
- แผ่นหนีบแบบเซรามิค: ทนต่อความร้อนสูงๆได้ดีมากและทำให้อุณหภูมิมีความสม่ำเสมอ ทำให้การหนีบผมมีความลื่นไหล ลดปัญหาผมชี้ฟูและเพิ่มความเงางามของเส้นผมในเวลาเดียวกัน
- แผ่นหนีบแบบไทเทเนียม: สร้างความร้อนได้รวดเร็วและยังคงความร้อนให้สม่ำเสมอได้ในระดับหนึ่ง มีน้ำหนักเบาและนุ่มนวลต่อปลายเส้นผมซึ่งเหมาะกับคนที่มีปลายผมเสียมากและที่มีเส้มผมหนาและหยาบ
- แผ่นหนีบเคลือบเซรามิค: โดยปกติแผ่นหนีบแบบนี้จะทำมาจากเหล็กแล้วค่อยเคลือบด้วยเซรามิคอีกทีจึงทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นอาจจะยังไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควรถึงแม้จุดเด่นจะอยู่ที่สร้างความร้อนได้รวดเร็วก็ตาม
- แผ่นหนีบแบบทัวร์มาลีน: แผ่นหนีบชนิดนี้เป็นชริดใหม่ล่าสุดและราคาก็ค่อนข้างสูงมาก เพราะทำมาจากอัญมณีที่ชื่อว่าทัวร์มาลีนโดยเจ้าหินทัวร์มาลีนนี้จะถูกนำไปใช้กับแผ่นหนีบแบบแบนซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าแผ่นหนีบแบบเซรามิคโดยที่จะทำให้ผมยังคงความนุ่มสวย เรียบลื่นและเงางามอยู่ ยิ่งไปกว่านี้คือแผ่นแบบนี้คงทนต่อความร้อนสูงได้เป็นอย่างดี
ระดับความร้อนที่สามารถปรับได้
สำหรับความร้อนนั้นยิ่งสามารถปรับได้ร้อนมากเทาไหร่ก็ทำให้การทำผมดำเนินไปอย่างรวดเร็วขึ้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับประเภทของเส้นผมทุกชนิดนะคะ ดังนั้นเพื่อเป็นลดความเสียหายที่จะเกิดกับเส้นผมควรเลือกเครื่องหนีบผมที่สามารถปรับความร้อนได้หลายระดับเพื่อให้ง่ายต่อการทำผมให้เรียบตรงและจึงค่อยจัดทรงด้วยอุณหภูมิที่ต่ำลงมา
พิจารณาจากความแตกต่างของราคากับความคุ้มค่า
ข้อนี้เป็นเกณฑ์ในการเลือกเครื่องหนีบผมข้อสุดท้ายที่เราสามารถเอาไปใช้ได้ค่ะ ยิ่งเครื่องหนีบผมที่มีราคาถูกคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งานก็อาจจะทำให้การทำผมของเราออกมายังไม่ตรงใจ ต่างจากการเลือกื้อเครื่องหนีบผมที่มีราคากลางๆสมเหตุสมผลค่อนไปทางสูงหน่อยซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้ผมเราเสีย เลี่ยงการเจอของปลอม ยังมีความคงทนในการใช้งานและทำให้เรารู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่จัดทรงผม
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอจะมีเครื่องหนีบผม Lesasha รุ่นไหนดี ที่พอจะเข้าหูเข้าตาบ้างหรือยัง ถ้ายังเราขอป้ายยาเครื่องหนีบผม Lesasha ตัววินเนอร์ของบทความนี้ซึ่งนั่นก็คือ เครื่องหนีบผม Lesasha รุ่น LS1495 SUPER SMOOTH & SHINE HAIR STRAIGHTENER ตัวนี้ให้ไปลองกันค่ะ เพราะขณะที่เพลิดเพลินไปกับการทำผมก็รู้สึกปลอดภัยตลอดการใช้งานด้วยโหมด Auto Shut Off ที่จะทำให้เครื่องหยุดการทำงานเมื่อเครื่องร้อนเกินไป
อย่างไรก็ตามนอกจากการทำผมด้วยเครื่องหนีบผมแล้ว เพื่อให้ผมมีสุขภาพดีและสามารถจัดทรงได้หลายรูปแบบ การหาเซรั่มบำรุงผมหรือทรีทเม้นท์ผมมาใช้ควบคู่กันก็เป็นไอเดียที่แจ่มว้าวมากอีกเช่นกันค่ะ