ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี

รีวิวแนะนำ 6 อันดับ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่ทำให้ผมนุ่มสวยและสุขภาพดี ฉบับปี 2024

สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมไม่ว่าจะเป็น ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู ผมลีบแบน ผมขาดหลุดร่วง รวมทั้งปัญหาอื่นที่เกี่ยวกับเส้นผม ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้เพียงการดูแลจากแชมพูและครีมนวดผมอาจยังไม่เพียงพอ การเลือกรับประทานคอลลาเจนเพื่อบำรุงเส้นผม หรือแม้แต่การเลือกใช้ทรีทเม้นท์เข้ามาเป็นตัวช่วยจะทำให้เส้นผมได้รับการบำรุงที่เข้มข้นและล้ำลึกมากยิ่งขึ้น ส่วนทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณ ในบทความนี้เรามีวิธีการเลือก พร้อมทั้งแนะนำ 6 ทรีทเม้นท์ที่กำลังได้รับความนิยมมาให้พิจารณากัน

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี

รีวิว 6 อันดับ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณ

หลักจากได้ทราบกันไปแล้วว่าการเลือกทรีทเม้นท์สามารถเลือกอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด คราวนี้มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีทรีทเม้นท์ยี่ห้อไหนที่น่าจะโดนใจคุณกันบ้าง

1. ทรีทเม้นท์ผม Eucerin Democapillaire Re-Vitalizing Scalp Treatment Thinning Hair 

ทรีทเม้นท์ผม Eucerin Democapillaire Re-Vitalizing Scalp Treatment Thinning Hair

เริ่มต้นรายชื่อทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดีกันด้วยแบรนด์ชั้นนำกับ Eucerin Democapillaire Re-Vitalizing Scalp Treatment Thinning Hair ที่อัดแน่นมาด้วยสารบำรุงเส้นผมที่มีประโยชน์มากมายอย่าง ลิโคชาลโคน เอ ตัวช่วยในการฟื้นฟูบำรุงหนังศีรษะจากการระคายเคือง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมร่วง ผมบาง ผนวกกับ คาร์นีทีนและครีเอทีนที่ช่วยชะลอการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ไม่ให้ขาดเปราะง่าย 

Eucerin Democapillaire Re-Vitalizing Scalp Treatment Thinning Hair ได้รับการวิจัยและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการลดปัญหาผมบาง ผมขาดร่วง โดยการบำรุงลึกจากรากถึงจรดปลายผม ช่วยหล่อเลี้ยงหนังศีรษะให้แข็งแรงสมดุล ส่งผลให้เส้นผมมีสุขภาพดี เงางาม นุ่มสลวย และยังทำให้ผมดูหนาขึ้นถึง 45% ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังว่าอ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สามารถใช้ได้ทุกวัน มีกลิ่นหอม และยังใช้ได้กับทุกสภาพหนังศีรษะ ใครที่กำลังเจอปัญหาผมร่วงอยู่ล่ะก็ ทรีทเม้นท์แบรนด์นี้จัดว่าน่าสนใจไม่น้อย

จุดเด่น
  • มีลิโคชาลโคน เอ ช่วยลดการระคายเคืองของหนังศีรษะ
  • มีคาร์นีทีนและครีเอทีน ช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม
  • สามารถใช้ได้ทุกสภาพหนังศีรษะ
  • ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง
จุดควรพิจารณา
  • ควรใช้คู่กับยูเซอริน เดอร์โมคาพิลแลร์ ทินนิ่ง แฮร์ แชมพู เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพดีขึ้น
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงเพราะฮอร์โมน

 

 

2. ทรีทเม้นท์ผม Pantene Biotin Strong Weekly Hair Mask Rinse-Off Treatment 

ทรีทเม้นท์ผม Pantene Biotin Strong Weekly Hair Mask Rinse-Off Treatment

มาต่อกันเลยกับแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องการดูแลเส้นผมที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ Pantene Biotin Strong Weekly Hair Mask Rinse-Off Treatment ทรีทเม้นท์ มาส์ก สูตรเข้มข้น มาพร้อมกับโปรวิตามิน สำหรับช่วยในการดูแลปัญหาผมขาดร่วงโดยเฉพาะ ช่วยบำรุงลึกถึงรากผมด้วยสารอาหารสำคัญอย่างไบโอติน ซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้โครงสร้างของเส้นผมมีความแข็งแรง ไม่ร่วงหลุด หรือเปราะขาดง่าย

ด้วยความเข้มข้นของทรีทเม้นท์สูตรนี้จึงเหมาะที่จะใช้บำรุงเส้นผมเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งๆ ละ  5นาที ก็เพียงพอสำหรับช่วยเติมเต็มผมที่อ่อนแอ ผมแห้งชี้ฟู ให้กลับมานุ่มสลวย เงางาม สามารถดูแลเรื่องผมขาดหลุดร่วง ควบคู่กับการช่วยบำรุงผมแห้งเสียให้มีสุขภาพดีในราคาปานกลาง และยังหาซื้อง่ายอีกด้วย

จุดเด่น
  • สูตร โปรวิตามิน ซึมซาบเร็ว
  • มีสารอาหารสำคัญคือ ไบโอติน ช่วยให้ผมแข็งแรง 
  • มีความเข้มข้นมากใช้เพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ช่วยดูแลผมให้มีสุขภาพดีตั้งแต่โคนจรดปลายผม
  • เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย

 

จุดควรพิจารณา
  • ควรใช้ควบคู่กับแชมพูและทรีมินิทมิราเคิลเพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพในการบำรุงดีมากขึ้น

 

 

3. ทรีทเม้นท์ผม Sunsilk Treatment Smooth and Manageable Pink

ทรีทเม้นท์ผม Sunsilk Treatment Smooth and Manageable Pink

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดีตัวต่อมาที่มีชื่อเสียงเรื่องการดูแลเส้นผมและได้รับความนิยมไม่แพ้แบรนด์อื่นก็คือ Sunsilk Treatment Smooth and Manageable Pink มาในกระปุกสีชมพูที่ร่วมคิดค้นสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผมตรงเรียบลื่นจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ส่วนผสมที่ทรงคุณค่าจากน้ำมันธรรมชาติถึง 5 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยให้ผมมีน้ำหนัก จัดทรงง่าย ไม่ลีบแบน อยู่ทรงตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ยังผสานกับอาร์แกนออยล์และคามิเลียเอสเซนส์ ที่สามารถช่วยดูแลเส้นผมได้อย่างล้ำลึกเพื่อช่วยเติมสารอาหารให้เส้นผมที่ขาดน้ำหนักมีสุขภาพดี แข็งแรง และยังมาพร้อมกับกลิ่นที่หอมสดชื่นรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยทีเดียว จัดว่าเป็น Treatment สูตรทำให้ผมมีน้ำหนักนุ่มสวย ใครที่มีผมลีบแบน ผมขาดน้ำหนัก ผมแห้งเสีย ตัวนี้เป็นอีกสูตรที่น่าใช้ในราคาค่อนข้างถูกและยังหาซื้อได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นสรรพสินค้าหรือตามร้านค้าทั่วไป

จุดเด่น
  • เป็นทรีทเม้นท์สูตรผมมีน้ำหนักจัดทรงง่าย
  • เหมาะสำหรับผมลีบแบน ขาดน้ำหนัก
  • มีน้ำมันธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ถึง 5 ชนิด
  • มีอาร์แกนออยล์และคามิเลียเอสเซนส์
  • ราคาไม่แพงจนเกินไป หาซื้อง่าย
จุดควรพิจารณา
  • หากต้องการบำรุงให้ครบทุกเรื่องต้องซื้อสูตรอื่นเพิ่มเติม

 

4. ทรีทเม้นท์ผม Dove Intense Repair Treatment Mask Dark Blue

ทรีทเม้นท์ผม Dove Intense Repair Treatment Mask Dark Blue

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่เราอยากแนะนำอีกตัวก็คือ Dove Intense Repair Treatment Mask เป็นสูตรที่มีความเข้มข้นมากๆ เหมาะสำหรับผมแห้งเสียจากการทำสี ผมผ่านการดัด หรือผ่านเคมีต่างๆ มีส่วนผสมสำคัญจากน้ำมันดอกทานตะวันและเคราตินที่ช่วยบำรุงลึกถึงแกนผม ทำให้ผมแข็งแรง นุ่มสวย ไม่ขาดเปราะง่าย มีน้ำหนัก เงางาม ผมไม่พันกันทำให้หวีง่ายมากขึ้น

  Dove Intense Repair Treatment Mask เป็นแบรนด์คุณภาพที่เคลมว่าสามารถช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมามีชีวิตชีวา มีสุขภาพดี ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และให้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นเมื่อใช้ในครั้งต่อไป สามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ผมมัน หรือรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เป็นทรีทเม้นท์ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องผมแห้งเสียจากสารเคมีได้ดีมากอีกตัวหนึ่ง

จุดเด่น
  • มีส่วนผสมของน้ำมันดอกทานตะวันและเคราตินสำหรับช่วยบำรุงเส้นผม
  • เหมาะสำหรับผมแห้ง ผมเสียจากการทำสี
  • เห็นผลดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
  • สามารถใช้ได้ทุกวันไม่เหนียวเหนอะหนะ

 

จุดควรพิจารณา
  • หากต้องการบำรุงให้ครบทุกเรื่องต้องซื้อสูตรอื่นเพิ่มเติม

 

5. ทรีทเม้นท์ผม TRESemmé Treatment Mask Keratin Smooth Red

ทรีทเม้นท์ผม TRESemmé Treatment Mask Keratin Smooth Red

หากถามว่าทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสำหรับผมชี้ฟู เราขอแนะนำ TRESemmé Treatment Mask Keratin Smooth Red ที่สามารถบำรุงให้เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม ลดการเกิดผมชี้ฟูได้นานถึง 48 ชั่วโมง ด้วยส่วนผสมหลักจากเคราตินที่ช่วยเติมเต็มให้โครงสร้างของเส้นผมมีความแข็งแรงอย่างล้ำลึกถึงภายใน มาพร้อมกับน้ำมันดอกทานตะวันที่มีคุณสมบัติพิเศษเรื่องการบำรุงเส้นผมให้นุ่มลื่น แข็งแรงและยังช่วยให้สามารถทนต่อความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น

เพียงใช้ TRESemmé Treatment Mask Keratin Smooth Red ชโลมผมที่เปียกบริเวณกลางผมลงมาจรดปลายผม หมักทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดก็จะได้เส้นผมที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นุ่มสลวย เป๊ะปัง ไม่หยาบกระด้าง ไม่ชี้ฟูได้ยาวนานราวกับเข้าซาลอนกันเลยทีเดียว แต่เนื่องจากว่าเป็นทรีทเม้นท์ที่มีความเข้มข้นมากเป็นพิเศษ จึงไม่เหมาะกับคนที่มีผมและหนังศีรษะมัน 

จุดเด่น
  • มีส่วนผสมของน้ำมันดอกทานตะวันช่วยบำรุงเส้นผม
  • มีส่วนผสมของเคราตินสำหรับช่วยบำรุงเส้นผ
  • เหมาะสำหรับผมแห้ง ผมชี้ฟู
  • ช่วยให้ผมเรียบตรงไม่ชี้ฟูนาน 48 ชั่วโมง
จุดควรพิจารณา
  • ไม่เหมาะกับคนที่มีผมและหนังศีรษะมัน

 

6. ทรีทเม้นท์ผม The Body Shop Shea Butter Richly Replenishing Hair mask

ทรีทเม้นท์ผม The Body Shop Shea Butter Richly Replenishing Hair mask

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดีตัวสุดท้ายที่เรานำมาแนะนำก็คือ The Body Shop Shea Butter Richly Replenishing Hair mask ทรีทเม้นท์บำรุงผมที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นเชียบัตเตอร์, โอลีฟออยล์, โคโค่นัทออยล์ และ โกโก้บัตเตอร์ จัดเต็มมาเพื่อช่วยฟื้นฟูเส้นผมแห้งเสีย ให้กลับมานุ่มลื่น มีสุขภาพดี และยังช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผมได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

  The Body Shop Shea Butter Richly Replenishing Hair mask ยังช่วยลดการอักเสบการระคายเคือง ลดการสะสมของความมันบริเวณหนังศีรษะตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องผมงอกใหม่ ช่วยทำให้ผมมีสุขภาพดีจึงส่งผลให้ผมขาดหลุดร่วงน้อยลง หากคุณกำลังมองหาทรีทเม้นท์สำหรับช่วยฟื้นฟูผมแห้ง และลดปัญหาผมร่วง ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ  

จุดเด่น
  • มีสารอาหารจาก เชียบัตเตอร์, โอลีฟออยล์, โคโค่นัทออยล์, น้ำมันมะกอก และ โกโก้บัตเตอร์ ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเส้นผม
  • เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย ผมขาดร่วง
  • ลดปัญหาหนังศีรษะมัน

 

จุดควรพิจารณา
  • ในผู้ที่ผมแห้งเสียมากควรหมักผมไว้ข้ามคืน

 

วิธีเลือก ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี 

วิธีเลือก ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี 

เนื่องจากแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของสภาพเส้นผม สภาพหนังศีรษะ จึงมีการพัฒนาสูตรและความเข้มข้นรวมถึงคุณภาพออกมาให้เลือกใช้มากมาย ผู้บริโภคจึงต้องเลือกให้มีความเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ส่วนการจะเลือกทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดีนั้นมีเรื่องที่ต้องพิจารณาดังนี้  

1. เลือกจากสภาพของเส้นผม 

โดยสภาพเส้นผมของเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกันคือ

ผมแห้ง ผมแตกปลาย

อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการขาดความชุ่มชื้นจากการสูญเสียน้ำ ต่อมไขมันบริเวณผิวหนังทำงานผิดปกติ เกิดจากความร้อนการจัดทรงหรือการทำสีผม หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม  เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก, น้ำมันดอกทานตะวัน, โจโจ้บาออยล์, อาร์แกนออยล์

รวมทั้งเคราติน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของเส้นผม ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน ลดการชี้ฟู และยังช่วยปกป้องเส้นผมสารเคมีได้ดีอีกด้วย

ผมขาดหลุดร่วง

มักจะเกิดจากการที่เส้นผมอ่อนแอ รากผมไม่แข็งแรง จึงควรเลือกทรีทเม้นท์ที่ช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรงแบบล้ำลึกถึงระดับรากผม เช่น ทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของโปรวิตามิน, เคราติน และ ไบโอติน เพราะเป็นสารที่ช่วยทำให้โครงสร้างของเส้นผมมีความแข็งแรงมากขึ้น หรือจะเลือกที่มีส่วนผสมของสาร Lipidure หรือ กรดไฮยาลูรอนิก สารเหล่านี้สามารถช่วยลดผมขาดหลุดร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน

ผมหรือหนังศีรษะแพ้ง่าย

ควรหลีกเลี่ยงทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคน, น้ำหอม, พาราเบน และสารเคมีอันตรายอื่นๆ  เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองเกิดการแพ้ขึ้นได้ ควรใช้ทรีทเม้นท์ผมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือเลือกทรีทเม้นท์ผมที่ผ่านการรับรองจากแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ก็จะทำให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี

2. เลือกจากสูตรของทรีทเม้นท์

การเลือกทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดีนั้นสามารถเลือกได้จากสูตรต่างๆ ที่มีการผลิตออกมาจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่แต่ละสูตรจะผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน โดยการเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ลงไปเพื่อให้ออกฤทธิ์ฟื้นฟูและบำรุงเส้นผมตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น บางคนอาจต้องการให้เส้นผมยาวเร็วมากขึ้น ก็ควรเลือกทรีทเม้นท์สูตรเร่งผมยาว

หรือหากต้องการผมที่นุ่มลื่นไม่ชี้ฟูก็ควรเลือกทรีทเม้นท์สูตรลดอาการผมชี้ฟู เป็นต้น การเลือกที่ดีจึงต้องตรวจสอบรายละเอียดของส่วนผสมให้ชัดเจนว่าเป็นสูตรที่ต้องการและเหมาะกับเส้นผมของตนเองหรือไม่ โดยเฉพาะหากคุณมีผิวแพ้ง่าย ถ้าไม่เลือกด้วยความระมัดระวังก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือเกิดอันตรายขึ้นได้อีกด้วย 

3.เลือกจากประเภทของทรีทเม้นท์

ทรีทเม้นท์ประเภทที่ต้องล้างออก

ทรีทเม้นท์ประเภทนี้จะเน้นฟื้นฟูบำรุงรักษาเส้นผมที่เสียหายโดยการชโลมลงบนเส้นผมแล้วหมักทิ้งไว้ในระยะเวลาที่เหมาะสมจึงล้างออกเพื่อทำความสะอาด ส่วนใหญ่จะผลิตออกมาเป็นชุดสำหรับใช้งานคู่กับแชมพูและครีมนวดผม เพื่อช่วยบำรุงผมให้ครบทุกขั้นตอนนั่นเอง

ทรีทเม้นท์ประเภทที่ไม่ต้องล้างออก

ทรีทเม้นท์ประเภทนี้จะทำหน้าที่ในการเคลือบเส้นผมชั้นนอกเพื่อล็อกความชุ่มชื้นไม่ให้เกิดการสูญเสียน้ำภายในเส้นผม ช่วยป้องกันไม่ให้ผมแห้ง หยาบกระด้าง ซึ่งอาจไม่ได้บำรุงอย่างล้ำลึกเท่ากับทรีทเม้นท์ประเภทแรก แต่ก็นิยมใช้เช่นเดียวกันขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของแต่ละคนเป็นหลัก

บทส่งท้าย ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณ

เพราะเส้นผมคือส่วนที่ควรดูแลให้มีสุขภาพดี เงางาม นุ่มสลวยอยู่เสมอ ซึ่งการจะได้มานั้น ต้องเอาใจใส่ ดูแล บำรุงอย่างเหมาะสม และเนื่องจากทรีทเม้นท์คือผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องความปลอดภัยที่จะนำมาใช้งาน

โดยถ้าจะให้เลือกทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี จากทั้งหมดนี้ เราขอแนะนำ Eucerin Democapillaire Re-Vitalizing Scalp Treatment Thinning Hair เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และยังช่วยบำรุงลึกถึงรากผม ทำให้ผมมีสุขภาพดี จึงไม่หลุดร่วงง่าย ผมดูหนาขึ้น นุ่มสลวยเงางาม สามารถช่วยเติมเต็มได้ครบทุกความต้องการเลยทีเดียว

Similar Posts