ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี

แนะนำ 5 ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้แล้วผมกลับมาดกดำ เงางาม เพิ่มความมั่นใจ ฉบับปี 2024

เรื่องสุขภาพเส้นผมนี่เป็นเรื่องที่ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่ดีและเพียงพอก็อาจจะเกิดปัญหาที่อาจจะสายเกินแก้อย่างเรื่องผมขาดหลุดร่วงหรือหนังศรีษะบาง ล้าน ที่ส่วนหนึ่งก็เกิดจากกรรมพันธุ์หรืออาจจะเกิดจากการที่หนังศรีษะของเราได้รับสารเคมีที่มาจากส่วนผสมของครีมย้อมผมหรือน้ำยากัดสีผมมากเกินไป ปัญหาดังกล่าวจึงสร้างผลกระทบต่อความมั่นใจไปค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตามเราคิดว่าทุกคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องยาปลูกผมกันมาบ้างซึ่งเจ้าสิ่งนี้แหละค่ะที่จะมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหาที่ได้เกริ่นมา

ประโยชน์ของยาปลูกผมนั้นนอกจากทำการกระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้นมาใหม่แล้วสามารถช่วยลดปัญหาการขาดหลุดร่วงของเส้นผม เพิ่มความดกดำของเส้นผมทำให้ผมที่เกิดใหม่นั้นเงางามไม่พันกันยุ่งเหยิง แถมบางยี่ห้อก็ช่วยให้ผมแข็งแรงสามารถทนและหลีกเลี่ยงความเสียหายที่มาจากความร้อนได้มากขึ้น

เมื่อเห็นประโยชน์แบบนี้แล้วการหายาปลูกผมมาใช้ก็เป็นอีกเรื่องที่เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายที่จะต้องซื้อมาใช้นะคะ แต่ก็ถ้าจะใช้ก็ควรลองปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อเอง สำหรับยาปลูกผมที่จำหน่ายทั่วไปนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสูตร หลากหลายราคา ซึ่งในวันนี้ชอบรีวิวได้นำยาปลูกผมยี่ห้อต่างๆมาให้คุณได้ลองไปพิจารณากันในท็อปปิค “แนะนำ 5 ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้แล้วผมกลับมาดกดำ เงางาม เพิ่มความมั่นใจ 2024” 

5 ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี

Women's Rogaine 5% Minoxidil Foam
อันดับ 1
  • ได้รับการรับรองจากทางองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA)และเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก
  • กระตุ้นการทำงานของรูขุมขนและการผลิตโปรตีนของเส้นผม
  • Tricho-Prime Technology ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการงอกใหม่ของเส้นผมพร้อมกับการบำรุงอย่างล้ำลึกเพื่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • เป็นยาปลูกผมแบบโฟมจึงไม่ทำให้หนังศรีษะดูมันเยิ้มหลังจากใช้งาน
  • ตัวโฟมนั้นจับตัวกันค่อนข้างดีไม่หยดเลอะเทอะขณะใช้งาน ไม่เหนียวเหนอะหนะ
     
The Ordinary Multi-Peptide for Hair Density 60ml
อันดับ 2
  • ราคาเอื้อมถึงและค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
  • มีเปปไทด์ คอมเพลกซ์ที่มาบำรุงหนังศรีษะ ช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง สารสกัดจากใบชาที่จะมาช่วยควบคุมความมันของหนังศรีษะพร้อมคงความสดชื่นและคาเฟอีนที่มาทำให้กระตุ้นให้ผมงอกเร็วขึ้นและดูดกดำ อ่อนเยาว์
  • ใช้ง่ายซึมซับได้เร็ว
DR.BARBARA STURM ANTI-HAIR FALL SCALP SERUM
อันดับ 3
  • ส่วนผสม vegan 100% ปราศจากทั้งซิลิโคนและพาราเบน มีความอ่อนโยนต่อหนังศรีษะ
  • มีส่วนในการปกป้องเส้นผมและหนังศรีษะจากความร้อน มลภาวะและรังสี UV

แนะนำ 5 ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้แล้วผมกลับมาดกดำ เงางาม เพิ่มความมั่นใจ 2024

สำหรับยาปลูกผมที่เราได้เลือกมานั้นก็จะมีทั้งหมด 5 ยี่ห้อด้วยกันนะคะ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมาในรูปแบบไหน มีจุดเด่นและข้อควรพจารณาอะไร สามารถดูรายละเอียดด้านล่างเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

1. Women’s Rogaine 5% Minoxidil Foam

Women's Rogaine 5 Minoxidil Foam

ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อแรกนี้ก็คือยี่ห้อ Rogaine เป็นยาปลูกผมสำหรับผู้หญิงมาในสูตรของโฟมนะคะยี่ห้อนี้ได้รับการรับรองจากทางองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) มาแล้วและเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกทำให้ยาปลูกผมของยี่ห้อนี้ได้ปรากฏในอันดับต้นๆของยาปลูกผมที่ดีที่สุดจากสื่อด้านความสวยความงามหลายๆสื่อเลยค่ะ

สำหรับจุดเด่นของยี่ห้อนี้นั้นหลักๆก็คือกระตุ้นการทำงานของรูขุมขนและการผลิตโปรตีนของเส้นผมและ มี Tricho-Prime Technology ที่ใช้ส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการงอกใหม่ของเส้นผมพร้อมกับการบำรุงอย่างล้ำลึกเพื่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ตัวโฟมนั้นจับตัวกันค่อนข้างดีค่ะทำให้ไม่หยดเลอะเทอะขณะใช้งาน ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ สำหรับยาปลูกผมแบบโฟมยี่ห้อนี้นั้นเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องผมบางค่ะ

วิธีใช้ก็ใช้เพียงแค่วันละ 1 ครั้งเป็นประจำทุกวันด้วยการนวดตัวยาลงบนหนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาผมบางและหลุดร่วง นวดจนตัวยาซึมลงหนังศรีษะซึ่งในตัวยาก็จะมีส่วนผสมของมี Minoxidill 5% ซึ่งสารตัวนี้จะทำหน้าที่ในการรับมือและรักษาสุขภาพของเส้นผมและหนังศรีษะนอกจากนี้ก็ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆที่จำเป็นอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผมหลุดร่วงที่เกินกว่ารูปที่โชว์อยู่ข้างกล่องยาปลูกผมตัวนี้อาจจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เต็มที่นะคะ

จุดเด่น
  • ได้รับการรับรองจากทางองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA)และเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก
  • กระตุ้นการทำงานของรูขุมขนและการผลิตโปรตีนของเส้นผม
  • Tricho-Prime Technology ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการงอกใหม่ของเส้นผมพร้อมกับการบำรุงอย่างล้ำลึกเพื่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • เป็นยาปลูกผมแบบโฟมจึงไม่ทำให้หนังศรีษะดูมันเยิ้มหลังจากใช้งาน
  • ตัวโฟมนั้นจับตัวกันค่อนข้างดีไม่หยดเลอะเทอะขณะใช้งาน ไม่เหนียวเหนอะหนะ
จุดควรพิจารณา
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องผมบาง แต่ถ้าบางเกินกว่ารูปที่โชว์อยู่ข้างกล่องยาปลูกผมตัวนี้อาจจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เต็มที่

2. The Ordinary Multi-Peptide for Hair Density 60ml

The Ordinary Multi-Peptide for Hair Density 60ml

ต่อมาก็คือยี่ห้อ The Ordinary นะคะซึ่งตอนแรกเราก็นึกว่าเขาจะมีแค่ผลิตภัณ์บำรุงผิวหน้าเพียงอย่างเดียวแต่ไม่จ้า เรื่องของเส้นผมก็ต้องมาเหมือนกันนะ ซึ่งสำหรับยาปลูกผมจาก The Ordinary ตัวนี้ก็มีชื่อว่า The Ordinary Multi-Peptide for Hair Density มาในขนาด 60 ml. ค่ะ สำหรับตัวนี้เราชอบตรงที่ราคาเอื้อมถึงและค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ตัวยามาในเนื้อเซรั่มสูตรเข้มข้นที่สนับสนุนสุขภาพเส้นผม ทำให้ผมดูหนาแน่น ดกดำเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ซึ่งตัวยาที่ The Ordinary เขาชูโรงก็ได้แก่ส่วนผสมของเปปไทด์ คอมเพลกซ์ที่มาบำรุงหนังศรีษะ ช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง สารสกัดจากธรรมชาติจากใบชาที่จะมาช่วยควบคุมความมันของหนังศรีษะพร้อมคงความสดชื่น และคาเฟอีนที่มาทำให้กระตุ้นให้ผมงอกเร็วขึ้นและดูดกดำ อ่อนเยาว์ สำหรับวิธีใช้ก็เพียงแค่ผสมเซรั่มปลูกผมกับเเชมพูให้เข้ากันจากนั้นก็ทำการสระผมพร้อมกับนวดหนังศรีษะได้เลยค่ะ

จุดเด่น
  • ราคาเอื้อมถึงและค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
  • มีเปปไทด์ คอมเพลกซ์ที่มาบำรุงหนังศรีษะ ช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง สารสกัดจากใบชาที่จะมาช่วยควบคุมความมันของหนังศรีษะพร้อมคงความสดชื่นและคาเฟอีนที่มาทำให้กระตุ้นให้ผมงอกเร็วขึ้นและดูดกดำ อ่อนเยาว์
  • ใช้ง่ายซึมซับได้เร็ว
จุดควรพิจารณา
  • ไม่มีการยืนยันหรือรับรองจาก FDA 
  •  เนื่องจากเป็นเนื้อเซรั่มอาจจะทำให้หนังศรีษะดูมันเยิ้ม

3. DR.BARBARA STURM ANTI-HAIR FALL SCALP SERUM

DR.BARBARA STURM ANTI-HAIR FALL SCALP SERUM

ยาปลูกผมจากยี่ห้อ Dr. Barbara Strum เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่เราได้นำมาไว้ในลิสต์ซึ่งมีชื่อเต็มๆคือ DR.BARBARA STURM ANTI-HAIR FALL SCALP SERUM ซึ่งเนื้อสัมผัสก็มาในรูปแบบเซรั่ม อีกเช่นกันแต่ตัวนี้ส่วนผสมของเขาเป็นแบบ vegan 100% เลยค่ะ ปราศจากทั้งซิลิโคนและพาราเบน เซรั่มคุณสมบัติเด่นๆเลยก็คือต่อต้านการขาดหลุดร่วง ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของลูกผม เพิ่มความหนาแน่น และปรับปรุงความแข็งแรงของรูขุมขนบนหนังศรีษะซึ่งประโยชน์เหล่านี้ก็เป็นผลมาจาก

ส่วนประกอบที่มีในเซรั่มอย่างสารสกัดจากคามีเลีย ลาร์ช วิตามินบี และ hyaluronic acid ยิ่งไปกว่านั้นยาปลูกผมตัวนี้ก็มีส่วนในการปกป้องเส้นผมและหนังศรีษะจากความร้อน มลภาวะและรังสี UV อีกด้วย สำหรับเรื่องราคานั้นก็ค่อนข้างสูงอยู่นะคะ แต่ว่าถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องผมบาง ผมร่วงแต่อยากหาผลิดภัณฑ์วีแกนด้วยเหตุผลที่ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะมีความอ่อนโยนกว่าเราก็ขอป้ายยาเป็นยี่ห้อนี้เลยละกันค่ะ

จุดเด่น
  • ส่วนผสม vegan 100% ปราศจากทั้งซิลิโคนและพาราเบน มีความอ่อนโยนต่อหนังศรีษะ
  • มีส่วนในการปกป้องเส้นผมและหนังศรีษะจากความร้อน มลภาวะและรังสี UV
จุดควรพิจารณา
  • ราคาค่อนข้างสูง
  • เซรั่มปลูกผมตัวนี้จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขี้นเมื่อใช้คู่กับแชมพูของยี่ห้อเดียวกัน

4. KLORANE Hair Strengthening Serum

KLORANE Hair Strengthening Serum

สำหรับยาปลูกผมยี่ห้อที่สี่นั้นก็คือ Klorane Hair Strengthening Serum เป็นยี่ห้อจากทางประเทศฝรั่งเศสค่ะ เป็นเนื้อเซรั่มนะคะและทางผู้ผลิตก็เคลมมาว่าสามารถแก้ปัญหาผมร่วงที่เป็นสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และจากความเครียดได้ทั้งคู่ ซึ่ง Klorane Hair Strengthening Serum ขวดนี้เนี่ยสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย และจะช่วยกู้เอาความดกหนาของเส้นผมกลับคืนมาด้วยการกระตุ้นให้มีการเติบโตของเส้นผมในขณะเดียวกันก็ช่วยชะลอการหลุดร่วง

สำหรับส่วนผสมในตัวยาก็มีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 98% ซึ่งเหล่าตัวตึงที่มาช่วยให้ผมของคุณกลับมาดกดำสุขภาพดีเหมือนเดิมนั่นก็คือสารสกัดจากควินิน คาเฟอีน Edelweiss วิตามิน B และ แมงกานีสนั่นเองค่ะ วิธีใช้ก็ง่ายๆเลยค่ะหลังจากสระผมเสร็จ เช็ดผมให้แห้งฉีดให้ทั่วหนังศีรษะ 10 จุด แล้วนวด ไม่ต้องล้างออกนะคะ และแนะนำให้ใช้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 3 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธภาพค่ะ 

จุดเด่น
  • สามารถแก้ปัญหาผมร่วงที่เป็นสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และจากความเครียดได้ ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
  • ตัวยามีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 98%
  • ใช้ง่าย ไม่ต้องล้างออก

 

จุดควรพิจารณา
  • เป็นเนื้อเซรั่มอาจจะทำให้หนังศรีษะดูมันเยิ้ม

5. Oway Densifying Remedy

Oway Densifying Remedy

ยี่ห้อยาปลูกผมยี่ห้อสุดท้ายนี้ก็คือ Oway Densifying Remedy ค่ะ เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ราคาอาจจะสูงเพราะเป็นผลิตภัณฑ์วีแกนแต่ก็น่าสนใจตรงที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างและบำรุงรักษาหนังศีรษะและเส้นผมให้มีความแข็งแรงตั้งแต่รากผม ลดการหลุดร่วงของเส้นผม และส่งเสริมให้เส้นผมของเรางอกขึ้นมาใหม่ซึ่งข้อดีเหล่านี้ก็มาจากพลังของสารสกัดที่มาจากธรรมชาติอย่างสารสกัดของดอกราชาวดีม่วง (Buddleja Davidii) และสารสกัด dynagen ที่ช่วยเพิ่มปริมาณของเคราตินและคอลลาเจนในเส้นผม น้ำมันหอมระเหยจากมิ้นต์ช่วยให้หนังศรีษะสดชื่น ผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและอื่นๆอีกมากมายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเส้นผม 

อ้อ! เกือบลืมพูดถึงเนื้อสัมผัสของยาปลูกผม Oway เลย ซึ่งเนื้อของยาปลูกผมตัวนี้ก็เป็นเซรั่มที่ปราศจากการทดลองกับสัตว์ พาราเบน SLS และ SLES ที่เป็นสารเคมีประเภทซักฟอก น้ำหอม EDTA ซึ่งเป็นสารจำพวกโลหะหนักหรือตะกั่ว และ พืชGMO นะคะ ดังนั้นผู้ใช้งานสามารถมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการใช้งานได้เลย ในส่วนของวิธีใช้ก็ให้เขย่าก่อนใช้ หลังจากทำความสะอาดเส้นผมและศีรษะเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ทาผลิตภัณฑ์ลงบนหนังศีรษะโดยตรง ทิ้งไว้สักครู่ นวด และปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งค่ะ

จุดเด่น
  • ปราศจากการทดลองกับสัตว์ พาราเบน SLS และ SLES ที่เป็นสารเคมีประเภทซักฟอก น้ำหอม EDTA ซึ่งเป็นสารจำพวกโลหะหนักหรือตะกั่ว และ พืชGMO
  • อุดมไปด้วยสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ เน้นการบำรุงรักษาหนังศีรษะและเส้นผมให้มีความแข็งแรงตั้งแต่รากผม
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูงและอาจจะเห็นผลช้า

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับยาปลูกผมมีอะไรบ้าง

5 ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี

ก่อนจะซื้อยาปลูกผมเราก็ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้แน่ใจก่อนว่าสาเหตุที่ผมเกิดหลุดร่วงจนทำให้ศรีษะเริ่มบางลงนั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง เพื่อที่เราจะได้เข้าใจปัญหาและสามารถตั้งเป้าหมายได้ว่าเราต้องการการจัดการในรูปแบบไหน นั่นก็ต้องพึ่งการใช้ตัวยา วิธีใช้ และข้อสังเกตที่ควรรู้และเหมาะสมเพื่อให้สิ่งที่กวนใจหายไปซึ่งมีดังนี้

ส่วนประกอบในตัวยา

ส่วนประกอบในตัวยาที่ถือว่าได้รับมาตรฐานและมีประสิทธิภาพที่ดีมากนั้นก็คือตัวยา Minoxidil ที่ช่วยเรื่องการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมด้วยการขยายหลอดเลือดค่ะ แต่ยาตัวนี้ต้องได้รับการควบคุมการใช้งานภายใต้ค่ำสั่งของแพทย์หรือควรใช้ตามคำแนะนำที่ปรากฏอยู่ข้างกล่องหรือในฉลากอย่างเคร่งครัดเนื่องจากอาจจะมีความผิดปกติที่เกิดจากผลข้างเคียงของ Minoxidil เกิดขึ้นถ้าเราไม่รู้ว่าปริมาณและวิธีใช้ที่เหมาะสมนั้นเป็นอย่างไร ในส่วนของการใช้ Minoxidil ในการปลูกผมนั้นจะมาในรูปแบบยาทาเฉพาะที่ที่แต่ละยี่ห้อก็อาจจะทำออกมาเป็นเซรั่ม โฟม หรือสเปรย์ และควรใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้ผมงอกขึ้นมานั่นเองค่ะ 

วิธีการใช้และความถี่ในการใช้

ข้อนี้นั้นอาจจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อยาปลูกผมที่ตรงกับไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยาปลูกผมที่จำหน่ายตามร้านขายผลิตภัณฑ์เสริมความงามหรือในร้านขายยาทั่วไปก็จะมีทั้งเซรั่ม โฟม หรือสเปรย์นะคะ สำหรับใครที่มีเส้นผมค่อนข้างบาง ถ้าใช้พวกยาปลูกผมที่มีความมันอาจจะทำให้ศรีษะของคุณดูมันไปอีก ดังนั้นการใช้ยาปลูกผมที่เป็นโฟมหรือสเปรย์อาจจะเป็นอะไรที่สะดวกกว่าเพราะจะช่วยทำให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหนังและเส้นผมได้รวดเร็วขึ้น ในส่วนปริมาณการใช้ก็สามารถลองดูได้บนฉลากที่มาในกล่องได้เลย บางยี่ห้ออาจจะต้องใส่ทุกวันวันละ 1-2 ครั้ง ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆก็สามารถใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือหลังจากสระผมค่ะ

บทสรุป ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี 

สำหรับบทความ ยาปลูกผม ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้แล้วผมของคุณจะกลับมาดกดำ เงางามและกู้ความมั่นใจให้กลับคืนมาอีกครั้งนั่นก็คือ Women’s Rogaine 5% Minoxidil Foam ค่ะเพราะเห็นได้ว่ามีตัวยา Minoxidil ที่สามารถรักษาอาการผมหลุดร่วงและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากทางองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) จึงค่อนข้างมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้เลย อย่างไรก็ตามถ้าใครที่อยากมีผมที่สวยสุขภาพดียี่งขึ้นไปอีกก็ควรหาผลิตภัณฑ์บำรุงผมเช่นเคราติน เซรั่มบำรุงผม หรือทรีทเม้นต์ผมมาใช้เพื่อให้ผมที่งอกใหม่นั้นแข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง

Similar Posts