พัดลม จัดเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญที่ต้องมีกันทุกบ้านอย่างแน่นอน ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน อบอ้าวในเมืองไทย ทำให้พัดลมเข้ามาช่วยให้ความเย็นแก่บุคคลที่อยู่อาศัยภายในบ้าน ไม่แพ้กับแอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้นเอง
นอกจากนี้ยังช่วยถ่ายเทอากาศและบรรเทาความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามอบความเย็นที่ประหยัดไฟกว่าเครื่องปรับอากาศอย่างมากและมีราคาถูก จับต้องได้ ดังนั้นเราชอบรีวิวจะพาคุณไปดูว่า 5 อันดับ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ที่ประหยัดไฟ ทนทาน ใช้งานได้นาน เหมาะสำหรับใช้งานได้ทุกบ้านอย่างแน่นอน
พัดลม ยี่ห้อไหนดี
- พัดลม Clarte รุ่น CT830ST
- พัดลม Hatari รุ่น HE-S18M1
- พัดลม imarflex รุ่น IF-777
- พัดลม Mitsubishi รุ่นR16A-GB
- พัดลม Xiaomi Mijia Smart Standing Fan
- เป็นพัดลมขนาด 18 นิ้ว มีใบพัด 5 แฉก สามารถกระจายและทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ซึ่งมีราคาถูกจับต้องได้อีกด้วย
- มีขาตั้งแข็งแรงทนทาน และเพิ่มลูกยางรองขาเป็น 6 จุด ตั้งได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
- สามารถปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High
- ได้รับมาตรฐานมอก.934-2533 พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ปรับระดับความสูงของพัดลมได้ 86-99 เซนติเมตร
- ใช้กำลังไฟเพียง 85W ประหยัดไฟแน่นอน
- เป็นพัดลมขนาดใบพัด 18 นิ้ว มี 3 ใบพัด ช่วยกระจายแรงให้ทั่วถึงมาก ใช้กำลังไฟฟ้า 61W ประหยัดพลังงาน
- ระบบมอเตอร์แบบ Ball Bearing ใช้ลูกปืนเสริมการทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนได้แรง
- สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High
- ปรับระดับความสูงได้ 93.9-117.9 เซนติเมตร
- ได้รับมาตรฐานมอก.934-2558
- มีดีไซน์เรียบง่าย โดยทางแบรนด์ imarflex การันตีว่าจะทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ให้แรงลมที่ต่อเนื่อง ไม่สะดุด
- ระบบ Thermal Fuse ตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อมอเตอร์ทำงานจนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไป
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้กำลังไฟเพียง 80W ประหยัดพลังงาน
- ปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ Low, Medium, High
- ผ่านการรองรับมาตรฐานมอก.934-2558
แนะนำ 5 อันดับ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ที่ประหยัดไฟ ทนทาน ใช้งานได้นาน
หากคุณไม่รู้ว่าจะพิจารณาเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี และไม่รู้ว่าคุณสมบัติของพัดลมที่ประหยัดไฟ มีความทนทานนั้นดูกันอย่างไร ซึ่งคุณมาถูกที่แล้ว เพราะเราจะพาคุณไปรับชมคุณสมบัติของ 5 อันดับ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ให้คุณพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อได้ตามที่ต้องการดังนี้
1. พัดลม Clarte รุ่น CT829ST
เริ่มต้นพัดลม ยี่ห้อไหนดีเครื่องแรกกับ พัดลม Clarte รุ่น CT829ST มีดีไซน์เรียบง่าย สวยงาม เป็นพัดลมขนาด 20 นิ้ว มีใบพัด 3 แฉก สามารถกระจายและทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ซึ่งการทำงานของใบพัดให้ลมแรงและไร้เสียงรบกวนของใบพัด สามารถปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High
นอกจากนี้ยังปรับระดับความสูงของพัดลมได้ 86-99 เซนติเมตร มีขาตั้งแข็งแรงทนทาน และเพิ่มลูกยางรองขาเป็น 6 จุด เพื่อให้ตั้งบนพื้นได้อย่างมั่นคงแข็งแรง อีกทั้งใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 85W และได้รับมาตรฐาน มอก.934-2533 พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ถือว่าประหยัดพลังงาน คุ้มค่าเกินราคา
- เป็นพัดลมขนาด 18 นิ้ว มีใบพัด 5 แฉก สามารถกระจายและทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ซึ่งมีราคาถูกจับต้องได้อีกด้วย
- มีขาตั้งแข็งแรงทนทาน และเพิ่มลูกยางรองขาเป็น 6 จุด ตั้งได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
- สามารถปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High
- ได้รับมาตรฐานมอก.934-2533 พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- ปรับระดับความสูงของพัดลมได้ 86-99 เซนติเมตร
- ใช้กำลังไฟเพียง 85W ประหยัดไฟแน่นอน
- ต้องหมั่นทำความสะอาด เพราะใบพัด 3 แฉกฝุ่นละอองสะสมติดเป็นก้อนได้ง่าย
- ฐานขาตั้งของพัดลมค่อนข้างใหญ่ ทำให้เปลืองพื้นที่ในการใช้งาน
- ดีไซน์เครื่องค่อนข้างเรียบง่าย และล้าสมัย
2. พัดลม Hatari รุ่น HE-S18M1
พัดลม Hatari รุ่น HE-S18M1 มีดีไซน์แบบทั่วไปที่เห็นได้ตามท้องตลาด สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย โดยมีขนาดใบพัด 18 นิ้ว มี 3 ใบพัด ช่วยกระจายแรงให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ใช้กำลังไฟฟ้า 61W ประหยัดพลังงานอย่างมาก และสามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High
นอกจากนี้ยังปรับระดับความสูงของพัดลมได้ 93.9-117.9 เซนติเมตร มาพร้อมกับระบบมอเตอร์แบบ Ball Bearing ใช้ลูกปืนเสริมการทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนได้แรงและมอบความเย็นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งได้รับมาตรฐานมอก.934-2558 อีกด้วย
- เป็นพัดลมขนาดใบพัด 18 นิ้ว มี 3 ใบพัด ช่วยกระจายแรงให้ทั่วถึงมาก ใช้กำลังไฟฟ้า 61W ประหยัดพลังงาน
- ระบบมอเตอร์แบบ Ball Bearing ใช้ลูกปืนเสริมการทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนได้แรง
- สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High
- ปรับระดับความสูงได้ 93.9-117.9 เซนติเมตร
- ได้รับมาตรฐานมอก.934-2558
- มีดีไซน์รูปแบบเดิม ไม่มีความแปลกใหม่ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด
- วัสดุที่ใช้ในการผลิตไม่แข็งแรงและไม่คงทนเท่าที่ควร
- เมื่อใช้งานได้ระยะหนึ่ง พัดลมมีเสียงค่อนข้างดัง
3. พัดลม imarflex รุ่น IF-777
พัดลม imarflex รุ่น IF-777 มีดีไซน์เรียบง่าย เป็นพัดลมขนาดใบพัด 16 นิ้ว มี 5 ใบพัด โดยทางแบรนด์การันตีว่าจะทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ให้แรงลมที่ต่อเนื่อง ไม่สะดุด พร้อมปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ สามารถถ่ายเทความร้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้อากาศเย็นสบาย
พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้กำลังไฟเพียง 80W มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อมอเตอร์ทำงานจนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไปด้วย Thermal Fuse ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยได้ อีกทั้งผ่านการรองรับมาตรฐานมอก.934-2558 อีกด้วย
- มีดีไซน์เรียบง่าย โดยทางแบรนด์ imarflex การันตีว่าจะทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ให้แรงลมที่ต่อเนื่อง ไม่สะดุด
- ระบบ Thermal Fuse ตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อมอเตอร์ทำงานจนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไป
- มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้กำลังไฟเพียง 80W ประหยัดพลังงาน
- ปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ Low, Medium, High
- ผ่านการรองรับมาตรฐานมอก.934-2558
- ไม่ระบุคุณสมบัติเรื่องปรับระดับความสูง ทำให้ผู้ใช้งานคำนวณเรื่องระยะการใช้งานได้ยาก
- ดีไซน์สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด ไม่มีความทันสมัย
- วัสดุที่ใช้ในการผลิตไม่แข็งแรงและไม่คงทนเท่าที่ควร
4. พัดลม Mitsubishi รุ่นR16A-GB
อันดับรองสุดท้ายกับ พัดลม Mitsubishi รุ่น R16A-GB มีดีไซน์ค่อนข้างทันสมัย มีสีแดงตัดกับสีดำดูสวยงาม หรูหรา ซึ่งเป็นพัดลมตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะ เพราะมีฐานพัดลมค่อนข้างเล็ก ทำให้วางบนโต๊ะได้สบาย มีขนาดใบพัด 16 นิ้ว มี 3 ใบพัด ใช้กำลังไฟฟ้า 46W และมอเตอร์เป็นรูปแบบปิดให้พลังลมแรง ป้องกันฝุ่นละออง และสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่มอเตอร์
พร้อมปรับระดับความสูงในการใช้งานได้ 83,93 และ 103 เซนติเมตร นอกจากนี้มีระบบ Thermal Fuse ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป และระบบ CURRENT FUSE ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าลัดวงจร อีกทั้งใช้ชิ้นส่วนระดับ Premium Safety ป้องกันไฟลุกลามและผ่านมาตรฐานมอก.934-2558 อีกด้วย
- เป็นพัดลมตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะ มีฐานพัดลมค่อนข้างเล็ก ทำให้วางบนโต๊ะได้สบายและมีดีไซน์ค่อนข้างทันสมัย มีสีแดงตัดกับสีดำดูสวยงาม
- มอเตอร์เป็นรูปแบบปิดให้พลังลมแรง ป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่มอเตอร์
- มีขนาดใบพัด 16 นิ้ว มี 3 ใบพัด ใช้กำลังไฟฟ้า 46W ประหยัดพลังงาน
- ระบบ Thermal Fuse ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป
- ระบบ CURRENT FUSE ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าลัดวงจร
- เนื่องจากใช้มอเตอร์ที่ทรงประสิทธิภาพสูง และใช้กำลังไฟน้อยไม่สัมพันธ์กับความแรงมอเตอร์ อาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักและมีอุณหภูมิสูงอย่างรวดเร็ว
- เมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง เสียงพัดลมค่อนข้างดัง ทำให้รบกวนผู้ใช้งานได้
- ถอดทำความสะอาดยาก เพราะใช้วัสดุ Premium จึงทำให้ฝาครอบมีความแข็ง ถอดออกยากกว่ายี่ห้ออื่นๆ
5. พัดลม Xiaomi Mijia Smart Standing Fan
มาถึงพัดลม ยี่ห้อไหนดีเครื่องสุดท้ายกับ พัดลม Xiaomi Mijia Smart Standing Fan มีดีไซน์และรูปทรงทันสมัย โดยมีใบพัด 2 ด้าน ซึ่งด้านในมี 5 ใบพัดและด้านนอก 7 ใบพัด ทำให้กระจายทิศทางลมได้ทั่วถึง พร้อมกับมอเตอร์ DC brushless ทรงประสิทธิภาพ ทำให้พัดลมหมุนได้แรง สามารถปรับทิศทางของลมหมุนได้ 30, 60, 90, 120, 140 องศา
นอกจากนี้สามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบ Wi-Fi 2.4Ghz และผ่าน Application XiaoAI ซึ่งใช้สั่งการทำงานด้วยเสียงได้เช่นกัน ทั้งนี้ใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 24W เท่านั้น และมีปุ่มปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 62.5-100 เซนติเมตร ใช้งานง่ายด้วยการกดปุ่มเดียวเท่านั้น
- มีดีไซน์และรูปทรงทันสมัย โดยมีใบพัด 2 ด้าน ซึ่งด้านในมี 5 ใบพัดและด้านนอก 7 ใบพัด กระจายทิศทางลมได้สูงสุด 140 องศา
- ควบคุมการทำงานด้วยระบบ Wi-Fi 2.4Ghz และผ่าน Application XiaoAI ซึ่งใช้สั่งการทำงานด้วยเสียงได้
- ใช้งานปรับระดับความสูงได้ง่ายๆเพียง 1 ปุ่มเท่านั้น ซึ่งปรับได้ตั้งแต่ 62.5-100 เซนติเมตร
- ใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 24W เท่านั้น ถือว่าประหยัดไฟมากที่สุด
- มอเตอร์ DC brushless ทรงประสิทธิภาพ ทำให้พัดลมหมุนได้แรง
- แม้จะใช้กำลังไฟฟ้า 24W แต่ระบบค่อนข้างทันสมัยพร้อมกับใบพัด 12 ใบ ทำให้ค่อนข้างกินไฟเทียบเท่ากับพัดลมธรรมดาทั่วไปตามท้องตลาด
- ไม่ระบุคุณสมบัติของขนาดใบพัด ทำให้ผู้ใช้งานพิจารณาประกอบการตัดสินใจเรื่องพื้นที่ในการใช้งานได้ยาก
- ระบบเชื่อมต่อผ่านมือถือหากใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เสถียรน้อยกว่า Android
ทำความรู้จักเกี่ยวกับพัดลมว่ามีกี่ประเภท?
หากพูดถึงประเภทของพัดลมจะมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ซึ่งนำไปใช้งานได้แตกต่างกันหลายรูปแบบ และเราจะมาทำการให้ความรู้กับคุณว่าพัดลมมีกี่ประเภท เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อในอนาคตได้อีกด้วย ดังต่อไปนี้
1. พัดลมตั้งพื้น
เป็นประเภทพัดลมที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งจะมีความยาวของตัวพัดลมและมีใบพัดให้เห็นอย่างชัดเจน โดยในปัจจุบันมีการออกแบบพัดลมตั้งพื้นชนิดไร้ใบพัด ทำให้ไร้เสียงรบกวนในการใช้งานได้อีกเช่นกัน ทั้งนี้พัดลมตั้งพื้นคนเรามักนิยมใช้งานกันมากที่สุด เพราะตั้งใช้งานได้ง่าย ซึ่งมักจะอยู่ตามห้องนอน ห้องทำงาน และห้องนั่งเล่น เป็นต้น เพื่อให้มีถ่ายเทอากาศหายใจสะดวกและพร้อมให้ความเย็นสบายแทนเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย
2. พัดลมตั้งโต๊ะ
พัดลมตั้งโต๊ะมีความคล้ายคลึงกับพัดลมตั้งพื้น แต่ทว่ามีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบา เพื่อให้คุณสามารถตั้งวางพัดลมใช้งานบนโต๊ะ โดยที่โต๊ะของคุณไม่เกิดการเสียหาย ซึ่งมีลักษณะเด่นอย่าง ขนาดหน้าใบพัดค่อนข้างกว้าง ลำตัวพัดลมสั้น ส่วนใหญ่เป็นพัดลมอเนกประสงค์ที่เราพบเห็นได้ตามร้านแผงลอย นอกจากนี้มีราคาค่อนข้างถูก จับต้องได้ง่ายอีกด้วย
3. พัดลมติดเพดาน
พัดลมติดเพดานหรือพัดลมติดผนัง เป็นพัดลมแนวดิ่งที่ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งกับสิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะ ซึ่งตัวพัดลมจะไม่มีขาสำหรับวางบนโต๊ะหรือพื้น มีเพียงขาที่ใช้ยึดติดกับเข้าเพดาน ส่วนใหญ่ใช้พัดลมติดเพดานในบริเวณห้องเล็กๆหรือห้องไม่กว้างมากนัก เพื่อให้กระจายทิศทางลมและถ่ายเทอากาศให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้นนั่นเอง
4. พัดลมไอน้ำ
เป็นพัดลมที่พ่นหมอกหรือไอน้ำมีให้เลือกใช้ทั้งในและนอกอาคาร ซึ่งให้ความเย็นได้ดีกว่าพัดลมทั่วไป แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในห้อง ควรใช้สำหรับที่โล่งกว้าง เพราะไอน้ำสามารถก่อให้เกิดความชื้น อาจทำให้สิ่งของเสียหายได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเป็นรูปแบบพัดลมไอเย็น เสมือนใช้เครื่องปรับอากาศ เคลื่อนที่ขนย้ายสะดวกได้ง่าย โดยสามารถทำอุณหภูมิได้ไม่แพ้เครื่องปรับอากาศอีกด้วย
5. พัดลมดูดอากาศ
พัดลมดูดอากาศหรือพัดลมระบายอากาศ เป็นพัดลมที่ช่วยในการระบายอากาศโดยเฉพาะ เพื่อทำให้อากาศหมุนเวียนและถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น โดยพัดลมจะดูดอากาศที่เป็นของเสียออกสู่นอกห้อง ซึ่งมักจะใช้กันเพื่อระบายกลิ่นอับและระบายความชื้น มักจะเห็นได้ตามอุตสาหกรรม, โกดังเก็บสินค้า เป็นต้น
วิธีพิจารณาเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
1. ตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
การเลือกซื้อพัดลม ยี่ห้อไหนดี ควรดูวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณว่าไปใช้งานในรูปแบบใด เช่นตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ หรือพัดลมไอน้ำ เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเภทพัดลมนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน หากต้องการพัดลมที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและตั้งไว้ในห้องได้ ควรเลือกซื้อแบบตั้งพื้น เพราะสามารถใช้งานง่าย กระจายทิศทางลมได้ทั่วทุกมุมห้องอีกด้วย
2. ฉลากเบอร์ 5 และมาตรฐานมอก.
แน่นอนว่าการใช้งานพัดลมต้องได้รับมาตรฐานมอก.และต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะหากคุณเลือกซื้อพัดลมที่ไม่มีมาตรฐานและไม่มีฉลาก อาจก่อให้เกิดเสี่ยงอันตราย เพราะสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการรับรอง
ดังนั้นหากคุณต้องการความสะดวกสบาย ไร้กังวล ควรเลือกซื้อพัดลมที่มีมาตรฐานมอก. เช่นเลขมอก.934-2558 เป็นต้น และต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อให้ได้รับพัดลมที่มีคุณภาพ ประหยัดไฟนั่นเอง
3. ขนาดใบพัด
ขนาดใบพัดของพัดลมก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อไปใช้งาน เพราะยิ่งมีขนาดใบพัดใหญ่ก็จะช่วยให้สร้างแรงลมได้ดียิ่งขึ้นและกระจายทิศทางลมให้ทั่วถึงได้ทุกมุมห้องได้
นอกจากนี้จำนวนของใบพัดยิ่งมีมากก็จะช่วยให้พัดลมทำงานไร้เสียงรบกวนได้ เช่น จำนวน 3 ใบพัด กับ 5 ใบพัด ถ้าใช้งานระบบ 5 ใบพัดจะได้รับลมที่แรง กระจายกระแสลมได้ทั่วถึง พร้อมเสียงเงียบกว่าจำนวน 3 ใบพัดนั่นเอง
4. กำลังไฟฟ้า
ในปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าคงต้องดูกันที่กำลังไฟฟ้า เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการประหยัดพลังงาน ซึ่งจริงๆแล้วการเลือกซื้อพัดลมควรดูกำลังไฟฟ้าที่ไม่เกิน 100W เพราะกำลังไฟฟ้าเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนมอเตอร์ให้ทำงานเสถียรมากยิ่งขึ้น
หากมีกำลังไฟที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จะทำให้รับพัดลมที่ประหยัดพลังงาน ถ้าให้เราแนะนำควรเลือกซื้อกำลังไฟประมาณ 60-80 ถือเป็นกำลังไฟที่พอดี จ่ายไฟได้เสถียร และประหยัดพลังงานอย่างแน่นอน
บทสรุปเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ ทนทาน ปี 2024
สำหรับบทสรุปเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ที่ประหยัดไฟ ลมแรง และทนทาน เราขอแนะนำพัดลม Clarte รุ่น CT829ST เป็นพัดลมขนาด 20 นิ้ว มีใบพัด 3 แฉก สามารถกระจายและทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ใช้กำลังไฟฟ้า 85W พลังลมแรง และสามารถปรับความแรงของลมได้ 3 ระดับคือ Low, Medium, High มีขาตั้งแข็งแรงทนทาน
และเพิ่มลูกยางรองขาเป็น 6 จุด เพื่อให้ตั้งบนพื้นได้อย่างมั่นคง ซึ่งปรับความสูงของพัดลมได้ 86-99 เซนติเมตร นอกจากนี้ได้รับมาตรฐานมอก.มอก.934-2533 พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ถือว่าประหยัดพลังงาน ราคาถูกจับต้องได้ คุ้มค่าใช้งานได้นานอย่างแน่นอน