เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี

เรื่องงานบ้านงานเรือนนี่เป็นอะไรที่ต้องใช้เวลาและมีหลายขึ้นตอนกว่าจะทำให้ทุกอย่างออกมาสะอาดเอี่ยมอ่องและดูเรียบร้อยนะคะ  ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ทำเราเรี่ยวแรงหายไปเกือบหมด จะขอยกตัวอย่างที่เข้ากับหัวข้อของเราหัวข้อนี้ซึ่งก็คือการซักผ้านั่นเอง เสื้อผ้าบางชนิดก็จำเป็นต้องซักมือเพราะต้องการการถนุถนอมเป็นอย่างมาก แต่บางชนิดเราก็ใส่ลงในเครื่องซักผ้าและรอจนพร้อมตากได้เลย 

และเพื่อให้การซักผ้ากลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดมากขึ้น เครื่องซักผ้าในปัจจุบันก็ได้รับการเพิ่มเทคโนโลยีในการผลิตเพื่อตอบโจทย์เหล่าผู้ใช้งานโดยคำนึงถึงความสะอาดที่มาพร้อมกับการประหยัดเวลา ซึ่งถ้าหากลองเทียบชนิดของเครื่องซักผ้าในโลกนี้ที่มีลักษณะหลักๆด้วยกันอยู่ 2 แบบได้แก่เครื่องซักผ้าฝาบนกับเครื่องซักผ้าฝาหน้าแล้วนั้น เราเชียร์ให้ทุกคนลองหันมาให้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าเพราะมีข้อดีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ดีกว่า การซักผ้าที่อ่อนโยนกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน พื้นที่สำหรับการบรรจุที่มีมากกว่า และการประหยัดพื้นที่ที่ทำได้ดีกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบนค่ะ

แต่ปัญหาก็คือเครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดีล่ะ เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีเทคโนโลยี มีกิมมิกที่แตกต่างกันไป จะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนจะตรงกับใจของเราที่สุด แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ วันนี้ชอบรีวิวจะมาเป็นไกด์พาทัวร์โลกของเครื่องซักผ้าฝาหน้าจาก 5 ยี่ห้อที่ต่างก็งัดเอาไม้เด็ดของแต่ละรุ่นมาให้ทุกคนได้ไปเอาไปเก็บไว้นั่งคิดนอนคิดกันค่ะ

5 เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี

Electrolux เครื่องซักและอบผ้าฝาหน้า UltimateCare II 300 8/5 กก. รุ่น EWW8024E3WB
อันดับ 1
  • มีฟังก์ชันการซักผ้าและอบผ้า
  • มี  Hygienic Care ที่ใช้ไอน้ำในการขจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้
  • มี Eco-Inverter ที่สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีเสียงรบกวนและลดการสั่นสะเทือน
  • สามารถเพิ่มผ้าระหว่างการซักได้ด้วย
  • สามารถแช่ผ้าก่อนซักได้
  • เสื้อผ้าบางชนิดที่เหมาะกับการซักมือก็สามารถนำมาซักกับเครื่องนี้ได้
LG เครื่องซักอบฝาหน้า รุ่น FV1450H3V
อันดับ 2
  • มีระบบ AI DD ทำการตรวจสอบชนิดของผ้าและเลือกการหมุนของถังซักให้เหมาะสม
  • TurboWash ที่ช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้า
  • เทคโนโลยี Steam+ ลดสารหรือเชื้อโรคที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์
  • ลดการเกิดรอยยับบนเสื้อผ้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
SAMSUNG เครื่องซักผ้าฝาหน้า 21 กก. รุ่น WF21T9500GV/ST 
อันดับ 3
  • สามารถบรรจุผ้าได้เยอะ
  • จัดการคราบที่ฝังลึกด้วยการใช้เทคโนโลยี Eco Bubble
  • Air Wash ช่วยกำจัดกลิ่นอับชื้นและเชื้อโรคบนเสื้อผ้า
  • สามารถควบคุมระบบการทำงานด้วย AI Control
  • ระบบ Swirl plus ช่วยไม่ให้เสื้อผ้าของเราได้รับความเสียหายพร้อมโปรแกรมการซักอัตโนมัติถึง 17 โปรแกรม

แนะนำ 5 เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้งานสะดวก ผ้าสะอาด มีกลิ่นหอมสดชื่น

สำหรับบทความนี้จะมีเครื่องซักผ้าฝาหน้าตัวไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ไม่รอช้าเราไปทำความรู้จักกับแต่ละยี่ห้อกันเลยดีกว่าค่ะ

1. Electrolux เครื่องซักและอบผ้าฝาหน้า UltimateCare II 300 8/5 กก. รุ่น EWW8024E3WB

Electrolux เครื่องซักและอบผ้าฝาหน้า UltimateCare II 300 8_5 กก. รุ่น EWW8024E3WB

เริ่มต้นกันด้วย เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี อันดับแรกจาก Electrolux UltimateCare II 300 ก่อนเลยก็แล้วกัน ซึ่งมาในรุ่น EWW8024E3WB นะคะ ซึ่งมีฟังก์ชันการซักผ้าและอบผ้าและมีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยี  Hygienic Care ที่ใช้ไอน้ำในการขจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ แถมมี Eco-Inverter ที่สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีเสียงรบกวนและลดการสั่นสะเทือนให้น้อยลง

นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเครื่องนี้ก็คือฟัก์ชั่น add-on ที่เราสามารถเพิ่มผ้าระหว่างการซักได้ด้วย และถ้าหากเสื้อผ้าของเปื้อนและสกปรกมากๆ ทางยี่ห้อ Electrolux ก็ได้ออกแบบให้เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่นนี้สามารถแช่ผ้าก่อนซักได้อีกต่างหาก นอกจากนี้เสื้อผ้าบางชนิดที่เหมาะกับการซักมือก็สามารถนำมาซักกับเครื่องนี้ได้เพราะเครื่องซักผ้าสามารถกำหนดรอบการหมุนที่เบา และอุณหภูมิต่ำจึงทำให้การซักมืออาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ยิ่งได้รับการการันตีจากสถาบัน Woolmark มาแล้วนั้น เราไว้ใจได้เลยค่ะว่าเครื่องนี้เป็นมิตรกับผ้าที่ซักมือแน่นอนเพราะสามารถถนอมผ้าได้อย่างเยี่ยมยอดเลย

จุดเด่น
  • มีฟังก์ชันการซักผ้าและอบผ้า
  • มี  Hygienic Care ที่ใช้ไอน้ำในการขจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้
  • มี Eco-Inverter ที่สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีเสียงรบกวนและลดการสั่นสะเทือน
  • สามารถเพิ่มผ้าระหว่างการซักได้ด้วย
  • สามารถแช่ผ้าก่อนซักได้
  • เสื้อผ้าบางชนิดที่เหมาะกับการซักมือก็สามารถนำมาซักกับเครื่องนี้ได้

 

จุดควรพิจารณา

2.  LG เครื่องซักอบฝาหน้า รุ่น FV1450H3V

LG เครื่องซักอบฝาหน้า รุ่น FV1450H3V

เครื่องซักผ้าฝาหน้าเครื่องที่สองก็คือ LG รุ่น FV1450H3V ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ตรงที่สามารถทำได้ทั้งซักผ้าและอบผ้าเลยโดยที่น้ำหนักสำหรับการซักผ้านั้นอยู่ที่ 10.5 กิโลกรัมส่วนน้ำหนักสำหรับการอบผ้าอยู่ที่ 7 กิโลกรัมค่ะ และจุดเด่นของเครื่องซักรุ่นนี้นั้นมีระบบถนอมเนื้อผ้าอัจฉริยะมากขึ้น 18% ซึ่งก็คือระบบ AI DD ที่จะทำการตรวจสอบชนิดของผ้า และทำการเลือกการหมุนของถังซักให้เหมาะสมนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีระบบ TurboWash ที่ช่วยในเรื่องของการประหยัดเวลาให้มากขึ้นโดยที่ประสิทธิภาพการทำความสะอาดยังคงคุณภาพไว้ในระดับเดิมและเทคโนโลยี Steam+ ที่เพิ่มความสะอาดให้แก่เสื้อผ้าโดยจะช่วยลดสารหรือเชื้อโรคที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์พร้อมกับการลดการเกิดรอยยับบนเสื้อผ้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซี่เราคิดว่ามันค่อนข้างคุ้มที่จะซื้อมาไว้ในบ้าน มากๆเลยค่ะ เพราะซื้อหนึ่งได้ถึงสองในเครื่องเดียว แถมถ้าเราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้วการได้เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการอบผ้านี่ถือเป็นอะไรที่เหมือนกับสวรรค์มาโปรดเลยล่ะค่ะ

จุดเด่น
  • มีระบบ AI DD ทำการตรวจสอบชนิดของผ้าและเลือกการหมุนของถังซักให้เหมาะสม
  • TurboWash ที่ช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้า
  • เทคโนโลยี Steam+ ลดสารหรือเชื้อโรคที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์
  • ลดการเกิดรอยยับบนเสื้อผ้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

 

จุดควรพิจารณา
  • ไม่มีระบบแช่ผ้า

3. SAMSUNG เครื่องซักผ้าฝาหน้า 21 กก. รุ่น WF21T9500GV/ST 

SAMSUNG เครื่องซักผ้าฝาหน้า 21 กก. รุ่น WF21T9500GV_ST

มาต่อกันที่ Samsung กันบ้างนะคะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้าจากยี่ห้อนี้ที่เราอยากแนะนำเลยก็คือรุ่น WF21T9500GV/ST นี้เลยค่ะ เครื่องนี้สามารถบรรจุได้มากถึง 21 กิโลกรัมเลย และจุดเด่นหลักของเครื่องซักผ้าของซัมซุงนั้นก็เห็นว่าจะเป็นการจัดการคราบที่ฝังลึกด้วยการใช้เทคโนโลยี Eco Bubble อีกทั้งยังมีการใช้ Air Wash มาเสริมพลังการกำจัดกลิ่นอับชื้นและเชื้อโรคบนเสื้อผ้าและที่พิเศษก็คือรุ่นดังกล่าวสามารถควบคุมระบบการทำงานด้วย AI Control ซึ่งเราจุดนี้เราไม่จำเป็นเดินไปที่เครื่องซักผ้าแล้วกดเลือกโหมดบนแผงหน้าจอควบคุมเลยค่ะ เรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกสบายเลยทีเดียว

นอกจากนี้เรื่องการถนอมผ้านั้นก็ทำได้ค่อนข้างดีเพราะมีระบบ Swirl plus ที่ช่วยไม่ให้เสื้อผ้าของเราได้รับความเสียหายอีกด้วย แต่ถ้าเราอยากจะกำหนดการทำงานเองก็ทำได้ค่ะ เครื่องนี้มีโปรแกรมการซักอัตโนมัติถึง 17 โปรแกรมเพื่อเข้าถึงความเหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละประเภทและระหว่างที่เครื่องทำงานนั้นก็ไม่สร้างเสียงรบกวนคนในบ้านเพราะมีระบบ Digital Inverter มาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทำให้ได้สมรรถนะที่สูงกว่าเดิมขณะที่การใช้พลังงานนั้นมีน้อยกว่ามอเตอร์ทั่วไป อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบราคาแล้วเราคิดว่าราคายังค่อนข้างสูงเพราะมีเพียงโหมดการทำงานที่มีไว้สำหรับซักผ้าอย่างเดียวแต่ไม่สามารถทำการ อบผ้าได้นั่นเองค่ะ

จุดเด่น
  • สามารถบรรจุผ้าได้เยอะ
  • จัดการคราบที่ฝังลึกด้วยการใช้เทคโนโลยี Eco Bubble
  • Air Wash ช่วยกำจัดกลิ่นอับชื้นและเชื้อโรคบนเสื้อผ้า
  • สามารถควบคุมระบบการทำงานด้วย AI Control
  • ระบบ Swirl plus ช่วยไม่ให้เสื้อผ้าของเราได้รับความเสียหายพร้อมโปรแกรมการซักอัตโนมัติถึง 17 โปรแกรม

 

จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูงมาก
  • ไม่สามารถอบผ้าได้

 

4. Whirlpool รุ่น Radiant WFRB802AJW TH

Whirlpool รุ่น Radiant WFRB802AJW TH

สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้ายี่ห้อที่สี่นั้นมาจากยี่ห้อ Whirlpool ค่ะซึ่งมาในรุ่น Radiant WFRB802AJW TH ค่ะ รุ่นนี้สามารถมีขนาดถึงซักอยู่ที่ 8 กิโลกรัมนะคะ ทำงานด้วยระบบ3D Sensor ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือนของถังซักพร้อมกันนี้ก็มีเทคโนโลยี 6th sense ที่นำมาควบคุมในเรื่องของการประหยัดพลังงานค่ะ

มาทางด้านของประสิทธิภาพการทำความสะอาด เครื่องนี้มีโปรแกรมการซักให้เราเลือก 14 โหมดด้วยกัน แต่ถ้าไม่อยากรอนานหรือกำลังเร่งรีบอยู่ก็สามารถใช้โปรแกรมซักด่วนได้เลยซึ่งไม่ว่าจะด่วนแค่ไหนหรืออยากจะซักให้ถนุถนอมก็สามารถซักผ้าได้อย่างสะอาดเอียมอ่องแถมยังสามารถกำจัดแบคทีเรียและเชื้อราที่เกาะมากับผ้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พิเศษไปกว่านั้นถ้าเรากลัวลืมซักผ้าเราสามารถตั้งเวลาซักผ้าล่วงหน้าได้ถึง 24 ชั่วโมง ระบบแช่ผ้าก็มีให้ใช้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเครื่องซักผ้ารุ่นนี้ไม่มีโหมดสำหรับการอบผ้าแต่ระบบการปั่นหมาดนั้นถือว่าดีมากเลยค่ะเพราะหมาดในระดับที่เราไม่ต้องเปลืองเวลาในการตากผ้ากลางแดดนานๆเลย เรื่องราคานั้นก็ถือว่ากำลังดีคะไม่สูงเกินสำหรับการเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เน้นเพียงการซักแต่ไม่มีการอบผ้านะ 

จุดเด่น
  • ทำงานด้วยระบบ3D Sensor มีหน้าที่ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือนของถังซัก
  • มีเทคโนโลยี 6th sense ที่นำมาควบคุมในเรื่องของการประหยัดพลังงาน
  • มีโปรแกรมการซักให้เราเลือก 14 โหมดพร้อมโปรแกรมซักด่วน
  • สามารถตั้งเวลาซักผ้าล่วงหน้าได้ถึง 24 ชั่วโมง
  • มีระบบแช่ผ้าและระบบการปั่นหมาดที่ดีมาก
จุดควรพิจารณา
  • ไม่มีโหมดการอบผ้า

 

5.  Bosch เครื่องซักผ้าฝาหน้า 9 กก. ซีรีส์ 6 รุ่น WGG444E0TH

Bosch เครื่องซักผ้าฝาหน้า 9 กก. ซีรีส์ 6 รุ่น WGG444E0TH

และก็มาถึงเครื่องซักผ้าฝาหน้ายี่ห้อสุดท้ายนะคะ ซึ่งเราจะขอปิดท้ายด้วยยี่ห้อ Bosch ซีรีส์ 6 รุ่น WGG444E0TH สามารถใส่ผ้าได้สูงสุด 9 กิโลกรัม ซึ่งตลอดการซักนั้นเครื่องนี้เขามีนวัตกรรมที่เรียกว่า EcoSilence Drive ที่ทำให้ทุกอย่างนั้นเงียบมากๆแม้เครื่องจะยังทำการซักผ้าอยู่นั่นเองค่ะ เเละเรื่องของความสะอาดนั้นเครื่องซักผ้ารุ่นนี้มีการใช้เทคโนโลยี Bosch Anti-Stain ในการขจัดคราบฝังแน่นให้ง่ายขึ้นพร้อมฟังก์ชั่น SpeedPerfect ประหยัดเวลาในการซักผ้ามากขึ้น

ทางด้านการถนอมผ้าเขาก็ออกแบบให้ถังซักเป็นแบบ Variodrum สามารถลดการเสียดสีของเนื้อผ้าได้ไม่ทำให้ผ้ายับหรือย้วยและทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงค่ะ ถ้าหากว่าเราจะเพิ่มผ้าระหว่างการซักก็สามารถทำได้แค่เพียงใช้กดปุ่ม Reload ที่สามารถหยุดการทำงานชั่วคราวเพื่อให้เรานำผ้าเข้าออกได้ตามความต้องการ และใครที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายนั้นก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะเครื่องซักผ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับ AllergyPlus Programme เพิ่มการซักและการล้างให้นานขึ้นทำให้ลดการระคายเคืองเมื่อต้องสวมใส่ค่ะ

จุดเด่น
  • EcoSilence Drive ซักผ้าได้โดยไร้เสียงรบกวน
  • Bosch Anti-Stain ขจัดคราบฝังแน่นให้ง่ายขึ้นพร้อมฟังก์ชั่น SpeedPerfect ประหยัดเวลาในการซักผ้ามากขึ้น
  • ออกแบบให้ถังซักเป็นแบบ Variodrum ลดการเสียดสีของเนื้อผ้าได้ไม่ทำให้ผ้ายับหรือย้วยและทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
  • สามารถนำผ้าเข้าออกได้ตามความต้องการ
  •  AllergyPlus Programme เพิ่มการซักและการล้างให้นานขึ้น
จุดควรพิจารณา
  • ราคาสูง
  • ไม่มีโหมดสำหรับการอบผ้า

 

วิธีเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้า

5 เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี

หลังจากที่ได้รู้จักกับเครื่องซักผ้าฝาหน้าแต่ละยี่ห้อไปแล้ว บางท่านอาจจะยังลังเลไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีหรือเปล่าหรืออาจจะอยากได้ไกด์ในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแล้วลองไปหาซื้อเองจากยี่ห้ออื่นที่นอกเหนือจากที่เราได้เเนะนำ ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกณฑ์ที่ใช้เวลาจะไปซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาไว้ให้ตามที่ปรากฏด้านล่างนี้เลยค่ะ 

  1. จำนวนคนในครอบครัวกับฟังก์ชั่นเครื่องซักผ้า: อันนี้ก็พิจารณาง่ายๆเลยถ้าครอบครัวไหนมีจำนวนสมาชิกเยอะก็ควรเลืกเครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย สามารถบรรจุผ้าได้เยอะเพื่อให้เพียงพอกับเสื้อผ้าที่มีหลายชิ้น ส่วนบ้านไหนที่มีจำนวนสมาชิกน้อยก็เลือกเครื่องที่เล็กลงมานิดหน่อยก็โอเคค่ะ แต่ก็อย่าลืมที่จะดูในส่วนของฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องซักผ้าด้วยนะคะว่ามีโหมดไหนที่เหมาะสมกับความต้องการในครัวเรือนด้วยนะคะ
  1. ความสามารถในการบรรจุ: สำหรับความสามารถในการบรรจุนั้นก็นำมาเป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าได้เช่นกันและน่าจะเป็นเกณฑ์ที่ค่อนข้างเหมาะกับใครก็ตามที่มีเสื้อผ้าเยอะอยู่แล้วอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปความจุถังซักผ้าก็จะมีขนาดที่สามารถใส่ผ้าได้ตั้งแต่ 5 กิโลกรัม ไปจนถึง 12 กิโลกรัม ที่ให้เราเลือกตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ
  1. งบประมาณ: ถ้าหากว่างบประมาณที่มีอยู่นั้นจำกัด เครื่องซักผ้าฝาบนนั้นค่อนข้างจะตอบโจทย์ตรงนี้ค่ะ เนื่องจากราคาค่อนข้างเป็นอะไรที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าแบบฝาหน้าอีกทั้งฟังก์ชั่นการทำงานก็ค่อนข้างหลากหลายไม่น้อยไปกว่าแบบฝาหน้าเลยค่ะ แต่ถ้างบยังพอไหวที่จะซื้อแบบฝาหน้ามาใช้ก็ไม่ว่ากันค่ะเพราะนอกจากเรื่องฟังก์ชั่นการทำงาน เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าก็มีจุดเด่นในเรื่องความสามารถในการบรรจุผ้าที่เยอะกว่าแบบฝาบนอยู่แล้วนั่นเอง
  1. เทคโนโลยี Inverter: ตรงนี้จะมาตอบโจทย์การทำงานเรื่องของเสียงและการสั่นสะเทือนของเครื่องซักผ้าค่ะ ซึ่งการที่เครื่องซักผ้ามีมอเตอร์แบบ inverter แล้วนั้นเวลาซักผ้าเราจะไม่ค่อยได้ยินเสียงเครื่องทำงานเลย เครื่องมีการสั่นที่ค่อนข้างเบา มอเตอร์ inverter ก็ยังทนทานต่อการใช้งานและที่สำคัญคือกินไฟน้อยกว่ามอเตอร์ทั่วไปอีกด้วยค่ะ
  1. โปรแกรมการซักล้าง: เรื่องโปรแกรมการซักล้างนี่อาจจะไม่ต้องจริงจังกับการเลือกซื้อเครื่องซักผ้ามากขนาดนั้นแต่ว่าถ้ามีโปรแกรมที่หลากหลายก็คุ้มค่าต่อการซักผ้านะคะ เพราะนั่นคือการที่เราสามารถเลือกได้ว่าชนิดผ้าที่เราจะซักควรซักกับโปรแกรมแบบไหนถึงจะไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียหายนั่นเอง
  1. ตัวทำความร้อนที่มากับตัวเครื่อง: สำหรับตัวทำความร้อนนั้นก็เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ขณะทำการซักนะคะ ซึ่งค่อนข้างมีประโยชน์มากๆกับการซักชุดเครื่องนอน หรือพวกเสื้อกันหนาว นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ล้ำลึกมากขึ้น ช่วยขจัดรอยเปื้อนที่ฝังลึกได้เป็นอย่างดี
  1. การประหยัดพลังงาน: เกณฑ์เรื่องการประหยัดพลังงานนั้นสำหรับบางคนอาจจะไม่ได้มองว่ามีความสำคัญอะไรมากนัก แต่ถ้าหากคิดอีกทีแล้วการซื้อเครื่องซักผ้าก็หมายความว่าเราต้องใช้งานกับมันไปในระยะยาวใช่ไหมคะ ดังนั้นก็คงจะดีกว่าที่จะหาเครื่องซักผ้าที่ไม่กินไฟเยอะเกินไป ทางที่ดีควรดูว่าเครื่องซักผ้าที่ซื้อนั้นได้เรทการประหยัดพลังงานในระดับ 4 – 5 ดาวหรือไม่ก็ได้คลาสตั้งแต่ A+ ขึ้นไปเพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเราจะไม่เสียเงินไปกันค่าไฟเยอะเกินไปค่ะ
  1. ตัวเลือกการตั้งค่า: ความต้องการของเรานั้นสามารถเป็นตัวกำหนดได้คุณสมบัติของเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งถ้าหากเครื่องซักผ้าเครื่องมีตัวเลือกการตั้งค่าที่หลากหลายและครอบคลุมกับชนิดของผ้าที่เรามี เพียงแค่นี้เราก็สามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นเช่นกันค่ะ

บทสรุป เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี

ในส่วนของบทความนี้นั้น เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่น่าใช้มากที่สุดก็คือ Electrolux เครื่องซักและอบผ้าฝาหน้า UltimateCare II 300 8/5 กก. รุ่น EWW8024E3WB รุ่นนี้นั่นเองค่ะ เพราะจุดเด่นเขาค่อนข้างครอบคลุมความต้องการไม่ว่าจะทั้งการซักหรือการอบผ้าที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ผ้าที่ซักออกมาก็ทั้งสะอาด ทั้งหอม และช่วยให้ผู้ใช้งานห่างไกลจากสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ค่ะ แต่ถ้าใครที่มีเครื่องซักผ้าฝาหน้าอยู่แล้วแต่ยังคงมองหาเครื่องซักผ้าฝาบนก็อย่าลืมที่จะแวะเข้าไปดูรีวิวต่างๆที่เราได้มาแบ่งปันไว้ในเว็บไซต์ชอบรีวิวนะคะ

Similar Posts