ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็อยากจะมีผิวสวยงามไร้ที่ติ ดังนั้น รองพื้นจึงได้กลายมีเป็นหนึ่งในเครื่องสำอางยอดนิยมของผู้หญิงหลายๆคน เพราะว่าคุณสมบัติหลักของรองพื้นก็คือการปกปิดจุดบกพร่องบนผิวหน้าไม่ว่าจะเป็นรอยสิว จุดด่างดำ รวมถึงรูขุมขนก็จำเป็นต้องใช้รองพื้นกลบให้มิด
แต่ทว่าการหารองพื้นที่เหมาะสมกับผิวกลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอย่างที่คิด เราจึงขอแนะนำวิธีการเลือกรองพื้นอย่างไรให้เหมาะสมกับผิว พร้อมกับแนะนำรองพื้น 5 ยี่ห้อดังที่ช่วยให้คุณมีผิวเนียนกริบ พร้อมปกปิดทุกริ้วรอย แล้วรองพื้น ยี่ห้อไหนดี น่าลงทุนบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ
สำหรับสาวๆที่ต้องการให้รองพื้นติดทนนานตลอดวัน ควรลงมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าก่อนจะลงเมคอัพ หรือจะฉีดสเปรย์น้ำแร่ก่อนหรือหลังแต่งหน้าก็ทำให้เมคอัพอยู่ยาวนานขึ้นเช่นกัน แต่การหน้าเป็นเพียงการแก้ปัญหาผิวชั่วคราวเท่านั้น หากสาวๆมีปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นพวกจุดด่างดำ หรือรอยสิว ควรจะหาตัวช่วยมาบำรุงก่อน เช่น พวกเซรั่มบำรุงผิวหน้า หรือ ครีมแต้มสิว เป็นต้น
รองพื้น ยี่ห้อไหนดี เนียนกริบ
- รองพื้น Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place
- รองพื้น Nars Sheer Glow Foundation
- รองพื้น Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation SPF 15 PA++
- รองพื้น MAC Studio Fix Fluid SPF 15
- รองพื้น SHISEIDO Synchro Skin Self-Refreshing Foundation
รองพื้น ยี่ห้อไหนดีที่สุด ฉบับปี 2023
ถึงเวลาตามหารองพื้นที่ใช้ที่สุดสำหรับผิวหน้ากันแล้วค่ะ โดยเราได้คัดเลือกรองพื้นระดับตำนาน 5 ยี่ห้อมาให้ทุกคนได้รู้จักและเลือกใช้ไปด้วยกัน โดยมาดูกันว่าทั้ง 5 ยี่ห้อ รองพื้น ยี่ห้อไหนดีบ้าง ปกป้องเทพ คุมมันดีเยี่ยม และใช่ยี่ห้อที่ทุกคนส่องไว้เหลือไม่ ตามมาดูกันเลยค่ะ
1.รองพื้น Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place
มาเริ่มกันเลยกับ รองพื้น ยี่ห้อไหนดี ครีมรองพื้นระดับตำนานที่ได้รับการพูดถึงมาหลายปีมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นรองพื้นยอดฮิตประจำงานรับปริญญา เพราะว่า Estee Lauder ขวดนี้มีคุณสมบัติในการปกปิดปัญหาผิวได้อย่างเนียนกริบ ทั้งยังติดทนตลอดวัน เพื่อให้ผิวสวยได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย
โดยรองพื้นรุ่นนี้เป็นรองพื้นที่ขายดีมาก ๆ ด้วยเนื้อสัมผัสกึ่งแมตต์ จึงให้สัมผัสที่เบาสบาย เนียนกลืนไปกับผิว จึงมอบผิวสวยแลดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมาพร้อม 40 เฉดสีให้เลือก ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีสีผิวไหนก็ตามสามารถใช้รองพื้นขวดนี้ได้
อีกทั้งยังมี SPE 10 PA++ จึงสามารถป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดได้ดีในระดับหนึ่ง รวมถึงไม่มีส่วนผสมของน้ำมันจึงลดปัญหาหน้ามันเยิ้มในระหว่างวัน และมีระดับการปกปิดปานกลางแต่สามารถลงทับอีกครั้งเพื่อเพิ่มระดับการปกปิด โดยที่ผิวหน้ายังแลดูเป็นธรรมชาติอยู่
สุดท้ายคือรองพื้นขวดนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอม รวมถึงผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดสิว จึงสามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ
- ปกปิดปัญหาผิวได้อย่างเนียนกริบ และติดทนตลอดวัน
- เนื้อสัมผัสกึ่งแมตต์จึงทำให้ผิวแลดูเป็นธรรมชาติ
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอมจึงลดการแพ้และระคายเคือง
- มี 40 เฉดสีให้เลือก
- ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังไม่ก่อให้เกิดสิว
- ระดับการปกปิดอยู่ในระดับปานกลาง จึงต้องทาทับอีกครั้งหากต้องการการปกปิดในระดับที่สูงขึ้น
- สารกันแดดมีน้อยเกินไป อาจก็ต้องใช้ครีมกันแดดร่วมด้วย
- ราคาค่อนข้างสูง
2.รองพื้น Nars Sheer Glow Foundation
หากใครที่ต้องการมีผิวหน้าฉ่ำโกล์วดูเป็นธรรมชาติจะไม่สามารถปฏิเสธครีมรองพื้น Nars Sheer Glow Foundation ได้เลย เพราะด้วยคุณสมบัติของรองพื้นที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน แลดูเปล่งประกายขึ้น จึงทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อีกทั้งยังมาพร้อมสารบำรุงอย่าง Complexion Brightening Formula ของนาร์ส จึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น และดูผิวเนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ด้วยเนื้อสัมผัสอันแสนเบาสบายของเนื้อเชียร์ จึงทำให้สามารถปกปิดทุกปัญหาผิวในแบบที่ผิวยังสวยและแลดูเป็นธรรมชาติ ราวกับผิวหน้าของเราจริง ๆ โดยมีระดับการปกปิดอยู่ที่ระดับกลาง-สูง และมีสีให้เลือกถึง 23 สี จึงควบคุมทุกสีผิวของสาวไทย
โดยเหมาะกับผู้หญิงผิวแห้ง-ผิวผสม อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของพาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำหอม รวมถึงผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดสิว
- ปกปิดปัญหาผิวได้อย่างเนียน เนียน แลดูเปล่งประกายขึ้น จึงทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- เนื้อสัมผัสให้ความรู้สึกถึงผิวหน้าฉ่ำโกล์วดูเป็นธรรมชาติ
- เนื้อเบาสบาย
- มี 23 เฉดสีให้เลือก
- ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังไม่ก่อให้เกิดสิว
- ไม่มีสารกันแดด
- ไม่เหมาะกับผู้หญิงผิวมัน เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้
- ปกปิดในระดับปานกลาง-สูง ซึ่งหากต้องการใช้ในโอกาสสำคัญควรเลือกระดับการปกปิดที่สูงกว่านี้
3.รองพื้น Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless Foundation SPF 15 PA++
ช่วงนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเลยค่ะ สำหรับ Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless เพราะเป็นรองพื้นสำหรับสาวผิวแมตต์ และติดทนได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง จึงทำให้สามารถออกจากบ้านได้อย่างสบายใจ ไร้ปัญหาหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน
โดยมีการนำเอา กรรมวิธี High Speed Cold Fusion ซึ่งเป็นนวัติกรรมที่ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนผิว อีกทั้งยังเกลี่ยง่าย จนดูกลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิวหน้า
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ SPF15 PA++ จึงสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีระดับหนึ่ง โดยต้องบอกเลยว่าสูตรนี้เป็นสูตรใหม่ ที่เน้นระดับการปกปิดปานกลางถึงสูงสุด ซึ่งหากใครต้องการระดับการปกปิดที่เพิ่มขึ้นสามารถทาซ้ำอีกครั้งได้เลย แล้วยังมีถึง 19 เฉดสีที่คัดเลือกโดยเมคอัพอาร์สติสชื่อดัง
จึงครอบคลุมสีผิวของสาวไทย อีกทั้งจึงมีสารสกัดจาก Marine Sugar Cane และผงแป้ง Mineral Powder จากธรรมชาติ จึงสามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และยังมีวิตามิน E, C และ Shea Butter ที่ช่วยควบคุมความมัน โดยผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถกันเหงื่อ กันน้ำ และกันความชื้นได้เป็นอย่างดี
- ควบคุมความมัน และติดทนได้ยาวนาน 16 ชั่วโมง
- เนื้อสัมผัสแบบแมตต์ เกลี่ยง่าย จึงทำให้ผิวแลดูเป็นธรรมชาติ
- มี 19 เฉดสีให้เลือก ครอบคลุมทุกสีผิว
- ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถกันเหนื่อ กันน้ำ และกันความชื้นได้เป็นอย่างดี
- มีส่วนผสมสำคัญที่ช่วยในการบำรุงผิว
- สารกันแดดปริมาณไม่มากนักอาจต้องใช้ร่วมกับครีมกันแดด
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง
- มีราคาค่อนข้างสูง
4.รองพื้น MAC Studio Fix Fluid SPF 15
มาถึงรองพื้นสำหรับผู้หญิงผิวมันอีกตัวนึงที่หลายคนชอบกับ MAC Studio Fix Fluid SPF 15 เพราะว่ามียูทูปเบอร์หลายคนเลือกใช้ เพราะว่ารองพื้นขวดนี้ช่วยเนรมิตผิวให้มีสุขภาพดี ช่วยอำพรางปัญหาผิวต่าง ๆ อาทิ รอยสิว จุดด่างดำ และรอยแดงต่าง ๆ ให้จางลง
ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนตลอดทั้งวัน และติดทนยาวนานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน อีกทั้งเนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย และดูเป็นธรรมชาติได้ยาวนาน
สำหรับรองพื้นขวดนี้มีมากถึง 19 เฉดสี โดยมี 3 เฉดสีหลัก คือ Neutral Cool คือโทนเหลืองอมน้ำตาล, Neutral หรือโทนกลางอมชมพูและน้ำตาล และสุดท้ายคือ Neutral Warm คือโทนชมพูอมแดง ซึ่งเป็นโทนสีที่เหมาะที่สุดสำหรับผิวของสาวไทย
ถึงแม้ว่ารองพื้นขวดนี้จะให้ฟินิชลุคแบบผิวแมตต์ แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นกับผิวหน้า ซึ่งมีระดับการปกปิดในระดับกลาง – สูง มาพร้อมกับ SPF 15 ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
- ปกปิดปัญหาผิวให้จางลง และมีผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- ควบคุมความมันและติดทนยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง
- มี 19 เฉดสีให้เลือก และมีโทนสีหลักของสาวไทย
- เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย และดูเป็นธรรมชาติ
- คงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า โดยไม่ทำให้ผิวมัน
- ปริมาณสารกันแดดน้อยเกินไปจำนวนต้องใช้ควบคู่กับครีมกันแดด
- กลิ่นค่อนข้างแรง หลายคนอาจไม่ชอบ
- ปกปิดไม่มากนัก หากคนที่มีปัญหาผิวมากควรลงคอนซิลเลอร์ก่อน
5. รองพื้น SHISEIDO Synchro Skin Self-Refreshing Foundation
รองพื้นที่มอบผิวสวยแลดูเป็นธรรมชาติให้กับผิวหน้ากับ SHISEIDO Synchro Skin Self-Refreshing Foundation เป็นรองพื้นสูตรใหม่จาก SHISEIDO ที่ผู้หญิงหลายคนรักเลย เพราะด้วยเทคโนโลยี ActiveForce™ จึงทำให้เนื้อรองพื้นกลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิว
ซึ่งนอกจากมอบผิวสวย ยังทำหน้าที่ควบคุมความมัน กันเหงื่อ และป้องกันการเคลื่อนไหวบนใบหน้าจึงทำให้เนื้อรองพื้นติดทนนาน เผยผิวหน้าเนียนเรียบได้ตลอดวัน ไร้ปัญหารองพื้นตกร่อง หรือแตกเป็นคราบให้หญิงสาวต้องเสียความมั่นใจ โดยมี 12 เฉดสีให้เลือก
โดยระดับการปกปิดของรองพื้นขวดนี้นั้นเป็นการปกปิดผิวในระดับปานกลาง แต่สามารถเพิ่มการปกปิดที่สูงขึ้นได้ โดยมอบฟินิชลุคที่แลดูสวยเป็นธรรมชาติประหนึ่งผิวหน้าของเราจริง ๆ มาพร้อมกับ SPF ถึง 35 จึงช่วยป้องกันแสงแดดได้อย่างยาวนานตลอดวัน แบบไม่ง้อครีมกันแดดเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังสามารถคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า และทนต่อสภาพอากาศและความชื้นสูง อีกทั้งยังผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และเหมาะกับทุกสภาพผิว
- เทคโนโลยี ActiveForce™ จึงทำให้เนื้อรองพื้นกลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิวหน้า
- ควบคุมความมัน กันเหงื่อ ไร้ปัญหารองพื้นไหลเป็นคราบ หรือตกร่อง
- SPF 35 จึงช่วยป้องกันแสงแดดได้อย่างยาวนานตลอดวัน
- คงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า และทนต่อสภาพอากาศและความชื้นสูง
- ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และเหมาะกับทุกสภาพผิว
- การปกปิดระดับปานกลางจึงไม่เหมาะกับการใช้งานในโอกาสสำคัญ
- มีเฉดสีให้เลือกค่อนข้างจำกัด
- สำหรับผู้ที่มีผิวมันมาก อาจทำให้หน้ามันเยิ้มในระหว่างวันได้
การเลือกรองพื้น ยี่ห้อไหนดี ที่ใช่ที่สุดสำหรับผิว
การตามหารองพื้นที่ใช่ที่สุดสำหรับผิวหน้าของทุกคนนั้นไม่ยากอย่างที่คิด โดยเราได้รวบรวมทุกวิธีการและเคล็ดลับที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกรองพื้นที่อย่างมือโปร ไปดูกันเลยค่ะ
1.เลือกรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิว
สำหรับการเลือกรองพื้นที่เหมาะสมกับสภาพผิวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรองพื้นนั้นมีหลายประเภทโดยแยกตามลักษณะของผิวหน้าของแต่ละคน ดังนี้
- สาวผิวมัน : รองพื้นที่เหมาะสมก็คือรองพื้นเนื้อแมตต์ที่ช่วยควบคุมความมัน รวมถึงต้องเป็นสูตร Oil-Free เพื่อป้องกันหน้าเยิ้มในช่วงระหว่างวัน
- สาวผิวแห้ง: เน้นรองพื้นชนิดน้ำที่ช่วยทำให้ผิวหน้าดูชุ่มชื้น มันวาว รวมถึงต้องเลือกรองพื้นที่เกลี่ยง่ายเพื่อป้องกันรองพื้นเป็นคราบ
- สาวผิวผสม: สาวผิวผสมนั้นต้องใช้รองพื้นชนิดน้ำ แต่เน้นความบางเบาแต่ปกปิดเยี่ยม โดยสามารถใช้แป้งอัดแข็งซับหน้าอีกครั้งเพื่อป้องกันหน้ามันระหว่างวันในบริเวณทีโซน
2.เลือกรองพื้นที่เหมาะสมกับสีผิว
สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกรองพื้นที่เหมาะกับสีผิว เพราะหากเราเลือกรองพื้นผิดสีบอกได้เลยว่าชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว โดยทุกคนจำเป็นที่ต้องเลือกสีของรองพื้นที่เหมาะสมกับสีผิวของเรามากที่สุด
เพื่อให้สีของรองพื้นกลืนไปกับสีผิวจนแลดูเป็นธรรมชาติ โดยสามารถทดสอบสีรองพื้นบริเวณลำคอเพื่อเทียบสีผิวก่อนซื้อ หรืออาจแต้มเบา ๆ บริเวณคางว่าสีของรองพื้นเหมาะกับสีผิวของตนเองหรือไม่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
3.ผลลัพธ์ของผิวที่ต้องการ
แม้ว่าหน้าที่หลักของรองพื้นคือการแก้ไขจุดบกพร่องบนผิวหน้า แต่จริง ๆ แล้วความต้องการในการปกปิดในแต่ละวันของหญิงสาวนั้นไม่เท่ากัน เพราะก็บางวันที่ผู้หญิงอย่างเราต้องการลงรองพื้นเพื่อให้หน้าเนียนเรียบแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้
แต่ในวันที่เป็นโอกาสพิเศษผู้หญิงอย่างเราก็ต้องการรองพื้นที่ปกปิดขั้นสูงสุด เนียนกริบ ไร้จุดบกพร่องของผิวดังนั้น สาวๆหลายจึงมีรองพื้น 2 ขวด สำหรับวันสบาย ๆ ให้ใช้สูตรบางเบาเกลี่ยง่าย หรือในวันที่เป็นโอกาสสำคัญก็ใช้รองพื้นที่เน้นการปกปิดเพื่อให้เราสวยกริบตั้งแต่เริ่มงานจนถึงสิ้นสุดงาน
4. ระดับการปกปิดของรองพื้น
แน่นอนว่าเมื่อเราเลือกรองพื้นให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการดังนั้น ทุกคนต้องทราบถึงระดับการปกปิดของรองพื้น โดยรองพื้นที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นมีระดับการปกปิด ดังต่อไปนี้
Sheer Coverage
เป็นระดับการปกปิดผิวของรองพื้นที่มีระดับบางเบามากที่สุด โดยเน้นใช้วันสบาย ๆ หรือคนที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวหน้าเท่าไหร่นัก ก็สามารถใช้รองพื้นในระดับนี้ได้
Sheer to Medium Coverage
เป็นระดับการปกปิดผิวที่สูงขึ้นมาอีกนิด โดยสามารถปกปิดรอยดำและรอยแดงต่าง ๆ ได้เล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มากเช่นกัน
Medium Coverage
เป็นการปกปิดในระดับปานกลาง โดยสามารถปกปิดจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง รวมถึงรอยสิวบนผิวหน้าได้ประมาณนึงเลยทีเดียวค่ะ
Full Coverage
เป็นรองพื้นที่มีระดับการปกปิดขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นรองพื้นแบบเข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าค่อนข้างมาก สามารถปกปิดทุกปัญหาผิวทั้งรอยสิว ฝ้า กระต่าง ๆ และช่วยให้สามารถแต่งหน้าได้ติดทน แต่ก็แลกมาด้วยความหนักหน้ามากกว่ารองพื้นชนิดอื่น ๆ
บทสรุป รองพื้น ยี่ห้อไหนดี น่าลงทุน ปี 2023
หวังว่าทั้งวิธีการการรองพื้นที่ใช่ที่สุดสำหรับผิวและ 5 อันดับรองพื้นของเราจะช่วยให้ทุกคนเลือกรองพื้นที่ถูกใจที่สุดได้ โดยอย่างไรก็ตามทุกคนอย่าลืมคำนึงสภาพผิวของตนเอง และงบประมาณที่มีเพื่อให้ได้รองพื้นที่ดีและคุ้มที่สุดด้วยนะคะ
สำหรับเราขอยกให้ Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place เป็นรองพื้นที่ใช่ที่สุดสำหรับผิวมัน เพราะว่าปกปิดติดทนมาก ๆ อีกทั้งยังสามารถควบคุมความมันได้ตลอดทั้งวัน ไม่เป็นคราบ เหมาะกับการใช้งานในวันที่มีโอกาสสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ทั้งงานรับปริญญา งานแต่ง หรืองานเลี้ยงอื่น ๆ รับรองว่าใช้รองพื้นตัวนี้แล้วไม่ผิดหวัง หน้าไม่ดร็อประหว่างวันแน่นอนค่ะ
นอกจากรองพื้นแล้ว หากใครอยากได้ผิวที่ดูไม่หนักมาก แต่งหน้าวันสบายๆ ควรลองใช้คุชชั่นที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง และไอเทมแต่งหน้าอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็น ดินสอเขียนคิ้วหรืออายไลเนอร์ ที่เราได้รวบรวมมาฝากกันแล้วค่ะ