ตัวรับสัญญาณไวไฟ-ยี่ห้อไหนดี

ภายในทุกบ้าน อาคารสำนักงาน หรือสถานที่ใดก็ตาม ที่มีการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือแม้แต่แล็ปท็อป แน่นอนว่าจะต้องมีเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตอย่าง Wi-Fi ถูกใช้งานอยู่ภายในพื้นที่นั้น ๆ อย่างแน่นอน จากการที่อินเทอร์เน็ตถือเป็นส่วนสำคัญ ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป จนทำให้เราไม่สามารถขาดไปได้ ซึ่งในบางสถานที่เราจะต้องใช้งานอินเทอร์เน็ต ก็อาจทำให้หลายคนพบเจอกับปัญหาสำคัญ อย่างการที่อุปกรณ์ของคุณไม่สามารถรับสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเพียงพอ โดยที่สิ่งนี้จะเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับการทำงานที่จะต้องใช้แล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊ก และตัวรับสัญญาณไวไฟก็คือสิ่งที่ถูกออกแบบมา เพื่อใช้แก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในลักษณะนี้โดยตรง และสิ่งนี้ก็ยังเป็นสาหตุสำคัญที่เราจะมาแนะนำ ว่าหากคุณเองก็เป็นหนึ่งในคนที่จะต้องทำงานในลักษณะดังกล่าว ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี จะเป็นตัวเลือกสินค้าที่ดีสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุดในขณะนี้

10 ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี

UGREEN 20204
ฟังก์ชันครบครัน
  • สามารถใช้งานได้ทั้งการรับและส่งสัญญาณ
  • สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการ
  • ความเร็วการรับเครือข่ายที่ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสมกับทุกสถานที่
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง 2 ย่านความถี่
  • ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก
TP-Link TL-WN727N
ดีไซน์สวยงาม
  • สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเก่า
  • เชื่อมต่อและใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งต่า
  • รองรับการเปิดตั้งค่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเป็นโหมดกระจายสัญญาณ
  • ใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการในปัจจุบัน
  • มีไฟสำหรับแสดงผลสถานะการทำงาน
Vention USB wifi
ราคาถูก
  • วัสดุ ABS ไม่ลดคุณภาพในการรับสัญญาณของเสาอากาศภายใน
  • รองรับมาตรฐาน Wi-Fi Security มากมาย
  • การรับ-ส่งสัญญาณที่ความเร็วค่อนข้างสูง
  • ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก
  • การรับประกันสินค้า 1 ปี

ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี 2024

ต่อไปเป็นตัวรับสัญญาณไวไฟประสิทธิภาพสูงจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่คุณสามารถเลือกซื้อได้ในปี 2024 นี้

1. UGREEN 20204

UGREEN 20204
แบรนด์และรุ่นสินค้าUGREEN 20204
ขนาด18 x 38 x 7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต650 Mbps
ประเภทของ USBUSB 2.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี รุ่นแรกเป็นตัวรับสัญญาณไวไฟที่สามารถใช้งานได้ ทั้งกับเครือข่ายในย่านความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ซึ่งจุดเด่นที่สำคัญ คือ การเป็นสินค้าที่มีขนาดเล็กและไม่มีเสาสัญญาณที่ยื่นออกมา ทำให้สามารถพกพาได้สะดวก และเหมาะสำหรับคนที่จะต้องใช้งานแล็ปท็อป เพื่อการทำงานหรือทำสิ่งต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์นอกสถานที่อยู่เสมอ โดยด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ตัวนี้ คุณจะสามารถรับเครือข่ายอินเทอร์ได้ที่ความเร็วสูงสุด 650 Mbps รวมไปถึงการกระจายอินเทอร์เน็ตผ่านทางแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ PC ตัวอุปกรณ์ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างมีคุณภาพด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น หากคุณเน้นการใช้งานสินค้าสำหรับการพกพาเป็นหลัก รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่พลาดไปไม่ได้เลยทีเดียว 

จุดเด่น

  • สามารถใช้งานได้ทั้งการรับและส่งสัญญาณ
  • สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการ
  • ความเร็วการรับเครือข่ายที่ตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสมกับทุกสถานที่
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง 2 ย่านความถี่
  • ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก

จุดควรพิจารณา

  • ยังคงรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0
  • ไม่มีเสาอากาศสำหรับเพิ่มคุณภาพในการรับสัญญาณ

TP-Link TL-WN727N
แบรนด์และรุ่นสินค้าTP-Link TL-WN727N
ขนาด
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต150 Mbps
ประเภทของ USBUSB 2.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี รุ่นต่อมา TP-Link TL-WN727N เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณไวไฟจากทาง TP-Link ที่มีการผลิตองค์ประกอบต่าง ๆ มาอย่างได้มาตรฐาน และช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับการใช้งาน Wi-Fi ของคุณได้มากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบการใช้งานที่เรียบง่าย ที่ให้คุณสามารถเสียบเชื่อมต่อได้ในทันที โดยไม่จำเป็นจะต้องตั้งค่าการทำงานให้วุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม โดยความเร็วการรับ-ส่งสัญญาณของสินค้าตัวนี้ จะทำได้สูงสุดที่ 150 Mbps และรองรับมาตรฐาน Wi-Fi Security มากมาย รวมไปถึงยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการอย่างครบครัน ซึ่งรวมไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเก่าด้วยเช่นกัน

จุดเด่น

  • สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเก่า
  • เชื่อมต่อและใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งต่า
  • รองรับการเปิดตั้งค่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเป็นโหมดกระจายสัญญาณ
  • ใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการในปัจจุบัน
  • มีไฟสำหรับแสดงผลสถานะการทำงาน

จุดควรพิจารณา

  • ความเร็วการรับ-ส่งสัญญาณไม่สูงมากนัก
  • ขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการทำงาน

3. Vention USB wifi

Vention USB wifi
แบรนด์และรุ่นสินค้าVention USB wifi
ขนาด
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต650 Mbps
ประเภทของ USBUSB 2.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

ตัวรับสัญญาณไวไฟรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมา ให้สามารถใช้งานได้ทั้งกับเครือข่ายในย่านความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ส่งผลให้สามารถใช้ได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป ไปจนถึงโทรทัศน์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จะต้องใช้งานเครือข่าย Wi-Fi ร่วมกันภายในบ้าน โดยจุดเด่นที่สำคัญของรุ่นนี้ ก็จะยังคงเป็นเรื่องของการพกพาที่สะดวกสบาย ซึ่งเป็นผลมาจากการเลือกใช้งานวัสดุแบบ ABS ที่ทำให้น้ำหนักมีความเบาได้กว่าหลาย ๆ รุ่น นอกจากนี้แม้จะถูกวางขายในราคาเพียงหลักร้อยต้น ๆ แต่แบรนด์สินค้าก็ยังได้มีการแถมการรับประกันสินค้า ที่ให้มายาวนานถึง 1 ปีอีกด้วย

จุดเด่น

  • วัสดุ ABS ไม่ลดคุณภาพในการรับสัญญาณของเสาอากาศภายใน
  • รองรับมาตรฐาน Wi-Fi Security มากมาย
  • การรับ-ส่งสัญญาณที่ความเร็วค่อนข้างสูง
  • ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก
  • การรับประกันสินค้า 1 ปี

จุดควรพิจารณา

  • ไม่แน่ชัดเรื่องการใช้กระจายสัญญาณ Wi=Fi
  • อาจไม่สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์บางระบบปฏิบัติการ

4. UGREEN AC1300

UGREEN AC1300
แบรนด์และรุ่นสินค้าUGREEN AC1300
ขนาด
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต1,300 Mbps
ประเภทของ USBUSB 3.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

UGREEN AC1300 เป็นอุปกรณ์สำหรับรับสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi ทั้งช่วงความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ที่ถูกออกแบบมาให้ทำความเร็วในการเชื่อมต่อและใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 1,300 วัตต์ ซึ่งเป็นผลมาจากการติดตั้งเสาสัญญาณทั้งหมด 2 ส่วน ที่ให้คุณปรับองศาในการใช้งานตามความเหมาะสมได้หลากหลายถึง 180 องศาสำหรับแต่ละข้าง และการเลือกใช้งานพอร์ต USB 3.0 ที่ถือเป็นมาตรฐานล่าสุดของ USB-A ในปัจจุบัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างมาก หากคุณจะต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ที่ไม่สามารถรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ดีมากนัก  ที่สำคัญการทำงานทุกส่วนยังเสริมประสิทธิภาพให้ดีได้มากขึ้น ด้วยการใช้งานชิปเซ็ต High Perfomance REALTEK ด้วยเช่นกัน

จุดเด่น

  • ความเร็วการรับ-ส่งสัญญาณ 1,300 Mbps
  • เสาสัญญาณสำหรับเพิ่มคุณภาพให้กับการรับสัญญาณ Wi-Fi
  • ชิปเซ็ต High Perfomance REALTEK
  • ใช้งานได้กับอุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการ
  • การใช้งาน USB 3.0 ในการเชื่อมต่อ

จุดควรพิจารณา

  • จำเป็นต้องปรับทิศทางของเสาอากาศ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการรับสัญญาณสูงสุด
  • การพกพาอาจทำได้ไม่สะดวกจากเสาอากาศที่มีขนาดใหญ่

TP-Link TL-WN823N
แบรนด์และรุ่นสินค้าTP-Link TL-WN823N
ขนาด
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต300 Mbps
ประเภทของ USB
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

TP-Link TL-WN823N เป็นคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคำถาม ว่าคุณจะต้องเลือกซื้อตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี จากตัวเลือกของสินค้าจากแบรนด์ TP-Link เนื่องจากสินค้าตัวนี้เป็นรุ่นที่มีการออกแบบหรูหรา และเน้นความคุ้มค่าในการใช้งานโดยรวม จากการเป็นสินค้าที่มีขนาดกะทัดรัด ทำให้เหมาะสำหรับการพกพาและใช้งานกับแล็ปท็อปทุกรุ่น และการรองรับสัญญาณ Wi-Fi ที่ตอบโจทย์ได้กับความเร็วสูงสุด 300 Mbps หลังจากการกดเริ่มต้นจับคู่สัญญาณผ่านปุ่มกดด้านหน้าอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้เราสามารถปรับค่าการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เสมอ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่มากที่สุด นอกจากนี้ด้วยการถูกออกแบบมาสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ที่เป็นมาตรฐาน ก็ทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่าจะสามารถใช้งานสินค้าตัวนี้ในการเชื่อมต่อได้อีกด้วย

จุดเด่น

  • การออกแบบภายนอกที่หรูหรา
  • ขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการพกพา
  • เสาอากาศที่ถูกติดตั้งมาให้ภายใน 2 ต้น
  • ปุ่มกดสำหรับเชื่อมต่อ Wi-Fi 
  • สามารถใช้งานกับอุปกรณ์เวอร์ชั่นเก่าได้

จุดควรพิจารณา

  • ความเร็วในการรับ-ส่งสัญญาณอาจต่ำไปเล็กน้อย
  • ไม่แน่ชัดเรื่องความถี่ในการรับสัญญาณ

6. JTKE USB WiFi Adapter

JTKE USB WiFi Adapter
แบรนด์และรุ่นสินค้าJTKE USB WiFi Adapter
ขนาด12 x 18 x 140 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต150 Mbps
ประเภทของ USBUSB 2.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz 

JTKE USB WiFi Adapter เป็นอุปกรณ์พร้อมเสาสัญญาณอีกหนึ่งตัว ที่มีราคาวางขายค่อนข้างย่อมเยาเป็นพิเศษ ซึ่งการใช้งานโดยรวมนั้นจะเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อเพื่อรับสัญญาณ Wi-Fi ของอุปกรณ์ ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเก่าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Windows, MacOS หรือแม้แต่ Linux ก็ตาม จากการที่ยังคงใช้งานพอร์ตแบบ USB 2.0 และรับสัญญาณในช่วงความถี่ได้แบบ 2.4 GHz เท่านั้น ส่งผลให้เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณเน้นการเลือกซื้อสินค้า สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ประเภทดังกล่าว และต้องการประหยัดงบประมาณการเลือกซื้อให้ได้มากที่สุด โดยถึงแม้จะไม่ได้มีพื้นฐานการรับสัญญาณที่รวดเร็วมากนัก แต่ด้วยการติดตั้งเสาสัญญาณที่ปรับองศาได้หลากหลาย ก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับการใช้งานได้ดีขึ้นมาอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

จุดเด่น

  • ใช้งานได้กับอุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการ
  • เสาสัญญาณที่ปรับองศาการรับสัญญาณได้หลากหลาย
  • ขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับอุปกรณ์แบบมีเสาสัญญาณ
  • เทคโนโลยี CCA ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในนการรับสัญญาณ
  • รองรับมาตรฐาน Wi-Fi Security

จุดควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่มากนัก
  • ความเร็วการรับสัญญาณสูงสุดเพียง 150 Mbps

TP-Link Archer T4U AC1300
แบรนด์และรุ่นสินค้าTP-Link Archer T4U AC1300
ขนาด
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต1,300 Mbps
ประเภทของ USBUSB 3.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

สำหรับตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ตัวนี้เป็นรุ่นที่สามารถรองรับความเร็วสัญญาณโดยรวมได้ที่ 1,300 Mbps ซึ่งจะแบ่งออกมาเป็นสัญญาณ 2.4 GHz ที่ 400 Mbps และ 5 GHz ที่ 867 Mbps ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างมากในปัจจุบัน และตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกับทุกพื้นที่ โดยสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จะสามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ Windows และ MacOS ที่ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมในปัจจุบันเป็นหลัก ทำให้แทบทุกคนจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีปัญหา ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ จะเป็นการมีระบบ High Gain Antennas ที่ทำให้การรับและส่งสัญญาณ Wi-Fi ผ่านทางตัวอุปกรณ์ จะสามารถเพิ่มระยะขึ้นมาได้อีกมากเลยทีเดียว

จุดเด่น

  • ระบบ High Gain Antennas สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
  • การรับ-ส่งอินเทอร์เน็ตสูงสุด 1,300 Mbps
  • สามารถใช้งานได้กับทุกย่านความถี่
  • การออกแบบที่หรูหรา
  • ใช้งานพอร์ต USB 3.0

จุดควรพิจารณา

  • ขนาดโดยรวมที่ค่อนข้างใหญ่หลังจากเสียบต่อเพื่อใช้งาน
  • ไม่สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Linux ได้

D-Link DWA-172 AC600
แบรนด์และรุ่นสินค้าD-Link DWA-172 AC600
ขนาด193 x 15.7 x 15 มิลลิเมตร
น้ำหนัก23.2 กรัม
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต600 Mbps
ประเภทของ USBUSB 2.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

D-Link DWA-172 AC600 เป็นตัวรับสัญญาณไวไฟ D-Link ที่มีการออกแบบมาพร้อมเสาสัญญาณขนาดใหญ่ ทำให้สามารถรับสัญญาณที่ระดับ 600 Mbps ได้ดี ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ในปัจจุบัน ทั้งบนระบบเครือข่าย 2.4 GHz และ 5 GHz โดยที่การออกแบบภายนอก เมื่อเทียบกับสินค้าแบบมีเสาสัญญาณตัวอื่น ๆ จะค่อนข้างมีขนาดที่เล็กมากเป็นพิเศษ รวมไปถึงยังมีน้ำหนักเบาเพียง 23.2 กรัม ส่งผลให้สามารถสนับสนุนการใช้งานของคน ที่ต้องการตัวรับพร้อมเสาที่สามารถพกพาง่ายได้ดีมากกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนที่ใช้งานอุปกรณ์ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Windows และ MacOS ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นเก่าหรือใหม่ก็ตาม

จุดเด่น

  • น้ำหนักค่อนข้างเบาเป็นพิเศษ
  • เสาสัญญาณสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเก่า
  • ความเร็วการรับ-ส่งอินเทอร์ที่เพียงพอกับการใช้งานทุกสถานที่
  • สามารถรับสัญญาณได้ทุกช่วงความถี่

จุดควรพิจารณา

  • ยังคงใช้งาน USB 2.0
  • การพกพาที่อาจทำได้ไม่สะดวกมากนักจากเสาขนาดใหญ่

9. Tenda U10 AC650 

Tenda U10 AC650 
แบรนด์และรุ่นสินค้าTenda U10 AC650 
ขนาด
น้ำหนัก
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต650 Mbps
ประเภทของ USBUSB 2.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของอุปกรณ์เชื่อมต่อรับสัญญาณแบบพร้อมเสา ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตจากทุกสถานที่ผ่านระบบ Wi-Fi ได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น ทั้งจาก MU-MIMO ที่มีส่วนช่วยสำคัญในระบบสตรีมมิ่ง และการใช้งานระบบ Dual-band ที่ช่วยให้เหมาะกับการรับสัญญาณทั้ง 2 คลื่นความถี่ รวมไปถึงยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีเป็นพิเศษ สำหรับอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญส่วนที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับสินค้าตัวนี้ได้ดี ก็คือการถูกแถมการรับประกันสินค้าหลังการเลือกซื้อ ภายในระยะเวลาสูงสุดถึง 5 ปีภายในประเทศไทยด้วยนั่นเอง

จุดเด่น

  • การรับประกัน 5 ปี
  • การรับ-ส่งสัญญาณสูงกว่ามาตรฐาน
  • เสาสัญญาณสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • ใช้งานได้กับทุกย่านความถี่สัญญาณ Wi-Fi
  • รองรับการใช้งานเทคโนโลยี MU-MIMO

จุดควรพิจารณา

  • ยังคงใช้งานพอร์ต USB 2.0
  • สามารถทำงานได้ดีที่สุดกับอุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการ Windows เท่านั้น

10. ASUS USB-AX56

ASUS USB-AX56
แบรนด์และรุ่นสินค้าASUS USB-AX56
ขนาด
น้ำหนัก40.3 กรัม
อัตราการรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต1,800 Mbps
ประเภทของ USBUSB 3.0
การรองรับช่วงความถี่2.4 GHz และ 5 GHz

ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี รุ่นสุดท้ายเป็นอุปกรณ์รับสัญญาณประสิทธิภาพสูง ที่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างมาก สำหรับคนที่จะต้องใช้งาน Wi-Fi ในการเล่นเกมอยู่เป็นประจำ เนื่องจากรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับสัญญาณ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในปัจจุบันได้ดี ทำให้สามารถรองรับสัญญาณได้ที่ความเร็วสูงสุด 1,800 Mbps และมีเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงานถูกติดตั้งมาให้มากมาย เช่น OFDMA, MU-MIMO และ BSS Coloring รวมถึงเพิ่มการขยายขอบเขตการรับสัญญาณได้ดี ด้วยการติดตั้งเสาอากาศเสริมภายนอกด้วยในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ถึงแม้จะมีองค์ประกอบภายนอกเป็นจำนวนมาก แต่ก็สามารถติดตั้งและใช้งานได้ในทันที โดยไม่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย

จุดเด่น

  • พื้นที่การใช้งานที่กว้างเป็นพิเศษ
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
  • ความเร็วการใช้งาน Wi-Fi สูงสุด 1,800 Mbps
  • สามารถติดตั้งและใช้งานได้ในทันที
  • รองรับเทคโนโลยีสนับสนุนการทำงานมากมาย

จุดควรพิจารณา

  • ขนาดและน้ำหนักสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ 
  • ราคาออกวางจำหน่ายและสเปกโดยรวมที่เกิดกว่าความต้องการมาตรฐานทำให้อาจไม่คุ้มค่าสำหรับหลาย ๆ คน

วิธีเลือกซื้อ

ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี

เลือกจากรูปแบบพอร์ตเชื่อมต่อ

เรื่องแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวรับสัญญาณไวไฟ ในการใช้งานร่วมกันกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป คือ คุณภาพในการใช้งานและเชื่อมต่อ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการใช้งาน และการรับสัญญาณ Wi-Fi เพื่อส่งต่อเข้าสู่ตัวเครื่องในการใช้งานระบบไร้สายโดยตรง โดยในปัจจุบันแม้ว่าอุปกรณ์ประเภทนี้ จะมีรูปแบบของพอร์ตให้เราเลือกซื้อกันได้หลากหลาย ตามลักษณะของพอร์ตที่ถูกติดตั้งมาให้กับอุปกรณ์ PC ประเภทต่าง ๆ แต่ตัวเลือกของพอร์ตที่ยังคงได้รับความนิยม ซึ่งสังเกตได้จากการที่มีตัวเลือกสินค้าถูกวางขายมากที่สุด ก็คือพอร์ตแบบ USB-A ที่เราสามารถแบ่งแยกออกมาได้เป็น USB 2.0 และ USB 3.0 ที่จะมีประสิทธิภาพการรับ-ส่งข้อมูลแตกต่างกันออกไป

ทำให้คุณจำเป็นจะต้องพิจารณาให้แน่ใจเสียก่อน ว่าอุปกรณ์ของคุณสามารถรองรับพอร์ตรูปแบบใดได้ หลังจากนั้นจึงไปเลือกรุ่นที่เหมาะกับอุปกรณ์ของคุณ โดยนอกจากการเลือกซื้อในรูปแบบนี้ จะทำให้คุณได้ใช้งานสินค้าที่มีประสิทธิภาพที่สุด และเป็นผลดีสำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ จากความสามารถในการรองรับการใช้งานเครือข่าย Wi-Fi ในความเร็วที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นแล้ว สำหรับรุ่นที่ยังคงใช้งานพอร์ตแบบเก่า ก็ยังมีโอกาสที่จะทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ที่เราควรจะต้องใช้ส่วนนี้เป็นขั้นตอนแรกของการเลือกซื้อ ก่อนที่จะไปถึงการพิจารณาในส่วนอื่น ๆ ที่มีผลต่อการใช้งาน

เลือกจากประสิทธิภาพการใช้งานเครือข่าย

ตัวรับสัญญาณไวไฟคืออะไร

เนื่องจากตัวรับสัญญาณไวไฟเป็นอุปกรณ์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์ตเน็ต Wi-Fi ที่ไม่มีความเสถียรโดยเฉพาะ จึงทำให้เรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานเครือข่าย เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ที่เราจะต้องให้ความสำคัญในการพิจารณา โดยเรื่องที่เราจะสามารถพิจารณาได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะมีองค์ประกอบที่มีผลต่อการใช้งานโดยตรงมากมาย ซึ่งคุณควรจะต้องเริ่มต้นจากการตรวจเช็ก ว่าเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณใช้งานอยู่เป็นประจำในชีวิตประจำวัน สามารถทำความเร็วสูงสุดในการส่งเครือข่ายได้ในระดับใด

โดยเฉพาะภายในพื้นที่บ้านหรืออาคารสำนักงาน เพื่อให้คุณสามารถกำหนดได้ว่าสินค้าที่ควรเลือกซื้อ จะต้องตอบโจทย์การรับสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi ได้ที่ขอบเขตเท่าใด จึงจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่คุณจะต้องจ่ายไปมากที่สุด หลังจากนั้นจึงไปดูเกี่ยวกับเครือข่ายว่า Wi-Fi ที่คุณใช้งานหรือได้รับอนุญาตในการใช้งานนั้น เป็นรูปแบบของคลื่นความถี่ 2.4 Hz หรือ 5 GHz เพราะในปัจจุบันก็มีสินค้าเป็นจำนวนไม่น้อย ที่สามารถรองรับกับเครือข่ายรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งได้อย่างเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการใช้งานแบบเฉพาะเครือข่ายกับอุปกรณ์ หรือคนที่ต้องการใช้งานสินค้าที่มีราคาย่อมเยามากที่สุด

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณจะต้องให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อและใช้งานโดยตรง ทำให้มีผลต่อประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อได้อย่างมาก แต่หากคุณต้องการให้เลือกซื้อในเชิงลึก เพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะได้มากยิ่งขึ้น เช่น การใช้เพื่อเพิ่มความเร็วหรือเสถียรภาพของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในพื้นที่ขนาดใหญ่ ก็อาจเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติมที่มีความเฉพาะขึ้นก่อนการตัดสินใจได้ด้วยเช่นกัน

เลือกจากความสะดวกของการพกพา

สถานการณ์ที่เราจะต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตในการทำงานยุคปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสถานที่ ซึ่งจากการที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าสถานที่ไหน จะมีอินเทอร์ที่มีประสิทธิภาพหรือความเร็วเพียงพอต่อการใช้งานบ้าง ทำให้หลายคนที่เลือกซื้อตัวรับสัญญาณไวไฟ มักจะเน้นการเลือกซื้อสินค้าที่พกพาได้สะดวก และถึงแม้ว่าตัวเลือกของสินค้าโดยส่วนใหญ่ จะเน้นการออกแบบมาให้มีขนาดเล็กอยู่แล้ว แต่ทุกรุ่นก็อาจไม่ได้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมหรือดีที่สุด ในด้านของการพกพาเพื่อใช้งานยังนอกสถานที่เสมอไป

เนื่องจากการมีน้ำหนักที่ค่อนข้างสูง หรือการติดตั้งมาพร้อมเสาอากาศขนาดใหญ่ ที่จะทำให้สามารถรับสัญญาณเครือข่ายได้ดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้น คุณจึงจะต้องพิจารณาจากส่วนนี้ เพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อสินค้าของคุณ โดยอาจแบ่งแยกการเลือกซื้อสินค้าให้ชัดเจนได้เป็น 2 ลักษณะ คือ หากคุณเน้นการใช้งานยังนอกสถานที่ ก็อาจจะต้องเลือกรุ่นที่ไม่มีเสาอากาศ เพื่อให้สามารถพกพาและใช้งานได้ง่ายดายและไม่เกะกะ หรือหากต้องการแค่ติดตั้งกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สำหรับจัดวางเพื่อใช้งานเฉพาะที่ก็อาจเลือกรุ่นที่มีเสาอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง

ตัวรับสัญญาณไวไฟคืออะไร

ตัวรับสัญญาณไวไฟยี่ห้อไหนดีน่าซื้อ

ตัวรับสัญญาณไวไฟเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก สำหรับการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์ ที่จะต้องเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi ให้ดีได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นเหมือนตัวช่วยแก้ปัญหาให้กับบางพื้นที่ ทั้งภายในบ้านหรือออฟฟิศที่มีข้อจำกัดบางส่วน จนทำให้อินเทอร์เน็ตไม่สามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง หรือสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีคุณภาพมากเพียงพอ ในการรับสัญญาณ Wi-Fi รูปแบบใหม่

โดยที่ตัวรับสัญญาณตัวนี้จะสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรงผ่านพอร์ตรูปแบบต่าง ๆ แบบไม่จำเป็นต้องวุ่นวายในการแกะหรือติดตั้งกับส่วนประกอบภายใน ทำให้เป็นส่วนเสริมของการใช้งานที่ดีอย่างมาก หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์ และต้องการประหยัดงบประมาณให้ได้มากที่สุด หรือการใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในกรณีที่ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และไม่มั่นใจว่าอุปกรณ์ของคุณจะสามารถรับเครือข่ายได้ดีหรือไม่ ส่วนหลักการทำงานก็จะเป็นรูปแบบเดียวกับเสาของเราว์เตอร์ไวไฟ ที่จะเป็นการใช้วัสดุรับสัญญาณที่มีคุณภาพสูง และส่งต่อไปยังอุปกรณ์ที่ถูกเชื่อมต่อกับพอร์ตนั่นเอง

บทสรุป ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี

ตัวรับสัญญาณไวไฟ ยี่ห้อไหนดี ที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ สำหรับคำตอบของคำถามนี้เราขอแนะนำ UGREEN 20204 ที่สามารถใช้งานได้กับทุกคลื่นความถี่ และมีราคาวางขายที่จับต้องได้ง่าย รวมไปถึงยังสมารถพกพาได้สะดวก และเหมาะสำหรับการนำไปใช้กับทุกพื้นที่ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนจำนวนมากในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากคุณต้องการเลือกดูสินค้าที่เหมาะสำหรับคุณให้ได้มากยิ่งขึ้น รุ่นอื่น ๆ ที่เราได้รวบรวมมาก็ถือเป็นสินค้าที่ดีอยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกัน โดยหากคุณต้องการหาอุปกรณ์สำหรับใช้งานร่วมกัน บนเว็บไซต์ของเราก็มีบทความเราเตอร์และ Pocket Wifi ที่ให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ด้วยเช่นกัน

Similar Posts