รีวิว 5 iPad รุ่นไหนดี ลงทุนคุ้มค่า น่ามีติดตัวไว้ใช้ ฉบับปี 2023
นอกจากการใช้งานมือถือ โน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ทั่วไปสำหรับเข้าสู่โลกออนไลน์แล้ว อีกอุปกรณ์ที่คนยุคใหม่ขาดไม่ได้คือแท็บเล็ต ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ยังไงก็ต้องเป็น Apple ที่ออก iPad มาให้ได้ใช้งานกัน และยอดฮิตไม่แพ้ iPhone เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าคุณคือคนที่กำลังวางแผนจะซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยี ชนิดนี้คงเกิดข้อสงสัยว่าควรเลือกซื้อ iPad รุ่นไหนดี มองแล้วตอบโจทย์ คุ้มค่า น่าลงทุนสุด ๆ ชอบรีวิว ขอรีวิว 5 รุ่น iPad พร้อมข้อมูลก่อนตัดสินใจมาฝาก
iPad รุ่นไหนดี
- Apple iPad Mini 5
- Apple iPad Air 10.9 นิ้ว Wi-Fi
- Apple iPad Pro 12.9 นิ้ว Wi-Fi 2020 (4th Gen)
- Apple iPad Pro 11 นิ้ว Wi-Fi (2021)
- Apple iPad Pro 12.9 นิ้ว Wi-Fi (2021)
- หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว Liquid Retina XDR คมชัดขั้นสุด
- ชิป M1 งานกราฟิกดี ประมวลผลเยี่ยมยอด
- กล้องหลัง Dual Camera กล้องหลักชัด 12 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide ชัด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล พร้อม TrueDepth
- รองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริม Apple รุ่นใหม่ล่าสุด
- ชิป M1 การันตีความแรงในการใช้งาน
- กล้องหลัง Dual Camera
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล พร้อม TrueDepth
- Thunderbolt ช่วยให้การเชื่อมต่อของคุณรวดเร็วกว่าเคย
- ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ Apple รุ่นใหม่ล่าสุดได้
รีวิว 5 iPad รุ่นไหนดี ตอบโจทย์โดนใจ น่าใช้งานมากที่สุด
เมื่อรู้จักกับ iPad แต่ละประเภท หรือแต่ละซีรี่ย์กันไปเรียบร้อยแล้ว จะเห็นว่าประเภทต่างกันก็มีลูกเล่น ฟีเจอร์ รวมถึงจุดเด่นที่เหมาะกับผู้ใช้งานต่างออกไปด้วย คราวนี้ลองมาดูว่าเมื่อคัดออกมาแล้วจะมี 5 iPad รุ่นไหนดี ที่ตอบโจทย์โดนใจ น่าใช้งานจนต้องรีบจับจองเป็นเจ้าของ แต่ละรุ่นที่คัดสรรมารับรองว่าไม่ผิดหวัง ซื้อแล้วคุ้มกับเงินทุกบาท
1. Apple iPad Mini 5
เริ่มต้นด้วยใครอยากซื้อ iPad รุ่นไหนดี ขนาดเล็ก พกพาง่าย ต้องไม่พลาด ขนาดหน้าจอ 7.9 นิ้ว Retina ภาพชัด สมจริง แม้มีขนาดเล็ก ชิป A12 Bionic ที่ยังคงทรงประสิทธิภาพ ใช้งานได้ลื่นไหล ระบบ Touch ID กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล พร้อม FaceTime HD ลำโพงสเตอริโอ แบตทนนาน 10 ชม. รองรับ Apple Pencil 1st Gen อีกด้วย
ใครเน้นการพกพาสะดวก ไม่ต้องมีลูกเล่นเยอะ ใช้ทำงาน พร้อมความบันเทิงพื้นฐาน รุ่นนี้จัดว่าเหมาะอย่างมากในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป ถือเป็นรุ่นน้องเล็กที่ทรงประสิทธิภาพมากทีเดียว
- หน้าจอเล็กเพียง 7.9 นิ้ว น้ำหนักเบา พกพาง่าย
- มีระบบ Touch ID
- กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล พร้อม FaceTime HD
- ลำโพงสเตอริโอ ฟังชัดสะใจ
- หน้าจอ Retina ภาพชัด ให้ความสมจริง
- ชิป A12 Bionic ประสิทธิภาพไม่สูงเท่ารุ่นอัปเดต
- กล้องหลังความชัดเพียง 8 ล้านพิกเซล
- รองรับแค่ Apple Pencil 1st Gen
2. Apple iPad Air 10.9 นิ้ว Wi-Fi
ต่อด้วย iPad รุ่นไหนดี น่าซื้อหามาใช้งาน นี่คืออีกตัวเลือกน่าสนใจ ขนาดหน้าจอ 10.9 นิ้ว แบบ Liquid Retina แสดงผลแบบ True Tone มีมุมมนเพิ่มความคมชัด สวยสะกดตา ชิป A14 Bionic พร้อม Neural Engine ทำงานลื่นไหล มีระบบ Touch ID ยืนยันตัวตน กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล และ FaceTime HD พูดคุยเห็นหน้ากันแบบคมชัด แบตอยู่ได้อึด 10 ชม. รองรับ Apple Pencil 2nd Gen, Magic Keyboard, Smart Keyboard
ใครกำลังมองหา iPad ราคากลาง ๆ ไม่แรงจนเกินไป แต่ฟังก์ชันต่าง ๆ ยังคงจัดเต็มโดนใจไม่เปลี่ยน เลือกซื้อรุ่นนี้จะช่วยให้คุณตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและเงินในกระเป๋าได้อย่างดีเยี่ยม
- หน้าจอ True Tone เพิ่มมุมมนได้ความคมชัด
- ชิป A14 Bionic พร้อม Neural Engine ทำงานลื่นไหล
- ระบบ Touch ID ยืนยันตัวตน
- กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล และ FaceTime HD
- รองรับอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ของ Apple
- ขนาดจอใหญ่กว่านี้ได้อีกในรุ่น Pro
- ไม่มีระบบ FaceID ปลดล็อกหน้าจอ
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องไม่ถึง 10 ชม.
3. Apple iPad Pro 12.9 นิ้ว Wi-Fi 2020 (4th Gen)
สำหรับ iPad รุ่นนี้ขยับเข้าสู่ซีรี่ย์ Pro แต่เป็นรุ่นที่เปิดตัวปี 2020 จัดเต็มหน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว แบบ Liquid Retina แสดงผลแบบ True Tone มีเทคโนโลยี Pro Motion ช่วยสร้างสีสันให้คมชัด หน้าจอสดใส ชิป A12 Z Bionic พร้อม Neural Engine กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซลพร้อม TrueDepth มีระบบ FaceID เพิ่มระดับความปลอดภัยในการปลดล็อก ระบบเสียง 4 ลำโพง ไมโครโฟนคุณภาพสตูดิโอ 5 ตัว ฟังหรือพูดก็ชัดเจน ใช้งานกับ Apple Pencil 2nd Gen และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้อย่างครบครัน แบตทนนาน 10 ชม.
ใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อ iPad รุ่นไหนดี แต่เล็งตระกลู Pro เอาไว้ นี่จัดเป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด ด้วยฟังก์ชันครบตรัน มาพร้อมกับฟีเจอร์จัดเต็มขนาดนี้ยังไงก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ซื้อแล้วคุ้มค่า
- หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว Liquid Retina Pro Motion ภาพชัดสวยคม
- กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซลพร้อม TrueDepth
- มีระบบ FaceID ปลอดภัยมากขึ้นอีกระดับ
- ระบบเสียงและลำโพงคุณภาพสูงมาก
- รองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ของ Apple
- ชิป A12 Z Bionic ยังไม่ใช่รุ่นอัปเดตล่าสุด
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องจริงอยู่ได้ไม่ถึง 10 ชม.
- วัสดุแบบเดียวกับรุ่น 2018 งอหักง่าย
4. Apple iPad Pro 11 นิ้ว Wi-Fi (2021)
ซื้อ iPad รุ่นไหนดี ถ้ากำลังมองหาซีรี่ย์ Pro ห้ามพลาด หน้าจอขนาด 11 นิ้ว Liquid Retina ให้ความคมชัด ชิป M1 ที่การันตีความแรง งานกราฟิกออกมาน่าประทับใจ กล้องหลัง Dual Camera ตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ส่วน Ultra-Wide 10 พิกเซล กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล พร้อม TrueDepth, Thunderbolt ช่วยให้การเชื่อมต่อของคุณรวดเร็วกว่าเคย ใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 2nd Gen, Magic Keyboard และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกครบครัน
ใครอยากได้ฟีเจอร์แบบเหนือ ๆ สุดล้ำไปกับการใช้งาน นี่คือรุ่นที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ความครบครันที่คุณสัมผัสด้วยตนเอง จัดเต็มทุกสิ่งที่คาดหวัง ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวมากกว่าใคร
- ชิป M1 การันตีความแรงในการใช้งาน
- กล้องหลัง Dual Camera
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล พร้อม TrueDepth
- Thunderbolt ช่วยให้การเชื่อมต่อของคุณรวดเร็วกว่าเคย
- ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ Apple รุ่นใหม่ล่าสุดได้
- ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ยังไม่ใหญ่ที่สุด
- ราคาสูงกว่าทุกรุ่นของ iPad
- ไม่รองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริม Apple รุ่นเก่า
5. Apple iPad Pro 12.9 นิ้ว Wi-Fi (2021)
ปิดท้ายสำหรับคนที่อยากได้ความสุดเมื่อมองหา iPad รุ่นไหนดี รุ่นนี้พร้อมจัดเต็มให้แบบไม่กั๊ก หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว Liquid Retina XDR ขั้นสุดแห่งความคมชัดทุกมิติ ชิป M1 งานกราฟิกดี ทำงานเร็วถึงใจ กล้อง Dual Camera กล้องหลักชัด 12 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 10 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล มาพร้อม TrueDepth ระบบ Thunderbolt เชื่อมต่อไวกว่าใคร รองรับการใช้งาน Apple Pencil 2nd Gen, Magic Keyboard และฟีเจอร์อื่นจัดเต็มให้ครบ
สำหรับใครที่มีเงินพอ หรือมองแล้วว่าตนเองต้องใช้งานสเปคสูง ๆ นี่คือ iPad ที่พร้อมตอบโจทย์คุณในทุกมิติที่คาดหวัง ภาพสวย งานกราฟิกดี จะใช้เพื่อความบันเทิงหรือทำงานรายละเอียดสูงก็หมดห่วง
- หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว Liquid Retina XDR คมชัดขั้นสุด
- ชิป M1 งานกราฟิกดี ประมวลผลเยี่ยมยอด
- กล้องหลัง Dual Camera กล้องหลักชัด 12 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide ชัด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล พร้อม TrueDepth
- รองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริม Apple รุ่นใหม่ล่าสุด
- ราคาแพงที่สุดในตระกูล iPad
- หากไม่ได้ใช้งานที่มีรายละเอียดสูงจะไม่คุ้มค่า
- ไม่รองรับอุปกรณ์เสริม Apple รุ่นเก่า
ประเภทการใช้งานของ iPad
ก่อนจะไปรู้ว่าควรเลือกซื้อ iPad รุ่นไหนดี มาทำความรู้จักกับประเภทของอุปกรณ์กันสักเล็กน้อย ปัจจุบันทาง Apple ได้วางประเภทของ iPad เอาไว้ทั้งสิ้น 4 แบบ ตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งมีจุดเด่นในภาพรวมแตกต่างกันออกไป
1. iPad
ประเภทแรกเป็นรุ่นธรรมดาที่ไม่ได้เน้นฟังก์ชันใด ๆ มากนัก จึงมีราคาถูกที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการนำไปใช้งานแบบพื้นฐาน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ค้นคว้าหาข้อมูล จดโน้ต หรือวาดรูปต่าง ๆ เพราะยังคงรองรับ Apple Pencil 1st Gen มีขนาดใหญ่ แม้ฟังก์ชันไม่ได้เยอะแต่เมื่อเทียบกับราคาถือว่าน่าซื้อติดตัวไว้ช้งานอยู่ไม่น้อยเลย
2. iPad Mini
ประเภทต่อมาจะมีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาตระกูล iPad ทั้งหมด น้ำหนักเบา เหมาะกับการพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ คนที่ต้องเดินทางบ่อย ไม่ค่อยอยู่กับบ้าน ออฟฟิศ จึงนิยมเลือกใช้งาน ฟังก์ชันก็พื้นฐานทั่วไปคล้ายกับแบบ iPad ไม่ได้ลูกเล่นเยอะแต่ตอบโจทย์เฉพาะทางสำหรับคนเดินทางมาก
3. iPad Air
ซื้อ iPad รุ่นไหนดี นี่เป็นรุ่นยอดฮิตที่หลายคนชอบมาก เพราะฟังก์ชันต่าง ๆ อัปเกรดได้ใกล้เคียงกับ iPad Pro แต่ราคายังถูกกว่าพอควร แม้ลูกเล่นบางส่วนจะถูกตัดออกไป แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนต้องใช้งานแบบจัดเต็มขนาดนั้นรุ่นนี้มองมุมไหนก็คุ้มค่า รองรับการใช้งาน Apple Pencil, Smart Keyboard ถือเป็นน้อง ๆ คอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊กที่คุณพกพาติดตัวไปได้ทุกที่อย่างง่ายดาย พร้อมฟีเจอร์ความบันเทิงครบสรรพ
4. iPad Pro
ตระกูลพี่ใหญ่และฟังก์ชันจัดเต็มมากที่สุด ใครที่ไม่แน่ใจจะซื้อ iPad รุ่นไหนดี แต่มีเงินแบบเหลือ ๆ มักล็อกเป้าเอาไว้ตลอด ฟีเจอร์ สเปคทุกอย่างมีให้ครบ จัดหนักทุกความต้องการ ระบบดี ไหลลื่น ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่เน้นทำงานในด้านกราฟิก หรืองานที่ต้องใช้ข้อมูลเยอะ รายละเอียดสูง แถมยังรองรับการใช้งาน Apple Pencil 2nd Gen ที่จัดเต็มลูกเล่นได้อีกเพียบ
สรุปรีวิวซื้อ iPad รุ่นไหนดี ลงทุนคุ้มค่า น่ามีไว้ใช้งาน
หลังจากได้ทำการรีวิวมาทั้งหมด 5 รุ่น 5 ซีรี่ย์ ของ iPad สำหรับคนที่สงสัยว่า iPad รุ่นไหนดี น่ามีไว้ใช้งาน ขอเลือก Apple iPad Pro 11 นิ้ว Wi-Fi (2021) ด้วยภาพรวมทั้งหมดนี่คือรุ่นตัวรองท็อปของ iPad Pro แตกต่างเพียงแค่ขนาดหน้าจอเล็กกว่านิดหน่อย
รวมถึงการแสดงผลหน้าจอ ที่เหลือฟังก์ชัน ฟีเจอร์ต่าง ๆ คือแบบเดียวกับรุ่นตัวท็อปทุกประการ ส่งผลให้มีราคาประหยัดกว่าเล็กน้อย ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าเอาไว้ซื้ออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ต่อ ใครมองหา iPad อยู่ในเวลานี้จัดไปได้เลย ไม่ผิดหวัง