คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี

คีย์บอร์ดไร้สาย เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีไร้สายที่มอบความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะสายคีย์บอร์ดมักกวนใจในการใช้งาน ซึ่งการใช้งานคีย์บอร์ดไร้สายในปัจจุบันมีความเสถียร และความรวดเร็วในการเชื่อมต่อเร็วกว่าเมื่อก่อน โดยมีการปรับปรุงเรื่องระบบเทคโนโลยี และอัปเดตระบบ Bluetooth เพื่อให้สามารถเข้าเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แล็บท็อบ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย

นอกจากนี้สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสะดวกและการใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นไอเทมที่สำคัญมาก เช่นเดียวกับเมาส์ไร้สาย ดังนั้นชอบรีวิวจะพาคุณไปดูกันว่า คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ที่มีคนนิยมซื้อไปใช้งานมากที่สุด ไปดูกันเลย

คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี

อันดับ 1
9.7
Apple Magic Keyboard – Thai
Apple Magic Keyboard – Thai
  • มีดีไซน์หรูหรา เรียบง่าย คล้ายแป้นพิมพ์ MacOS ทำให้ใช้งานพิมพ์สะดวก รวดเร็วไม่แพ้กัน
  • น้ำหนักเบา 230 กรัมเท่านั้น พกพาสะดวก พิมพ์งานในมือถือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • เชื่อมต่อระบบ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 5 เมตร
  • สามารถใช้งานควบคู่กับ iPhone iPad และ Mac
  • ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์
อันดับ 2
9.4
Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB
Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB
  • มี Software ในการใช้งาน คือ Logitch Option รองรับการทำงานที่หลากหลายและลื่นไหลมากขึ้น
  • รองรับการใช้งานทั้ง Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android
  • มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา มาพร้อมกับระบบเรืองแสงสวยงาม
  • ใช้งานแบบ Charging ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน
  • ใช้งานผ่าน USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร
  • มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
อันดับ 3
9
Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB
Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB
  • ดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ปุ่มมีลักษณะเหมือนพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย
  • ตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical ทรงกลมและเว้าลง กดได้สนุกมือและมีเสียงนุ่มนวล
  • รองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChormeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad
  • เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ โดยควบคุมการใช้งานผ่าน Easy Switch Mode
  • มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth

แนะนำ 5 อันดับ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024

เราได้รวบรวมข้อมูลคุณสมบัติ 5 อันดับ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ตัวไหนน่าใช้งาน เหมาะกับใช้ได้ต่อเนื่องระยะยาว ตอบโจทย์เรื่องความสะดวก มีความเสถียร และพกพาไปใช้งานยังนอกสถานที่ได้อีก มาดูพร้อมๆกันเลย

1. Apple Magic Keyboard – Thai

Apple Magic Keyboard - Thai
น้ำหนัก : 230 กรัม
รูปแบบการชาร์จ : ชาร์จโดยใช้สาย USB TYPE C To Lightning ใช้งานได้ 1 เดือนต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว
ระยะการเชื่อมต่อ :  การเชื่อมต่อ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อ 5 เมตร
อุปกรณ์ที่รองรับ :  iPhone iPad และ Mac

มาเริ่มต้น คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี อันดับแรกกับ Apple Magic Keyboard – Thai มีดีไซน์ลักษณะคล้ายกับแป้นพิมพ์บน Macbook เป็นอุปกรณ์เสริมที่พกพาง่าย ใช้เป็นแป้นพิมพ์ให้กับสมาร์ทโฟนหรือแล็บท็อบได้ มีน้ำหนักเบากว่าทุกยี่ห้อเพียง 230 กรัมเท่านั้น เหมาะสำหรับสายพิมพ์เอกสาร คุ้มค่าแก่การพกพาไปได้ทุกที่ ยิ่งคุณนำไปใช้กับ iPad ทำให้เสมือนใช้เครื่อง Macbook และรู้สึกพิมพ์ได้สนุกสนาน ถนัดมือ ทำงานได้ไวมากขึ้นอีกด้วย

มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อแบบ USB TYPE C To Lightning และสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 5 เมตร ส่วนการใช้งานไม่ต้องใช้ถ่านพลังงานแบตเตอรี่ในการใช้งาน โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ สามารถ Switch อุปกรณ์ได้อิสระ ลื่นไหล พร้อมกับเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด

จุดเด่น
  • มีดีไซน์หรูหรา เรียบง่าย คล้ายแป้นพิมพ์ MacOS ทำให้ใช้งานพิมพ์สะดวก รวดเร็วไม่แพ้กัน
  • น้ำหนักเบา 230 กรัมเท่านั้น พกพาสะดวก พิมพ์งานในมือถือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • เชื่อมต่อระบบ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 5 เมตร
  • สามารถใช้งานควบคู่กับ iPhone iPad และ Mac
  • ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์
จุดควรพิจารณา
  • หากใช้ในระบบปฏิบัติการ Windows และ Android การกดปุ่มอาจจะไม่ถนัดเท่าที่ควร
  • ต้องซื้อ Touchpad เพิ่มเติม
  • ไม่มีแถบปุ่ม Numpad

2. Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB 

Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB
น้ำหนัก : 500 กรัม
รูปแบบการชาร์จ : ใช้งานแบบ Charging ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน
ระยะการเชื่อมต่อ :  USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร
รองรับการใช้งาน : Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android 

อันดับสอง Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา มีน้ำหนัก 500 กรัม มาพร้อมกับระบบเรืองแสงสวยงาม และระบบตรวจจับแสงโดยรอบ เพื่อปรับความสว่างของไฟแบ็คไลท์อัตโนมัติ ทำให้คุณทำงานได้อย่างเพลิดเพลินมากขึ้น และมีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ เป็นต้น

ส่วนระบบเชื่อมต่อใช้งานผ่าน USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร เป็นการใช้งานแบบ Charging โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน และหากปิดไฟแบ็คไลท์นานสุด 5 เดือน และมีระบบ Software ชื่อว่า Logitch Option ทำให้การทำงานคุณลื่นไหลได้มากขึ้น โดยทำงานพิมพ์คอมเตอร์เครื่องหนึ่งเชื่อมต่อกับอีกเครื่องหนึ่งได้ และรองรับการใช้งานทั้ง Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android ได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • มี Software ในการใช้งาน คือ Logitch Option รองรับการทำงานที่หลากหลายและลื่นไหลมากขึ้น
  • รองรับการใช้งานทั้ง Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android
  • มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา มาพร้อมกับระบบเรืองแสงสวยงาม
  • ใช้งานแบบ Charging ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน
  • ใช้งานผ่าน USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร
  • มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
จุดควรพิจารณา
  • แป้นพิมพ์มีขนาดใหญ่ และน้ำหนัก 500 กรัม อาจทำให้พกพาไม่สะดวก
  • ไม่รองรับระบบ Touchpad
  • ไม่มีแถบปุ่ม Numpad

3. Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB

Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB
น้ำหนัก :  779 กรัม
รูปแบบการชาร์จ : แบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน ใช้งานได้สูงสุด 3 ปี
ระยะการเชื่อมต่อ : USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อ 3 เมตร
ระบบที่รองรับ : ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad 

มาต่อกันที่อันดับสาม คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB มีดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร มีน้ำหนัก 779 กรัม ซึ่งปุ่มมีลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย และตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical ทรงกลมและเว้าลง ให้คุณกดได้สนุกมือและนุ่มนวล และมีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ เป็นต้น

ส่วนระบบเชื่อมต่อใช้งานผ่าน USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร และต้องใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน โดย Logitech การันตีว่าสามารถใช้งานได้สูงสุด 3 ปีเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ โดยควบคุมการใช้งานผ่าน Easy Switch Mode ทำให้สลับอุปกรณ์ เพื่อใช้งานได้สะดวกสบาย อีกทั้งรองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad ได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • ดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ปุ่มมีลักษณะเหมือนพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย
  • ตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical ทรงกลมและเว้าลง กดได้สนุกมือและมีเสียงนุ่มนวล
  • รองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChormeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad
  • เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ โดยควบคุมการใช้งานผ่าน Easy Switch Mode
  • มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ 
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth
จุดควรพิจารณา
  • ตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical อาจมีเสียงดังกว่าคีย์บอร์ดปกติทั่วไป ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเงียบ
  • ใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน ทำให้คีย์บอร์ดไร้สายมีน้ำหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้น
    มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับพกพาออกไปใช้นอกสถานที่
    ไม่มีแถบปุ่ม Numpad

4. MOFii Bluetooth Keyboard Waffle

MOFii Bluetooth Keyboard Waffle
น้ำหนัก : 466 กรัม
รูปแบบการชาร์จ : แบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน
ระยะการเชื่อมต่อ : USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร
ระบบที่รองรับ : ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad

มาถึงคีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี อันดับรองสุดท้าย MOFii Bluetooth Keyboard Waffle มีดีไซน์ปุ่มลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย มีน้ำหนัก 466 กรัม เป็นคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาให้ลดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ประหยัดพื้นที่และมีพื้นที่ในการใช้งานโต๊ะมากขึ้น และมีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว โดยมีปุ่ม Shortcut รองรับการทำงานทุกระบบปฏิบัติการ

ส่วนระบบเชื่อมต่อใช้งานผ่าน USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตรและต้องใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน และรองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการ ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad ได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • คีย์บอร์ดที่ออกแบบมาให้ลดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ประหยัดพื้นที่ และมีพื้นที่ในการใช้งานโต๊ะมากขึ้น
  • รองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChormeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad
  • มีดีไซน์ปุ่มลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด รูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย
  • มีปุ่ม Shortcut รองรับการทำงานทุกระบบปฏิบัติการ
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth
จุดควรพิจารณา
  • ใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน ทำให้คีย์บอร์ดไร้สายมีน้ำหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้น
  • มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับพกพาออกไปใช้นอกสถานที่
    ไม่มีแถบปุ่ม Numpad

5. Microsoft Bluetooth Compact Keyboard Designer

Microsoft Bluetooth Compact Keyboard Designer
น้ำหนัก : 300 กรัม
รูปแบบการชาร์จ : แบตเตอรี่ลิเธียม ถ่านแบบเหรียญจำนวน 4 ก้อน
ระยะการเชื่อมต่อ : USB และ Bluetooth โดยมีเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ระยะ 3 เมตร
ระบบที่รองรับ : Windows

อันดับสุดท้าย คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี กับ Microsoft Bluetooth Compact Keyboard Designer มีดีไซน์ที่คล้ายกับ Magic Keyboard เรียบง่าย แต่หรูหรา ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ถ่านแบบเหรียญจำนวน 4 ก้อน มีน้ำหนัก 300 กรัม เหมาะกับใช้งานพิมพ์ เน้นความรวดเร็วในการพิมพ์เอกสาร ยิ่งใช้งานกับมือถือหรือแท็บเล็ต จะเห็นผลมากที่สุด เพราะคีย์บอร์ดพกพานำไปใช้งานที่ไหนก็ได้

ส่วนระบบเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth โดยมีเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้รวดเร็ว มีความเสถียรในการใช้งาน และมีคลื่นความถี่ระยะ 2.4GHz ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลเกิน 3 เมตร และเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ พร้อม Switch อุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหลด้วย Software ของ Microsoft โดยตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดคีย์บอร์ดในการใช้งานในตัว

จุดเด่น
  • มีเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้รวดเร็ว มีความเสถียรในการใช้งาน
  • มีคลื่นความถี่ระยะ 2.4GHz ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลเกิน 3 เมตร
  • มีดีไซน์ที่คล้ายกับ Magic Keyboard เรียบง่าย แต่หรูหรา
  • เหมาะกับใช้งานพิมพ์ เน้นความรวดเร็วในการพิมพ์
  • มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา 300 กรัม พกพาง่าย
จุดควรพิจารณา
  • แบตเตอรี่ลิเธียม ถ่านแบบเหรียญจำนวน 4 ก้อน ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
  • ใช้งานได้เพียงระบบ Windows เท่านั้น
  • ไม่รองรับระบบ MacOS, Android
  • ไม่มีแถบปุ่ม Numpad

คีย์บอร์ดไร้สาย คืออะไร

คีย์บอร์ดไร้สาย คือ เทคโนโลยีที่สามารถส่ง-รับสัญญาณ โดยใช้ USB และ Bluetooth เป็นตัวรับ-ส่งสัญญาณคีย์บอร์ดไปยังอุปกรณ์ที่ทำการเชื่อมต่ออย่าง สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้คุณได้รับความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องใช้สายในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ และประหยัดพื้นที่บนโต๊ะของคุณ ซึ่งได้รับพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น 

ดังนั้น คีย์บอร์ดบลูทูธก็จัดเป็นคีย์บอร์ดไร้สายเหมือนกัน โดยมีการทำงานผ่านระบบคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เช่น คีย์บอร์ดไร้สายรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth คลื่นความถี่ 2.4 GHz/ 5.0 GHz หมายความว่าคีย์บอร์ดของคุณสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลและใกล้ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้รวดเร็วและมีความเสถียรในการใช้งาน ทำให้คีย์บอร์ดไร้สายเป็นที่นิยมมากขึ้นนั่นเอง

ประเภทของคีย์บอร์ดไร้สาย มีอะไรบ้าง

คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ประเภท

1. Rubber Dome Keyboard

เป็นคีย์บอร์ดชนิดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีราคาถูกและอายุการใช้งานที่สั้น โดย Rubber Dome การทำงานของคีย์บอร์ดประเภทนี้ใช้ปุ่มยางเล็กๆใต้ปุ่ม แต่ละปุ่มเปิดปิดวงจรไฟฟ้าในตัว ซึ่งเมื่อกดปุ่มแป้นพิมพ์ลงไป แผ่นยางข้างใต้จะค่อยๆเด้งตัวกลับขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้งานได้รับสัมผัสที่ไม่สบาย และแผงวงจรเสื่อมได้ง่ายหากใช้เป็นเวลานานอีกด้วย

2. Mechanical Keyboard

คีย์บอร์ดประเภท Mechanical เหมาะสำหรับเล่นเกม เพราะปุ่มคีย์บอร์ดมีการใช้ Switch Pad ได้หลายแบบ สามารถปรับแต่งเองได้ตามที่ตัวเองชอบ ซึ่งส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดเป็น Mechanical Red Switch ทำให้มีการสัมผัสที่รวดเร็ว พร้อมกับเสียงนุ่มนวล ไม่ดังจนเกินไป มาพร้อมกับความคงทนที่เหมาะกับใช้เป็นเวลานาน

3. Semi-Mechanical Keyboard

เป็นประเภทคีย์บอร์ดเลือดผสมโดยการนำ Rubber Dome มารองใต้แผงวงจรหรือใต้ปุ่มคีย์บอร์ด และสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดได้เองเหมือนประเภท Mechanical ซึ่งทำให้ได้รีบสัมผัสที่ดี พร้อมกับปุ่มเด้งกลับขึ้นมาได้ทันที แต่ความทนทานไม่เท่ากับประเภท Mechanical 

ขนาดของคีย์บอร์ดไร้สาย มีอะไรบ้าง

คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ขนาด

1. Full-Size Keyboard

เป็นขนาดคีย์บอร์ดที่พบเห็นได้ทั่วไป คือ มีลักษณะยาวเต็มแผ่น มีครบทุกปุ่มตัวอักษร ลูกศร และมีปุ่มตัวเลข ที่เรียกว่าปุ่ม Numpad เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป

2. Ten-Key-less Keyboard

เป็นขนาดคีย์บอร์ดที่ตัดส่วนตัวเลข Numpad ออกไป ทำให้มีขนาดเล็กลง โต๊ะของคุณดูกว้างขึ้น เหมาะกับสายเกมเมอร์และสายทำงานที่ต้องการพื้นที่บนโต๊ะมากกว่าปกติ

3. Compact Keyboard

เป็นขนาดคีย์บอร์ดที่มีปุ่มชิดติดกัน แทบไม่เหลือช่องว่างบนคีย์บอร์ด โดยไร้แถบปุ่มตัวเลข Numpad เหมาะสมกับผู้ที่ชื่นชอบตกแต่งคีย์บอร์ด เพราะดูเรียบง่าย แต่หรูหรา และราคาแพงอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี

คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี วิธีเลือกซื้อ

1. ลักษณะการใช้งาน

การเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงคือ การนำไปใช้งาน เพราะคีย์บอร์ดไร้สายใช้งานได้หลากหลายทั้ง คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ ซึ่งคีย์บอร์ดบางยี่ห้อก็สามารถใช้งานได้ครบ แต่บางยี่ห้อก็ไม่รองรับมือถือเป็นต้น ดังนั้นควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณว่าใช้กับอุปกรณ์ใดเป็นหลัก เพื่อไม่เสียค่าใช้จ่ายไปเปล่าประโยชน์

2. ขนาดของคีย์บอร์ด


ขนาดของคีย์บอร์ดเป็นเรื่องสำคัญอีกเช่นกัน เพราะคีย์บอร์ดไร้สายต้องใช้พื้นที่บนโต๊ะ คุณควรตัดสินใจดูจากขนาดโดยรวมของตัวสินค้าเสียก่อน เพื่อให้คุณสามารถเลือกยี่ห้อที่จัดวางพื้นที่ได้อย่างสวยงาม ซึ่งช่วยให้พื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะทำงานของคุณเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

3. ความจุของแบตเตอรี่

สำหรับคีย์บอร์ดไร้สายมักถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบตเตอรี่จากถ่าน หรือการชาร์จ ซึ่งต้องดูให้ก่อนว่าคีย์บอร์ดที่คุณเลือกมาใช้ความจุแบตเตอรี่แบบใด เพื่อให้เตรียมรับมือได้ทันเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่แบตเตอรี่นั้นหมดไป ถ้าให้เราแนะนำควรเลือกคีย์บอร์ดที่ใช้ถ่านแบตเตอรี่แบบเหรียญ เพราะมีอายุการใช้งานยาวนาน และใช้งานได้นานอย่างต่ำ 1 ปี มีน้ำหนักเบาอีกด้วย

4. รองรับระบบปฏิบัติการ


การเลือกซื้อคีย์บอร์ดไร้สาย ต้องคำนึงว่าคีย์บอร์ดสามารถรองรับระบบปฏิบัติการอะไรได้บ้าง เช่น หากคุณใช้งาน MacOS แต่ซื้อคีย์บอร์ดที่ไม่สามารถรองรับ MacOS ได้ ทำให้คุณไม่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดที่รองรับอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน เพื่อความรวดเร็วในการเชื่อมต่อและมีความเสถียรในการใช้งาน

บทสรุปเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024 ให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

บทสรุปการเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024 เราขอแนะนำ Apple Magic Keyboard – Thai ที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งใช้สำหรับพิมพ์เอกสารโดยเฉพาะ และสามารถใช้งานบน MacOS และมือถือ iOS ได้อีกด้วย โดยมีดีไซน์ลักษณะคล้ายกับแป้นพิมพ์บน Macbook เป็นอุปกรณ์เสริมที่พกพาง่าย น้ำหนักเบาเพียง 230 กรัมเท่านั้น 

ทำให้พกพาสะดวกกว่ายี่ห้ออื่นๆ ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานได้สะดวกสบาย ยิ่งคุณนำไปใช้กับ iPad ทำให้เสมือนใช้เครื่อง Macbook และรู้สึกพิมพ์ได้สนุกสนาน ถนัดมือ ทำงานได้ไวมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งไม่ต้องใช้ถ่านพลังงานแบตเตอรี่ในการใช้งาน โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์และการใช้งาน จัดเป็นคีย์บอร์ดไร้สาย ที่คุ้มค่าแก่การพิมพ์งานและสะดวกแก่การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่อย่างแน่นอน

Similar Posts