คีย์บอร์ดไร้สาย เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีไร้สายที่มอบความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะสายคีย์บอร์ดมักกวนใจในการใช้งาน ซึ่งการใช้งานคีย์บอร์ดไร้สายในปัจจุบันมีความเสถียร และความรวดเร็วในการเชื่อมต่อเร็วกว่าเมื่อก่อน โดยมีการปรับปรุงเรื่องระบบเทคโนโลยี และอัปเดตระบบ Bluetooth เพื่อให้สามารถเข้าเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แล็บท็อบ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
นอกจากนี้สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสะดวกและการใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นไอเทมที่สำคัญมาก เช่นเดียวกับเมาส์ไร้สาย ดังนั้นชอบรีวิวจะพาคุณไปดูกันว่า คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ที่มีคนนิยมซื้อไปใช้งานมากที่สุด ไปดูกันเลย
คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี
- Apple Magic Keyboard – Thai
- Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB
- Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB
- MOFii Bluetooth Keyboard Waffle
- Microsoft Bluetooth Compact Keyboard Designer
- มีดีไซน์หรูหรา เรียบง่าย คล้ายแป้นพิมพ์ MacOS ทำให้ใช้งานพิมพ์สะดวก รวดเร็วไม่แพ้กัน
- น้ำหนักเบา 230 กรัมเท่านั้น พกพาสะดวก พิมพ์งานในมือถือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- เชื่อมต่อระบบ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 5 เมตร
- สามารถใช้งานควบคู่กับ iPhone iPad และ Mac
- ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์
- มี Software ในการใช้งาน คือ Logitch Option รองรับการทำงานที่หลากหลายและลื่นไหลมากขึ้น
- รองรับการใช้งานทั้ง Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android
- มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา มาพร้อมกับระบบเรืองแสงสวยงาม
- ใช้งานแบบ Charging ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน
- ใช้งานผ่าน USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร
- มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
- ดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ปุ่มมีลักษณะเหมือนพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย
- ตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical ทรงกลมและเว้าลง กดได้สนุกมือและมีเสียงนุ่มนวล
- รองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChormeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad
- เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ โดยควบคุมการใช้งานผ่าน Easy Switch Mode
- มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth
แนะนำ 5 อันดับ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024
เราได้รวบรวมข้อมูลคุณสมบัติ 5 อันดับ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ตัวไหนน่าใช้งาน เหมาะกับใช้ได้ต่อเนื่องระยะยาว ตอบโจทย์เรื่องความสะดวก มีความเสถียร และพกพาไปใช้งานยังนอกสถานที่ได้อีก มาดูพร้อมๆกันเลย
1. Apple Magic Keyboard – Thai
น้ำหนัก : 230 กรัม | |
รูปแบบการชาร์จ : ชาร์จโดยใช้สาย USB TYPE C To Lightning ใช้งานได้ 1 เดือนต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว | |
ระยะการเชื่อมต่อ : การเชื่อมต่อ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อ 5 เมตร | |
อุปกรณ์ที่รองรับ : iPhone iPad และ Mac |
มาเริ่มต้น คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี อันดับแรกกับ Apple Magic Keyboard – Thai มีดีไซน์ลักษณะคล้ายกับแป้นพิมพ์บน Macbook เป็นอุปกรณ์เสริมที่พกพาง่าย ใช้เป็นแป้นพิมพ์ให้กับสมาร์ทโฟนหรือแล็บท็อบได้ มีน้ำหนักเบากว่าทุกยี่ห้อเพียง 230 กรัมเท่านั้น เหมาะสำหรับสายพิมพ์เอกสาร คุ้มค่าแก่การพกพาไปได้ทุกที่ ยิ่งคุณนำไปใช้กับ iPad ทำให้เสมือนใช้เครื่อง Macbook และรู้สึกพิมพ์ได้สนุกสนาน ถนัดมือ ทำงานได้ไวมากขึ้นอีกด้วย
มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อแบบ USB TYPE C To Lightning และสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 5 เมตร ส่วนการใช้งานไม่ต้องใช้ถ่านพลังงานแบตเตอรี่ในการใช้งาน โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ สามารถ Switch อุปกรณ์ได้อิสระ ลื่นไหล พร้อมกับเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด
- มีดีไซน์หรูหรา เรียบง่าย คล้ายแป้นพิมพ์ MacOS ทำให้ใช้งานพิมพ์สะดวก รวดเร็วไม่แพ้กัน
- น้ำหนักเบา 230 กรัมเท่านั้น พกพาสะดวก พิมพ์งานในมือถือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- เชื่อมต่อระบบ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 5 เมตร
- สามารถใช้งานควบคู่กับ iPhone iPad และ Mac
- ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน
- รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์
- หากใช้ในระบบปฏิบัติการ Windows และ Android การกดปุ่มอาจจะไม่ถนัดเท่าที่ควร
- ต้องซื้อ Touchpad เพิ่มเติม
- ไม่มีแถบปุ่ม Numpad
2. Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB
น้ำหนัก : 500 กรัม | |
รูปแบบการชาร์จ : ใช้งานแบบ Charging ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน | |
ระยะการเชื่อมต่อ : USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร | |
รองรับการใช้งาน : Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android |
อันดับสอง Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboard Bluetooth USB มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา มีน้ำหนัก 500 กรัม มาพร้อมกับระบบเรืองแสงสวยงาม และระบบตรวจจับแสงโดยรอบ เพื่อปรับความสว่างของไฟแบ็คไลท์อัตโนมัติ ทำให้คุณทำงานได้อย่างเพลิดเพลินมากขึ้น และมีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ เป็นต้น
ส่วนระบบเชื่อมต่อใช้งานผ่าน USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร เป็นการใช้งานแบบ Charging โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน และหากปิดไฟแบ็คไลท์นานสุด 5 เดือน และมีระบบ Software ชื่อว่า Logitch Option ทำให้การทำงานคุณลื่นไหลได้มากขึ้น โดยทำงานพิมพ์คอมเตอร์เครื่องหนึ่งเชื่อมต่อกับอีกเครื่องหนึ่งได้ และรองรับการใช้งานทั้ง Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android ได้อีกด้วย
- มี Software ในการใช้งาน คือ Logitch Option รองรับการทำงานที่หลากหลายและลื่นไหลมากขึ้น
- รองรับการใช้งานทั้ง Windows MacOS Laptop และสมาร์ทโฟน iOS Android
- มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา มาพร้อมกับระบบเรืองแสงสวยงาม
- ใช้งานแบบ Charging ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 10 วัน
- ใช้งานผ่าน USB และ Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร
- มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
- แป้นพิมพ์มีขนาดใหญ่ และน้ำหนัก 500 กรัม อาจทำให้พกพาไม่สะดวก
- ไม่รองรับระบบ Touchpad
- ไม่มีแถบปุ่ม Numpad
3. Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB
น้ำหนัก : 779 กรัม | |
รูปแบบการชาร์จ : แบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน ใช้งานได้สูงสุด 3 ปี | |
ระยะการเชื่อมต่อ : USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อ 3 เมตร | |
ระบบที่รองรับ : ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad |
มาต่อกันที่อันดับสาม คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี Logitech POP Keys Mechanical Wireless Keyboard Bluetooth USB มีดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร มีน้ำหนัก 779 กรัม ซึ่งปุ่มมีลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย และตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical ทรงกลมและเว้าลง ให้คุณกดได้สนุกมือและนุ่มนวล และมีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ เป็นต้น
ส่วนระบบเชื่อมต่อใช้งานผ่าน USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร และต้องใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน โดย Logitech การันตีว่าสามารถใช้งานได้สูงสุด 3 ปีเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ โดยควบคุมการใช้งานผ่าน Easy Switch Mode ทำให้สลับอุปกรณ์ เพื่อใช้งานได้สะดวกสบาย อีกทั้งรองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad ได้อีกด้วย
- ดีไซน์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ปุ่มมีลักษณะเหมือนพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย
- ตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical ทรงกลมและเว้าลง กดได้สนุกมือและมีเสียงนุ่มนวล
- รองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChormeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad
- เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ โดยควบคุมการใช้งานผ่าน Easy Switch Mode
- มีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว เช่น เปิด-ปิดไมโครโฟน, อิโมจิ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth
- ตัวปุ่มคีย์บอร์ดเป็นรูปแบบ Mechanical อาจมีเสียงดังกว่าคีย์บอร์ดปกติทั่วไป ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเงียบ
- ใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน ทำให้คีย์บอร์ดไร้สายมีน้ำหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้น
มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับพกพาออกไปใช้นอกสถานที่
ไม่มีแถบปุ่ม Numpad
4. MOFii Bluetooth Keyboard Waffle
น้ำหนัก : 466 กรัม | |
รูปแบบการชาร์จ : แบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน | |
ระยะการเชื่อมต่อ : USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตร | |
ระบบที่รองรับ : ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad |
มาถึงคีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี อันดับรองสุดท้าย MOFii Bluetooth Keyboard Waffle มีดีไซน์ปุ่มลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด แต่มีรูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย มีน้ำหนัก 466 กรัม เป็นคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาให้ลดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ประหยัดพื้นที่และมีพื้นที่ในการใช้งานโต๊ะมากขึ้น และมีปุ่มพิเศษอัจฉริยะในตัว โดยมีปุ่ม Shortcut รองรับการทำงานทุกระบบปฏิบัติการ
ส่วนระบบเชื่อมต่อใช้งานผ่าน USB Bluetooth มีระยะเชื่อมต่อไกลสุด 3 เมตรและต้องใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน และรองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการ ChromeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad ได้อีกด้วย
- คีย์บอร์ดที่ออกแบบมาให้ลดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ทำให้ประหยัดพื้นที่ และมีพื้นที่ในการใช้งานโต๊ะมากขึ้น
- รองรับทุกระบบปฏิบัติการ ChormeOS, Windows, Android, MacOS และมือถือ iOS iPad
- มีดีไซน์ปุ่มลักษณะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด รูปทรงน่ารัก ดูทันสมัย
- มีปุ่ม Shortcut รองรับการทำงานทุกระบบปฏิบัติการ
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth
- ใช้พลังงานจากถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน ทำให้คีย์บอร์ดไร้สายมีน้ำหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้น
- มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับพกพาออกไปใช้นอกสถานที่
ไม่มีแถบปุ่ม Numpad
5. Microsoft Bluetooth Compact Keyboard Designer
น้ำหนัก : 300 กรัม | |
รูปแบบการชาร์จ : แบตเตอรี่ลิเธียม ถ่านแบบเหรียญจำนวน 4 ก้อน | |
ระยะการเชื่อมต่อ : USB และ Bluetooth โดยมีเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ระยะ 3 เมตร | |
ระบบที่รองรับ : Windows |
อันดับสุดท้าย คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี กับ Microsoft Bluetooth Compact Keyboard Designer มีดีไซน์ที่คล้ายกับ Magic Keyboard เรียบง่าย แต่หรูหรา ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ถ่านแบบเหรียญจำนวน 4 ก้อน มีน้ำหนัก 300 กรัม เหมาะกับใช้งานพิมพ์ เน้นความรวดเร็วในการพิมพ์เอกสาร ยิ่งใช้งานกับมือถือหรือแท็บเล็ต จะเห็นผลมากที่สุด เพราะคีย์บอร์ดพกพานำไปใช้งานที่ไหนก็ได้
ส่วนระบบเชื่อมต่อผ่าน USB และ Bluetooth โดยมีเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้รวดเร็ว มีความเสถียรในการใช้งาน และมีคลื่นความถี่ระยะ 2.4GHz ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลเกิน 3 เมตร และเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ พร้อม Switch อุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหลด้วย Software ของ Microsoft โดยตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดคีย์บอร์ดในการใช้งานในตัว
- มีเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้รวดเร็ว มีความเสถียรในการใช้งาน
- มีคลื่นความถี่ระยะ 2.4GHz ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลเกิน 3 เมตร
- มีดีไซน์ที่คล้ายกับ Magic Keyboard เรียบง่าย แต่หรูหรา
- เหมาะกับใช้งานพิมพ์ เน้นความรวดเร็วในการพิมพ์
- มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา 300 กรัม พกพาง่าย
- แบตเตอรี่ลิเธียม ถ่านแบบเหรียญจำนวน 4 ก้อน ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
- ใช้งานได้เพียงระบบ Windows เท่านั้น
- ไม่รองรับระบบ MacOS, Android
- ไม่มีแถบปุ่ม Numpad
คีย์บอร์ดไร้สาย คืออะไร
คีย์บอร์ดไร้สาย คือ เทคโนโลยีที่สามารถส่ง-รับสัญญาณ โดยใช้ USB และ Bluetooth เป็นตัวรับ-ส่งสัญญาณคีย์บอร์ดไปยังอุปกรณ์ที่ทำการเชื่อมต่ออย่าง สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้คุณได้รับความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องใช้สายในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ และประหยัดพื้นที่บนโต๊ะของคุณ ซึ่งได้รับพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น
ดังนั้น คีย์บอร์ดบลูทูธก็จัดเป็นคีย์บอร์ดไร้สายเหมือนกัน โดยมีการทำงานผ่านระบบคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เช่น คีย์บอร์ดไร้สายรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth คลื่นความถี่ 2.4 GHz/ 5.0 GHz หมายความว่าคีย์บอร์ดของคุณสามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลและใกล้ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้รวดเร็วและมีความเสถียรในการใช้งาน ทำให้คีย์บอร์ดไร้สายเป็นที่นิยมมากขึ้นนั่นเอง
ประเภทของคีย์บอร์ดไร้สาย มีอะไรบ้าง
1. Rubber Dome Keyboard
เป็นคีย์บอร์ดชนิดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีราคาถูกและอายุการใช้งานที่สั้น โดย Rubber Dome การทำงานของคีย์บอร์ดประเภทนี้ใช้ปุ่มยางเล็กๆใต้ปุ่ม แต่ละปุ่มเปิดปิดวงจรไฟฟ้าในตัว ซึ่งเมื่อกดปุ่มแป้นพิมพ์ลงไป แผ่นยางข้างใต้จะค่อยๆเด้งตัวกลับขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้งานได้รับสัมผัสที่ไม่สบาย และแผงวงจรเสื่อมได้ง่ายหากใช้เป็นเวลานานอีกด้วย
2. Mechanical Keyboard
คีย์บอร์ดประเภท Mechanical เหมาะสำหรับเล่นเกม เพราะปุ่มคีย์บอร์ดมีการใช้ Switch Pad ได้หลายแบบ สามารถปรับแต่งเองได้ตามที่ตัวเองชอบ ซึ่งส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดเป็น Mechanical Red Switch ทำให้มีการสัมผัสที่รวดเร็ว พร้อมกับเสียงนุ่มนวล ไม่ดังจนเกินไป มาพร้อมกับความคงทนที่เหมาะกับใช้เป็นเวลานาน
3. Semi-Mechanical Keyboard
เป็นประเภทคีย์บอร์ดเลือดผสมโดยการนำ Rubber Dome มารองใต้แผงวงจรหรือใต้ปุ่มคีย์บอร์ด และสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดได้เองเหมือนประเภท Mechanical ซึ่งทำให้ได้รีบสัมผัสที่ดี พร้อมกับปุ่มเด้งกลับขึ้นมาได้ทันที แต่ความทนทานไม่เท่ากับประเภท Mechanical
ขนาดของคีย์บอร์ดไร้สาย มีอะไรบ้าง
1. Full-Size Keyboard
เป็นขนาดคีย์บอร์ดที่พบเห็นได้ทั่วไป คือ มีลักษณะยาวเต็มแผ่น มีครบทุกปุ่มตัวอักษร ลูกศร และมีปุ่มตัวเลข ที่เรียกว่าปุ่ม Numpad เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป
2. Ten-Key-less Keyboard
เป็นขนาดคีย์บอร์ดที่ตัดส่วนตัวเลข Numpad ออกไป ทำให้มีขนาดเล็กลง โต๊ะของคุณดูกว้างขึ้น เหมาะกับสายเกมเมอร์และสายทำงานที่ต้องการพื้นที่บนโต๊ะมากกว่าปกติ
3. Compact Keyboard
เป็นขนาดคีย์บอร์ดที่มีปุ่มชิดติดกัน แทบไม่เหลือช่องว่างบนคีย์บอร์ด โดยไร้แถบปุ่มตัวเลข Numpad เหมาะสมกับผู้ที่ชื่นชอบตกแต่งคีย์บอร์ด เพราะดูเรียบง่าย แต่หรูหรา และราคาแพงอีกด้วย
วิธีเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี
1. ลักษณะการใช้งาน
การเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงคือ การนำไปใช้งาน เพราะคีย์บอร์ดไร้สายใช้งานได้หลากหลายทั้ง คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ ซึ่งคีย์บอร์ดบางยี่ห้อก็สามารถใช้งานได้ครบ แต่บางยี่ห้อก็ไม่รองรับมือถือเป็นต้น ดังนั้นควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณว่าใช้กับอุปกรณ์ใดเป็นหลัก เพื่อไม่เสียค่าใช้จ่ายไปเปล่าประโยชน์
2. ขนาดของคีย์บอร์ด
ขนาดของคีย์บอร์ดเป็นเรื่องสำคัญอีกเช่นกัน เพราะคีย์บอร์ดไร้สายต้องใช้พื้นที่บนโต๊ะ คุณควรตัดสินใจดูจากขนาดโดยรวมของตัวสินค้าเสียก่อน เพื่อให้คุณสามารถเลือกยี่ห้อที่จัดวางพื้นที่ได้อย่างสวยงาม ซึ่งช่วยให้พื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะทำงานของคุณเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
3. ความจุของแบตเตอรี่
สำหรับคีย์บอร์ดไร้สายมักถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบตเตอรี่จากถ่าน หรือการชาร์จ ซึ่งต้องดูให้ก่อนว่าคีย์บอร์ดที่คุณเลือกมาใช้ความจุแบตเตอรี่แบบใด เพื่อให้เตรียมรับมือได้ทันเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่แบตเตอรี่นั้นหมดไป ถ้าให้เราแนะนำควรเลือกคีย์บอร์ดที่ใช้ถ่านแบตเตอรี่แบบเหรียญ เพราะมีอายุการใช้งานยาวนาน และใช้งานได้นานอย่างต่ำ 1 ปี มีน้ำหนักเบาอีกด้วย
4. รองรับระบบปฏิบัติการ
การเลือกซื้อคีย์บอร์ดไร้สาย ต้องคำนึงว่าคีย์บอร์ดสามารถรองรับระบบปฏิบัติการอะไรได้บ้าง เช่น หากคุณใช้งาน MacOS แต่ซื้อคีย์บอร์ดที่ไม่สามารถรองรับ MacOS ได้ ทำให้คุณไม่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดที่รองรับอุปกรณ์ที่คุณใช้งาน เพื่อความรวดเร็วในการเชื่อมต่อและมีความเสถียรในการใช้งาน
บทสรุปเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024 ให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
บทสรุปการเลือกซื้อ คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2024 เราขอแนะนำ Apple Magic Keyboard – Thai ที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งใช้สำหรับพิมพ์เอกสารโดยเฉพาะ และสามารถใช้งานบน MacOS และมือถือ iOS ได้อีกด้วย โดยมีดีไซน์ลักษณะคล้ายกับแป้นพิมพ์บน Macbook เป็นอุปกรณ์เสริมที่พกพาง่าย น้ำหนักเบาเพียง 230 กรัมเท่านั้น
ทำให้พกพาสะดวกกว่ายี่ห้ออื่นๆ ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานได้สะดวกสบาย ยิ่งคุณนำไปใช้กับ iPad ทำให้เสมือนใช้เครื่อง Macbook และรู้สึกพิมพ์ได้สนุกสนาน ถนัดมือ ทำงานได้ไวมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งไม่ต้องใช้ถ่านพลังงานแบตเตอรี่ในการใช้งาน โดยชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้ได้นานสุดเกือบ 1 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์และการใช้งาน จัดเป็นคีย์บอร์ดไร้สาย ที่คุ้มค่าแก่การพิมพ์งานและสะดวกแก่การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่อย่างแน่นอน