ไมค์อัดเสียง-ยี่ห้อไหนดี

รีวิวแนะนำ 5 อันดับ ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เสียงคุณภาพ น่าฟัง

ไมค์อัดเสียง ถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบันทึกเสียงให้มีคุณภาพและมีเสียงคมชัด เหมาะสำหรับใช้ในการทำ Video Content เพื่ออัปโหลดลง Youtube หรือนำไปใช้สำหรับร้องเพลง เล่นเกม และพูดคุย ประชุมออนไลน์ เป็นต้น

ซึ่งส่งผลให้เสียงของคุณมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และเสียงคมชัดน่าฟัง โดยวันนี้เราชอบรีวิวมาแนะนำ ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 ที่มีเสียงคุณภาพ น่าฟัง น่าใช้งาน มาดูกันเลยสำหรับ Youtuber ไม่ว่าจะมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ การเลือก กล้อง Mirrorless ดีๆสักตัว มาถ่ายวีดีโอทำเป็นอาชีพเสริมก็เป็นไดเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียว 

ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี

อันดับ 1
FANTECH Leviosa MCX01
FANTECH Leviosa MCX01
  • การรับเสียงรูปแบบ Cardioid Polar Pattern ช่วยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าตัวไมค์ ทำให้มีเสียงพูดที่คมชัด เสียงใส น่าฟัง
  • การตอบสนองต่อเสียงมีความถี่กว้างตั้งแต่ 20Hz-20,000Hz ใช้งานได้หลากหลายประเภท
  • ระบบเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B เชื่อมต่อง่าย ใช้ได้ทุกอุปกรณ์
  • มีปุ่มฟังก์ชั่นใช้งานได้สะดวกมากขึ้นเช่น เปิด-ปิด, ปรับเสียงเอฟเฟค
  • ดีไซน์สวยงาม ดูหรูหรา และมีน้ำหนักเบาเพียง 252 กรัมเท่านั้น
อันดับ 2
Signo Condenser MP-701
Signo Condenser MP-701
  • มีตัว Shock Mount ทำให้ปรับความสูง ปรับระยะของไมค์ให้เหมาะกับการใช้งานได้อิสระ
  • การตอบสนองต่อเสียงมีความถี่กว้างตั้งแต่ 20Hz-20,000Hz ใช้งานได้หลากหลายประเภท
  • มีตัวกันลมที่ช่วยลดเสียงกระแทกจากการหายใจ ทำให้มีเสียงที่คมชัด เสียงใส น่าฟัง
  • เหมาะกับร้องเพลง บันทึกเสียงเพลง หรืออัดเสียงลงคลิป Video อย่างมาก
อันดับ 3
HyperX QuadCast
HyperX QuadCast
  • ปรับรูปแบบในการรับเสียงเข้ามาได้ถึง 4 รูปแบบอย่าง Stereo, Cardioid, รอบทิศทาง และสองทิศทาง
  • ดีไซน์หรูหรา น่าใช้งาน มีไฟ RGB เพิ่มความบันเทิงสีสันได้ดี
  • มีฟังก์ชั่นในการใช้งานรอบด้าน โดยมีสวิตซ์ด้านหลังไมค์
  • มีคลื่นความถี่ในการรับเสียง 20Hz-20,000Hz 

แนะนำ 5 อันดับ ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี 2024

หากคุณกำลังมองหาไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดีสักตัว และไม่รู้เลือกไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราชอบรีวิวได้รวบรวมข้อมูลไมค์อัดเสียงที่ขายอยู่บนตลาด มีคุณสมบัติให้เสียงคุณภาพ เสียงใส น่าฟัง ให้คุณได้พิจารณาเลือกซื้อได้ตามความต้องการของคุณ ดังนั้นไปดูกันเลยว่ามีไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง

1. FANTECH Leviosa MCX01

FANTECH Leviosa MCX01

เริ่มต้นด้วยอันดับแรก ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี FANTECH Leviosa MCX01 เป็นไมค์อัดเสียงมีดีไซน์สวยงาม ดูหรูหรา และออกแบบมาสำหรับใช้งานอัดเสียงร้องเพลง, สตรีมเกม, ไลฟ์สด หรือทำคลิปลง Youtube มีน้ำหนัก 252 กรัม และมีปุ่มมากมายบนไมค์อัดเสียงอย่าง เปิด-ปิด, ปรับเสียงเอฟเฟค เป็นต้น

มาพร้อมความถี่ของเสียงในระดับ 20Hz-20,000Hz และระบบเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B โดยมีรูปแบบการรับเสียงจากด้านหน้าไมค์อัดเสียงอย่าง Cardioid Polar Pattern คือลดเสียงที่อาจเข้ามาแทรกที่อยู่หลังตัวรับเสียง โดยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้ามาที่ตัวไมค์ ทำให้ได้รับเสียงพูดคมชัด มีคุณภาพ

จุดเด่น
  • การรับเสียงรูปแบบ Cardioid Polar Pattern ช่วยลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าตัวไมค์ ทำให้มีเสียงพูดที่คมชัด เสียงใส น่าฟัง
  • การตอบสนองต่อเสียงมีความถี่กว้างตั้งแต่ 20Hz-20,000Hz ใช้งานได้หลากหลายประเภท
  • ระบบเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B เชื่อมต่อง่าย ใช้ได้ทุกอุปกรณ์
  • มีปุ่มฟังก์ชั่นใช้งานได้สะดวกมากขึ้นเช่น เปิด-ปิด, ปรับเสียงเอฟเฟค
  • ดีไซน์สวยงาม ดูหรูหรา และมีน้ำหนักเบาเพียง 252 กรัมเท่านั้น
จุดควรพิจารณา
  • รับเสียงได้เพียงด้านหน้าไมค์เท่านั้น

2. Signo Condenser MP-701

Signo Condenser MP-701

ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดีอันดับสอง Signo Condensor MP-701 มาพร้อมกับขายึดโต๊ะ(Shock Mount) สามารถปรับระยะ ปรับมุมและยึดไมค์อัดเสียงได้ และมีตัวกันลม เพื่อลดเสียงกระแทกจากการหายใจ ได้เสียงที่คมชัดมากขึ้น มีความเป็นมืออาชีพสูง เหมาะกับร้องเพลง อัดเสียง อย่างมาก

มีคลื่นความถีในการรับเสียง 20Hz-20,000Hz โดยสามารถปรับระดับเสียงบนตัวไมค์ได้ และระบบเชื่อมต่อแบบ Plug&Play เป็นรูปแบบช่องเสียบ 3.5mm หรือที่เรียกว่าช่องเสียบ JACK อีกทั้งมีรูปแบบการรับเสียงจากด้านหน้าไมค์อัดเสียงอย่าง Uni-directional คือเสียงเข้ามาด้านหน้าไมค์ทางเดียว ทำให้เปล่งเสียงออกมาได้ชัดเจน น่าฟัง

จุดเด่น
  • มีตัว Shock Mount ทำให้ปรับความสูง ปรับระยะของไมค์ให้เหมาะกับการใช้งานได้อิสระ
  • การตอบสนองต่อเสียงมีความถี่กว้างตั้งแต่ 20Hz-20,000Hz ใช้งานได้หลากหลายประเภท
  • มีตัวกันลมที่ช่วยลดเสียงกระแทกจากการหายใจ ทำให้มีเสียงที่คมชัด เสียงใส น่าฟัง
  • เหมาะกับร้องเพลง บันทึกเสียงเพลง หรืออัดเสียงลงคลิป Video อย่างมาก
จุดควรพิจารณา
  • ช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5mm อาจใช้งานได้ไม่ครอบคลุมอุปกรณ์

3. HyperX QuadCast

HyperX QuadCast

ไมค์อัดเสียงที่มีคุณภาพ การันตีด้วยแบรนด์ HyperX ซึ่งไมค์อัดเสียง HyperX QuadCast มีฟังก์ชั่นในการใช้งานรอบด้าน โดยมีสวิตซ์ด้านหลังไมค์ใช้สำหรับปรับรูปแบบในการรับเสียงเข้ามาได้ถึง 4 รูปแบบอย่าง Stereo, Cardioid, รอบทิศทาง และสองทิศทาง เป็นต้น ทำให้ปรับเสียงให้เหมาะกับประเภทการใช้งานได้ทุกรูปแบบเช่น Podcast, เล่นเกม, ประชุมหลายๆคน เป็นต้น

มาพร้อมกับดีไซน์หรูหรา น่าใช้งาน มีไฟ RGB เพิ่มความบันเทิงสีสันให้กับการเป็นสตรีมเมอร์หรือไลฟ์สดได้ดี และมีคลื่นความถี่ในการรับเสียง 20Hz-20,000Hz อีกทั้งรูปแบบการเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B และรองรับการใช้งานบน PC, Playstation, MacOS

จุดเด่น
  • ปรับรูปแบบในการรับเสียงเข้ามาได้ถึง 4 รูปแบบอย่าง Stereo, Cardioid, รอบทิศทาง และสองทิศทาง
  • ดีไซน์หรูหรา น่าใช้งาน มีไฟ RGB เพิ่มความบันเทิงสีสันได้ดี
  • มีฟังก์ชั่นในการใช้งานรอบด้าน โดยมีสวิตซ์ด้านหลังไมค์
  • มีคลื่นความถี่ในการรับเสียง 20Hz-20,000Hz 
จุดควรพิจารณา
  • เนื่องจากสเปกในการรับเสียงดี อาจทำให้ผู้รับฟังได้รับเสียงอื่นๆได้ง่าย เช่น พัดลม เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

4. MAONO AU-A04T

MAONO AU-A04T

ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดีอันดับรองสุดท้ายกับ  MAONO AU-A04T มีดีไซน์เรียบง่าย น่าใช้งาน ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายเช่น Podcast, เล่นเกม, พูดคุยในที่ประชุม และอัดเสียงร้องเพลง เล่นเพลงได้ดี มีความเป็นมืออาชีพสูง และมีตัวกันลม เพื่อลดเสียงกระแทกจากการหายใจ ได้เสียงที่คมชัดมากขึ้น

มีคลื่นความถีในการรับเสียง 30Hz-16,000Hz และมีรูปแบบการรับเสียงจากด้านหน้าไมค์อัดเสียงอย่าง Cardioid ลดเสียงรบกวนที่อาจเข้ามายังตัวไมค์ได้ดี อีกทั้งมีระบบเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B ทำให้ Plug&Play ใช้งานได้ทันที

จุดเด่น
  • รูปแบบการรับเสียงจากด้านหน้าไมค์อัดเสียงอย่าง Cardioid ลดเสียงรบกวนที่อาจเข้ามายังตัวไมค์ได้ดี
  • ใช้งานได้หลายประเภท เช่น Podcast, เล่นเกม, พูดคุยในที่ประชุม และอัดเสียงร้องเพลง
  • ระบบเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B ทำให้ Plug&Play ใช้งานได้ทันที
  • ดีไซน์เรียบง่าย ดูทันสมัย
จุดควรพิจารณา
  • รองรับช่วงความถี่ของเสียงไม่ถึง 20,000Hz น้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ

5. Boya BY-M1

Boya BY-M1

มาถึงอันดับสุดท้ายกับไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี Boya BY-M1 เป็นไมค์อัดเสียงที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอัดเสียง เพราะใช้ติดตั้งกับโต๊ะเพื่ออัดเสียง พูดคุย เล่นเกม หรือนำไปหนีบปกเสื้อ เพื่อใช้ในการถ่าย Vlog ลง Youtube ก็ได้เช่นกัน

มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนได้ รองรับการเชื่อมต่อแบบ 3.5mm ใช้งานกับสมาร์ทโฟน และกล้อง DSLR อีกทั้งมีรูปแบบการรับเสียงอย่าง Omni Directional ซึ่งรับเสียงได้รอบทิศทาง 360องศา โดยรองรับคลื่นความถี่ของเสียง 65Hz-16,000Hz

จุดเด่น
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ไมค์อัดเสียง เพราะมีราคาถูก ใช้งานง่าย
  • ใช้งานกับสมาร์ทโฟน และกล้อง DSLR
  • รับเสียงได้รอบทิศทาง 360 องศา
  • มีระบบตัดเสียงรบกวน
จุดควรพิจารณา
  • สายมีความยาวจนเกินไป นำไปใช้งานนอกสถานที่อาจทำให้เกะกะได้
  • รองรับช่วงความถี่ของเสียงไม่ถึง 20,000Hz น้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ

ประเภทของ ไมค์อัดเสียง ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง

ไปทำความรู้กันพร้อมๆกันว่า ไมโครโฟน ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมีกี่ประเภท เพื่อนำไปพิจารณาเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งาน

ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี

Microphone Condenser

ในปัจจุบัน Microphone Condenser เป็นไมค์อัดเสียงที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะนี้ เพราะมีการรับคลื่นความถี่ของเสียงได้ชัด มักใช้ไมค์อัดเสียงที่รับความถี่ได้ตั้งแต่ 20Hz ถึง 20,000Hz ซึ่งทำให้ได้รับเสียงที่มั่นคง มีคุณภาพ และรองรับการใช้งานได้หลากหลายเช่น เล่นเกม, อัดเสียงเพลง, ไลฟ์สดพูดคุย และนำไปประชุมออนไลน์ เป็นต้น โดยเหมาะกับใช้งานในสถานที่ปิด เช่น ห้องทำงาน, ห้องเล่นเกม, ห้องอัดเสียง ทำให้เสียงมีคุณภาพ ตัดเสียงรบกวนได้ดีอีกด้วย

Microphone Dynamic

เป้นไมค์โครโฟนที่เน้นใช้ในสถานที่สาธารณะ เช่นนักร้อง, นักพากย์เสียงในรายการจอทีวี โดยมีจุดเด่นในเรื่องตัดเสียงรบกวนได้ดี เนื่องจากใช้งานนอกสถานที่ จึงมีระบบตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าปกติ แต่นำไปใช้งานให้เข้ากับประเภทการใช้งานได้น้อย เพราะรับคลื่นความเถียงได้แคบ ไม่ถึง 20,000Hz ไม่เหมาะกับใช้ในสถานที่ปิด ทำให้เสียงไม่มีคุณภาพ ไม่คมชัด หรือเสียงแตกได้นั่นเอง

รูปแบบการรับเสียงของไมค์อัดเสียง มีกี่รูปแบบ

ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี น่าสนใจ

1. Cardioid Directional

มีความสามารถในการรับเสียงจากทิศทางด้านหน้าไมค์ได้ดีที่สุด ซึ่งเป็นรูปแบบการรับเสียงที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุด เหมาะกับใช้งานได้ทุกประเภท เช่น งานประชาสัมพันธ์, งานประชุมออนไลน์, เล่นเกม, อัดเพลงในห้องสตูดิโอ เป็นต้น

2. Omni Directional

มีความสามารถในการรับเสียงได้ในแบบรอบทิศทาง มีความถี่ในการรับเสียงที่กว้าง อาจทำให้รับเสียงค่อนข้างไว ไม่เหมาะกับใช้งานเล่นเกมหรือสตรีมเมอร์ เพราะอาจทำให้ได้รับเสียงจากการคลิกเมาส์, คีย์บอร์ด เป็นต้น ดังนั้นหมาะกับใช้บันทึกเสียงการอ่าน, การร้องเพลงมากที่สุด

3. Bi-Directional

มีความสามารถในการรับเสียงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีรูปแบบ 90 องศา เหมาะกับใช้งานในการเล่นดนตรีที่ต้องการให้ได้ยินเสียงดนตรี พร้อมเสียงร้องเพลง พบเห็นได้ตามสถานที่ร้านอาหารที่มีนักร้องเล่นดนตรีและร้องเพลงนั่นเอง

4. Shot Gun

ใช้ในการเก็บเสียงเฉพาะจุด โดยมีจุดรับสัญญาณความถี่ของเสียงแคบมากๆ และเสียงจากด้านข้างแทบไม่มีเสียงเข้ามายังตัวไมค์ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแบบบันทึกสารคดีสัตว์ป่า, เสียงบรรยากาศ, เวทีละคร เป็นต้น

วิธีเลือกซื้อ ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับการใช้งาน

ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี

1. เลือกซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการ

การเลือกซื้อ ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณ เพราะไมค์อัดเสียงมีคุณสมบัติในการใช้งานแตกต่างกัน โดยต้องคำนึงก่อนว่าเรานำไมค์อัดเสียงไปใช้ในสถานที่ปิดหรือกลางแจ้ง และนำไปใช้งานทั่วไปอย่าง เล่นเกม, พูดคุยประชุมออนไลน์ เป็นต้น เพื่อให้ได้ไมค์อัดเสียงที่มีคุณภาพ คมชัด เหมาะสมกับการใช้งานนั่นเอง

2. ประเภทของไมค์อัดเสียง

หากรู้ความต้องการในการใช้ไมค์อัดเสียงแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยหลักคือ ประเภทของไมค์อัดเสียง เพราะไมค์อัดเสียงมี 2 ประเภท คือแบบ Condenser กับ Dynamic ซึ่งไมค์อัดเสียง 2 ประเภทมีความสามารถในการใช้งานที่แตกต่างกัน โดย Condenser เน้นใช้งานในสถานที่ปิด เหมาะกับใช้งาน อัดเสียงเพลง, เล่นเกม ประชุมออนไลน์ ส่วน Dynamic พบเห็นได้ตามสถานที่สาธารณะ เหมาะกับใช้สถานที่เปิด กลางแจ้ง

3. รูปแบบการรับเสียง

รูปแบบการรับเสียงของไมค์อัดเสียงก็มีความสำคัญ เพราะไมค์อัดเสียงมีรูปแบบการในการใช้งานแตกต่างกัน ยังมีรูปแบบการรับเสียงแตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันมากที่สุด คือ รูปแบบ Cardioid เพราะสามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุด เหมาะกับใช้งานในสถานที่ปิดอย่าง ห้องอัดเสียง, ห้องทำงาน, ห้องเล่นเกม ที่เน้นเสียงพูดเป็นหลัก และมีรูปแบบรับเสียงอื่นๆเช่น Omni Directional, Bi-Directional, Shot Gun เป็นต้น

4. การต่อสนองต่อความถี่

การเลือกซื้อไมค์อัดเสียงที่มีความถี่ในช่วง 20Hz-20,000Hz ถือเป็นการเลือกซื้อไมค์ที่ดีที่สุด เพราะหูของคนเราสามารถรับความถี่ได้ในช่วง 20Hz-20,000Hz นั่นเอง ซึ่งทำให้ผู้ที่รับฟังได้รับเสียงที่คมชัด มีคุณภาพ น่าฟัง อีกทั้งเหมาะกับใช้งานได้ครอบคลุมอีกด้วย

5. การเชื่อมต่อ

ไมค์อัดเสียง มีการเชื่อมต่อ 2 ประเภท คือ USB กับ JACK 3.5mm ซึ่งคุณจำเป็นต้องเลือก Port การเชื่อมต่อให้เหมาะสมในการใช้งาน เพื่อให้ใช้งานได้ตามที่ต้องการและไม่เกิดข้อผิดพลาดหลังจากเลือกซื้อไมค์อัดเสียงไปแล้วนั่นเอง

บทสรุปเลือกซื้อ ไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 เสียงดี มีคุณภาพ น่าฟัง

สำหรับการเลือกซื้อไมค์อัดเสียง ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2024 ที่ให้เสียงดี มีคุณภาพ น่าฟัง เราขอแนะนำไมค์อัดเสียง FANTECH Leviosa MCX01 เป็นไมค์อัดเสียงมีดีไซน์สวยงาม ดูหรูหรา และออกแบบมาสำหรับใช้งานอัดเสียงร้องเพลง, สตรีมเกม, ไลฟ์สด หรือทำคลิปลง Youtube มาพร้อมความถี่ของเสียงในระดับ 20Hz-20,000Hz และระบบเชื่อมต่อแบบ USB-A To USB-B

โดยมีรูปแบบการรับเสียง Cardioid ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี และมีปุ่มฟังก์ชั่นในการใช้งานบนตัวไมค์อัดเสียงอย่าง เปิด-ปิด, เพิ่มเสียง-ลดเสียง และปรับเสียงเอฟเฟคได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะกับใช้งานรอบด้าน ให้เสียงคุณภาพ น่าฟัง คมชัดอย่างแน่นอน

Similar Posts