Card-reader-ยี่ห้อไหนดี

Card reader หรือตัวอ่านการ์ดถือเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับการจัดการข้อมูลของคนเราได้มากมาย โดยเฉพาะในการเคลื่อนย้ายข้อมูล ไปจัดเก็บยังอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบไม่จำเป็นจะต้องใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งจากการออกแบบและพัฒนาในด้านต่าง ๆ ที่มากขึ้นของสินค้าในปัจจุบัน จึงทำให้เป็นอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกให้กับการทำงาน และการใช้งานในหลากหลายสาขาอาชีพได้ดีอย่างมาก ดังนั้น หากคุณเองก็เป็นคนที่ทำงานในสายงานที่เกี่ยวกับการจัดการข้อมูล ก็ไม่แปลกที่มักจะมีคำถามว่าควรจะเลือกซื้อ Card reader ยี่ห้อไหนดี เพื่อมาไว้ใช้สำหรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และคำตอบของคำถามนี้ก็คือสิ่งที่เราได้ทำการรวบรวม และจะนำมาแนะนำให้กับคุณในบทความนี้นั่นเอง

UGREEN 50706
ฟังก์ชันครบครัน
  • ความการส่งข้อมูลสูงสุด 5 Gbps
  • พื้นที่เก็บข้อมูลที่รองรับได้สูงสุด 2 TB
  • รองรับการ์ได้หลากหลายรูปแบบ
  • สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
  • การรับประกัน 2 ปี
ROBOT CR202S
ดีไซน์สวยงาม
  • ขนาดกะทัดรัดพกพาได้สะดวก
  • การแบ่งแยกช่องเสียบการ์ดเป็น 2 ส่วน
  • พอร์ตการส่งข้อมูล 2 รูปแบบ
  • การถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว
  • มาพร้อมห่วงสำหรับการเชื่อมต่อกับพวงกุญแจ
Apple Acc Lightning to SD Card
ราคาถูก
  • ใช้งานช่องเชื่อมต่อในความเร็วมาตรฐาน USB 3.0
  • มีสายสำหรับเพิ่มระยะในการเชื่อมต่อ
  • สามารถใช้งานร่วมกันได้ดีกับระบบ iCloud
  • คุณภาพและความแข็งแรงทนทานของวัสดุสูง
  • เหมาะสำหรับการใช้เพื่อส่งออกภาพและวิดีโอ

สำหรับคนที่ต้องการเลือกซื้อ Card reader ตัวใหม่ 10 รุ่นต่อไปนี้เป็นตัวเลือกที่มองข้ามไปไม่ได้แน่นอน

UGREEN 50706
แบรนด์และรุ่นสินค้าUGREEN 50706
ขนาด73.7 x 21.5 x 11.6 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
พอร์ตUSB-A และ USB-C
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล5 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

Card reader ยี่ห้อไหนดี รุ่นแรกเป็น Card reader รุ่นขนาดพกพา ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อการ์ดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Micro SD Card ขนาดเล็ก ไปจนถึง TF Card ขนาดใหญ่ ซึ่งจุดเด่นสำคัญในการใช้งานของการ์ดตัวนี้ คือ การติดตั้งทั้งพอร์ต USB 3.0 และ USB-C ที่ให้คุณเลือกเชื่อมต่อในการส่งข้อมูลได้หลากหลาย รวมไปถึงด้วยการมีฐานรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ ก็ยังทำให้สามารถรองรับการ์ดข้อมูล ที่มีขนาดใหญ่ได้สูงสุดถึง 2 TB และรองรับความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลได้มากถึง 5 Gbps ด้วยในเวลาเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน จึงทำให้มีการแถมการรับประกันสินค้ามาให้ถึง 2 ปีอีกด้วย

จุดเด่น

  • ความการส่งข้อมูลสูงสุด 5 Gbps
  • พื้นที่เก็บข้อมูลที่รองรับได้สูงสุด 2 TB
  • รองรับการ์ได้หลากหลายรูปแบบ
  • สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
  • การรับประกัน 2 ปี

จุดควรพิจารณา

  • จำเป็นต้องใช้ TF Card หากต้องการเชื่อมต่อ Micro SD Card
  • ไม่สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่น

ROBOT CR202S
แบรนด์และรุ่นสินค้าROBOT CR202S
ขนาด
น้ำหนัก
พอร์ตUSB-A และ USB-C
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล5 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

Card reader ยี่ห้อไหนดี รุ่นต่อมา ROBOT CR202S เป็นตัวอ่านการ์ดของทางแบรนด์ ROBOT ที่เหมาะสำหรับการใช้เพื่อถ่ายโอนข้อมูลระหว่างการ์ดเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างการติดตั้งเชื่อมต่อการ์ดมาให้ 2 ส่วน ที่จะแยกเฉพาะสำหรับ Micro SD Card และ TF Card ในขณะที่ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ ก็ยังมีมาให้ทั้งแบบ USB 3.0 และ USB-C ส่งผลให้สามารถเลือกใช้งานกับอุปกรณ์ทุกประเภทได้อย่างยืดหยุ่น ด้วยความเร็วการส่งข้อมูลสูงสุดกว่า 5 Gbps ซึ่งเมื่อเทียบไปเป็นระยะเวลาในการส่งข้อมูลแล้ว ก็จะสามารถส่งไฟล์วิดีโอที่มีขนาด 1 GB ได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น

จุดเด่น
  • ขนาดกะทัดรัดพกพาได้สะดวก
  • การแบ่งแยกช่องเสียบการ์ดเป็น 2 ส่วน
  • พอร์ตการส่งข้อมูล 2 รูปแบบ
  • การถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว
  • มาพร้อมห่วงสำหรับการเชื่อมต่อกับพวงกุญแจ
จุดควรพิจารณา
  • ไม่มีสายสำหรับเพิ่มระยะการเชื่อมต่อ
  • ไม่แน่ชัดเรื่องความแข็งแรงทนทานในการใช้งาน
Apple Acc Lightning to SD Card
แบรนด์และรุ่นสินค้าApple Acc Lightning to SD Card
ขนาด
น้ำหนัก
พอร์ตLightning
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล
การ์ดที่รองรับTF Card

Apple Acc Lightning to SD Card เป็นสินค้าจากทาง Apple ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับ iPhone และ iPad ซึ่งเป็นอุปกรณ์จากทางแบรนด์โดยตรง แต่จะเป็นสำหรับรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต Lightning แบบดั้งเดิมเท่านั้น ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับคนที่ใช้งานอุปกรณ์จากแบรนด์นี้อยู่ในปัจจุบัน และมองหาตัวช่วยสำหรับการนำภาพถ่าย หรือวิดีโอออกมาจากตัวเครื่องโดยเฉพาะ ดังนั้น หากคุณต้องการตัวอ่านการ์ดกับการใช้งานในเรื่องดังกล่าว รุ่นนี้ก็น่าสนใจในการเลือกใช้งานแน่นอน

จุดเด่น

  • ใช้งานช่องเชื่อมต่อในความเร็วมาตรฐาน USB 3.0
  • มีสายสำหรับเพิ่มระยะในการเชื่อมต่อ
  • สามารถใช้งานร่วมกันได้ดีกับระบบ iCloud
  • คุณภาพและความแข็งแรงทนทานของวัสดุสูง
  • เหมาะสำหรับการใช้เพื่อส่งออกภาพและวิดีโอ

จุดควรพิจารณา

  • ใช้งานได้กับ iPhone และ iPad เท่านั้น
  • ไม่มีความยืดหยุ่นในการรองรับการ์ดมากนัก

Wavlink 2-In-1 USB
แบรนด์และรุ่นสินค้าWavlink 2-In-1 USB
ขนาด74 x 23 x 10 มิลลิเมตร
น้ำหนัก15 กรัม
พอร์ตUSB-A และ USB-C
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

Card reader เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ หากคุณเน้นการเลือกซื้อสินค้า ที่มีความหลากหลายในการใช้งาน และมีราคาที่คุ้มค่ารวมถึงยังต้องสามารถจับต้องได้ง่าย โดยองค์ประกอบที่น่าสนใจของอุปกรณ์ตัวนี้ คือ เราสามารถเสียบต่อกับการ์ดข้อมูลได้หลากหลาย และเชื่อมต่อพร้อมกันทั้งหมด 2 แผ่นได้ในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้การถ่ายโอนข้อมูลจะมีความสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งด้วยการนำเข้าหรือส่งออกข้อมูลผ่านอุปกรณ์ ก็ยังมีพอร์ตที่ให้เราเลือกได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น USB-C หรือ USB-A ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้กับมือถือ, โน้ตบุ๊ก หรือแท็บเล็ต ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีด้วยกันทั้งสิ้น

จุดเด่น

  • วัสดุที่ใช้ผลิตทุกส่วนเป็นแบบพลาสติกและอะลูมิเนียมที่มีความทนทานสูง
  • ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์
  • รองรับความจุการ์ดได้สูงสุด 2 TB
  • รองรับการเสียบต่อการ์ดทุกประเภท
  • ขนาดกะทัดรัดพกพาได้สะดวก

จุดควรพิจารณา

  • ไม่แน่ชัดเรื่องความเร็วในการส่งข้อมูล
  • ไม่รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนบางรุ่น

Vention Card Reader OTG
แบรนด์และรุ่นสินค้าVention Card Reader OTG
ขนาด60 x 20 x 11.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก8.6 กรัม
พอร์ตUSB-A และ USB-C
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล5 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

หากคำถามของคุณ คือ ควรเลือกซื้อ Card reader รุ่นไหนดี ที่จะมีราคาสามารถจับต้องได้ง่าย และตอบโจทย์การใช้งานระยะยาวได้อย่างคุ้มค่าที่สุด รุ่นนี้ก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างมาก ด้วยการมาพร้อมการใช้งานวัสดุแบบอะลูมิเนียม ที่มีความแข็งแรงทนทานมากเป็นพิเศษ และการรองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย ทั้งในด้านของอุปกรณ์ผ่านพอร์ตต่าง ๆ และประเภทของการ์ดในการเชื่อมต่อเพื่อจัดเก็บข้อมูล ที่สำคัญด้วยการมีขนาดที่เล็กเป็นพิเศษเพียง 8.6 กรัม ก็ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้ตอบโจทย์การพกพาได้ดี ส่งผลให้ก็มีคำเป็นจำนวนไม่น้อย ที่เลือกใช้อุปกรณ์ตัวนี้ในการทำงาน เพื่อโอนถ่ายข้อมูลจากนอกกสถานที่

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบาเพียง 8.6 กรัม
  • ขนาดกะทัดรัดพร้อมฝาปิดทำให้พกพาได้สะดวก
  • คุณสมบัติการส่งไฟล์ที่รวดเร็ว 1 GB ใน 10 วินาที
  • รองรับการเสียบการ์ดข้อมูลพร้อมกัน 2 ชิ้น
  • ใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการ

จุดควรพิจารณา

  • รองรับความจุการ์ดได้สูงสุดเพียง 512 GB
  • ใช้งานพอร์ตเป็น USB 2.0

Moov CR01
แบรนด์และรุ่นสินค้าMoov CR01
ขนาด20 x 85 x 10 มิลลิเมตร
น้ำหนัก19.5 กรัม
พอร์ตUSB-A และ Micro USB
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล5 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

หากต้องการ Card reader ที่เน้นการใช้งานที่หลากหลายมากเป็นพิเศษ รุ่นนี้ก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณอย่างมาก เนื่องจากถูกออกแบบมาพร้อมระบบ 6 in 1 ที่ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายกับอุปกรณ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นจากจำนวนของพอร์ต ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับได้ทั้ง USB-A และ Micro USB หรือแม้แต่การมีช่องส่งออกข้อมูล ที่นอกจากจะมีตัวพื้นฐานอย่างช่อง Micro SD Card และ TF Card แล้ว ก็ยังมีช่องเชื่อมต่อ USB-A ถูกติดตั้งมาให้สำหรับใช้ในการเชื่อมต่อได้อีกด้วย ดังนั้น ในด้านของการใช้ถ่ายโอนข้อมูลในการ์ด ก็คงไม่มีรุ่นไหนที่จะยืดหยุ่นไปมากกว่ารุ่นนี้แล้ว

จุดเด่น

  • มีสีให้เลือกได้หลากหลายกว่ารุ่นอื่น ๆ
  • การออกแบบที่สวยงามทันสมัย
  • รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต Micro USB ได้
  • มีช่องเชื่อมต่อข้อมูล USB สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ
  • ระบบการใช้งานแบบ 6 in 1

จุดควรพิจารณา

  • ไม่มีพอร์ต USB-C สำหรับการเชื่อมต่อ
  • ไม่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์รุ่นใหม่หลาย ๆ ตัวได้

Lenovo 2-In-1 Card Reader
แบรนด์และรุ่นสินค้าLenovo 2-In-1 Card Reader
ขนาด70 x 18.5 x 10.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
พอร์ตUSB-A
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล5 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

Lenovo 2-In-1 Card Reader เป็นการ์ดเก็บข้อมูลที่ดีอย่างมาก หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ ที่เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนข้อมูลผ่าน Micro SD Card บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ จากการติดตั้งพอร์ตแบบ USB 3.0 มาให้ และการรองรับขนาดความจุของข้อมูลการ์ด ที่ทำได้สูงสุดถึง 2 TB ส่งผลให้มีความหลากหลายต่อการจัดเก็บข้อมูล และตอบโจทย์การใช้งานของเหล่ามืออาชีพได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่ย่อมเยามากเป็นพิเศษ ก็ทำให้รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่มองข้ามไปไม่ได้เลยทีเดียว

จุดเด่น

  • เหมาะสำหรับการใช้งานกับข้อมูลขนาดใหญ่
  • รองรับ Micro SD Card ได้สูงสุด 2 TB
  • รองรับการใส่การ์ดข้อมูลได้ 2 ตัวพร้อมกัน
  • การใช้งานพอร์ตแบบ USB 3.0
  • ความเร็วการสุ่งข้อมูลสูงสุด 100 MB/S

จุดควรพิจารณา

  • ไม่สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้
  • คุณภาพของวัสดุภายนอกอาจไม่แข็งแรงทนทานมากนัก

Lexar® Professional CFexpress
แบรนด์และรุ่นสินค้าLexar® Professional CFexpress
ขนาด
น้ำหนัก
พอร์ตUSB-A และ USB-C
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล
การ์ดที่รองรับTF Card

สำหรับ Card reader ตัวนี้ถูกออกแบบมาพร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจมากมาย เริ่มตั้งแต่การออกแบบภายนอกที่หรูหราล้ำสมัย ไปจนถึงการมีสเปกการรองรับการบันทึกข้อมูล ที่สามารถทำได้สูงกว่าหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณสมบัติในการรองรับการส่งไฟล์วิดีโอ ที่สามารถทำได้ในคุณภาพสูงสุดระดับ 8K ซึ่งถือเป็นความละเอียดสูงสุดในขณะนี้ ด้วยการใช้งานพอร์ตแบบ USB 3.2 ที่คุณจะสามารถเปลี่ยนการใช้งานสายออกมาได้ ทั้งในลักษณะะของ USB-C to USB-A และ USB-C to USB-C นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความคุ้มค่า จึงยังได้แถมการรับประกันมาให้ถึง 5 ปีอีกด้วย

จุดเด่น

  • รองรับการส่งไฟล์ความละเอียด 8K
  • พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB 3.2
  • สามารถเปลี่ยนสายในการเชื่อมต่อได้
  • การรับประกันสินค้า 5 ปี
  • การออกแบบภายนอกที่หรูหราล้ำสมัย

จุดควรพิจารณา

  • ราคาวางจำหน่ายค่อนข้างสูง
  • ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกับมือถือและแท็บเล็ต

ProGrade Digital CFexpress 
แบรนด์และรุ่นสินค้าProGrade Digital CFexpress 
ขนาด
น้ำหนัก
พอร์ตUSB-A
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล10 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

Card reader ยี่ห้อไหนดี รุ่นรองสุดท้าย ProGrade Digital CFexpress เป็นตัวอ่านการ์ดที่น่าสนใจ หากคุณต้องการรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง และเหมาะสำหรับการใช้เพื่ออ่านและถ่ายโอนข้อมูล มาไว้สำหรับการจัดการงานที่เน้นข้อมูลขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติหลักของตัวอุปกรณ์มากมายที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่ถือว่ามีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดในปัจจุบัน ทำให้การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ จะใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น จากความเร็วสูงสุดถึง 10 Gb/s ที่ทำได้สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังจะสามารถใช้งานตัวอุปกรณ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่สูงมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้งานกับอุปกรณ์ที่ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติ Windows และ macOS เวอร์ชั่นใหม่อีกด้วย

จุดเด่น

  • เหมาะสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่
  • การถ่ายโอนข้อมูลที่มีความเร็วสูงสุด 10 Gbps
  • ใช้งานพอร์ตแบบ USB 3.2
  • การออกแบบภายนอกที่หรูหราทันสมัย
  • การรับประกันสินค้า 2 ปี

จุดควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์เวอร์ชั่นเก่า
  • ขนาดค่อนข้างใหญ่ใช้พื้นที่การจัดวางค่อนข้างมาก

ORICO CLH-X6 
แบรนด์และรุ่นสินค้าORICO CLH-X6 
ขนาด83 x 34 x 10 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
พอร์ตUSB-C
ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล5 Gbps
การ์ดที่รองรับMicro SD Card และ TF Card

Card reader ยี่ห้อไหนดี รุ่นสุดท้ายเป็นสินค้าที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นในการใช้งานอยู่ไม่น้อย ด้วยการมีพอร์ตและช่องเชื่อมต่อถูกติดตั้งมาให้อย่างหลากหลาย โดยที่แต่ละพอร์ตนั้นจะมีการเลือกใช้งานรูปแบบที่มีความเร็วสูง และรองรับการใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลายและครอบคลุมกับทั้งคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในปัจจุบันได้ดีด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนเรื่องของความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล และการส่งออกไฟล์ไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ยังจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ภายใต้มาตรฐาน FCC, CE และ ROHS นอกจากนี้เพื่อให้สามารถส่งพลังงานได้อย่างเพียงพอ รูปแบบของพอร์ตนำเข้าข้อมูล ก็ยังจะเป็นรูปแบบของพอร์ตแบบ PD อีกด้วย

จุดเด่น

  • ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย
  • ใช้งานได้กับการ์ดข้อมูลทุกรูปแบบ
  • การรับประกันสินค้า 2 ปี
  • ความเร็วในการส่งข้อมูลค่อนข้างสูง
  • การรับส่งข้อมูลที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ 

จุดควรพิจารณา

  • ขนาดของอุปกรณ์ค่อนข้างใหญ่
  • ไม่เหมาะสำหรับการนำออกไปใช้งานยังนอกสถานที่มากนัก

Card Reader คืออะไรและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อ Card Reader เบื้องต้นควรจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ หรือการใช้งานหลักให้ได้อย่างชัดเจนเสียก่อน ว่าจะใช้งานตัวสินค้าเพื่อการจัดการข้อมูลลักษณะใด เนื่องจากในปัจจุบันอุปกรณ์ตัวนี้จัดว่ามีความหลากหลาย และตอบโจทย์การงานได้ยืดหยุ่นอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลประเภทวิดีโอ ที่คุณได้ทำการบันทึกมาผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และส่งออกมาเพื่อทำการตัดต่อหรือใช้งานกับคอมพิวเตอร์

ซึ่งหากต้องการสินค้าในลักษณะนี้ คุณก็ควรจะต้องเลือกรุ่นที่สามารถทำความเร็ว ในการส่งออกข้อมูลได้มากเป็นพิเศษ หรืออาจเน้นเป็นรุ่นที่มีจุดเด่นในด้านของการถ่ายโอนวิดีโอ แต่หากต้องการสินค้าที่เน้นการจัดเก็บ หรือเคลื่อนย้ายข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ สิ่งที่คุณควรมองหาก็จะเป็นสินค้า ที่เน้นการรองรับได้ในขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเพื่อความคุ้มค่า คุณจะต้องตรวจสอบเสียก่อนว่าคุณสมบัติเหล่านั้น สามารถใช้งานได้จริงกับอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรองรับความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล หรือแม้แต่การรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตและอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ตาม

ในปัจจุบัน Card reader มีความหลากหลายในเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่ออย่างมาก เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ ที่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยม สำหรับการใช้เพื่อทำงานหรือใช้งานทั่วไปในขณะนี้ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งวิธีการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างไม่ยากมากนัก เพราะเมื่อคุณต้องการเลือกใช้งานการ์ดอ่านข้อมูล คุณก็มักจะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ตัวนั้น

ในการถ่ายโอนข้อมูลกับอุปกรณ์หลักตัวใด ดังนั้น สิ่งที่คุณจะต้องทำก็เพียงแค่ตรวจดู ว่าอุปกรณ์ตัวนั้นมีการใช้งานพอร์ตประเภทใดอยู่ หลังจากนั้นก็จึงทำการเลือกรุ่นที่เหมาะสม ด้วยการเริ่มต้นจากรุ่นที่ใช้งานพอร์ตตัวนั้น ๆ โดยที่ปัจจุบันพอร์ตที่มีให้สามารถเลือกซื้อได้นั้น จะมีทั้ง USB-A, USB-C, Micro USB ไปจนถึง Lightning ส่งผลให้ค่อนข้างมีความชัดเจนกับการใช้งานแบบเฉพาะอุปกรณ์อยู่แล้ว แต่หากคุณต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งานที่มากเป็นพิเศษ หลาย ๆ รุ่นก็ยังได้มีการติดตั้งพอร์ตมาอย่างหลากหลาย เพื่อให้เราสามารถใช้ในการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลได้ภายในตัวเดียวด้วยเช่นกัน

Card reader ยี่ห้อไหนดี

คุณสมบัติและองค์ประกอบที่ถูกติดตั้งมาให้กับ Card reader แต่ละตัว จะทำให้ทุกรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับการ์ด และอ่านข้อมูลได้ด้วยความเร็วที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ที่คุณจะต้องนำมาพิจารณาเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับงาน หรือความต้องการของคุณมากที่สุด ซึ่สิ่งที่คุณจะสามารถนำมาใช้ตัดสินใจได้ ก็จะเป็นการเลือกตามลักษณะการใช้งานเป็นหลัก เช่น หากคุณต้องการอุปกรณ์สำหรับการส่งไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ก็ควรจะต้องเลือกรุ่นที่มีความเร็วการส่งข้อมูลสูง หรือสามารถถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดีเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถประหยัดเวลาได้มากที่สุด แต่หากไม่ได้ต้องการใช้งานกับไฟล์ที่มีขนาดมากนัก เช่น รูปภาพ หรือเอกสารทั่วไป ก็อาจประหยัดงบลงให้ได้มากขึ้น จากการเลือกรุ่นที่มีความเร็ว และคุณภาพในการทำงานต่ำลงมานั่นเอง

หากแบ่งแยกประเภทของการ์ดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน จะสามารถทำออกมาได้ทั้งหมด 2 ประเภท คือ SD Card และ TF Card ซึ่ง Card reader ทุกตัวในปัจจุบัน ก็จะมีตั้งแต่รุ่นที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้สามารถใช้งานได้เฉพาะกับ SD Card หรือ TF Card และมีบางรุ่นที่สามารถใช้งานกับการ์ดทั้ง 2 ประเภทได้ ดังนั้น คุณจึงจะต้องเลือกเสียก่อน ว่าต้องการใช้งานตัวอ่านการ์ดกับการ์ดข้อมูลประเภทไหน

เนื่องจากจะช่วยลดจำนวนตัวเลือก และทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังจะทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์ของตัวการ์ด ได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับราคาที่สุดด้วยในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามคุณควรเรียนรู้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าการ์ดประเภทไหนเหมาะสำหรับการใช้งานในรูปแบบใด เช่น TF Card เหมาะสำหรับการใช้งานกับกล้องถ่ายภาพ หรือ SD Card ก็มีการแบ่งแยกมาตรฐานการรองรับความเร็วมาอย่างหลากหลาย ซึ่งหากคุณเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ก็จะทำให้สามารถเข้าใจและเลือกการ์ดอ่านข้อมูลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

Card reader ยี่ห้อไหนดี น่าซื้อ

Card Reader เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านข้อมูลของ SD Card และ TF Card ซึ่งเป็นรูปแบบของการ์ดจัดเก็บข้อมูล ที่ยังคงถูกใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือแม้แต่กล้องถ่ายภาพ ที่การ์ดเหล่านี้จะสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวอุปกรณ์ได้โดยตรง แต่สำหรับการใช้งานตัวอ่านการ์ดนั้น จะเป็นรูปแบบที่ให้คุณสามารถสวมใส่ SD Card หรือ TF Card เข้าสู่ตัวเครื่อง และทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ผ่านทางพอร์ต เช่น USB หรือ Lightning เพื่อใช้ในการส่งต่อหรือถ่ายโอนข้อมูล

ดังนั้น จึงเป็นการนำเข้าหรือส่งออกข้อมูลจากภายนอก และการย้ายข้อมูลเข้าไปใส่ยังอุปกรณ์ตัวอื่น ๆ ก็ยังจะสามารถทำได้ง่าย ด้วยการถอดแยกการ์ดออกมา โดยที่การใช้งานการ์ดเก็บข้อมูลเหล่านี้ในปัจจุบัน Card reader จะช่วยให้เราสามารถนำรูปภาพ, วิดีโอ หรือไฟล์เอกสาร ออกจากเครื่องมือถือหรือแท็บเล็ต เพื่อนำไปจัดเก็บยังอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมต่อสายผ่านตัวเครื่องให้วุ่นวาย ที่สำคัญหากต้องการใช้เป็นอุปกรณ์สำรองข้อมูล สินค้าตัวนี้ก็ยังสามารถเลือกปรับแต่งการใช้งาน ให้เป็นในลักษณะของ Flash drive ได้ด้วยเช่นกัน เมื่อทำการเชื่อมต่อการ์ดเข้ากับตัวอุปกรณ์โดยตรง

หากคุณต้องการข้อสรุปว่าจะเลือกซื้อ Card reader ยี่ห้อไหนดี จึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในด้านของความคุ้มค่าในราคาที่วางจำหน่าย ไปจนถึงประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวม ที่ให้คุณสามารถใช้งานได้ยาวนาน และตอบโจทย์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย เราขอแนะนำว่า UGREEN 50706 จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อกับการ์ดได้หลากหลาย ภายใต้ขนาดพื้นที่สูงสุดถึง 2 TB และการมีรูปแบบของพอร์ตถ่ายโอนข้อมูล ที่ให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นในปัจจุบัน

อีกทั้งยังมีส่วนสนับสนุนการถ่ายโอนข้อมูล ที่ทำให้หลายคนสามารถใช้จัดการกับงานของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่หากคุณคิดว่าสินค้าตัวนี้ ยังไม่ใช่คำตอบที่ดีมากนักสำหรับการใช้งานของคุณ เราก็อยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ External Harddisk ที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาของคุณได้ตอบโจทย์มากขึ้น ผ่านบทความที่เราเคยได้แนะนำไปด้วยเช่นกัน

Similar Posts