แนะนำ 5 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ที่มีพื้นที่ช่องเก็บเยอะขึ้น ใส่ของกินได้จุใจ รักษาความสดใหม่ได้ยาวนาน  2024

อากาศร้อนๆแบบนี้ สิ่งที่เราต้องการมากขึ้นก็คงจะเป็นอะไรที่เย็นชื่นใจใช่ไหมล่ะค่ะ พอพูดแบบนี้แล้วก็นึกถึงของหวานในวัยเด็กขึ้นมาทันที น้ำหวานหลากสีที่เพิ่มเติมความฉ่ำมาในรูปแบบที่เป็นก้อนน้ำแข็งในถุงมัดเล็กๆ พอจะนึกออกใช่ไหมคะ “หวานเย็น” เมนูเบสิคสำหรับเด็กๆที่ทำง่ายมาก หยิบออกจากช่องฟริซของตู้เย็นมากินตอนช่วงที่อากาศร้อนๆทีไรหน้ายิ้มแป้นทุกที

พอนานวันเข้าพวกอาหารหรือเครื่องดื่มก็ได้รับการปรับปรุงพัฒนาสูตรเรื่อยมา เมนูที่ดับกระหายคลายความร้อยมีหลากหลายมากขึ้นอย่างเช่นพวกสมูทตี้โบว์ลหรือ acai อะไรแบบนี้ที่กำลังเป็นที่นิยม ทว่าของอร่อยๆก็ต้องมีวัตถดิบที่หลากหลาย และต้องการความสดใหม่ที่ยาวนานขึ้น ดังนั้นสิ่งที่จะมาช่วยเรื่องนี้ก็คงไม่พ้นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างตู้เย็น ที่จะมาทำให้เราได้ทานของอร่อยๆที่หลากหลายมากขึ้น

ดังนั้นวันนี้เราจึงจะแนะนำ 5 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ที่มีพื้นที่ช่องเก็บเยอะขึ้น ใส่ของกินได้จุใจ รักษาความสดใหม่ได้ยาวนาน ประจำปี 2023 กันค่ะ ซึ่งประเภทที่เราจะมาแนะนำนั้นจะเป็นตู้เย็น 2 ประตูที่ประตูของพวกเขานั้นมาในหลากหลายตำแหน่งเลย แต่ละอย่างก็มีความทันสมัยด้านเทคโนโลยีที่ต่างกันซึ่งก็ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว นอกจากนี้เราก็ไม่พลาดที่จะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อตู้เย็นให้ทุกคนได้ลองไปใช้กันด้วยล่ะค่ะ 

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี

• Bosch ตู้เย็นไซด์บายไซด์ ขนาด 21Q ซีรีส์ 2 รุ่น KAN92VS30I
• LG Side-by-Side ขนาด 22.9 คิว รุ่น GC-B257JQYL
• Samsung รุ่น RT38K501JS8/ST 14.1 คิว 401 ลิตร
• Electrolux รุ่น ETB3740K-A
• Haier รุ่น HRF-THM25NS(ONL)

แนะนำ 5 ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี  2024

ตู้เย็น 2 ประตูทั้ง 5 ยี่ห้อที่เราจะพูดถึงนี้ก็มาจากยี่ห้อที่น่าสนใจทีเดียว แต่จะมีจุดเด่นอย่างไรบ้างเราไปเริ่มต้นทำความรู้จักกับผู้เข้าแข่งขันกันเลยค่ะ

1. Bosch ตู้เย็นไซด์บายไซด์ ขนาด 21Q ซีรีส์ 2 รุ่น KAN92VS30I

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ด้วยตู้เย็นจากยี่ห้อ Bosch กันก่อนเลยนะคะกับรุ่น KAN92VS30I รุ่นนี้เป็นตู้เย็น 2 ประตูแบบ side-by-side นะคะ ซึ่งเป็นตู้เย็นที่กำลังมาแรงในช่วงปี 2023 นี้เลยเพราะด้วยความที่จุได้เยอะและรูปร่างก็ดูทันสมัยจึงทำให้หลายๆคนเริ่มหันมาสนใจตู้เย็นแบบนี้มากขึ้น ซึ่งสำหรับตู้เย็นของ Bosch รุ่นนี้ก็มีขนาดอยู่ที่ 21 คิวบิกฟุตเลย เรียกได้ว่าสายกินหรือสายทำครัวนี่อย่ามองข้ามเป็นอันขาดเพราะเรื่องระบบความเย็นของตู้เย็นยี่ห้อนี้เขาทำมาดีมากเลยเริ่มจากระบบความเย็นส่วนของช่องแช่เเข็งก่อนเลย

รุ่นนี้ได้ออกแบบมาให้ช่องแช่เเข็งมีระบบ No Frost และ Superfreezing ทำให้ช่องดังกล่าวเย็นเร็วขึ้นและไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแข็งเกาะ จึงไม่ต้องเสียเวลารอให้ของที่เราไว้ในช่องแช่แข็งค่อยๆละลาย ก็คืออยากกินก็ได้กินเลยสะดวกสุดๆ ต่อมาเป็นส่วนของช่องเเช่เย็นซึ่งจะมีระบบ Supercooling และ Multi airflow system ที่ช่วยทำความเย็นในตู้ได้อย่างรวดเร็วและสามารถกระจายความเย็นให้ทั่วถึงในทุกๆช่องเก็บอาหาร

อ่ะพอพูดถึงช่องเก็บอาหารแล้วรุ่นนี้มีช่องให้ใส่ด้วยกันทั้งหมด 2 ลิ้นชักแบบดึงเปิดปิดพร้อมกล่อง Big Box แช่แข็งขนาดใหญ่ และอีก2 ลิ้นชักพร้อมรางซึ่งค่อนข้างดึงเปิดปิดลิ้นชักสะดวกมากค่ะ แต่ส่วนที่เราชอบและค่อนข้างอำนวยความสะดวกได้ดีมากๆเลยนั่นก็คือรุ่นนี้เขามีหน้าจอ LED พร้อมแผงควบคุมความเย็นของตู้เย็นอยู่ตรงหน้าประตูค่ะ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราคิดว่าตู้เย็นยี่ห้อนี้ รุ่นนี้เป็นตู้เย็น 2 ประตูที่น่าซื้อติดบ้านไว้มากๆนั่นเอง

2. LG Side-by-Side ขนาด 22.9 คิว รุ่น GC-B257JQYL

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี ที่สองนั่นก็คือ LG  รุ่น GC-B257JQYL ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อในรูปแบบของตู้เย็น Side-by-side นะคะ รุ่นนี้สามารถจุได้ถึง 22.9 คิวบิกฟุตเลย จุได้เยอะมากๆซึ่งในส่วนของยี่ห้อ LG เนี่ยจะเน้นเทคโนโลยีที่ชื่อว่า LINEARCooling™ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการคงความสดใหม่ของอาหารให้อยู่ได้ยาวนานขึ้นโดยการลดความผันผวนของอุณหภูมิ รักษาความสดใหม่ของอาหารได้นานถึง 7 วันเลย แล้วช่องเก็บอาหารและเครื่องดื่มของรุ่นนี้ก็มีพื้นที่ที่กว้างมาก สะดวกต่อการจัดเก็บมากๆ

ที่แน่ๆเลยคืออย่างที่เราบอกว่าส่วนใหญ่ตู้เย็น 2 ประตูแบบ Side-by-side นั้นมักจะมาพร้อมฟังก์อัจฉริยะเพราะตู้เย็นแบบนี้เน้นเรื่องของความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความทันสมัย LG รุ่นนี้ก็ได้นำเอา Smart diagnosis มาเป็นผู้ช่วยในการจัดการปัญหาต่างๆที่เกิดกับตู้เย็นได้ฉับไวโดยไม่ต้องเรียกช่างซ่อมเลย นอกจากนี้ตัวคอมเพรสเซอร์ของเครื่องก็เป็นระบบ LG Inverter Linear Compressor ทำให้ภายในตู้เย็นนั้นเย็นเร็วขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยกว่าอีกด้วยค่ะ

3. Samsung รุ่น RT38K501JS8/ST 14.1 คิว 401 ลิตร

มาที่ Samsung รุ่น RT38K501JS8/ST ตู้เย็นนี่ห้อที่สามที่เราจะมาแนะนำกันบ้าง รุ่นนี้เป็นตู้เย็น 2 ประตูบนล่างแบบทั่วไปที่เราเห็นตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่ขายเครื่องไฟฟ้าภายในบ้านเลย ราคาก็จะถูกลงมาหน่อยเมื่อเทียบกับตู้เย็น 2 ประตูแบบ Side-by-side นะคะ ตู้เย็นรุ่นนี้มีเทคโนโลยี Digital Inverter ที่เป็นจุดเด่นในเรื่องของการทำงานที่ไร้เสียงรบกวน สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยที่มีการใช้พลังงานลดน้อยลง มีระบบ All Around Cooling และ Multi Flow เพื่อให้ความเย็นกระจายตัวได้เร็วและทั่วถึงทุกส่วนของช่องใส่อาหารและเครื่องดื่ม

นอกจากนี้ในช่องแช่เเข็งก็มีเทคโนโลยี No Frost เช่นเดียวกันกับตู้เย็นยี่ห้อแรกที่เราแนะนำเลย เพียงแต่ว่าขนาดของตู้เย็นรุ่นนี้จะเล็กลงมาหน่อยซึ่งอยู่ที่ 14.1 คิวบิกฟุตนั่นเอง ดังนั้นถ้าใครที่มองหาตู้เย็นที่มีฟีเจอร์หรือระบบทำงานที่ใกล้เคียงกันกับตู้เย็นตัวแรกในราคาที่ถูกลงมานิดนึง แนะนำเลยค่ะ ตู้เย็นยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ช่วยคุณได้นะ

4. Electrolux รุ่น ETB3740K-A

สำหรับตู้เย็นยี่ห้อที่สี่เป็นตู้เย็นจากยี่ห้อ Electrolux รุ่น ETB3740K-A ค่ะ รุ่นนี้มีความจุอยู่ที่ 12 คิวบิกฟุตนะ เป็นตู้เย็น 2 ประตูที่มีช่องแช่เเข็งอยู่ด้านบน รุ่นนี้มีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นด้วยกันทั้งหมด 3 อย่างเริ่มด้วยระบบ Taste Seal ในช่องแช่สำหรับเนื้อสัตว์ที่จะช่วยรักษาความสดของเนื้อสัตว์ด้วยอุณหภูมิที่สม่ำเสมอกันที่ -2 องศาเซลเซียสซึ่งสามารถยืดอายุความสดใหม่ของเนื้อสัตว์ได้นานขึ้น 7 วันและมาพร้อมกับถาดสแตนเลสเร่งความเย็นด้วยและสะดวกต่อการทำความสะอาดค่ะ

ตู้เย็นมี TasteLockAuto มาเป็นตัวควบคุมความชื้นให้กับช่องเก็บผักผลไม้คงความสดใหม่ได้นานถึง 7 วันอีกเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีระบบ Eventemp. ช่วยให้ความเย็นแผ่กระจายไปรอบทิศทางและสม่ำเสมอ แต่ที่เราคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจของตู้เย็น Electrolux นี้คือเขามีระบบ TasteGuard เป็นระบบกำจัดกลิ่นมาไว้ในตู้เย็นด้วยค่ะ เพราะแน่นอนว่าเมื่อเราใช้ตู้เย็นไปสักพักเรื่องของกลิ่นในตู้เย็นเป็นปัญหาหนึ่งที่ต้องเจอ เขาเลยมี Carbon Filter มาเป็นตัวดูดกลิ่นและป้องกันไม่ให้อาหารของเรามีรสชาติที่เปลี่ยนไป

5. Haier รุ่น HRF-THM25NS(ONL)

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี สุดท้ายนี้ก็จะเป็นคิวของตู้เย็น 2 ประตูยี่ห้อที่ห้าแล้วค่ะ ยี่ห้อนี้ก็คือยี่ห้อ Haier รุ่น HRF-THM25NS(ONL) รุ่นนี้เจ๋งตรงที่ประตูเป็นประตูที่สามารถสลับด้านซ้ายขวาได้ ทำให้สะดวกต่อการปิดเปิดตู้เย็นมากขึ้น เรื่องระบบความเย็นภายในตัวเครื่องก็ถือว่าโอเคค่ะ มีระบบการกำจัดกลิ่นในตู้เย็นด้วย และยังมีไฟ LED ที่ช่วยให้ความสว่างในตู้เย็นได้เพียงพอในมุมที่เป็นพื้นที่อับแสง

ในส่วนของช่องเก็บอาหารและเครื่องดื่มนั้นตัวชั้นวางก็ผลิตจากกระจกนิรภัย ทนทาน แข็งแรง และช่องทำน้ำแข็งก็สามารถทำก้อนน้ำแข็งได้เร็วสุดที่ 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวคอมเพรสเซอร์เป็นแบบ Non-Inverter ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดเสียงรบกวนอยู่เล็กน้อยในขณะที่เครื่องทำงานถึงแม้ว่าจะมีตัวซับเสียงค่ะ

เคล็ดลับการเลือกซื้อตู้เย็นและวิธีการเก็บอาหารให้สดและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น

เอาล่ะจากที่เห็นไปตู้เย็นก็มีหลายรูปแบบให้เลือกตามความชอบของคนแต่ละสมัยเลย แต่ว่าการที่จะได้ตู้เย็นที่ตรงตามความต้องการบางทีก็อาจจะต้องเลือกที่สิ่งที่ควรจะโฟกัสจริงๆ เป็นอันดับแรกซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

1. หาตู้เย็นที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะติดตั้ง

จะรู้ได้อย่างไรว่าตู้เย็นที่กำลังเล็งอยู่จะเป็นตู้เย็นที่ใช่ก็ต้องทำการวัดพื้นที่ที่จะเอาตู้เย็นไปวางก่อนใช่ไหมล่ะคะ จัดการวัดพื้นที่ทั้งความกว้าง ความยาวและความสูงเลยเพื่อที่จะได้รู้ว่าขนาดเต็มที่ของพื้นที่นั้นๆเพียงพอต่อการวางตู้เย็นหรือไม่ และอย่าลืมวัดระยะห่างเพื่อการถ่ายเทของอากาศด้วยนะคะโดยวัดระยะห่างระหว่างพื้นที่ด้านหลังตู้เย็นกับกำแพงออกมาอย่างน้อย 2 นิ้ว ตู้เย็นจะได้ไม่ต้องทำงานหนักและลดความเสียหายที่เกิดกับระบบทำความเย็นค่ะ

2. กำหนดความสูงของตู้เย็นที่ต้องการ

ความสูงของตู้เย็นจะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการบรรจุของตู้เย็นที่เราจะซื้อ ซึ่งจากที่เราไปหาข้อมูลมานั้นก็มีการแนะนำว่าให้ลองเลือกตู้เย็นที่เป็นแบบ counter-depth ซึ่งเป็นตู้เย็นที่สามารถจัดวางได้กับเคาน์เตอร์ครัวขนาดมาตรฐานเพราะค่อนข้างง่ายต่อการจัดเก็บอาหารและเครื่องดื่ม ดูเข้ากับห้องครัวทุกรูปแบบ และตู้เย็นประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะกินไฟน้อยกว่าแบบอื่นๆค่ะ

3.ปัจจัยอื่นๆที่สามารถนำมาตัดสินใจ

สำหรับข้อนี้นั้นค่อนข้างจะขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความชอบไม่ว่าจะเป็นประเภทของตู้เย็นที่จำแนกจากจำนวนประตู หรือจะเป็นการติดตั้งแบบ freestanding กับตู้เย็นที่ทำการ built-in ไปเลย ซึ่งความของแต่ละแบบที่เห็นชัดๆเลยคือเรื่องราคา ขนาด และความสามารถในการบรรจุนะ

4. อย่าลืมเลือกซื้อรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน

ข้อนี้เป็นอะไรที่ควรให้ความสำคัญตรงที่มันเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมของเรานะ ซึ่งตู้เย็นหลายๆยี่ห้อในปัจจุบันก็เริ่มผลิตออกมาให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งถ้าแนะนำก็จะเป็นตู้เย็นประเภทอื่นๆที่ไม่ใช่ตู้้เย็นแบบ side-by-side เพราะการกินไฟจะน้อยกว่าเมื่อนำมาเทียบกันค่ะ

บทสรุป ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อไหนดี

สำหรับตู้เย็น 2 ประตูตัวที่เราอยากจะแนะนำมากที่สุดนั่นก็คือตู้เย็น 2 ประตูแบบ side-by-side จากยี่ห้อ Bosch รุ่น KAN92VS30I เครื่องนี้เลยค่ะเพราะเราชอบตรงที่นอกจากช่องเก็บของกินจะมีให้วางได้เยอะจุใจแล้ว เรื่องรักษาความสดนี่ไว้ใจได้เลยของสดนานมาก แล้วก็เรื่องของช่องแช่เเข็งที่มีระบบ No Frost และ Superfreezing เป็นอะไรที่เพิ่มความสะดวกต่อความหิวไปอี๊ก ฮ่าๆๆ

นอกจากนี้ดีไซน์ก็ค่อนข้างดูดี มีจอ LED ให้ดูอุณหภูมิและดีตรงที่เราสามารถควคุมการทำงานได้นี่แหละค่ะ อย่างไรก็ตามหากคุณมีตู้เย็นที่ใช่อยู่แล้วแต่ยังอยากได้ตู้เย็นที่เล็กลงมาหน่อยอย่างตู้เย็นมินิเอาไว้แช่เครื่องดื่มหรือว่าจะเป็นตู้เย็นที่เหมาะกับคนรักการทำอาหารโดยเฉพาะ ก็สามารถเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ของชอบรีวิวได้นะคะแล้วเลือกหมวด Home Appliances เพียงเท่านี้คุณก็จะพบกับรีวิวสินค้าต่างๆที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็เป็นได้