สุขภาพสายตา เป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรใส่ใจเป็นพิเศษ ด้วยคำพูดชวนให้ใส่ใจสุขภาพสายตาที่ว่า “เพราะเราเกิดมามีดวงตาเพียงคู่เดียว” จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างให้ความใส่ใจกับปัญหาเรื่องดวงตาและสุขภาพตากันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่มีปัจจัยกระตุ้นมากมายที่ทำให้เสี่ยงมีปัญหาเรื่องสุขภาพสายตามากกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น มลภาวะ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องจ้องหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น จนทำให้สายตาอ่อนล้า และอาจทำให้เกิดปัญหาสายตาในระยะยาวได้
ปัญหาสายตา ถือเป็นปัญหาสำคัญ เพราะเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดูแลรักษามักจะแพงมาก จึงเป็นการดี หากเราจะป้องกันไว้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาได้ หากเราต้องรักษาดวงตาคู่สวยของเรา มาดูกันว่ามี วิตามินบำรุงสายตา ตัวไหนบ้างที่น่าสนใจในปีนี้
วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อที่ดีที่สุด
- Vistra Bilberry Extract Plus Lutein Beta-Carotene
- Blackmores Lutein-Vis
- Clover Plus บิลเบอร์รี่ แอนด์ แมรี่โกลด์ คอมเพล็กซ์
- Dr. Lyn-อาหารเสริมบำรุงสายตา ลูทีน บิลเบอร์รี่
- วิตามินบำรุงสายตา Auswelllife Bilberry
สาเหตุของปัญหาจอประสาทตาเสื่อม
แต่ก่อนที่เราจะมาทราบวิธีการดูแลรักษาดวงตา เราควรรู้ก่อนว่ามีสาเหตุใดได้บ้าง ที่ทำให้เรามีปัญหาทางด้านสายตาหรือเกิดอาการจอประสาทตาเสื่อม
อายุที่มากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายมักจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสายตา ที่มักจะปรากฏชัดเจนเมื่ออายุย่างเข้า 50 ปี โดยเฉพาะผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงหมดประจำเดือน ก็มักมีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นเดียวกัน
รังสี หลอดไฟ และแสงแดด
เราต่างรู้กันดีว่าแสงที่สว่างมากจนเกินไป มักไม่ดีต่อสุขภาพดวงตาของเรา รวมทั้งรังสีต่าง ๆ ที่ถูกปล่อยออกมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็ส่งผลต่อสุขภาพดวงตของเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน เช่น แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แสงจากหน้าจอโทรทัศน์ ที่มักจะปล่อยรังสีออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัว
การดื่มสุราและสูบบุหรี่เป็นประจำ
การดื่มสุราและสูบบุหรี่ เป็นการเพิ่มสารอนุมูลอิสระในร่างกายของเราให้สูงขึ้น จึงทำให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูบบุหรี่ ที่นอกจากจะทำให้ดวงตาดูเหลือง หมอง ไม่สดใสแล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของดวงตาลดลง
ประวัติความเจ็บป่วยของสมาชิกในครอบครัว
หากบ้านไหนมีคุณพ่อคุณแม่ หรือปู่ย่าตายาย ที่มีประวัติเป็นโรคจอประสาทาตาเสื่อม ก็อาจเป็นไปได้ว่ารุ่นลูกจะมีอาการนั้นด้วยเช่นเดียวกัน
การเป็นโรคบางอย่าง
การเป็นโรคบางอย่าง ก็สามารถทำให้เกิดโรคจอประสาทจอเสื่อมได้ เช่น โรคอ้วน หรือโรคหัวใจหลอดเลือด นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน ก็อาจทำให้ดวงตาทำงานไม่ปกติ เพราะความดันเลือดที่ส่งไปยังลูกตา ทำให้เกิดอาการปวดตาได้ด้วยเช่นเดียวกัน
อาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม
แล้วทีนี้ เราจะทราบได้อย่างไรล่ะว่าเรากำลังเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม อาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากอาการดังต่อไปนี้
- มีอาการแพ้แสง ดวงตาไม่สามารถสู้แงได้ หรือเกิดอาการระคายเคืองที่บริเวณดวงตา เมื่อจำเป็นต้องจ้องแสงเป็นระยะเวลาหนึ่ง
- ภาพที่เห็นมักเกิดอาการบิดเบี้ยว ไม่ได้สัดส่วนที่สมจริงอย่างที่มันควรจะเป็น หรืออาจจะเห็นสีที่ผิดเพี้ยนไปจากของจริง
- สายตาไม่สามารถปรับการรับรู้แสงได้ เช่น การเปลี่ยนจากที่มือดไปที่สว่าง หรือการเปลี่ยนจากที่สว่างไปที่มืด
- ตาพร่ามัว เห็นเป็นจุด ๆ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือ การสูญเสียการมองเห็น
เคล็ดลับการถนอมสายตา ไม่ให้เสื่อมก่อนวัย
วิธีการในการถนอมสายตานั้น ควรเริ่มทำตั้งแต่เนิ่น ๆ และทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ การดูแลรักษาและถนอมดวงตาอย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งาน และช่วยให้ดวงตามีสุขภาพดี โดยวิธีการถนอมสายตานั้น สามารถทำได้ ดังนี้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
สุขภาพที่ดี เริ่มจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบทั้ง 5 หมู่ ตามสัดส่วนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เน้นหนักไปที่สารอาหารบำรุงสายตา เช่น โอเมก้าสาม วิตามินอี ลูทีน เป็นต้น
นอกจากนี้ วิตามินเอ ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อม อีกทั้งยังช่วยให้ดวงตาสามารถสู้แสงจ้า ๆ ได้อีกด้วย
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ระบบภายในร่างกายต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยให้ไม่เป็นโรคอ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ การบริหารดวงตาเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างให้สุขภาพตาแข็งแรงได้อีกด้วย
ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า การสูบบุหรี่หรือแอลกอฮอล์นั้น เป็นการเร่งปฏิกิริยาการเกิดสารอนุมูลอิสระ ที่ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากเป็นไปได้ จึงควรค่อย ๆ ลดปริมาณการสูบบุหรี่หรือการดื่มแอลกอฮอล์ลง หรือหากดีที่สุด คือการเลิกสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพื่อสุขภาพตาที่ดีของเรา
ใส่ใจเรื่องความสะอาด
ความสะอาด ถือเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐาน หากแต่งหน้า ควรล้างทำความสะอาดให้หมดจด เพื่อไม่ให้สิ่งตกค้างต่าง ๆ เข้าไปสู่ดวงตา หรือหากใส่คอนแทคเลนส์ ก็ควรหมั่นล้างทำความสะอาดอยู่เสมอ และไม่ควรใส่นานจนเกินไปจนทำให้เกิดอาการตาแห้ง
ไม่จ้องจอนาน ๆ ปกป้องดวงตาจากแสงแดด
อีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นให้สุขภาพตาเสื่อมลงคือแสงต่าง ๆ ทั้งแสงจากธรรมชาติและแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรทัศน์ หรือหน้าจอสมาร์ทโฟน
หากจำเป็นต้องออกไปเจอแสงสว่าง ๆ ควรใส่แว่นกันแดด เพื่อป้องกันดวงตาจากรังสียูวี แต่หากจำเป็นต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือจ้องหน้าจอเป็นระยะเวลานาน ก็ควรใส่แว่นที่สามารถปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า
หมั่นไปตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ
เรารู้กันอยู่แล้วว่าเราควรไปตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี แต่สิ่งที่ไม่ควรละเลย คือ การตรวจสุขภาพตา เพื่อให้เราทราบหากมีเรามีปัญหาด้านสุขภาพดวงตา ก็จะสามารถทำการป้องกันและรักษาได้อย่างทันท่วงที
และนอกจากนี้ การรักษาโรคทางดวงตาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะมีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรัง
วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อไหนดีที่สุด
ในท้องตลาดอาจมีตัวเลือกของลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงสายตาให้เลือกมากมาย เราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและไว้ใจได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง และแน่นอนว่าในวันนี้ เราก็ได้รวบรวมอาหารเสริมวิตามินบำรุงสายตามาฝากคุณผู้อ่านที่กำลังสนใจสั่งซื้อวิตามิน มาดูกัน ว่ามีอะไรบ้าง
1. Vistra Bilberry Extract Plus Lutein Beta-Carotene
ปริมาณ: 30 แคปซูล
สารสกัดหลัก: บิลเบอร์รี่ ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินอี
อาหารเสริมบำรุงสายตา ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สามารถเกิดขึ้นได้กับดวงตา ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา เพิ่มความแข็งแรง และปกป้องดวงตาจากการทำร้ายของแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในการปรับการมองเห็นในที่มืดของดวงตา และยังช่วยป้องกันโรคตาบอดในที่มืดได้ดีอีกด้วย
คุณสมบัติเด่น
- ต่อต้านอนุมูลอิสระที่สามารถเกิดขึ้นกับดวงตา
- ลดอาการเมื่อยล้า เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ดวงตา
- ช่วยปรับการมองเห็นในที่มืด
2. Blackmores Lutein-Vis
ปริมาณ: 60 แคปซูล
สารสกัดหลัก: ลูทีน ดอกดาวเรือง
อาหารเสริมเพื่อการบำรุงสุขภาพดวงตาอย่างมีประสิทธิภาพ อุดมไปด้วยสารสกัดจากดอกดาวเรืองและลูทีน ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้ที่บริเวณดวงตา ช่วยให้ดวงตาแข็งแรง ป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ดวงตา และช่วยส่งเสริมให้ดวงตามีสุขภาพที่ดี
คุณสมบัติเด่น
- ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้ที่บริเวณดวงตา
- ช่วยให้ดวงตาแข็งแรง สุขภาพดี
- ป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ดวงตา
3. Clover Plus บิลเบอร์รี่ แอนด์ แมรี่โกลด์ คอมเพล็กซ์
ปริมาณ: 30 แคปซูล
สารสกัดหลัก: ลูทีน ดอกดาวเรือง วิตามินเอ
อาหารเสริมบำรุงดวงตา ช่วยในการมองเห็นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า ที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือโทรทัศน์ และยังช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้กับดวงตาของเรา ไม่ว่าจะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อ และยังช่วยลดอาการระคายเคืองตา แสบตา ตาแห้ง และตาพร่ามัว
คุณสมบัติเด่น
- ช่วยในการมองเห็นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับดวงตา
- ปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า
4. Dr. Lyn-อาหารเสริมบำรุงสายตา ลูทีน บิลเบอร์รี่
ปริมาณ: 15 แคปซูล
สารสกัดหลัก: ลูทีน บิลเบอร์รี่ วิตามินเอ
วิตามินบำรุงสายตาที่คิดค้นโดยจักษุแพทย์จากอเมริกา รวบรวมคุณค่าจากธรรมชาติ ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ที่จ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ผู้ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในเวลากลางคืน หรือผู้ที่มีอาการตาพร่ามัว ปวดตา ผ่านการรับรองทางด้านความปลอดภัย สามารถทานได้ทุกวัน
คุณสมบัติเด่น
- คิดค้นโดยจักษุแพทย์จากอเมริกา
- ช่วยฟื้นฟูสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง
- ผ่านการรับรองทางด้านความปลอดภัย
5. วิตามินบำรุงสายตา Auswelllife Bilberry
ปริมาณ: 30 แคปซูล
สารสกัดหลัก: บิลเบอร์รี่ แอนโธไซยาโนไซด์
ปกป้องและฟื้นฟูสุขภาพของดวงตาได้ในทุก ๆ วัน ด้วยวิตามินบำรุงสายตา ที่มีส่วนผสมของบิลเบอร์รี่และแอนโธไซยาโนไซด์ มีส่วนช่วยในการบำรุงจอประสาทตาไม่ให้เสื่อมสภาพ ลดอาการเมื่อยล้า อาการระคายเคืองดวงตา เพิ่มความแข็งแรงให้สุขภาพดวงตา และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายดวงตาของเรา
คุณสมบัติเด่น
- บำรุงจอประสาทตาไม่ให้เสื่อมสภาพ
- ลดอาการเมื่อยล้า อาการระคายเคืองดวงตา
- เพิ่มความแข็งแรงให้สุขภาพดวงตา
บทสรุป
เพราะการบำรุงและดูแลสุขภาพดวงตาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ดวงตาเพียงคู่เดียวของเราสามารถใช้งานได้ยาวนาน แต่ทั้งนี้ ไม่ควรหวังผลจากการทานวิตามินบำรุงสายตาเพียงอย่างเดียว แต่ควรทานควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ ด้วยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าในการบำรุงสายตา หรือหากจำเป็นต้องใช้สายตาเป็นเวลานานควรใส่ แว่นกรองแสง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อดวงตาที่สวยสดใสค่ะ