รีวิว จักรยานไฟฟ้า

เทรนด์รักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมนั้นกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในทุกมุมเมืองทั่วโลก การรณรงค์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนจากภาคส่วนต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างมากมาย เพื่อป้องกันมหันตภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต การเลือกใช้พาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้าก็กำลังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดย E-Bike หรือ จักรยานไฟฟ้า ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนยุคใหม่ที่มีหัวใจรักสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสามารถช่วยแก้ไขปัญหารถติดได้อีกด้วย มาดูกันว่า จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี น่าใช้งาน

จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

  • จักรยานไฟฟ้า Xiaomi HIMO V1 Plus 14″ Wheel
  • จักรยานไฟฟ้า G-FORCE รุ่น G14
  • จักรยานไฟฟ้า COZY 3 ที่นั่ง
  • จักรยานไฟฟ้า DYU รุ่น S2 ล้อ 10 นิ้ว
  • จักรยานไฟฟ้า VANMOOF 6.7 BLACK/SILVER

การเลือกซื้อ จักรยานไฟฟ้า Electric Bike

จักรยานไฟฟ้า นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ จักรยานแบบพับเก็บได้ และพับเก็บไม่ได้ โดยแบบที่สามารถพับเก็บได้นั้นจะสะดวกแก่การพกพา ในกรณีที่คุณต้องเดินทางโดยรถสาธารณะ

นอกจากนี้จักรยานไฟฟ้า ที่สามารถพับเก็บได้ยังมีน้ำหนักเบากว่า สำหรับจักรยานไฟฟ้า ที่พับเก็บไม่ได้ก็จะมีข้อดีในเรื่องของความจุแบตที่มากกว่า ทำให้ขับขี่ได้ไกลกว่า และสามารถรองรับน้ำหนักผู้ขับขี่ได้มากกว่าอีกด้วย

โดยในท้องตลาดนั้นต่างมีจักรยานไฟฟ้าวางขายมากมายหลากหลายแบรนด์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาตัวสินค้าก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ วันนี้เราจึงมีวิธีการพิจารณาในการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้ามาให้คุณได้พิจารณา ตามมาดูกันเลยค่ะ  

1. จุดประสงค์การใช้งาน

จักรยานไฟฟ้า ถูกออกแบบมาให้ใช้งานเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป การเลือกซื้อผู้ซื้อต้องตัดสินใจด้วยตัวเองให้ได้ว่าว่าคุณต้องการนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด เช่น หากคุณต้องการหาจักรยานไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาและสามารถพกพาขึ้นรถประจำทางได้ คุณก็ควรเลือกจักรยานไฟฟ้าแบบพับเก็บได้

หรือหากคุณต้องการหาจักรยานไฟฟ้าไว้สำหรับใช้ในครอบครัว สำหรับขับขี่ภายในหมู่บ้าน หรือใช้สำหรับขับขี่ไปร้านขายของใกล้ๆบ้าน คุณก็ควรเลือกจักรยานไฟฟ้าแบบมีตะกร้าหรือแบบมีที่ซ้อนท้าย เป็นต้น

2. เลือกจากราคา

มีหลายๆ คนเคยบอกว่าราคาของสินค้านั้นเป็นตัวกำหนดคุณภาพ แต่เราไม่ได้หมายความว่าสินค้าที่มีราคาแพงนั้นจะมีคุณภาพดีเลิศเลอเสมอไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นจักรยานไฟฟ้าที่มีราคาถูกมักจะใช้วัสดุในการผลิตที่คุณภาพต่ำกว่า และอาจจะไม่มีฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกให้เลย

เนื่องจากการควบคุมราคาต้นทุนในการผลิต แต่ในขณะเดียวกันรถจักรยานไฟฟ้าบางรุ่น บางยี่ห้อ ที่ราคาอยู่ในระดับกลางๆ ก็มีให้เลือกในตลาดอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน โดยส่วนใหญ่มักใช้วัสดุที่คุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่หลายๆคนยอมรับได้และคุณภาพที่เหมาะสมกับราคา 

ดังนั้นคุณควรพิจารณาในเรื่องราคาที่อยู่ในระดับที่คุณยอมรับได้ควบคู่กับคุณภาพและการใช้งานได้อย่างเหมาะสมด้วย

จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

3. ความปลอดภัยในการใช้งาน

การพิจารณาเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าเรื่องความปลอดภัยนั้นควรมาเป็นอันดับต้น ๆ โดยคุณควรพิจาร ณาตั้งแต่ระบบเบรก ระบบไฟฟ้า เบาะรองนั่ง วัสดุที่ใช้ผลิตว่ามีความแข็งแรงทนทานมากเพียงพอ ต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่หรือไม่

ด้วยความนิยมจักรยานไฟฟ้านั้นมีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากหลายๆ ประเทศได้มีการรณรงค์ให้คนหันมาใช้จักรยานเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดการใช้รถยนต์ที่ทำให้การจราจรติดขัดและปัญหาฝุ่นควันจากก๊าซพิษหรือ PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้คน

รีวิว จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์การใช้งาน

ดังนั้น E-Bike จึงเป็นยานพาหนะทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจึงได้คัดเลือกรถจักรยานไฟฟ้าหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจมาให้คุณๆได้พิจารณา มาดูกันเลยค่ะ

1. จักรยานไฟฟ้า Xiaomi HIMO V1 Plus 14″ Wheel

จักรยานไฟฟ้า Xiaomi Himo v1 Plus

ราคา 16,900 บาท

จักรยานไฟฟ้า Xiaomi Himo v1 Plus รุ่นนี้เค้าเป็นจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัย สมกับเป็นแบรนด์ Xiaomi เลยจริงๆค่ะ ขนาดกะทัดรัด พับเก็บได้ง่าย มีน้ำหนักเบา สะดวกในการเดินทางที่ต้องพกขึ้นรถสาธารณะ และใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในระยะทางสูงสุดประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาในการชาร์จแบตประมาณ 6 ชั่วโมง

มอเตอร์288wh
ความจุแบต7.8 AH
ระยะทางที่ทำได้60 กิโลเมตร
ความเร็วสุงสุดที่ทำได้25 km/h
ขนาดล้อ14 นิ้ว
น้ำหนัก18.5 กิโลกรัม
รับน้ำหนัก100 กิโลกรัม
สีสีเทา/สีขาว/สีส้ม

จุดเด่น

  • พับได้ สะดวกในการเดินทางโดยรถสาธารณะ ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย
  • มี 3 speed: 1 = paddle assist (13 km/hr) 2 = medium (19 km/hr) 3 = high (25 km/hr)
  • ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
  • สามารถขับเคลื่อนได้ดีแม้บนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ
  • มีระบบเบรคที่ทรงประสิทธิภาพ

ข้อควรพิจารณา​

2. จักรยานไฟฟ้า G-FORCE รุ่น G14

จักรยานไฟฟ้า แบบพับได้ G-Force รุ่น G14

ราคา 16,900 บาท

จักรยานไฟฟ้า แบบพับได้ G-Force รุ่น G14 รุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์  พร้อมหน้าจอ LCD แสดงสถานะแบตเตอร์รี่/ระยะทางและความเร็ว ทำให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมีที่วางโทรศัพท์และช่องเสียบ USB ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

โดย G-Force รุ่น G14 นี้สามารถใช้ขับขี่ระยะทางไกลได้ถึง 40 กิโลเมตรเลยทีเดียว แถมยังรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม เรียกได้ว่ามีความแข็งแรงทนทาน จึงเหมาะสำหรับผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก เวลาชาร์จแบต 4-6 ชม

มอเตอร์400 วัตต์
ความจุแบต48 โวลล์
ระยะทางที่ทำได้40 กิโลเมตร
ความเร็วสุงสุดที่ทำได้25 km/h
ขนาดล้อ14 นิ้ว
น้ำหนัก25 กิโลกรัม
รับน้ำหนัก100 กิโลกรัม
สีสีเทา/สีขาว/สีดำ

จุดเด่น

  • สามารถพับได้ สะดวกในการเดินทางโดยรถสาธารณะ ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย
  • ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชาร์ทได้ถึง 2,500 ครั้ง
  • ระบบเบรค EBS คู่หน้า-หลัง
  • สามารถถอดแบตเตอร์รี่ออกได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • ล้อแม็กแมกนีเซียมอัลลอยด์
  • ยางแบบเติมลมไม่มียางใน
  • ใช้ระบบเพลาขับ หมดปัญหาโซ่หลุด โซ่เป็นสนิม โซ่หย่อน

ข้อควรพิจารณา​

  • เวลาขี่จะได้มีเสียงอี้ดๆ
  • ตัวจักรยานค่อนข้างหนัก
  • การพับจักรยานค่อนข้างใช้แรงเยอะ

3. จักรยานไฟฟ้า COZY 3 ที่นั่ง

จักรยานไฟฟ้า Cozy

ราคา 15,900 บาท

จักรยานไฟฟ้า Cozy รุ่นนี้เป็นจักรยานไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในครอบครัวโดยเฉพาะ ด้วยเบาะแบบ 3 ที่นั่ง ประกอบด้วยเบาะคนขับ เบาะด้านหน้าสำหรับเด็ก และเบาะสำหรับคนนั่งซ้อนท้ายพร้อมราวกันลื่นสำหรับคนที่นั่งด้านหลัง นั่งสบาย ขับง่าย

เหมาะกับการเดินทางระยะกลาง-ระยะใกล้ จะปั่นก็ได้บิดก็ดี ที่สำคัญประหยัดพลังงานมากๆ คิดเป็นระยะทางกิโลเมตรละไม่ถึง 1 บาท ชาร์ต 1 ครั้ง ขับได้ 20-25 กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุด 37 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดูแลรักษาง่าย และยังมีระบบกันขโมยพร้อมรีโมทรวมถึงแตรไฟฟ้าให้อีกด้วย ถือว่าคุ้มค่าสำหรับใช้ในครอบครัวสุดๆเลยค่ะ

มอเตอร์400 วัตต์
ความจุแบต48 โวลล์
ระยะทางที่ทำได้40 กิโลเมตร
ความเร็วสุงสุดที่ทำได้37 km/h
ขนาดล้อ12 นิ้ว
น้ำหนัก25 กิโลกรัม
รับน้ำหนัก150 กิโลกรัม
สีสีแดง/สีขาว/สีดำ/สีชมพู

จุดเด่น

  • จักรยานไฟฟ้า 3 ที่นั่ง เบาะเสริม ถอด-ประกอบได้
  • มีช่องเก็บของใต้เบาะมีที่ล็อค
  • มีที่วางโทรศัพท์ และที่เสียบ USB
  • มีระบบกันขโมยพร้อมรีโมทและแตรไฟฟ้า
  • ระบบเบรค EBS คู่หน้า-หลัง
  • มีหน้าจอ LCD แสดงสถานะแบตเตอร์รี่ ระยะทาง และความเร็ว

ข้อควรพิจารณา​

4. จักรยานไฟฟ้า DYU รุ่น S2 ล้อ 10 นิ้ว

จักรยานไฟฟ้า DYU

ราคา 17,900 บาท

จักรยานไฟฟ้าที่ให้คุณสามารถเลือกได้ไม่ว่าจะบิดหรือปั่น มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะใช้งานเป็นจักรยานไฟฟ้าเต็มตัวที่สามารถวิ่งได้ถึง 25 กิโลเมตร หรือจะทั้งบิดและปั่นไปพร้อม ๆ กันด้วยระบบ Pedal assist อัจฉริยะที่ทำให้คุณสามารถขับขี่ได้ไกลได้ถึง 45 กิโลเมตร หรือจะเลือกปั่นเป็นจักรยานแบบปกติก็ได้ ขับง่าย สะดวก ตอบโจทย์ในทุกการใช้งานได้ดี และยังประหยัดค่าไฟฟ้าอีกด้วย

มอเตอร์250 วัตต์
ความจุแบต6 Ah
ระยะทางที่ทำได้45 กิโลเมตร
ความเร็วสุงสุดที่ทำได้25 km/h
ขนาดล้อ10 นิ้ว
น้ำหนัก17 กิโลกรัม
รับน้ำหนัก120 กิโลกรัม
สีสีดำ

จุดเด่น

  • ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกสองล้อ
  • ประหยัดค่าไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกินประมาณ 3 บาท ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • สะดวก และตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ล้อใหญ่ ยางลม
  • ขับขี่ smooth ในทุกพื้นผิว ซีเมนต์ในหมู่บ้าน ฟุธปาธ อิฐ ถนนขรุขระ หญ้าสั้น ดินแข็ง
  • พับง่าย พกขึ้นรถได้ จักรยานไฟฟ้า คันเดียวครบทุกการใช้งาน

ข้อควรพิจารณา​

  • ไม่มีโช้ค ใช้ล้อยางลมในการช่วยซัพพอร์ตแรงกระแทก ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย

5. จักรยานไฟฟ้า VANMOOF 6.7 BLACK/SILVER

จักรยาน VANMOOF 6.7 BLACK & SILVER

ราคา 38,900 บาท

ถ้าหากคุณเป็นสาย City Bike หรือชอบขี่จักรยานในเมือง เชื่อได้เลยว่าต้องมีชื่อ VANMOOF อยู่ในลิสต์จักรยานในฝัน ด้วยการออกแบบพร้อมดีไซน์เรียบหรูและใช้งานได้เป็นอย่างดี และรับน้ำหนักได้เยอะ

นอกจากจะมีจุดเด่นที่ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ดูทันสมัย และคลาสสิกแล้ว ยังมาพร้อมกับระบบปั่นไฟไดนาโมภายในจักรยาน และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเทคโนโลยีป้องกันการโจรกรรมแบบอัจฉริยะ ที่จะทำการล็อกล้อและส่งเสียงเตือนหากมีใครพยายามเคลื่อนย้ายจักรยานในขณะที่จอดอยู่ สามารถชาร์จไฟให้เต็มจากที่ไม่มีแบตเหลือเลยได้ภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าชาร์จได้เร็วหากเทียบกับรุ่นอื่นๆ

มอเตอร์250 / 350W (เวอร์ชัน EU / US)
ความจุแบต504 วัตต์/ชั่วโมง
ระยะทางที่ทำได้150 กิโลเมตร
ความเร็วสูงสุดที่ทำได้40 km/h
ขนาดล้อ26 นิ้ว
น้ำหนัก
รับน้ำหนัก150 กิโลกรัม
สีสีดำ/สีเงิน

จุดเด่น

  • เฟรมทำจากอลูมิเนียมอโนไดซ์ มีความแข็งแรง ทนทาน
  • ดีไซน์เรียบหรู
  • มีระบบปั่นไฟไดนาโมสำหรับพลังงานไฟ LEDs
  • ระบบเบรกแบบโรล์เลอเบรก หน้า,หลัง
  • มีระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเทคโนโลยีป้องกันการโจรกรรมแบบอัจฉริยะ

ข้อควรพิจารณา​

  • น้ำหนักค่อนข้างเยอะ ไม่เหมาะในการนำขึ้นรถไฟฟ้า
  • ไม่เหมาะสำหรับคนตัวเล็ก
  • ขนาดของจักรยานค่อนข้างใหญ่ ไม่สามารถพับได้

บทสรุป ควรเลือก จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

การใช้จักรยานไฟฟ้า นั้นช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องที่ง่าย ประหยัดเวลา อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษทางอากาศ และยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีนะคะ อย่างไรก็ตามการขับขี่อย่างปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน ดังนั้นอย่าลืมหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อคหรือสนับเข่า-ศอกไว้ใช้ ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่นะคะ 

สำหรับจักรยานไฟฟ้าสำหรับคนยุคใหม่ในปี 2021 นี้ เราขอแนะนำ Electric bike G-FORCE G14 เนื่องด้วยคุณสมบัติเด่นที่สามารถพับได้ ทำให้สามารถพกพาและหาพื้นที่จัดเก็บได้อย่างสะดวก เหมาะกับคนยุคนี้ที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้า หรืออาศัยในคอนโดที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดเป็นอย่างมาก 

นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ LCD แสดงสถานะแบตเตอร์รี่ ระยะทาง ความเร็ว มีที่วางโทรศัพท์และที่เสียบ USB ที่ช่วยอำนวนความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ และง่ายต่อการดูแลรักษาสำหรับคนยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาอีกด้วยค่ะ


Similar Posts