การนอนเป็นสิ่งที่กินเวลาไปมากกว่า 1 ใน 3 ของชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว และทำให้คุณมีความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในแต่ละวันมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันนี้ประเภทของที่นอน มีการแบ่งแยกออกมาได้มากมาย แต่สำหรับประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นที่นอนสำหรับแก้อาการปวดหลัง ที่เป็นปัญหาสำคัญที่คนหลายกลุ่มมักจะพบเจอกันอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งในวันนี้เราก็จะแนะนำสินค้าประเภทดังกล่าว ให้คนที่มีคำถามว่าควรเลือกซื้อ ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี สามารถเลือกซื้อสินค้าที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ดีมากยิ่งขึ้น
7 ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี
- ที่นอนแก้ปวดหลัง Lunio Gen3 Pro
- ที่นอนแก้ปวดหลัง SleepHappy AtlantisV.2
- ที่นอนแก้ปวดหลัง NOOZ Sunny
- ที่นอนแก้ปวดหลัง SiamLatex Supreme Lite
- ที่นอนแก้ปวดหลัง Midas Rejuvenite
- ที่นอนแก้ปวดหลัง Bedisupreme Vanest
- ที่นอนแก้ปวดหลัง Dunlopillo Grand Firma Latex I
- การรับประกัน 12 ปี
- โครงสร้างคุณภาพสูงแบบ 5 ชั้น
- ความหนาของที่นอน 10 นิ้ว
- เทคโนโลยี Revitalize® Cycle Technology สำหรับฟื้นฟูร่างกายในระหว่างการนอน
- วัสดุแบบยางพาราแท้ที่คืนรูปได้ดี
- โครงสร้างสปริงแบบ 5 ส่วนกระจายน้ำหนักได้ดี
- Support Foam สำหรับรองรับน้ำหนักของร่างกายในส่วนต่าง ๆ
- คุณสมบัติป้องกันการสะสมตัวของสิ่งสกปรก
- การรับประกันโครงสร้างสินค้า 10 ปี
- การรองรับน้ำหนัก 300 กิโลกรัม
ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี 2024
หากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาที่นอนตัวใหม่ ที่จะช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนทำได้ดีมากยิ่งขึ้น เราก็มี 7 รุ่นที่น่าสนใจจะแนะนำให้กับคุณ ดังนี้
1. Lunio Gen3 Pro
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Lunio Gen3 Pro |
ขนาด | 5 ฟุต |
ความหนา | 10 นิ้ว |
วัสดุ | ยางพารา |
การรองรับน้ำหนัก | – |
การรับประกัน | 12 ปี |
ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี รุ่นแรกเป็นที่นอนยางพาราแท้ขนาด 5 ฟุต ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการปวดหลัง และลดอาการปวดเมื่อยได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยโครงสร้างภายในแบบ 5 ชั้น ซึ่งถูกพัฒนาและออกแบบมากเป็นอย่างดี โดยที่คุณสมบัติหลักนั้นจะทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง และรองรับน้ำหนักได้อย่างดีในทุกส่วน ด้วยความนุ่มแน่นในระดับที่เหมาะสม และสามารถระบายอากาศได้ดีด้วยในเวลาเดียวกัน นอกจากจำนวนโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาอย่างมีคุณภาพในทุกส่วนแล้ว
ตัวสินค้าก็ยังมีเทคโนโลยีหลักอย่าง Revitalize® Cycle Technology ที่จะคอยช่วยฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์ได้มากยิ่งขึ้น และทำให้คุณสามารถนอนหลับได้สนิทมากที่สุด และ 3X SupportMax System ที่จะทำให้แต่ละส่วนสามารถรองรับต่อสรีระการนอนได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น และนอกจากที่เราได้กล่าวไปแล้ว ก็ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมาย ถูกติดตั้งมาเพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับการนอนหลับของคุณภายในด้วยเช่นกัน
- การรับประกัน 12 ปี
- โครงสร้างคุณภาพสูงแบบ 5 ชั้น
- ความหนาของที่นอน 10 นิ้ว
- เทคโนโลยี Revitalize® Cycle Technology สำหรับฟื้นฟูร่างกายในระหว่างการนอน
- วัสดุแบบยางพาราแท้ที่คืนรูปได้ดี
- ราคาค่อนข้างสูงมากกว่าสินค้าทั่วไปรุ่นอื่น ๆ
- ความหนาค่อนข้างมากอาจทำความสะอาดได้ลำบาก
2. SleepHappy AtlantisV.2
แบรนด์และรุ่นสินค้า | SleepHappy AtlantisV.2 |
ขนาด | 5 ฟุต |
ความหนา | 10 นิ้ว |
วัสดุ | ยางพารา |
การรองรับน้ำหนัก | 300 กิโลกรัม |
การรับประกัน | 10 ปี |
ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี รุ่นต่อมา SleepHappy AtlantisV.2 เป็นที่นอนจากแบรนด์ SleepHappy ที่มาพร้อมขนาดมาตรฐาน 5 ฟุต และความหนาโดยรวมระดับ 10 นิ้ว รวมไปถึงยังมีความสามารถในส่วนต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับการนอนได้ดีมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่วัสดุแบบยางพาราแท้ ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 300 กิโลกรัม และคืนรูปได้ในทันทีหลังจากการขยับตัว ที่สำคัญยังมีคุณสมบัติในการป้องกันแบคทีเรีย, ฝุ่น และเชื้อราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น
จึงทำให้การทำความสะอาดเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย และปลอดภัยสุขภาพมากยิ่งขึ้นไปด้วยพร้อม ๆ กัน ในด้านของโครงสร้างภายในนั้น จะเป็นแบบสปริง 5 ส่่วนที่แยกการกระจายน้ำหนักออกจากกันได้ ส่งผลให้แม้ว่าจะเป็นการนอนหลับแบบ 2 คน แต่ก็จะไม่เกิดการสั่นสะเทือนในระหว่างการนอนหลับเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นด้วยวัสดุแบบ Support Foam คุณภาพยอดเยี่ยม ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยให้การนอนหลับของคุณ จะทำได้สนิทและลึกในทุกวันอีกด้วย
- โครงสร้างสปริงแบบ 5 ส่วนกระจายน้ำหนักได้ดี
- Support Foam สำหรับรองรับน้ำหนักของร่างกายในส่วนต่าง ๆ
- คุณสมบัติป้องกันการสะสมตัวของสิ่งสกปรก
- การรับประกันโครงสร้างสินค้า 10 ปี
- การรองรับน้ำหนัก 300 กิโลกรัม
- ขนาด 5 ฟุตอาจเล็กเกินไปเล็กน้อยสำหรับ 2 คน
- ความหนาค่อนข้างมากทำให้อาจแน่นเกินไปสำหรับหลาย ๆ คน
3. NOOZ Sunny
แบรนด์และรุ่นสินค้า | NOOZ Sunny |
ขนาด | 5 ฟุต |
ความหนา | 8 นิ้ว |
วัสดุ | ยางพารา |
การรองรับน้ำหนัก | – |
การรับประกัน | 10 ปี |
สำหรับรุ่นนี้เป็นที่นอนยางพาราแท้แบบ 5 ชั้น ที่ถูกออกแบบมาให้มีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของการระบายอากาศ ซึ่งจะสามารถทำได้อย่างมีคุณภาพกับทุกสภาพอุณหภูมิ ไม่ว่าจะเป็นในวันที่มีสภาพอากาศแบบปกติ หรือแม้แต่วันที่มีอากาศร้อนจัดเป็นพิเศษก็ตาม ซึ่งในส่วนนี้ก็นอกจากจะทำให้การระบายความร้อนทำได้ดีแล้ว ก็ยังสามารถป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการนอนได้ด้วยในเวลาเดียวกัน จากลักษณะของเส้นใยแบบติดแอร์ ที่ถูกออกแบบมาบริเวณด้านข้างของตัวที่นอน
ส่วนลักษณะของเตียงนอนนั้นจะเป็นแบบนุ่มแต่ไม่ยวบ ทำให้ความรู้สึกในการนอนจึงมีความนิ่มมากเป็นพิเศษ และป้องกันอาการเมื่อยบริเวณคอ, บ่า และหลังได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาที่นอนที่มีความเย็น และช่วยเพิ่มความสบายให้กับระหว่างการนอน รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว
- บรรเทาอากาศปวดเมื่อยบริเวณคอ, บ่อ และหลังได้เป็นอย่างดี
- ช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้อย่างมีคุณภาพ
- โครงสร้างภายในแบบ 5 ชั้นรองรับน้ำหนักได้ดี
- การระบายความร้อนที่ยอดเยียยมจากเส้นใยแบบติดแอร์บริเวณด้านข้าง
- โฟมลักษณะพิเศษเพิ่มความทนทานให้กับการใช้งาน
- อาจไม่ถูกใจคนที่ไม่ชอบที่นอนแบบแข็งมากนัก
- การคงรูปในระยะยาวอาจไม่ดีมากนักจากลักษณะเตียงแบบนุ่มพิเศษ
4. SiamLatex Supreme Lite
แบรนด์และรุ่นสินค้า | SiamLatex Supreme Lite |
ขนาด | 5 ฟุต |
ความหนา | 3 นิ้ว |
วัสดุ | ยางพารา |
การรองรับน้ำหนัก | – |
การรับประกัน | 10 ปี |
SiamLatex Supreme Lite เป็นที่นอนอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน จากลักษณะของที่นอนแบบยางแผ่น ที่จะทำการขึ้นรูปในทุกรอบของการใช้งาน ซึ่งจุดเด่นสำคัญของเตียงรุ่นนี้ จะเป็นการแบ่งโซนรองรับน้ำหนักแบบ 7 ส่วน ที่ทำให้การนอนหลับสามารถสบายได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการกระจายแรงกดทับที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม เริ่มตั้งแต่บริเวณศีรษะ, ไหล่, คอ, เอว, สะโพก, เข่า, ขา และช่วงเท้า ที่ถือว่าครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายได้เป็นอย่างดี
ส่งผลให้สามารถลดอาการปวดเมื่อยของช่วงต่าง ๆ และอาการออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีคุณภาพไปด้วยพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ อย่าง Mite Shield 1.0 ที่ช่วยป้องกันไรฝุ่นบนที่นอน และ Airvent Technology ที่เป็นการสร้างรูระบายอากาศแบบเต็มผืนถูกติดตั้งมาให้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็ก, ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ ก็จะเหมาะสำหรับเตียงรุ่นนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
- เหมาะสำหรับผู้คนในทุกช่วงวัย
- การแบ่งส่วนรองรับน้ำหนักแบบ 7 โซน
- Airvent Technology สำหรับการระบายอากาศที่มีคุณภาพ
- วัสดุยางพาราแท้ที่ปลอดภัยไร้สารตกค้าง
- คุณสมบัติป้องกันไรฝุ่นและสิ่งสกปรกเพื่อลดการเกิดภูมิแพ้
- ความหนาของที่นอนเพียง 3 นิ้ว
- อาจมีความเสียหายในแต่ละส่วนของสปริงได้แตกต่างกันไปในระยะยาว
5. Midas Rejuvenite
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Midas Rejuvenite |
ขนาด | 3 ฟุต |
ความหนา | 2 นิ้ว |
วัสดุ | ยางพารา |
การรองรับน้ำหนัก | – |
การรับประกัน | – |
รุ่นต่อมาเป็นที่นอนขนาด 3 ฟุตพร้อมความหนา 2 นิ้ว ซึ่งเน้นคุณภาพสมบัติที่น่าสนใจไปในเชิงสุขภาพ ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่คิดว่าควรเลือกซื้อที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี สำหรับการใช้งานในระยะยาวของผู้ใช้งานคนเดียวในปี 2023 นี้ โดยเทคโนโลยีที่น่าสนใจหลัก ๆ นั้น จะเป็นในส่วนของการใช้สารเคลือบเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก ประกอบด้วย Allergy Protection สำหรับป้องกันสิ่งสกปรกที่จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้, Dustimite Protection Coating ที่จะคอยป้องกันสารก่อไรฝุ่น, Non Toxic and Dust Mate Resistane เพื่อป้องการกันสะสมตัวของสารพิษ และ Hypo Allergic
สำหรับจัดการกับสารที่มีความเฉพาะในการก่อให้เกิดภูมิแพ้ ที่สำคัญยังมีการใช้งานเทคโนโลยี Microlatex ที่เป็นยางพาราแบบอัดแน่นพิเศษ พร้อมระบบโครงสร้างแบบ Opened-Cell ที่ช่วยทำให้การถ่ายเทอากาศมีความสะดวก และเพิ่มความเย็นสบายในระหว่างการนอนหลับให้มากยิ่งขึ้นไปได้ด้วยพร้อมกัน
- Microlatex สำหรับการถ่ายเทอากาศที่มีคุณภาพ
- โครงสร้าง Opened-Cell ที่มีความทนทานสูง
- สารเคลือบมากมายที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเพิ่มความปลอดภับให้กับสุขภาพ
- เนื้อผ้ามีความหนานุ่มนอนหลับได้สบาย
- คุณสมบัติลดแรงกดทับและช่วยระบบไหลเวียบโลหิต
- ช่วงแรกของการใช้งานจะมีกลิ่นของยางพาราที่ค่อนข้างแรงเล็กน้อย
- วัสดุลามไฟได้ง่าย
6. Bedisupreme Vanest
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Bedisupreme Vanest |
ขนาด | 6 ฟุต |
ความหนา | 8 นิ้ว |
วัสดุ | ยาง Polyethylene |
การรองรับน้ำหนัก | – |
การรับประกัน | – |
Bedisupreme Vanest เป็นที่นอนแก้ปวดหลังพร้อมวัสดุแบบยาง Polyethylene จากแบรนด์ Bedisupreme ที่มาพร้อมขนาดใหญ่ 6 ฟุต และความหนาของเตียงนอน 8 นิ้ว ซึ่งช่วยให้การนอนหลับสามารถทำได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยความนุ่มและพื้นที่ในการนอนที่มากเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานนั้นรุ่นนี้จะสามารถทำได้แบบ 2 ด้าน ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการทำความสะอาด และเพิ่มการใช้งานต่อเนื่องให้ได้มากยิ่งขึ้น ส่วนคุณสมบัติในการใช้งานนั้น
เบื้องต้นจะสามารถบรรเทาอาการปวดหลัง และเพิ่มอัตราการไหลเวียนเลือดให้ดีได้มากยิ่งขึ้น จากการถูกออกแบบมาให้ไร้แรงกดทับ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของศีรษะไปจนถึงกระดูกสันหลัง รวมไปถึงยังมีเทคโนโลยี Comfort Foam สำหรับช่วยเพิ่มสัมผัสและความนุ่มให้กับการนอนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเนื้อผ้าแบบ Sofrcell 150g ที่ช่วยเพิ่มความหนาให้กับส่วนภายนอกได้มากยิ่งขึ้นไปด้วยพร้อมกัน
- สัมผัสของเนื้อผ้าด้านนอกมีความหนาเป็นพิเศษ
- ขนาดของเตียงนอน 6 ฟุต
- บรรเทาอาการปวดหลังและเพิ่มอัตราการไหลเวียนเลือดได้ดี
- ความหนาของเตียงนอนค่อนข้างสูง
- คุณสมบัติป้องกันฝุ่นและแบคทีเรีย
- ระดับความแน่อนค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ
- วัสดุในการผลิตเป็นยางแบบ Polyethylene
7. Dunlopillo Grand Firma Latex I
แบรนด์และรุ่นสินค้า | Dunlopillo Grand Firma Latex I |
ขนาด | 3.5 ฟุต |
ความหนา | 2 นิ้ว |
วัสดุ | ยางพารา |
การรองรับน้ำหนัก | – |
การรับประกัน | – |
ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี รุ่นสุดท้ายเป็นที่นอนแก้ปวดหลังจากวัสดุแบบยางพาราแท้ ที่ถูกผลิตขึ้นมาภายใต้มาตรฐานของประเทศเบลเยี่ยม และมาพร้อมคุณสมบัติมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับสรีระและกระจายน้ำหนักได้ดี ช่วยลดอาการปวดหลังให้ได้มากยิ่งขึ้น หรือแม้แต่การใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ ทั้งการใช้งานในลักษณะของท็อปเปอร์ ไปจนถึงการแยกนอนแบบชิ้นเดียวบนพื้น รวมไปถึงยังมีคุณสมบัติในการป้องกันไร้ฝุ่น และไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
สำหรับบริเวณด้านนอกนั้นจะใช้งานวัสดุเป็นแบบผ้า Dunlopillo Design Cotton ที่ถูกนำเข้าจากทางอังกฤษ และให้สัมผัสที่มีความสบายและมีคุณภาพ นอกจากนี้ด้วยความหนาเพียง 2 นิ้ว ก็ทำให้ในกรณีที่ไม่ต้องการใช้งาน คุณจะสามารถพับเก็บให้มีขนาดเล็กได้อย่างประหยัดพื้นที่ด้วยเช่นกัน
- วัสดุแบบยางพาราแท้ 100%
- ขนาดค่อนข้างใหญ่สำหรับการนอนคนเดียว
- สามารถใช้งานได้ทั้ังแบบแยกเดี่ยวและท็อปเปอร์
- คุณสมบัติป้องกันสิ่งสกปรกและไรฝุ่น
- ผ้าด้านนอกแบบ Dunlopillo Design Cotton ที่มีสัมผัานุ่มสบาย
- ความหนาของเตียงนอนเพียง 2 นิ้ว
- การใช้แบบแยกเดี่ยวอาจไม่ดีเท่าการใช้งานเป็นท็อปเปอร์
ประเภทของที่นอนแก้ปวดหลัง
1. ที่นอนแบบทั่วไป
สำหรับที่นอนแก้ปวดหลังประเภทแรก จะเป็นลักษณะของที่นอนแบบทั่วไป ที่ค่อนข้างมีความหนามากเป็นพิเศษ โดยจะอยู่ที่ระดับ 5 นิ้วเป็นต้นไป และถูกออกแบบมาสำหรับการใช้นอนแบบแยกเดี่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งเตียงนอนประเภทนี้จะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่แต่ละแบรนด์ใช้ในการผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของเทคโนโลยี ที่ช่วยเพิ่มความสะอาดและปลอดภัยจากสิ่งสกปรก หรือแม้แต่เทคโนโลยีที่จะทำให้การปวดหลังหรือส่วนต่าง ๆ สามารถจัดการได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งจากการออกแบบมาให้มีคุณสมบัติลดการกดทับ ไปจนถึงการเพิ่มอัตราไหลเวียนเลือด ที่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจ และเพิ่มคุณภาพให้กับการนอนหลับได้ดีด้วยกันทั้งสิ้น
2. ที่นอนท็อปเปอร์
ที่นอนประเภทนี้เป็นที่นอนที่สามารถใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ การใช้งานแบบแยกเดี่ยวสำหรับนอนพื้น และการใช้งานเป็นที่นอนชั้นบน สำหรับการวางทับเพื่อนอนกับที่นอนปกติ ซึ่งกำลังเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีราคาที่จับต้องได้ง่าย และมีต้นทุนที่ต่ำมากกว่าการเลือกใช้งานที่นอนตัวใหม่ สำหรับเทคโนโลยีการใช้งานนั้น จะเน้นไปที่การบรรเทาอาการปวดเมื่อยเป็นหลัก แต่ก็ยังมีบางรุ่นที่เน้นคุณสมบัติส่วนอื่น ๆ อย่างการระบายอากาศ เพื่อเพิ่มความรู้สึกสบายให้กับการนอนด้วยเช่นกัน
วิธีการเลือกซื้อที่นอนแก้ปวดหลัง
1. เลือกจากขนาดของที่นอน
ขั้นตอนแรกที่ควรกำหนดในการเลือกซื้อที่นอนแก้ปวดหลัง คือ ขนาดและความหนาของที่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีความหลากหลาย และเป็นเรื่องพื้นฐานของสินค้าประเภทนี้ โดยการเลือกซื้อนั้นคุณจะต้องกำหนดเริ่มต้นจากผู้ใช้งาน ว่าจะมีจำนวนอยู่ที่เท่าไหร่ จากนั้นจึงเลือกตามความเหมาะสม สำหรับคนจำนวน 1 คนนั้นขนาดที่เหมาะสม จะอยู่ที่ขนาด 3 ถึง 3.5 ฟุตขึ้นอยู่กับขนาดและสรีระของร่างกาย ส่วนการนอนของผู้ใช้งาน 2 คนนั้น ขนาดที่เหมาะสมจะเป็นที่นอน 5 ฟุต และอาจเพิ่มขึ้นได้เป็น 6 ฟุตตามงบประมาณ แต่ก็ควรเลือกรุ่นที่เข้ากันได้กับโครงเตียงนอน ในกรณีที่คุณมีอยู่แล้วแต่เดิมด้วยเช่นกัน
2. เลือกจากระดับความนุ่มแน่น
ที่นอนแก้ปวดหลังแต่ละรุ่นจะถูกออกแบบระดับความนุ่มแน่นมาให้อย่างชัดเจนตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถูกอธิบายไว้ในรายละเอียดของสินค้า และเราจะสามารถเลือกได้หลากหลายตามความชื่นชอบ เนื่องจากร่างกายของคนเราจะตอบสนองต่อระดับความแน่นและความนุ่ม เพื่อให้รู้สึกสบายได้แตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วหากคุณไม่ได้ชื่นชอบเตียงนอนลักษณะไหนมากเป็นพิเศษ ในกรณีที่ต้องการให้หลับระยะยาวได้ดีนั้น ก็ควรเลือกรุ่นที่ค่อนข้างมีความนุ่มมากกว่าปกติ แต่หากคุณค่อนข้างมีอาการปวดหลัง รุ่นนี้ที่มีความแน่นก็จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีมากกว่า
3. เลือกจากการรับประกันโครงสร้าง
โดยทั่วไปแล้วที่นอนเป็นสิ่งที่มักจะถูกใช้งานอย่างยาวนาน จึงทำให้สิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องของการรับประกันของโครงสร้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการคงรูปของที่นอนรุ่นนั้น ๆ โดยรุ่นที่มีการรับประกันโครงสร้างยาวนานมากกว่า ก็มักจะทำให้คุณใช้งานระยะยาวได้ดีมากกว่า ทำให้ความคุ้มค่าของสินค้าเพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาเตียงนอนและการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย
บทสรุป ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี
หลังจากที่คุณได้ลองอ่านบทความ ที่นอนแก้ปวดหลัง ยี่ห้อไหนดี ของเราแล้ว ก็น่าจะพบเห็นแล้วว่า Lunio Gen3 Pro ที่เป็นรุ่นแรกนั้นจัดเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคนี้ได้ดีที่สุด เนื่องจากสามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี และมีเทคโนโลยีส่วนอื่น ๆ ที่ช่วยสนับสนุนการใช้งานในเชิงสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น แต่สินค้ารุ่นอื่น ๆ ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลาย ๆ คนได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณต้องการให้สามารถนอนหลับได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกหนึ่งขั้น ก็อาจลองมองหาหมอนยางพารา ที่นอนท็อปเปอร์ และผ้านวม ไว้สำหรับใช้งานร่วมกันจากบทความของเราได้อีกด้วย