Huawei รุ่นไหนดี

ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนต้องพกพาติดตัว เพราะเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีไว้ใช้ในการติดต่อสื่อสารผ่านการโทร หรือพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ อาทิเช่น Line, Whatapps, Telegram เป็นต้น อีกทั้งโทรศัพท์มือถือยังสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง รวมไปถึงกล้องถ่ายภาพที่มีคุณภาพเทียบเท่ากล้องดิจิทัล

ซึ่งโทรศัพท์มือถือ Huawei ตอบโจทย์รอบด้านทั้ง ดีไซน์ที่ทันสมัย, สเปกแรง, กล้องสวยถ่ายออกมาคมชัด พร้อมระบบแบตเตอรี่ที่ถึกทนอีกด้วย ไม่แพ้โทรศัพท์จาก Oppo, โทรศัพท์ Vivo, โทรศัพท์ Redmi หรือแม้แต่มือถือจาก xiaomi ซึ่งเป็นมือถือราคาตั้งแต่ 3000, มือถือราคา 5000 ทำให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น วันนี้ชอบรีวิวจะมาแนะนำ 5 อันดับ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี พร้อมวิธีการเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งาน มาติดตามพร้อมๆกันเลย

โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี 2024

ฟังก์ชันครบครัน
9.7
Huawei Nova 9
  • ความเร็วของ CPU อยู่ที่ 2.4 Ghz เทียบเท่าความแรงเท่าคอมพิวเตอร์
  • จอแสดงผล Refresh Rate 120Hz รองรับการสัมผัส 300 Hz
  • รองรับ Fast Charge 66W
  • กล้องหน้าสามารถถ่าย Selfie โหมด Portrait ความคมชัด 32 ล้านพิกเซล
  • รองรับระบบ 2 Sim และ Nano Sim
ดีไซน์สวยงาม
9.5
Huawei P50 Pro
  • ความเร็วของ CPU อยู่ที่ 2.84 Ghz ประมวลผลรวดเร็ว  เครื่องไม่มีสะดุด
  • จอแสดงผล Refresh Rate 120Hz รองรับการสัมผัส 300 Hz
  • รองรับ Fast Charge 66W
  • สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 4K
  • ชิปเซตขนาด 5nm ประมวลผลรวดเร็ว ประหยัดแบตเตอรี่
ราคาถูก
9.3
Huawei Nova 9 SE
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 680 4G ความเร็ว 2.4 Ghz
  • RAM  8 GB  เครื่องไม่ร้อน
  • จอแสดงผล Refresh Rate 90Hz รองรับการสัมผัส 270 Hz
  • รองรับ Fast Charge 66W
  • กล้องหลังคมชัดถึง 108 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอได้คมชัด

แนะนำ 5 อันดับ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี 2024

โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี แต่ละเครื่องมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราไปดูกันเลยว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้างและมีสเปกแรงขนาดไหน จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย

1.   Huawei P50 Pro

Huawei P50 Pro

เริ่มต้นด้วยกัน Huawei P50 Pro เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2022 และมีจัดจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งรุ่นนี้เป็นมือถือระดับเรือธง มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ OLED 10-bit ขนาด 6.5 นิ้ว หน้าจอมี Refresh Rate 120Hz และรองรับอัตราตอบสนองการสัมผัส 300 Hz ซึ่งทำให้มีภาพสวยคมชัด สีเด่นชัด

ส่วนชิปประมวลผลใช้ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 888 ขนาด 5nm ความเร็ว CPU อยู่ที่ 2.8 Ghz พร้อมระบบปฏิบัติการ EMUI 12 Version โดยมีหน่วยความจำ RAM 8 GB/ROM 256 GB และมีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 4,360 mAh รองรับระบบ Fast Charge 66W ได้อีกด้วย

คุณสมบัติเรื่องกล้องไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ซึ่งกล้องหลังมีถึง 4 ตัวด้วยกัน กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ระบบภายในกล้องหลักมี Auto-focus ส่วนกล้อง Telephoto 64 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 13 ล้านพิกเซล กล้อง Mono 40 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความคมชัด 13 ล้านพิกเซล อีกทั้งมีระบบกันละอองน้ำและฝุ่นระออง มาตรฐาน IP68

จุดเด่น
  • ความเร็วของ CPU อยู่ที่ 2.84 Ghz ประมวลผลรวดเร็ว  เครื่องไม่มีสะดุด
  • จอแสดงผล Refresh Rate 120Hz รองรับการสัมผัส 300 Hz
  • รองรับ Fast Charge 66W
  • สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 4K
  • ชิปเซตขนาด 5nm ประมวลผลรวดเร็ว ประหยัดแบตเตอรี่
จุดควรพิจารณา
  • ความจุแบตเตอรี่น้อยกว่า 5,000 mAh 
  • ไม่รองรับระบบเครือข่าย 5G

2.   Huawei Nova 9

Huawei Nova 9

Huawei Nova 9 เปิดวางจำหน่ายในไทยเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.57 นิ้ว หน้าจอมี Refresh Rate 120Hz และรองรับอัตราตอบสนองการสัมผัส 300 Hz ซึ่งทำให้มีภาพสวยคมชัด สีเด่นชัด และมีหน่วยความจำ RAM 8 Gb/ROM 256 Gb เพียงพอต่อการใช้งาน

ส่วนชิปยังคงใช้ Qualcomm Snapdragon 778G ขนาด 6nm ความเร็ว CPU อยู่ที่ 2.4 Ghz ความแรงใกล้เคียงชิปเซตระดับเรือธงในตระกูล Snapdragon Series8 รองรับ Nano Sim และรองรับระบบ 2 Simได้เช่นกัน มีความจุแบตเตอรี่ 4,300 mAh รองรับ Fast Charge 66W

มีกล้องหลังถึง 4 ตัว โดยกล้องหลักเป็นเลนส์ Ultra-Vision Camera ความละเอียดที่ 50 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล แต่กล้องหน้าสามารถถ่าย Portrait ได้คมชัดด้วยความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ถ่ายออกมาภาพสวย คมชัด หน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • ความเร็วของ CPU อยู่ที่ 2.4 Ghz เทียบเท่าความแรงเท่าคอมพิวเตอร์
  • จอแสดงผล Refresh Rate 120Hz รองรับการสัมผัส 300 Hz 
  • รองรับ Fast Charge 66W 
  • กล้องหน้าสามารถถ่าย Selfie โหมด Portrait ความคมชัด 32 ล้านพิกเซล
  • รองรับระบบ 2 Sim และ Nano Sim
จุดควรพิจารณา
  •  ความจุแบตเตอรี่น้อยกว่า 5,000 mAh 
  • ไม่รองรับระบบเครือข่าย 5G
  • ไม่มีคุณสมบัติในการกันละอองน้ำและละอองฝุ่น

3.  Huawei Nova 9 SE

Huawei Nova 9 SE

ต่อไปมาถึงอันดับที่ 3 คือ Huawei Nova 9 SE เปิดให้จำหน่ายในไทยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2022 มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ IPS-LCD 24-bit ขนาด 6.78 นิ้ว ความคมชัด FHD+ หน้าจอมี Refresh Rate 90Hz และรองรับอัตราตอบสนองการสัมผัส 270 Hz

ชิปเซตใช้ Qualcomm Snapdragon 680  4G ความเร็ว CPU 2.4 GHz ขนาด 6 nm ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมครอบทับด้วย EMUI 12 มีหน่วยความจำ RAM 8GB/ROM 128 GB รองรับ Nano Sim มีความจุแบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 66W

มีกล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล โดยสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30FPS พร้อมมีแอพพลิเคชั่น Petal Clip สามารถตัดต่อวิดิโอได้อีกด้วย

จุดเด่น
  • ชิปประมวลผล Snapdragon 680 4G ความเร็ว 2.4 Ghz 
  • RAM  8 GB  เครื่องไม่ร้อน
  • จอแสดงผล Refresh Rate 90Hz รองรับการสัมผัส 270 Hz
  • รองรับ Fast Charge 66W
  • กล้องหลังคมชัดถึง 108 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอได้คมชัด
จุดควรพิจารณา
  •  ความจุแบตเตอรี่น้อยกว่า 5,000 mAh 
  • ไม่รองรับระบบเครือข่าย 5G
  • ไม่มีคุณสมบัติในการกันละอองน้ำ และละอองฝุ่น

4.   Huawei Nova 7i

Huawei Nova 7i

ต่อไปมาถึงอันดับที่ 4 กับโทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี Huawei Nova 7i เปิดวางจำหน่ายในประเทศเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2020 มาพร้อมจอแสดงผล IPS-LCD 24-bit ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ และหน้าจอมี Refresh Rate 60Hz

ส่วนชิปประมวลผล Kirin 810 ความเร็ว 2.27 Ghz มีหน่วยความจำ RAM 8 GB/ROM 128 GB จัดเป็นชิปเซ็ต Kirin ที่จัดว่าคุ้มค่า เทียบเคียงชิปเซ็ตของ Snapdragon และมีความจุแบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับ Fast Charge 40W อีกทั้งมีระบบปฏิบัติการณ์ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.0.1

กล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล กล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล อีกทั้งกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล มีโหมด Super Night Selfie 2.0 ทำให้ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้คมชัด และไม่ต้องพึ่งพาแสงจนเกินไป

จุดเด่น
  • ชิปประมวลผลมีความเร็วสูง โดยใช้ชิปเซตของ Huawei โดยเฉพาะอย่าง Kirin และมีความเร็ว CPU อยู่ที่ 2.27 Ghz
  •  รองรับ Fast Charge 40W
  • มีสเปกแรงเกินราคามีหน่วยความจำ RAM 8 GB/ROM 128 GB
  • สามารถซื้อหน่วยความจำ ROM เพิ่มแยกได้สูงสุด 256 GB
จุดควรพิจารณา
  • ไม่รองรับระบบเครือข่าย 5G
  • หน้าจอแสดงผลเพียง 60 Hz จัดเป็นจอโทรศัพท์มือถือทั่วไปเท่านั้น
  • ไม่รองรับการป้องกันละอองน้ำและละอองฝุ่น

5.   Huawei Y9s

Huawei Y9s

มาถึงอันดับสุดท้ายกับ Huawei Y9s เปิดวางจำหน่ายในไทยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2019 มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ TFT-LCD 24-bit ขนาด 6.59 นิ้ว หน้าจอมี Refresh Rate 60Hz โดยมีความชัดแบบ FHD+ และมีหน่วยความจำ RAM 6 GB/ROM 156 GB

ส่วนชิปประมวลใช้ Kirin 710F ความเร็ว CPU อยู่ที่ 1.7 Ghz มีระบบปฏิบัติการ Android 9 ครอบทับด้วย EMUI 9.1 ที่รองรับการอัปเดตเป็น EMUI 10 ได้อีกด้วย และมีความจุแบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ Fastcharge 22.5W

กล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดคมชัด 48 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล อีกทั้งกล้องหน้ามีความคมชัด 16 ล้านพิกเซล เป็นระบบ Pop-Up

จุดเด่น
  • มีหน่วยความจำ RAM 6 GB/ROM 156 GB เพียงพอต่อการใช้งานเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง
  • มีชิปเซตความเร็ว CPU อยู่ที่ 1.7 Ghz จัดเป็นสเปกที่คุ้มราคาไม่เกิน 6,000 บาท
  •  จอแสดงผล 16 ล้านสี ทำให้มีภาพที่คมชัด สีเด่นชัดสวยงาม
  • รองรับ Fastcharge 22.5 W
จุดควรพิจารณา
  •  ไม่รองรับระบบเครือข่าย 5G
  • หน้าจอแสดงผลเพียง 60 Hz จัดเป็นจอโทรศัพท์มือถือทั่วไปเท่านั้น
  • ไม่รองรับการป้องกันละอองน้ำและละอองฝุ่น

วิธีเลือกซื้อโทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี ให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี

1.   ราคาของโทรศัพท์

ราคาของแบรนด์ Huawei มีครบทุกระดับตั้งแต่ราคาเริ่มต้นจับต้องได้ ระดับปานกลาง ไปจนถึงระดับเรือถึงหรือ Hi-End จัดว่าเป็นแบรนด์ที่ผลิตโทรศัพท์ออกมาได้ดี เหมาะสมกับราคา โดยสเปกที่ใส่มากับตัวเครื่องนั้นจัดเต็มเหมาะสมกับช่วงราคา และสามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเลือกได้หลายราคา และมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนอีกด้วย

2.   ความแรงของ CPU

การเลือกซื้อโทรศัพท์ควรคำนึงถึง CPU ที่สามารถใช้งานได้ลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ ยิ่ง Huawei ที่มีชิป Qualcomm Snapdragon ทำงานได้รวดเร็ว และนวัตกรรมที่สร้างชิปให้เล็กลง เช่น 6 nm, 5nm เป็นต้น อีกทั้งนอกจากคำนึงถึง CPU แล้วต้องเลือกโทรศัพท์ที่มี RAM/ROM โดย RAM ต้องไม่ต่ำกว่า 6GB และ ROM ไม่ควรต่ำกว่า 128 GB ใช้งานได้ลื่นไหลแน่นอน

3.   ดีไซน์ของตัวเครื่อง

พูดถึงดีไซน์ของตัวเครื่องโทรศัพท์ รุ่นไหนดี คุณควรเลือกดีไซน์โทรศัพท์ที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองและให้เหมาะกับการใช้งาน เช่นขนาดจอ 6 นิ้วขึ้นไป และจอแสดงผลมีความคมชัด FHD+ จะทำให้คุณใช้งานได้ยาวนานขึ้น และจัดเป็นดีไซน์มาตรฐานของโทรศัพท์ Huawei อีกด้วย

4.   ความคมชัดในการถ่ายรูป

ในส่วนกล้องถ่ายรูปของ Huawei มีสเปกที่น่าสนใจอย่างมากคือกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า Leica เป็นแบรนด์ที่ผลิตกล้องออกมาขั้นเทพที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Sensor ในการจับภาพ และความคมชัดในการถ่ายในที่มืด อีกทั้งทำให้สนุกในการปรับตั้งค่าต่างๆในการถ่ายรูป เหมาะกับช่างกล้องและผู้ที่กำลังศึกษากล้องอีกด้วย

5.   ความจุของแบตเตอรี่

ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้โทรศัพท์อยู่บ่อยครั้ง ควรเน้นความจุแบตเตอรี่ไม่ต่ำกว่า 4,000 mAh หรือ 4,200 mAh เพราะด้วยระบบสเปกที่แรงของ Huawei ทำให้แบตเตอรี่อาจลดได้รวดเร็วขึ้น แต่ถ้าเลือกชิปเชตที่มีขนาด 6 nm หรือ 5 nm มั่นใจได้เลยว่าความจุแบตเตอรี่ขนาด 4,000 เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน

ตระกูล Huawei รุ่นไหนดี มีการแบ่งประเภทรุ่นอีกด้วย

โทรศัพท์ Huawei ได้มีการแบ่งรุ่นหรือที่เราเรียกกันว่า ซีรีส์ (Series) เหมือนแบรนด์อื่นๆ โดยแต่ละรุ่นจะแบ่งสเปกการใช้งานและราคาไว้ชัดเจนดังนี้

โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี น่าใช้

Series Y

เป็นรุ่นระดับเริ่มต้น เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีงบจำกัด แต่ต้องการได้โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานได้ครบเครื่องทั้ง เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด และมีกล้องถ่ายรูปที่คมชัด ภาพสวยงาม

Series NOVA

จัดอยู่ในรุ่นกลางๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานมือถือเป็นหลัก มีคุณภาพเหมาะสมเกินราคา โดยเฉพาะได้ความเร็วของ CPU เกิน 2.0 Ghz ขึ้นไป และRAM 8 GB/ROM 256 GB อีกทั้งกล้องภาพคมชัดทั้งถ่ายภาพในเวลากลางคืน พร้อมกับถ่ายวิดีโอ 4K ตอบโจทย์รอบด้านอย่างแน่นอน

Series P

เป็นรุ่นระดับเรือธง เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอ และเลือกที่โทรศัพท์แบบครบวงจรทุกอย่างทั้งความเร็วของ CPU มีหน่วยความจำเยอะ ความจุแบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งาน และที่สำคัญจอแสดงผลขนาด OLED พร้อมกับกล้องที่พัฒนากับแบรนด์ Leica การันตีภาพสวยอย่างแน่นอน

บทสรุป เลือกซื้อ โทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี 2024 คุ้มค่าแก่การใช้งาน

สำหรับในการเลือกซื้อโทรศัพท์ Huawei รุ่นไหนดี 2023 เรายกให้ Huawei Nova 9 เป็นอันดับหนึ่ง เพราะมีสเปกที่แรง ราคาระดับกลาง โดยมีสเปกเทียบเท่ากับรุ่นระดับเรือธง มาพร้อมกับชิปประมวลผลที่รวดเร็วอย่าง Qualcomm Snapdragon 778G ขนาด 6 nm ความเร็ว CPU อยู่ที่ 2.4 Ghz ความแรงใกล้เคียงชิปเซตระดับเรือธงในตระกูล Snapdragon Series8 และจอแสดงผลแบบ OLED มี Refresh Rate 120 Hz

อีกทั้งมีหน่วยความจำ RAM 8 GB/ROM 256 GB และความจุของแบตเตอรี่ 4,300 mAh ความจุแบตเตอรี่อาจจะน้อยกว่าปกติ แต่ทว่าใช้ชิปประมวลขนาด 6 nm ทำให้ประหยัดการใช้งานได้มากขึ้น แบตถึกขึ้นนั่นเอง และมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ถ่ายภาพสวย คมชัด เพียงพอต่อการใช้งานและคุ้มค่าแก่การเลือกซื้ออย่างแน่นอน

Similar Posts