เมาส์ จัดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญอย่างมาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแล็บท็อบ, โน้ตบุ๊ค เป็นต้น เพื่อชี้จุดต่างๆบนจอคอมพิวเตอร์และเพื่อเปิดการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันแบรนด์จำหน่ายเมาส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดต้องยกให้แบรนด์ Logitech
เนื่องจากรูปแบบของเมาส์แบรนด์ Logitech มีความกระชับมือ น้ำหนักเบา และให้ความสำคัญเรื่องความทนทาน ใช้งานได้ในระยะยาว อีกทั้งใช้งานได้หลายรูปแบบทั้งทำงานและเล่นเกมอีกด้วย ดังนั้นวันนี้ชอบรีวิวจะพาคุณไปดู 6 อันดับ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ฉบับปี 2024 ที่มีความกระชับมือ น้ำหนักเบา ใช้งานได้หลากหลาย
นอกจากนี้เรายังเมาส์รุ่นอื่นๆ ที่กำลังมาแรงให้เลือกอ่าน อย่างเช่น เมาส์ไร้สาย หรือ เมาส์แบบไร้เสียง ก็น่าสนใจเช่นกัน
เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี
- Logitech MX Master 3
- Logitech G PRO X Superlight
- Logitech POP Mouse
- Logitech G Pro Wireless
- Logitech G502
- Logitech G403
- เมาส์ชนิดไร้สาย มีดีไซน์สุดล้ำ รูปทรงเมาส์สุขภาพ ลดอาการปวดเมื่อยข้อมือได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสายทำงานอย่างมาก
- มีน้ำหนักเบาเพียง 141 กรัม ทำให้ใช้งานได้คล่องและใช้งานกับโปรแกรมสายตกแต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอได้เป็นอย่างดี
- ใช้งานผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth ต่อเข้ากับ USB Reciever ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz เชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
- Logitech Darkfield6 ช่วยให้คุณใช้งานได้ทุกสภาพผิวแม้แต่กระจก และพัฒนากลไกข้างในตัวเมาส์ให้คลิกแม่นยำ
- ใช้สาย USB-A TO USB-C ในการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเมาส์
ไม่ต้องใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่ - มีปุ่มในการใช้งานถึง 7 ปุ่ม
- ใช้งานผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth ต่อเข้ากับ USB Reciever ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz เชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
- มีดีไซน์จับกระชับมือ เหมาะสำหรับใช้งานได้หลากหลายทั้งทำงานและเล่นเกม
- มีน้ำหนักเบากว่าทุกรุ่นภายในแบรนด์ Logitech โดยมีน้ำหนักเพียง 63 กรัม
- เทคโนโลยี Lightspeed ที่สามารถลากได้อย่างรวดเร็วตามที่เราต้องการ
- ไม่ต้องใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่
แนะนำ 6 อันดับ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ปี 2024 น้ำหนักเบา คลิกแม่นยำ
หากคุณไม่รู้ว่าซื้อ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี เราจะพาคุณไปดูคุณสมบัติของเมาส์แต่ละตัวกันว่า มีคุณสมบัติอะไรกันบ้าง เพื่อให้คุณได้พิจารณาเลือกซื้อได้ตามที่ต้องการ และนำไปใช้งานให้เหมาะสมกับสไตล์ของคุณอีกด้วย ดังนั้นไปดูพร้อมๆกันเลย
1. Logitech MX Master 3
เริ่มต้นที่ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ตัวแรกกับ Logitech MX Master 3 มีดีไซน์รูปแบบเมาส์ไร้สาย เพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับสายทำงานอย่างมาก ลดอาการเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี โดยมีน้ำหนัก 141 กรัม มีตัว USB Reciever เพื่อนำไปใช้งานรูปแบบไร้สาย เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz มีสัญญาณเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร และมีปุ่มในการใช้งานถึง 7 ปุ่ม
โดยใช้สาย USB-A TO USB-C ในการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเมาส์ ไม่จำเป็นต้องใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งมีค่า DPI เริ่มต้นที่ 1,000 สามารถปรับสูงสุดได้ 4,000 มาพร้อมระบบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่ารุ่นอื่นๆด้วยระบบ Logitech Darkfield6 ช่วยให้คุณใช้งานได้ทุกสภาพผิวแม้แต่กระจก และพัฒนากลไกข้างในตัวเมาส์ให้คลิกแม่นยำ และลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ทันท่วงที ไม่มีดีเลย์อย่างแน่นอน รองรับการใช้งาน Windows และ MacOS อีกด้วย
- เมาส์ชนิดไร้สาย มีดีไซน์สุดล้ำ รูปทรงเมาส์สุขภาพ ลดอาการปวดเมื่อยข้อมือได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสายทำงานอย่างมาก
- มีน้ำหนักเบาเพียง 141 กรัม ทำให้ใช้งานได้คล่องและใช้งานกับโปรแกรมสายตกแต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอได้เป็นอย่างดี
- ใช้งานผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth ต่อเข้ากับ USB Reciever ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz เชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
- Logitech Darkfield6 ช่วยให้คุณใช้งานได้ทุกสภาพผิวแม้แต่กระจก และพัฒนากลไกข้างในตัวเมาส์ให้คลิกแม่นยำ
- ใช้สาย USB-A TO USB-C ในการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเมาส์
ไม่ต้องใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่ - มีปุ่มในการใช้งานถึง 7 ปุ่ม
- ขนาดเมาส์ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจมีการปรับตัวในการใช้งานครั้งแรก เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยและใช้งานได้คล่องในที่สุด
- มีปุ่มในการใช้งานเยอะจนเกินไป ทำให้ต้องเรียนรู้ปุ่มก่อนใช้งานจริงผ่านคู่มือที่แนบมาด้วย
- เมื่อเสียบสายชาร์จและต้องการใช้งานพร้อมสายชาร์จ ตัวเมาส์จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
2. Logitech G PRO X Superlight
เป็นเมาส์แบรนด์ Logitech ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนากลไกภายในจากรุ่นเก่าอย่าง Logitech G Pro Wireless ทำให้มีน้ำหนักเบา ดีไซน์กระชับมือ เหมาะสำหรับใช้งานได้หลากหลายทั้งทำงานและเล่นเกม โดยมีน้ำหนัก 63 กรัม มีปุ่มในการใช้งาน 5 ปุ่ม ใช้งานรูปแบบเมาส์ไร้สาย ผ่านการเชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz โดยใช้ USB Receiver ในการใช้งานไร้สาย เชื่อมต่อได้ระยะไกลถึง 10 เมตร ไม่ต้องใช้ก้อนถ่านแบตเตอรี่ในการใช้งาน
โดยใช้สาย USB-A TO USB-C ในการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเมาส์ มาพร้อมระบบเทคโนโลยี Lightspeed ที่สามารถลากได้อย่างรวดเร็วตามที่เราต้องการ ซึ่งให้การคลิกที่แม่นยำ และมีค่า DPI เริ่มต้นที่ 800 สามารถปรับต่ำสุด-สูงสุดได้ที่ 200-25,400 DPI รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ Window และ MacOS
- ใช้งานผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth ต่อเข้ากับ USB Reciever ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz เชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
- มีดีไซน์จับกระชับมือ เหมาะสำหรับใช้งานได้หลากหลายทั้งทำงานและเล่นเกม
- มีน้ำหนักเบากว่าทุกรุ่นภายในแบรนด์ Logitech โดยมีน้ำหนักเพียง 63 กรัม
- เทคโนโลยี Lightspeed ที่สามารถลากได้อย่างรวดเร็วตามที่เราต้องการ
- ไม่ต้องใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่
- เมื่อเมาส์ใส่ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่ ทำให้มีน้ำหนักเยอะขึ้นพอสมควร
- รูปทรงขนาดเล็ก เมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้
- ตัวเมาส์เหมาะสำหรับทำงานมากกว่าเล่นเกม
3. Logitech POP Mouse
เดินทางมาถึงเมาส์ Logitech รุ่นไหนดีอันดับต่อมากับ Logitech POP Mouse มีดีไซน์เล็กกะทัดรัด และมีความน่ารักแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ให้ประสบการณ์ทุกการ Click ของคุณไร้เสียง โดยเป็นเมาส์ชนิดไร้สาย มีน้ำหนักเบาเพียง 82 กรัม เชื่อมต่อด้วย Bluetooth และมีตัว USB Receiver เป็นตัวรับสัญญาณ เพื่อนำไปเชื่อมต่อกับ Windows และ MacOS
โดยใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่ขนาด AA 1 ก้อน สามารถปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 1,000-4,000 ซึ่งมีค่า DPI เริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 มีปุ่มในการใช้งาน 4 ปุ่ม และมาพร้อมปุ่มคีย์ลัดเพื่อตั้งค่าใช้งาน Emoji และมีเทคโนโลยี SmartWheel เพื่อเข้าโหมดเลื่อนอย่างรวดเร็ว ทำให้อ่านเอกสารหรือข่าวสารได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และรองรับการทำงานพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์อีกด้วย
- ดีไซน์เล็กกะทัดรัด และมีความน่ารัก เป็นเมาส์ชนิดไร้สาย น้ำหนักเบา คลิกไร้เสียง
- SmartWheel เลื่อนอย่างรวดเร็ว ทำให้อ่านเอกสารหรือข่าวสารได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
- รองรับการทำงานได้ 3 อุปกรณ์ใช้งานพร้อมกันได้
- สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Windows, MacOS
- ปุ่มคีย์ลัดเพื่อตั้งค่าใช้งาน Emoji
- เมื่อเมาส์ใส่ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่ ทำให้มีน้ำหนักเยอะขึ้นพอสมควร
- รูปทรงขนาดเล็ก เมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้
- ตัวเมาส์เหมาะสำหรับทำงานมากกว่าเล่นเกม
4. Logitech G Pro Wireless
เป็นเมาส์ต้นแบบให้กับรุ่น Logitech G Pro X Superlight ซึ่งเมาส์รุ่นนี้มีดีไซน์กระชับมือ มีสารกันลื่นด้านข้าง มีน้ำหนักเบา 80 กรัม ใช้งานรูปแบบไร้สาย ผ่านการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz โดยใช้ USB Receiver เป็นตัวรับสัญญาณในการเชื่อมต่อ สามารถเชื่อมต่อได้ในระยะไกลถึง 10 เมตร ไม่ต้องใช้ก้อนถ่านแบตเตอรี่ในการใช้งาน
โดยใช้สาย USB-A TO USB-C ในการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเมาส์ สามารถใช้งานได้รูปแบบ 4 ปุ่ม และ 8 ปุ่ม ซึ่งมีปุ่มปรับค่า DPI ใต้เมาส์ เพื่อไม่ให้เกิดการกดโดยไม่ตั้งใจ และตั้งค่า DPI ได้ต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ 100-16,000 DPI เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์และทำงานก็ดี เพราะเมาส์มีความกระชับ คลิกแม่นยำ น้ำหนักเบา รองรับการใช้งานทั้ง Windows และ MacOS
- มีดีไซน์กระชับมือ มีสารกันลื่นด้านข้าง มีน้ำหนักเบา 80 กรัม เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์และทำงานก็ดี
- ใช้งานไร้สาย เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ต่อเข้ากับตัวรับสัญญาณ USB Receiver ด้วยคลื่นความถี่ 2.4 GHz ระยะใช้งานได้ไกลถึง 10 เมตร
- มีปุ่มปรับค่า DPI ใต้เมาส์ เพื่อไม่ให้เกิดการกดโดยไม่ตั้งใจ
- สามารถใช้งานได้รูปแบบ 4 ปุ่ม และ 8 ปุ่ม
- รองรับการใช้งานทั้ง Windows และ MacOS
- เมื่อเสียบสายชาร์จพร้อมใช้งานไปด้วย ตัวเมาส์จะมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ อาจทำให้ใช้งานไม่สะดวกเท่าที่ควร
- เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง บางคนอาจเจอเหตุการณ์ปุ่มคลิกซ้ายเกิดการ Double Click ได้
- การปรับค่า DPI มีค่าสูงจนเกินความจำเป็น
5. Logitech G502
Logitech G502 มีดีไซน์แปลกที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆ ถูกใจสายเกมเมอร์ เป็นเมาส์ใช้งานแบบสาย เชื่อมต่อด้วย USB-A มีน้ำหนัก 121 กรัม มีตุ้มเพิ่มน้ำหนัก 6 กรัม เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์อย่างมาก เพื่อให้ควบคุมที่แม่นยำ และมีปุ่มใช้งาน 11 ปุ่ม ที่สามารถตั้งค่าและบันทึกได้สูงสุด 5 โปรไฟล์ สามารถตั้งค่า DPI ได้ต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ 100-16,000 DPI ให้การตอบสนองที่แม่นยำ ลากเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว รองรับการใช้งานเพียงระบบ Windows เท่านั้น
- มีดีไซน์แปลกที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆ ถูกใจสายเกมเมอร์อย่างแน่นอน
- มีปุ่มใช้งาน 11 ปุ่ม ที่สามารถตั้งค่าและบันทึกได้สูงสุด 5 โปรไฟล์
- สามารถตั้งค่า DPI ได้ต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ 100-16,000 DPI
- สามารถปรับแต่งน้ำหนักเมาส์เพิ่มเติมได้เอง
- น้ำหนักตัวเมาส์มีน้ำหนักเยอะ และใช้งานรูปแบบสาย อาจทำให้สายยุ่งเหยิง
- มีปุ่มในการใช้งานเยอะจนเกินไป อาจทำให้กดผิดปุ่มโดยไม่รู้ตัว
- ตัวเมาส์ไม่สามารถใช้งานบนพื้นผิวโต๊ะไม้ได้
6. Logitech G403
เมาส์ Logitech รุ่นไหนดีอันดับสุดท้าย Logitech G403 เป็นเมาส์ที่มีดีไซน์รองรับนิ้วโป้งในการใช้งานมือขวา ลดอาการปวดเมื่อย เป็นเมาส์ใช้งานรูปแบบสายที่มีน้ำหนักเบาเพียง 84 กรัมเท่านั้น จับถนัดมือด้วยที่จับที่ทำจากยาง พร้อมแม่เหล็กเสริมสำหรับเพิ่มน้ำหนักขนาด 10 กรัม สามารถปรับค่า DPI ได้ต่ำสุด-สูงสุดที่ 100-16,000 DPI ลากเคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการ มีปุ่มในการใช้งาน 6 ปุ่ม รองรับการใช้งาน Windows เท่านั้น
- จับถนัดมือด้วยที่จับที่ทำจากยาง พร้อมแม่เหล็กเสริมสำหรับเพิ่มน้ำหนักขนาด 10 กรัม
- มีดีไซน์รองรับนิ้วโป้งในการใช้งานมือขวา ลดอาการปวดเมื่อย
- สามารถปรับค่า DPI ได้ต่ำสุด-สูงสุดที่ 100-16,000 DPI
- ใช้งานแบบสายที่มีน้ำหนักเบาเพียง 84 กรัม
- การปรับค่า DPI มีค่าสูงจนเกินความจำเป็น
- ใช้งานรูปแบบสาย อาจทำให้สายยุ่งเหยิง
- รองรับการใช้งาน Windows เท่านั้น
เหตุผลที่ทำไมคุณต้องเลือกใช้เมาส์ Logitech
เพราะเมาส์ Logitech เป็นรูปแบบเมาส์ Optical Mouse ซึ่งให้ความทนทาน และคุ้มค่าแก่การใช้งาน โดยระบบ Sensor ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยแบรนด์เองที่มีชื่อว่า Sensor HERO & Lightspeed ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกพื้นผิวแม้กระทั่งบนผิวกระจก ดังนั้นไปดูเหตุผลดังต่อไปนี้กันเลยว่าทำไมคุณจำเป็นต้องเลือกใช้งาน Logitech
- ระบบ Sensor ที่แม่นยำ ใช้งานได้ทุกพื้นผิว
- เป็น Optical Mouse ที่ทนทาน ใช้งานได้นาน
- มีดีไซน์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
- มีน้ำหนักเบา จับง่าย กระชับมือ
- มีปุ่มให้ใช้งานหลากหลาย สามารถตั้งค่าฟังก์ชั่นเสริมได้เอง
ระบบ Sensor ของ Logitech
การใช้งานเมาส์ Logitech พัฒนาระบบ Sensor ที่มีชื่อว่า HERO โดยสัมผัสใช้งานได้ทุกพื้นผิวแม้กระทั่งใช้งานบนผิวกระจก ทางแบรนด์การันตีว่าเมาส์ทุกรุ่นมีระบบ Sensor สุดยอดประสิทธิภาพกว่าระบบเมาส์ทั่วไปขึ้นถึง 10 เท่า ซึ่งให้ควบคุมการเคลื่อนไหวที่เรียบง่าย ให้สอดคล้องกับลักษณะมือของเรามากที่สุด เหมาะกับใช้งานได้ทั้งสายทำงานและสายเกมเมอร์
อีกทั้งมีระบบ Lightspeed ที่พัฒนาต่อจาก Hero ซึ่งให้ความไวในการสัมผัสพื้นผิวได้ดีขึ้น รวมไปถึงพัฒนาตัวเมาส์ให้มีน้ำหนักเบา โดยอยู่ในเมาส์ 2 รุ่นอย่าง Logitech G PRO Wireless กับ Logitech G Pro x Superlight นั่นเอง
วิธีเลือกซื้อ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
1. งบประมาณราคา
การเลือกซื้อเมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ควรคำนึงถึงงบประมาณราคาที่คุณพึงพอใจ เพราะแบรนด์ Logitech สินค้ามีคุณภาพและมีความทนทานในการใช้งานได้นาน โดยมีการเชื่อมต่อรูปแบบไร้สาย และใช้งานรูปแบบสาย พร้อมระบบ Sensor และฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ ซึ่งหากต้องการใช้งานแบบไร้สายจะมีราคาสูงกว่าใช้งานแบบสายนั่นเอง
2. เลือกเมาส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
หากคุณไม่รู้ว่าซื้อเมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ให้คุณคำนึงถึงลักษณะการใช้งานของคุณ โดยถ้าคุณเป็นคนประเภทเน้นการทำงาน เล่นเกมน้อยครั้ง เราขอแนะนำ Logitech MX Master 3 เพราะมีดีไซน์เพื่อสุขภาพ ลดอาการปวดเมื่อยได้ดี มาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชั่นเสริม ใช้ตั้งค่าปุ่มคีย์ลัดได้เยอะ เหมาะสำหรับทำงานสายตัดต่ออย่างมากและสามารถนำไปเล่นเกมได้อีกด้วย
3. น้ำหนักตัวเมาส์
การเลือกเมาส์จากน้ำหนักตัวเมาส์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะถ้าคุณจำเป็นต้องใช้เมาส์เป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง ควรเลือกเมาส์ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 180 กรัม หากใช้งานเมาส์ที่มีขนาดเยอะเกินไป จะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดข้อมือ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บในภายหลังได้อีกด้วย
4. การเชื่อมต่อ
เมาส์ Logitech จะมีการเชื่อมต่อ 2 รูปแบบคือ แบบมีสายและไร้สาย โดยแบบมีสายเชื่อมต่อรูปแบบ USB-A ทั่วไป แต่ไร้สายของ Logitech จะมีตัว USB Receiver เป็นตัวรับสัญญาณให้กับเมาส์ ซึ่งจะมีชื่อระบบเฉพาะของแบรนด์คือ Unifying ที่สามารถใช้งานเมาส์ได้ไกลถึง 10 เมตร และสามารถใช้งานอุปกรณ์ภายในแบรนด์ได้พร้อมกันหลายชนิดอีกด้วย
5. ฟังก์ชั่นเสริม
เมาส์ของ Logitech มีปุ่มฟังก์ชั่นเสริมหลายปุ่ม โดยส่วนใหญ่มักจะเกิน 4 ปุ่ม แต่การใช้งานจริงมักจะใช้งานกันเพียง 3 ปุ่มเท่านั้น คือ ปุ่มถัดไป, ย้อนกลับ และปรับค่า DPI เท่านั้น แต่หากสายเกมเมอร์หรือสายงานที่ต้องใช้ปุ่มคีย์ลัดเยอะๆ จำเป็นต้องรุ่นที่มีปุ่มฟังก์ชั่นเสริมเกิน 6 ปุ่มขึ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ลดขั้นตอนการกดปุ่มบนแป้นพิมพ์ได้อีกด้วย
บทสรุปการเลือกซื้อ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ฉบับปี 2024 กระชับมือ น้ำหนักเบา
สำหรับบทสรุปเลือกซื้อ เมาส์ Logitech รุ่นไหนดี ฉบับปี 2024 เราขอแนะนำ Logitech MX Master 3 มีดีไซน์รูปแบบเมาส์ไร้สาย เพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับสายทำงานอย่างมาก ลดอาการเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความกระชับมือ จับใช้งานได้ง่าย และมีน้ำหนักเบาเพียง 141 กรัม มีปุ่มฟังก์ชั่นเสริม 7 ปุ่ม สามารถตั้งค่าคีย์ลัดได้ตามที่ต้องการ มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth สามารถใช้งานได้ระยะไกลถึง 10 เมตร ไม่จำเป็นต้องใช้ก้อนถ่านพลังงานแบตเตอรี่
โดยใช้สาย USB-A TO USB-C ในการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเมาส์ และระบบ Darkfield6 ช่วยให้ใช้งานได้ทุกสภาพพื้นผิวแม้กระทั่งกระจก และสามารถตั้งค่า DPI สูงสุดได้ 4,000 และมีค่าเริ่มต้นที่ 1,000 จัดเป็นค่า DPI ที่เหมาะสม ไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป ทำให้ใช้งานง่าย มีราคาที่เหมาะสมแก่คุณค่าที่คุณควรได้รับเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน