รีวิว 10 หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี พกพาสะดวก ใช้งานง่าย และจัดเต็มประสิทธิภาพเสียงมาอย่างยอดเยี่ยม — 2024

หูฟัง Xiaomi เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยม ที่ผู้คนมากมายเลือกใช้งานกันในปัจจุบัน จากความคุ้มค่าในภาพรวมของสินค้า และการที่ตัวเลือกส่วนใหญ่วางขายในราคาที่จับต้องได้ง่าย รวมไปถึงยังคงมีการจัดเต็มฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้งานแต่ละรูปแบบมากที่สุด ซึ่งหากคุณได้เห็นตัวเลือกสินค้าที่มีอยู่มากมายของหูฟังแบรนด์นี้ และมีคำถามว่าหูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี ที่จะตอบโจทย์การใช้งานกับสไตล์ของคุณได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด บทความของเราต่อไปนี้ก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีให้กับคุณได้แน่นอน 

10 หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี

• หูฟัง Xiaomi Redmi Buds 4 Lite
• หูฟัง Xiaomi Mi In-Ear Headphones Basic
• หูฟัง Xiaomi Redmi AirDots 2 TWS
• หูฟัง Xiaomi Mi Air2 SE
• หูฟัง Xiaomi Redmi Buds 4 Pro
• หูฟัง Xiaomi Buds 3T Pro
• หูฟัง Xiaomi Redmi buds 4
• หูฟัง Xiaomi Buds 3
• หูฟัง Xiaomi Redmi Buds 3 Lite
• หูฟัง Xiaomi Buds 4 Pro

หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี 2024

หากคุณกำลังมองหาหูฟัง Xiaomi ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน 10 รุ่นของเราในวันนี้จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับคุณได้แน่นอน

1. Xiaomi Redmi Buds 4 Lite

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Redmi Buds 4 Lite
ไดรเวอร์เสียง	12 มิลลิเมตร
ระยะเวลาการใช้งาน	20 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	IP54
Bluetooth	5.3

หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นแรกเป็นหูฟัง Xiaomi ที่มีการออกแบบมาให้คุณพกพาได้สะดวก และมีภาพลักษณ์ภายนอกที่หรูหราเกินราคา ด้วยการใช้งานดีไซน์ในสไตล์มินิมอล และหูฟังรูปทรง Earbuds ที่ช่วยเพิ่มความทันสมัยให้มากยิ่งขึ้น โดยในการสวมใส่หูฟังตัวนี้ทั้งการฟังเพลงหรือการรับชมวิดีโอคอนเทนต์ คุณจะมีความรู้สึกสบายและให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ด้วยการทำงานของไดรเวอร์เสียง 12 มิลลิเมตร ที่เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 ภายในระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง จากแบตเตอรี่ทั้งหมดที่อยู่ภายใน นอกจากนี้การสั่งการส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับเพลงและวิดีโอ ก็ยังจะสามารถทำได้ด้วยการใช้งานระบบสัมผัสรูปแบบต่าง ๆ ที่สั่งการได้เพียงนิ้วสัมผัสอีกด้วย

2. Xiaomi Mi In-Ear Headphones Basic

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Mi In-Ear Headphones Basic
ไดรเวอร์เสียง	–
ระยะเวลาการใช้งาน	–
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	–
Bluetooth	–

หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี  รุ่นต่อมา Xiaomi Mi In-Ear Headphones Basic เป็นหูฟังแบบมีสายรุ่นมาตรฐานของ Xiaomi ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหูฟังแบบเรียบง่าย ไปไว้สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงหรือการพูดคุยโทรศัพท์ผ่านมือถือ ซึ่งถึงแม้จะเป็นหูฟังแบบพื้นฐาน ที่มีราคาเพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่ก็มีการออกแบบภายนอกมาอย่างหรูหรา และมีองค์ประกอบต่าง ๆ มาให้เราสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ทั้งในด้านของเสียงที่สามารถสร้างความดัง และครอบคลุมต่อช่วงความถี่เสียงได้มากเป็นพิเศษ ไปจนถึงการพกพาที่สะดวก ที่คุณจะสามารถทำได้จากน้ำหนักที่เบาเพียง 14 กรัมเท่านั้น รวมไปถึงไมโครโฟนที่ถูกติดตั้งมาให้ในการสื่อสาร ก็ยังได้มีการออกแบบมาพร้อมตัวป้องกันเสียงรบกวน ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับการสื่อสารของคุณได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน

3. Xiaomi Redmi AirDots 2 TWS

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Redmi AirDots 2 TWS
ไดรเวอร์เสียง	7.2 มิลลิเมตร
ระยะเวลาการใช้งาน	12 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	–
Bluetooth	5.0

Xiaomi Redmi AirDots 2 TWS เป็นหูฟัง Xiaomi ไร้สายอีกหนึ่งตัว ที่มีคุณสมบัติการใช้งานที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งจะเริ่มต้นจากการควบคุมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้งานปุ่มสั่งการที่อยู่บนตัวหูฟัง ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดมากเป็นพิเศษ โดยสิ่งที่คุณจะสามารถทำได้นั้น จะมีตั้งแต่การรับและวางสายโทรศัพท์, การเล่นหรือหยุดเพลง, การเปิด-ปิดโหมดการเล่นเกม ไปจนถึงการเรียกใช้งานผู้ช่วยบนสมาร์ทโฟนอย่าง Google Assistant และ Siri ที่ถือว่าเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานกับทุกสถานการณ์ได้อย่างครอบคลุม ส่วนในด้านของการออกแบบนอกจากจะมีการทำให้ตัวหูฟังมีขนาดเล็ก สามารถสวมใส่และใช้งานได้สะดวกแล้ว ก็ยังจะพกพาได้ง่ายจากขนาดของเคสที่ไม่ใหญ่มากนักด้วยเช่นกัน

4. Xiaomi Mi Air2 SE

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Mi Air2 SE
ไดรเวอร์เสียง	14.2 มิลลิเมตร
ระยะเวลาการใช้งาน	20 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	60 นาที
มาตรฐานการกันน้ำ	–
Bluetooth	5.0

หูฟัง Xiaomi ตัวนี้เป็นหนึ่งในรุ่นแบบไร้สาย ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ระยะเวลาการใช้งานต่อรอบ หลังการนำออกจากเคสชาร์จที่ยาวนาน ซึ่งครอบคลุมได้สูงสุดถึง 5 ชั่วโมง จากหูฟังแต่ละข้างที่มีแบตเตอรี่เพียง 40mAh เท่านั้น โดยเมื่อใช้งานร่วมกันกับเคสชาร์จ หูฟังตัวนี้จะมีระยะเวลาการใช้งาน ที่เพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายและยืดหยุ่นให้กับการใช้งานได้มากขึ้น และนอกจากการมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานแล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการรองรับระบบการสั่งการด้วยเสียงบนสมาร์ทโฟน ผ่านการใช้งานไมโครโฟนของหูฟังโดยตรง หรือแม้แต่ระบบตัดเสียงรบกวนแบบรอบด้วยจากเทคโนโลยี ENC หรือ Environmental Noise Cancellation ก็ตาม

5. Xiaomi Redmi Buds 4 Pro

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Redmi Buds 4 Pro
ไดรเวอร์เสียง	–
ระยะเวลาการใช้งาน	36 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	IP54
Bluetooth	–

Xiaomi Redmi Buds 4 Pro เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีคำถามว่าควรเลือกซื้อหูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี จึงจะดีที่สุดทั้งในด้านของประสิทธิภาพ, การออกแบบ และการใช้งานระยะยาว รุ่นนี้จะเป็นสินค้าที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้อย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นสำคัญอย่างการใช้งานไดรเวอร์เสียงแบบ  Dual Dynamic ที่สร้างเสียงได้ในระดับ Hi-Fi และการใช้งานระบบ Active Noise Cancellation ที่ช่วยให้ทั้งการฟังเพลงและการสื่อสาร สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้อย่างดีมากที่สุด นอกจากนี้ด้วยการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม ก็ยังทำให้ตัวสินค้าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมงต่อหนึ่งรอบการชาร์จ และยังสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 36 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกันกับเคสอีกด้วย

6. Xiaomi Buds 3T Pro

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Buds 3T Pro
ไดรเวอร์เสียง	10 มิลลิเมตร
ระยะเวลาการใช้งาน	24 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	70 นาที
มาตรฐานการกันน้ำ	IP55
Bluetooth	5.2

รุ่นนี้เป็นหูฟังที่มีความน่าสนใจทั้งด้านของการออกแบบ และความทนทานสำหรับการใช้งานระยะยาว ซึ่งมาจากการออกแบบที่มีคุณภาพ ที่ทำให้ตัวหูฟังสามารถรองรับมาตรฐานการกันน้ำได้สูงถึง IP55 ช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น สำหรับการสวมใส่เพื่อใช้งานในกิจกรรมกลางแจ้ง และการใส่เพื่อออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ โดยที่สินค้าตัวนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัว ที่เป็นหูฟังรุ่นระดับสูงและมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ANC ด้วยการใช้งานไดรเวอร์แบบ Dual Dynamic และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนทั้งหมด 3 ตัว ดังนั้น หากคุณต้องการฟังเสียงที่มีความพรีเมี่ยม และใช้งานสินค้าอย่างมั่นใจได้ในระยะยาว รุ่นนี้ก็มองข้ามไปไม่ได้เลยทีเดียว

7. Xiaomi Redmi buds 4

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Redmi buds 4
ไดรเวอร์เสียง	10 มิลลิเมตร
ระยะเวลาการใช้งาน	30 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	IP54
Bluetooth	5.2

สำหรับคนที่ต้องการหูฟัง Xiaomi ที่มาพร้อมคุณสมบัติตัดเสียงรบกวน ในราคาวางจำหน่ายที่สามารถจับต้องได้ง่าย รุ่นนี้ก็คงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยการทำงานของไดรเวอร์ 10 มิลลิเมตรแบบ Dynamic ที่ทำงานควบคู่กับระบบ AI Noise Reduction สำหรับช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับเสียง และ Hybrid Active Noise Cancellation พร้อมการปรับเปลี่ยนการใช้งาน 3 ระดับ ที่สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ได้ที่ระดับความดังสูงสุดถึง 35 เดซิเบล ส่วนด้านของการใช้งานต่อเนื่อง ก็จะทำได้ที่ 6 ชั่วโมงหลังจากนำออกจากเคสชาร์จ และยังเพิ่มขึ้นได้ถึง 30 ชั่วโมง เมื่อชาร์จเพิ่มเติมผ่านเคสสุดกะทัดรัด ที่มีคุณสมบัติในการพกพาที่สะดวกด้วยในเวลาเดียวกัน

8. Xiaomi Buds 3

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Buds 3
ไดรเวอร์เสียง	–
ระยะเวลาการใช้งาน	32 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	83 นาที
มาตรฐานการกันน้ำ	IP55
Bluetooth	5.2

หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นนี้เป็นตัวเลือกของแบรนด์ Xiaomi อีกหนึ่งรุ่น ที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจในการใช้งาน อยู่ที่การใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลาตลอด 32 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอตลอดหลายวันต่อการชาร์จเต็มเพียงหนึ่งครั้ง และการทนทานต่อความชื้นได้มาเป็นพิเศษ ภายใต้มาตรฐานการกันน้ำ IP55 แต่ก็ยังคงมีความโดดเด่นในด้านของการใช้งาน ที่มาจากการใช้งานไดรเวอร์เสียง Dual Dynamic คุณภาพยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน โดยที่โหมดการใช้งานที่ช่วยสนับสนุน และเพิ่มคุณภาพการใช้งานด้านเสียงให้กับรุ่นนี้ได้ดี ก็คือการมีโหมด AND ที่ปรับการใช้งานได้ 3 ระดับ และโหมด Dual Transparency ที่ช่วยสร้างเสียงแบบเซอร์ราวด์ให้มีความสมจริงที่มากยิ่งขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

9. Xiaomi Redmi Buds 3 Lite

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Redmi Buds 3 Lite
ไดรเวอร์เสียง	–
ระยะเวลาการใช้งาน	18 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	IP54
Bluetooth	5.2

Xiaomi Redmi Buds 3 Lite เป็นหูฟังบลูทูธไร้สายจากทาง Xiaomi ที่เน้นการออกแบบให้สวมใส่ได้สบาย ด้วยรูปลักษณ์ของหูฟังแบบ Ergonomic ซึ่งจะทำให้คุณสามารถสวมใส่ต่อเนื่องตลอด 18 ชั่วโมง ที่เป็นระยะเวลาการใช้งานสูงสุดของรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี โดยถึงแม้จะเป็นสินค้าที่มีราคาอยู่ในช่วงกลาง แต่ภาพรวมของการออกแบบภายนอก ก็ยังคงเน้นไปที่ความหรูหราและดูทันสมัย ทั้งในส่วนของรูปแบบสีและองค์ประกอบของตัวหูฟังและเคส นอกจากนี้เพื่อให้สามารถสวมใส่ออกกำลังกายได้อย่างมันใจ รุ่นนี้จึงยังได้มีการออกแบบมาให้รองรับมาตรฐานการกันน้ำ IP54 ด้วยเช่นกัน

10. Xiaomi Buds 4 Pro

แบรนด์และรุ่นสินค้า	Xiaomi Buds 4 Pro
ไดรเวอร์เสียง	–
ระยะเวลาการใช้งาน	38 ชั่วโมง
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่	–
มาตรฐานการกันน้ำ	IP
Bluetooth	5.3

หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นสุดท้ายเป็นหูฟัง Xiaomi ที่มีการออกแบบภาพรวมมาอย่างหรูหรา และออกแบบองค์ประกอบด้านเสียงมาให้อย่างยอดเยี่ยมมากที่สุด โดยไฮไลท์หลักที่น่าสนใจของสินค้าตัวนี้ คือ การมีตัวเลือกสีแบบทองผสมเทา ที่ช่วยเพิ่มความแตกต่างจากสินค้าตัวอื่น ๆ ให้ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งบริเวณของเคสชาร์จและตัวหูฟังโดยตรง ในขณะที่ความสามารถในการประมวลผลเสียง ก็ยังทำให้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตัดเสียงรบกวน ที่ความดังสูงสุด 48 เดซิเบล และสร้างสมดุลเสียงที่ยอดเยี่ยมได้ด้วยไดรเวอร์ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นรุ่นนี้ก็ยังมีระยะเวลาการใช้งานแบบไร้สาย ซึ่งเมื่อรวมกับเคสแล้วก็ยังยาวนานได้มากถึง 38 ชั่วโมงเลยทีเดียว

วิธีเลือกซื้อ

1. เลือกจากการเชื่อมต่อของหูฟัง

การแบ่งแยกประเภทของหูฟัง Xiaomi ให้ง่ายดายในเบื้องต้น เราจะสามารถใช้เกณฑ์เป็นรูปแบบของการเชื่อมต่อได้ เนื่องจากหูฟังจากแบรนด์นี้ในปัจจุบัน จะมีทั้งหูฟังแบบเชื่อมต่อสายและไร้สาย ที่ค่อนข้างมีความแตกต่างกันในด้านของประสิทธิภาพการใช้งานอย่างชัดเจน เนื่องจากหูฟังแบบเชื่อมต่อสายนั้น จะเป็นหูฟังที่มีประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐาน ซึ่งจะเหมาะสำหรับการใช้เพื่อพูดคุยสื่อสาร หรือการฟังเพลงผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป

และโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นหูฟังพร้อมพอร์ต Audio 3.5 mm ที่มีความเป็นพื้นฐานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ มากกว่าการเป็นหูฟังพร้อมพอร์ตแบบ USB ที่สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพียงเท่านั้น โดยที่อีกประเภทอย่างหูฟังไร้สายนั้น จะเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างได้รับความนิยม และมีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานที่มากกว่า ซึ่งคุณจะสามารถกำหนดการเลือกซื้อตามราคา หรือเปรียบเทียบจากประสิทธิภาพการใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องการหูฟังสำหรับการสวมใส่เล่นกีฬา, รับชมคอนเทนต์ หรือฟังเพลงให้มีคุณภาพมากที่สุด

2. เลือกจากงบประมาณ

หูฟัง Xiaomi ในปัจจุบันจะเป็นการรวบรวมตัวเลือกของสินค้าในช่วงราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่มีรุ่นต่าง ๆ ให้คุณสามารถเลือกซื้อได้หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นที่มีราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท หมายความว่าการเลือกซื้อหูฟังให้ง่ายที่สุดในเบื้องต้น คุณควรจะต้องกำหนดให้ได้ตั้งแต่แรก ว่าจะใช้งบประมาณในการเลือกซื้อสินค้าที่เท่าไหร่ เพราะหากคุณจำกัดเกี่ยวกับราคาได้แล้ว ตัวเลือกของรุ่นที่อยู่ในช่วงราคาที่ต้องการ จะลดลงจากเดิมได้เป็นอย่างมาก และโดยพื้นฐานแล้วหูฟังรุ่นราคาประหยัด ที่มีการวางขายมาในราคาไม่เกิน 1,000 บาท จะเป็นตัวเลือกที่สามารถพบเห็นได้มากกว่า เมื่อเทียบกับรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงและฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นน่าสนใจ ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อค่อนข้างมีความหลากหลาย ดังนั้น การตัดสินใจเลือกซื้อจากงบประมาณ จึงจะเป็นวิธีการที่ดีสำหรับการพิจารณาเป็นขั้นแรก ก่อนที่จะไปสู่ขั้นตอนของการพิจารณาในส่วนต่อ ๆ ไปนั่นเอง

3. เลือกจากสเปกของหูฟัง

หูฟังแต่ละรุ่นจะมีสเปกที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะหูฟังแบบไร้สาย ที่ถึงแม้ว่าจะมีราคาวางขายที่ใกล้เคียงกัน แต่สเปกก็อาจมีความแตกต่างกันออกไปได้ ตามจุดเด่นของหูฟังแต่ละตัว ซึ่งจะเป็นไปตามลักษณะของการใช้งาน อย่างการเล่นเกม, การฟังเพลง หรือการใช้เพื่อสื่อสาร แต่หากกล่าวถึงสเปกพื้นฐานที่คุณจะต้องเปรียบเทียบ และเป็นสิ่งที่มีผลต่อการใช้งานของหูฟัง Xiaomi โดยตรง จะประกอบด้วย ระบบ Bluetooth ที่ใช้เชื่อมต่อ, ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด และไดรเวอร์ที่ใช้ในการสร้างเสียง

ซึ่งต่อจากนี้คุณจะต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานของคุณ เช่น หากคุณต้องการหูฟังเล่นเกม ก็ควรเน้นการมองหารุ่นที่มีโหมด Low latency ที่จะทำให้การส่งออกเสียงระหว่างอุปกรณ์หลักกับหูฟัง มีความลื่นไหลและไร้รอยต่อมากที่สุด หรือหากคุณต้องการหูฟังสำหรับการฟังเพลงหรือใช้งานเชิงคอนเทนต์ ก็ควรเลือกใช้งานเป็นรุ่นที่มีระบบตัดเสียงรบกวน เพื่อเพิ่มความเงียบและคุณภาพเสียงให้ดีได้มากที่สุด เป็นต้น

ฟังก์ชันที่เป็นจุดเด่นของหูฟัง Xiaomi

1. ระบบ ANC พร้อมไมโครโฟน 3 ตัว

สิ่งที่เราจะพบเห็นได้ในสินค้ารุ่นระดับสูงหลาย ๆ ตัวของหูฟัง Xiaomi คือ ระบบตัดเสียงรบกวนอย่าง Active Noise Cancellation ซึ่งเป็นระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกที่ยอดเยี่ยม ที่จะทำงานด้วยการใช้ไมโครโฟนแบบ Build-in 3 ตัว และตัวกรองเสียงที่มีคุณภาพสูง ทำให้ช่วยเพิ่มความชัดของเสียง และประสิทธิภาพให้กับการฟังหรือสนทนาผ่านทางหูฟังโดยตรงได้ดีอย่างมาก นอกจากนี้ทาง Xiaomi ก็ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับการใช้งานของฟังก์ชันนี้ เช่น Environmental Noise Cancellation, AI Noise Reduction และ Hybrid Active Noise Cancellation ที่มีคุณสมบัติลักษณะต่าง ๆ ออกมาให้เราพบเห็นได้อีกมากมายด้วยเช่นกัน

2. การปรับเปลี่ยนระดับการทำงานของ ANC

หนุ่งในคุณสมบัติที่ทำให้ ANC ของ Xiaomi มีความน่าสนใจและแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ จะเป็นการที่คุณสามารถปรับระดับการทำงานของระบบได้หลากหลาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการตัดเสียงรบกวนของแต่ละพื้นที่ ที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการปรับระดับของโหมดนี้ จะมีให้เราสามารถเลือกใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระดับ ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นได้ในกรณีที่เลือกซื้อเป็นรุ่นใหม่ หรือรุ่นที่เพิ่งถูกเปิดตัวมาได้ไม่นานนัก อย่างไรก็ตามกการปรับระดับการทำงานของ ANC ก็มักจะเป็นคุณสมบัติด้านการใช้งาน ที่ถูกออกแบบมาสำหรับรุ่นระดับสูงเป็นหลัก ทำให้อาจไม่สามารถพบเห็นได้กับรุ่นที่มีราคาย่อมเยาลงมามากนัก

3. การมีระยะเวลาการใช้งานของหูฟังไร้สายที่ยาวนาน

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หูฟัง Xiaomi มีความโดดเด่นและน่าสนใจสำหรับผู้คนมากมาย โดยเฉพาะในรุ่นที่ถูกออกแบบมาพร้อมประสิทธิภาพระดับสูง จะเป็นการมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งสำหรับการใช้งานแบบต่อหนึ่งรอบหลังนำออกจากเคสชาร์จของหูฟังแบบ In-ear ที่ในปัจจุบันมีรุ่นที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 9 ชั่วโมง และยังสามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 35 ชั่วโมง สำหรับรุ่นระดับสูงหลาย ๆ ตัวอีกด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นหนึ่งในส่วน ที่ทำให้หูฟังจากแบรนด์นี้โดดเด่นขึ้นมาเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของการใช้งานในส่วนนี้ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่คุณอาจจะสามารถพบเห็นได้ ในกรณีที่เลือกใช้งานหูฟังรุ่นระดับสูงของ Xiaomi เพียงเท่านั้น

บทสรุป หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี

สำหรับคนที่ตั้งคำถามว่าจะต้องเลือกซื้อ หูฟัง Xiaomi รุ่นไหนดี จึงจะสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ในระดับราคาที่จับต้องได้ง่ายมากที่สุดในปัจจุบัน Xiaomi Redmi Buds 4 Lite คงจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของสินค้าที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งการันตีได้จากการที่มีผู้คนมากมาย เลือกใช้งานหูฟังรุ่นนี้กันอยู่ในปัจจุบัน จากสเปกที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านเสียง และความทนทานสำหรับการใช้งานระยะยาว รวมไปถึงคุณยังจะสามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย ด้วยน้ำหนักของหูฟังที่ค่อนข้างต่ำเป็นพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้หากคุณกำลังมองหาหูฟังอื่น ๆ ที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน เราก็ยังมีหูฟังเกมมิ่งและหูฟังบลูทูธให้คุณเลือกซื้อกับเราได้ด้วยเช่นกัน