สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

ในช่วงนี้ถึงน้ำมันจะแพง หมูจะขึ้นราคายังไง เราก็มีทางเลือกดีๆที่จะช่วยให้คุณประหยัดและรักษ์โลก  นั่นก็คืออีกหนึ่งยานพาหนะทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมสำหรับการเดินทางนั่นก็คือ  สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เป็นการเดินทางแบบใหม่ที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัดไฟ ประหยัดเวลา คุ้มค่าต่อการลงทุน และยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย 

หลายคนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต และยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้ชอบรีวิวจะขอมารีวิว  7 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้งานสะดวก ตอบโจทย์ และเหมาะกับการลงทุนในกระเป๋า เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ เลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นที่เหมาะกับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

หากใครมองว่า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อาจจะเล็กไป อาจจะเลือก จักรยานเสือหมอบ จักรยานพับได้ หรือจักรยานไฟฟ้า มาใช้งานก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

รีวิว 7 อันดับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี น่าลงทุนซื้อใช้งาน

มาติดตามกันเลยกับ รีวิว 7 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ในด้านการใช้งาน แต่ละยี่ห้อที่แนะนำจะช่วยให้คุณเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ ไฟฟ้าใช้แล้วได้ของที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา ใช้งานสบายใจ แต่ทั้งนี้ทุกครั้งที่ขับขี่ต้องไม่ประมาท และใช้งานเฉพาะกับเส้นทางหรือพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเท่านั้น

1. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot D18W

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D18W

เริ่มต้นที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Ninebot D18W สกู๊ตเตอร์จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Segway-Ninebot ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น เปิดตัวมาในราคา 16,900.- เท่านั้น มาพร้อมความเร็วสูงสุด 25 กม/ชม. และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 18 กม/ชาร์จ ตัวเครื่องใช่สีเทา Matte Gray แสดงความมินิมอล เหมาะกับการใช้งานในระดับต้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ขับขี่ในระยะใกล้ ไม่เกิน 10 กม.

ถึงแม้ Ninebot D18W จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ได้ฟังก์ชั่นการใช้งานมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot เพื่อปรับใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเส้นทางการขับขี่ หรือการดูสถานะต่าง ๆ ของตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Regenerative Brake เพื่อปั่นไฟกลับเมื่อเราปล่อยคันเร่งเพื่อปั่นไฟกลับเข้าตัวเครื่อง นอกจากนี้ด้วยน้ำหนักเพียง 14.8 กก. และสามารถพับตัวเครื่องได้ ทำให้สะดวกต่อการพกพาไปใช้งานต่าง ๆ เช่นการพกใส่หลังรถ หรือพับและนำขึ้นรถไฟฟ้า

จุดเด่น
  • รุ่นเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับคนอยากมีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คันแรก ตัวเครื่องใช้วัสดุเกรดอากาศยาน พร้อม ประกันศูนย์นานสูงสุดถึง 2 ปี
  • แบตเตอรี่ใช้ประเภท Lithium-ion คุณภาพสูงพร้อมระบบ BMS และมีการรับประกันศูนย์นานสูงสุดถึง
  • 1 ปี
  • มีระบบไฟหน้า - หลัง ทำให้ปลอดภัยแม้ใช้งานในยามค่ำคืน
  • ยางใช้ยางลมขนาด 10 นิ้ว ทำให้รองรับการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot เพื่อดูสถานะตัวเครื่องและปรับฟังก์ชั่นการใช้งาน
  • ประกันตัวเครื่อง 2 ปีพร้อมบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานจากศูนย์ MONOWHEEL
จุดควรพิจารณา
  • สเต็ปในการพับทำให้ต้องใช้เวลาในการพับ (ประมาณ 3 วินาที)
  • เป็นสกู๊ตเตอร์ที่เหมาะสำหรับใช้งานในระยะใกล้ถึง ปานกลาง (ไม่เกิน18 กิโลเมตร)
  • สเต็ปในการพับทำให้ต้องใช้เวลาในการพับ (ประมาณ 3 วินาที)

2. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter Pro / Essential Lite

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi

มาถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพับเก็บได้ยี่ห้อดังส่งตรงจากจีน ตัวรถทำจากอัลลอยแบบเดียวกับเครื่องบิน ยางแบบเติมลมขนาด 8.5 นิ้ว ความเร็วสูงสุด 25 กม. / ชม. ความจุแบตเตอรี่ 12800 mAh ชาร์จนาน 8-9 ชม. ขับขี่ได้ไกลสุด 45 กม.

พิเศษกับระบบ Cruise Control คุมความเร็วออโต้ ไม่ต้องบิดคันเร่งค้างนาน เชื่อมต่อบลูทูธ แอปต่าง ๆ ได้ มีไฟหน้า จอ LED และระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ เพิ่มความปลอดภัย

ใครกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพดี ใช้งานคุ้มค่า ขนาดกำลังเหมาะสม พับเก็บได้ ต้องไม่พลาดกับยี่ห้อนี้เลย คุณภาพที่ไว้วางใจได้จริง ใช้งานพื้นที่ไหนก็ปลอดภัย ไร้กังวล

จุดเด่น
  • ตัวรถทำจากอัลลอยเกรดเดียวกับเครื่องบิน
  • ยางขนาดใหญ่ถึง 8.5 นิ้ว ปลอดภัย ไม่มีล้ม
  • ขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 45 กม.
  • ระบบ Cruise Control ขับเคลื่อนแบบออโต้ ไม่ต้องบิดคันเร่งค้าง
  • เชื่อมต่อบลูทูธและแอปต่าง ๆ ได้ตามสะดวก
จุดควรพิจารณา
  • รถมีน้ำหนักเยอะถึง 14.2 กก.
  • ใช้เวลาการชาร์จแบตเตอรี่ต่อครั้งนานมาก
  • ทำความเร็วได้เพียง 25 กม. / ชม.

3. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot D38U

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D38U

มาต่อกันที่รุ่นต่อไปอย่าง Ninebot D38U รุ่นท็อปของตระกูล D Series โดดเด่นด้วยตัวเฟรมของตัวเครื่องสีแดง Bright Red สำหรับใครกำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เน้นใช้งานในระยะกลาง D38U ถือเป็นคำตอบที่ดี เพราะมีการเพิ่มเติมทั้งความเร็วเป็น 30 กม/ชม. และแบตฯใหญ่กว่ารุ่น D18W ถึง 2 เท่า ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 38 กม. ต่อหนึ่งการชาร์จ และด้วยราคา 23,900.- แต่ได้สเปคการใช้งานในระดับนี้ทำให้ Ninebot D38U เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าต่อสเปคการใช้งานที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง

Ninebot D38U มีการพัฒนาและอัปเกรดในส่วนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานที่จริงจังขึ้นกว่าเดิม ไฟท้ายมีการปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่าง EU E-MARK ในส่วนของระบบล็อกคอ 2 ชั่นได้มีการปรับให้แข็งแรงขึ้น สามารถตั้งคอเองได้ในชั้นแรก และในตัวของ Ninebot D38U ได้มีการเพิ่มเติมฟังก์ชั่น Cruise Control หรือระบบการล็อกความเร็วจากการคงความเร็วคงที่ไว้ 5 วินาที ทำให้ผู้ขับขี่ที่มีการใช้งานในระยะไกล ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

จุดเด่น
  • มีระบบ Cruise Control ล็อกความเร็วขณะขับขี่ ทำให้ไม่เมื่อยมือแม้ขับขี่ในระยะทางไกล
  • แบตเตอรี่ใช้ประเภท Lithium-ion คุณภาพสูงพร้อมระบบ BMS และมีการรับประกันศูนย์นานสูงสุดถึง
  • 1 ปี
  • มีระบบไฟหน้า ส่องสว่างไกล 13.5 ม. และไฟท้ายขนาดใหญ่รองรับมาตรฐานสากล
  • ยางใช้ยางลมขนาด 10 นิ้ว ทำให้รองรับการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot เพื่อดูสถานะตัวเครื่องและปรับฟังก์ชั่นการใช้งาน
  • ประกันตัวเครื่อง 2 ปีพร้อมบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานจากศูนย์ MONOWHEEL
  • รุ่นเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับคนอยากมีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า คันแรก ตัวเครื่องใช้วัสดุเกรดอากาศยาน พร้อม ประกันศูนย์นานสูงสุดถึง 2 ปี
จุดควรพิจารณา
  • ไม่มีระบบไฟเลี้ยว
  • ระบบเบรกเป็นระบบดรัมเบรก อาจส่งผลทำให้มีระยะเบรกไกลกว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ดิสก์เบรก

4. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot F2

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot F2

รุ่นต่อไปเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Segway-Ninebot อย่าง Ninebot F2 ด้วยการนำโมเดลเดิมสุดฮิตอย่าง Ninebot F Series มาพัฒนาทั้งในด้านสมรรถนะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้ครบถ้วนมากกว่าเดิม

Ninebot F2 มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 30 กม/ชม. และสามารถทำระยะทางขับขี่ต่อชาร์จได้สูงสุดที่ 40 กม/ชาร์จ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเพิ่มความปลอดภัยอย่างการติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว การใส่ระบบล็อกรหัส 4 หลัก หรือการรองรับการทำงานร่วมกับ Apple Find My อีกด้วย

จุดเด่น
  • Built-in ระบบไฟเลี้ยวปลายแฮนด์ ใช้งานง่ายและปลอดภัย
  • รองรับการทำงานร่วมกับ Apple Find My สามารถค้นหาตำแหน่งของตัวเครื่องและสั่งให้เครื่องส่งเสียงได้
  • มีระบบ Traction Control System
  • ระบบเบรกคู่ ล้อหน้าดิสก์เบรก ล้อหลังเบรกไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นปั่นไฟกลับเข้าตัวเครื่อง
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot เพื่อดูสถานะตัวเครื่องและปรับฟังก์ชั่นการใช้งาน
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 367Wh พร้อมประกันศูนย์นาน 1 ปี
  • ประกันตัวเครื่อง 2 ปีพร้อมบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานจากศูนย์ MONOWHEEL
จุดควรพิจารณา
  • แฮนด์มีขนาดที่ยาว อาจทำให้ติดปัญหาเรื่องการนำใส่หลังรถ
  • เนื่องจากมอเตอร์ขับเคลื่อนอยู่บริเวณล้อหลัง จึงทำให้เวลายก น้ำหนักจะทิ้งไปที่บริเวณด้านหลัง ทำให้ยกลำบาก

5. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot MAX G2

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot MAX G2

รุ่นต่อไปมาต่อกันท่ี Ninebot MAX G2 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ รุ่นพัฒนาจาก Ninebot MAX ที่มีจุดเด่นด้านสมรรถนะการขับขี่ที่นิ่งและสมดุล โดยในรุ่น MAX G2 ได้มีการนำจุดแข็งตรงนั้นมาพัฒนาต่อทำให้ Ninebot MAX G2 มีสมรรถนะการขับขี่ที่อยู่ในระดับสูง

Ninebot MAX G2 จัดเต็มด้านสเปคด้วยระยะทางขับขี่ต่อชาร์จที่สูงถึง 70 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 35 กม/ชม. และมาพร้อมช่วงล่าง 3 ตำแหน่ง ด้านหน้าเป็นโช้คไฮดรอลิก และด้านหลังเป็นโช้คสปริงคู่ซ้าย – ขวา และสามารถปรับ Preload (ความแข็งของสปริงได้) ทำให้ Ninebot MAX G2 เป็นหนึ่งในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ขึ้นชื่อว่าขับขี่ได้นุ่มที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นสุดล้ำมากมายไม่ว่าจะเป็นการรองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Find My มีระบบไฟเลี้ยว หรือระบบกันล้อฟรี

จุดเด่น
  • Built-in ระบบไฟเลี้ยวปลายแฮนด์ ใช้งานง่ายและปลอดภัย
  • รองรับการทำงานร่วมกับ Apple Find My สามารถค้นหาตำแหน่งของตัวเครื่องและสั่งให้เครื่องส่งเสียงได้
  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมระบบ Traction Control System ป้องกันการเกิดอาการล้อฟรี
  • Built-in Fast Charge Adapter ชาร์จไว 6 ชั่วโมงสามารถวิ่งได้ 70 กม.
  • ระบบช่วงล่าง 3 ตำแหน่ง โช้คหน้าไฮดรอลิก โช้คหลังสปริงคู่ ปรับระดับ (Preload) ได้
  • มีระบบ 4-Digit Code Lock ล็อกตัวเครื่องด้วยรหัส 4 หลัก
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Segway-Ninebot เพื่อดูสถานะตัวเครื่องและปรับฟังก์ชั่นการใช้งาน
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 551Wh พร้อมประกันศูนย์นาน 1 ปี
  • ประกันตัวเครื่อง 2 ปีพร้อมบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานจากศูนย์ MONOWHEEL
จุดควรพิจารณา
  • ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 24.3 กก. อาจมีน้ำหนักที่สูงเกินไปเมื่อต้องใช้งานร่วมกับการพกพา
  • แฮนด์มีขนาดที่ยาว อาจทำให้ติดปัญหาเรื่องการนำใส่หลังรถ
  • เนื่องจากมอเตอร์ขับเคลื่อนอยู่บริเวณล้อหลัง ทำให้เวลายก น้ำหนักจะทิ้งไปที่บริเวณด้านหลัง ทำให้ยกลำบาก

6. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า JIESUQI 

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า JIESUQI

ต่อกันที่ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้พลังงานเพียงแค่ 350 วัตต์ ก็สามารถขับเคลื่อนออโต้ไปได้ทุกที่ พับเก็บได้ รองรับน้ำหนักสูงสุด 120 กิโลกรัม ใช้เวลาการชาร์จราว 6-8 ชม. เมื่อแบตเตอรี่เต็มขับขี่ได้ยาวนาน 25-30 กม. มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้ในเวลากลางคืน

เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น น้ำหนัก 14.6 กิโลกรัม พิเศษด้วยระบบรีโมทล็อกรถป้องกันการโดนขโมย จอดไว้ไกลสายตาก็ไม่ต้องกลัวหายใครที่ชอบใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบสบาย ๆ รองรับน้ำหนักได้เยอะ ชาร์จไฟต่อครั้งใช้งานกับพื้นที่ไม่ไกลมาก รุ่นนี้ถือว่าเหมาะสมและน่าซื้อใช้งาน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม

จุดเด่น
  • รองรับน้ำหนักได้เยอะถึง 120 กก.
  • ชาร์จไฟ 1 ครั้ง ขับได้ไกล 25-30 กม.
  • มีไฟ LED ส่องสว่าง เพิ่มความปลอดภัยตอนกลางคืน
  • มีระบบรีโมทล็อกรถป้องกันขโมย
  • ใช้ความเร็วได้สูงสุด 35 กม. / ชม.
จุดควรพิจารณา
  • รถมีน้ำหนักเยอะมาก ไม่เหมาะกับการพกพา
  • ใช้เวลาในการชาร์จนาน 6-8 ชม. / ครั้ง
  • โครงสร้างมีส่วนประกอบของเหล็ก ต้องระวังเรื่องสนิม

7. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า SEALUP Q8 XLP-Q8-36V400W

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า SEALUP

ไปกันต่อกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ให้อารมณ์น้อง ๆ รถมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ปาน ขับเคลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังเอง พับเก็บได้ ระบบควบคุมระยะไกลป้องกันการโดนขโมย ยางสุญญากาศ  11 นิ้ว ทำความเร็ว 45 กม. / ชม. หน้าจอบอกกำลังแบตเตอรี่ ไฟหน้า LED ไฟเบรกด้านหลัง

เบาะขนาดใหญ่ นั่งสบาย มีสปริงป้องกันการกระแทก ตัวรถทำจากอัลลอยคุณภาพสูง รับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กก. มอเตอร์ขนาด 400 วัตต์ จากจินหยู่ซิง ขับขี่ได้ไกลสูงสุด 30 – 150 กม.  

ใครชอบใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแนวอึด ถึก ทน ขับขี่ได้ไกล ต้องไม่พลาดยี่ห้อนี้เลย มีฟังก์ชันพิเศษให้แบบครบครัน เทียบเคียงน้อง ๆ มอเตอร์ไซค์ได้สบายมากแม้ความเร็วจะต่างกันสักหน่อย

จุดเด่น
  • ระบบควบคุมระยะไกลป้องกันการโดนขโมย
  • ทำความเร็วได้ถึง 45 กม. / ชม.
  • หน้าจอบอกกำลังแบตเตอรี่
  • มีเบานั่ง รับน้ำหนักได้ 200 กก.
  • ขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 150 กม. 
จุดควรพิจารณา
  • รถขนาดใหญ่มาก แม้พับเก็บได้ก็ไม่สะดวกต่อการพกพา
  • ยางขนาดใหญ่ มีผลต่อการใช้งานแบตเตอรี่
  • ขับขี่ระยะทางจริงต้องคอยสังเกตกำลังแบตเตอรี่

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แต่ละรุ่นจุดเด่นไม่น้อยหน้ากันเลยครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้ และงบประมาณงานในการซื้อครับ ข้อมูลจุดเด่น และข้อพิจารณา หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นตัวช่วยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์คู่กายคันแรกมาไว้ใช้ประจำนะครับ สิ่งสำคัญก่อนการตัดสินใจซื้อคำนึง การรับประกัน และบริการการหลังการขาย เพื่อให้เราใช้สกู๊ตเตอร์อยู่กับเราไปนานๆครับ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

1. ขนาด น้ำหนัก และการพับเก็บ

เรื่องแรกที่ควรรู้เมื่อจะเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี เอาไว้ใช้งานต้องมองเรื่องความสะดวก ได้แก่ ขนาด, น้ำหนัก และการพับเก็บ หากคุณต้องพกพาไปตามสถานที่ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ควรเลือกขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พับเก็บได้ แต่ถ้าเน้นใช้บรรทุกของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เวลาไปตลาดอาจเลือกที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางของ เป็นต้น

2. ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จ

อย่างที่รู้ว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่ถูกเก็บเอาไว้ตรงแบตเตอรี่เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จึงต้องรู้ว่าในการชาร์จ 1 ครั้ง จะใช้งานได้ราวกี่ชั่วโมง กี่นาที หรือขับได้กี่กิโลเมตร เพื่อเวลาใช้งานจริงจะได้วางแผนอย่างถูกต้อง หมดกังวลแบตเตอรี่หมดกลางทาง

3. เรื่องของยางกับล้อ

อย่ามองข้ามเรื่องยางกับล้อสกู๊ตเตอร์เป็นอันขาดก่อนเลือกซื้อ เพราะมีผลต่อเรื่องความเร็วและความปลอดภัย แนะนำว่าควรเลือกซื้อคันที่มีล้อขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เพื่อการทำความเร็วที่เหมาะสม ไม่เปลืองแบตเตอรี่ แต่ก็ไม่เสี่ยงต่อการสะดุดหินหรือเนินจนล้ม

4. บริการหลังการขายและการส่งซ่อม

เรื่องสุดท้ายที่ที่ควรให้ความสำคัญ คือเรื่องของบริการหลังการขายและการส่งซ่อม เนื่องจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเปรียบเสมือนพาหนะ ดังนั้นการเลือกซื้อกับร้านที่มีบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าหากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเราเกิดปัญหาจะสามารถส่งซ่อมได้ง่ายและได้รับบริการที่ครอบคลุม

วิธีดูแลรักษาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม

1. หมั่นเช็คระบบและอะไหล่บ่อย ๆ 

พยายามตรวจสอบระบบการทำงานของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบ่อย ๆ เช่น กำลังไฟฟ้าต่อการชาร์จ, ความสึกของล้อ ความแข็งแรงของเบาะ ฯลฯ แนะนำว่าควรทำก่อนใช้งานทุกครั้ง

2. ทำความสะอาดเป็นประจำ

อย่าลืมทำความสะอาดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณเป็นประจำเพื่อให้ยังคงดูใหม่ น่าใช้งาน คุ้มค่ากับการลงทุนที่ซื้อด้วยราคาไม่ใช่เล่น ๆ

3. สังเกตความผิดปกติระหว่างใช้งาน

ในการใช้งานทุกครั้งหากรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เช่น ตอนสะดุดลูกระนาบแล้วล้อนิ่ม หรือมือจับหักเลี้ยวได้ไม่ตรง ต้องรีบเช็คความผิดปกติแล้วซ่อมทันที อย่าปล่อยไว้เด็ดขาด

สรุปรีวิว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี คุ้มต่อการลงทุน

หลังจากได้ทำการรีวิว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มาทั้ง 7 รุ่นแล้ว ชอบรีวิวขอยกให้กับ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway-Ninebot KickScooter D18W เป็นสกู๊ตเตอร์ที่น่าใช้งาน คุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด

ด้วยขนาดกะทัดรัดพกพาได้ง่ายใส่ติดไว้ท้ายรถก็ได้ โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 14.9 กิโลกรัม บอกเลยว่าสะดวกใช้งานในทุกๆวันตอบโจทย์ครบในทุกไลฟ์สไตล์ กับขนาดรถที่กำลังพอเหมาะ จึงตอบโจทย์ในการซื้อหาติดบ้านไว้ใช้งาน คุ้มค่ากับราคาที่ลงทุนไปอย่างแน่นอน เมื่อบวกกับชื่อยี่ห้อ Segway – Ninebot ที่ทุกคนคุ้นเคยจึงไม่ต้องกังวลเลย

 

Similar Posts